“เย่เทียนเฉิน!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
“ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง ผมมีชื่อว่าหลัวเหว่ยเคอ เป็นสายลับที่ชายแดนนี้ ผมรอพวกคุณอยู่ที่นี่โดยเฉพาะ!” ขอทานอายุประมาณสี่สิบปีคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน
หลัวเหว่ยเคอ สายลับระดับสูงของประเทศจีน ทำภารกิจที่ชายแดนมาโดยตลอด ครั้งนี้ได้รับข่าวมาว่ามีทหารหน่วยรบพิเศษบริเวณชายแดนหายไปในพริบตายี่สิบกว่าคน อีกทั้งยังมีสมาชิกของหน่วยวิจัยของประเทศคนหนึ่งด้วย สมาชิกหน่วยวิจัยคนนี้เป็นบุคคลผู้มีความสามารถที่มีไม่มากในประเทศ ดังนั้นทางรัฐบาลจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หลังจากที่ท่านหยางได้รู้ข่าวก็รีบให้คนมาบอกกับสายลับชายแดนทันที ให้พวกเขาเริ่มทำภารกิจตามหาเบาะแสของหานเจี๋ยและสมาชิกที่หายตัวไป และรอการมาถึงของเย่เทียนเฉินและชางหลาง
ในตอนที่เย่เทียนเฉินและชางหลางเดินเข้ามา หลัวเหว่ยเคอก็สังเกตุเห็นพวกเขาแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นหลัวเหว่ยเคอยังไม่กล้ามั่นใจว่าเย่เทียนเฉินกับชางหลางจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่ทางรัฐบาลส่งมาหรือไม่ หลัวเหว่ยเคอปลอมตัวเป็นขอทานมาโดยตลอด และแสร้งนั่งขอทานอยู่ที่ข้างบาร์ค่ำคืนไม่หวนกลับแห่งนี้ เพราะเมืองแห่งนี้ไม่ใหญ่มาก สถานที่ที่เต็มไปด้วยแสงสีแบบนี้เป็นแหล่งรวมข่าวสารที่ดีที่สุด
ไม่ต่างไปจากที่คาด ในตอนที่เห็นเย่เทียนเฉินเดินเข้ามาในบาร์จนกระทั่งถูกอันธพาลคนหนึ่งคุกคาม จนถึงตอนสุดท้ายที่เย่เทียนเฉินลงมือเขาก็ไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษเลย อาศัยแค่ร่างกายก็สามารถจัดการอันธพาลกลุ่มนั้นได้แล้ว หลัวเหว่ยเคอรู้สึกตื่นตะลึงอยู่ในใจ คิดว่าครั้งนี้คนที่ทางรัฐบาลส่งมาแข็งแกร่งมากพอจริงๆ
“เป็นผม? คุณรู้จักผมเหรอครับ? ดูเหมือนผมจะไม่รู้จักคุณนะ!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ฮ่าๆ เย่เทียนเฉิน คุณชายของตระกูลเย่เที่เป็นตระกูลชั้นสามของเมืองหลวง เคยเป็นตัวตลกไปทั่วทั้งเมืองหลวง ตั้งแต่ที่มาเป็นทหารและกลับไปที่เมือง มีเรื่องไหนบ้างที่ทำแล้วไม่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกเบื้องหน้าและโลกเบื้องหลัง? ในฐานะที่เป็นสายลับระดับสูงของประเทศ นี่เป็นข่าวที่โด่งดังมาก ถ้าหากพวกเราไม่รู้ ถ้างั้นก็คงจะเสียงานเปล่าแล้ว!” หลัวเหว่ยเคอพูดด้วยรอยยิ้ม
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็พูดให้รวบรัดเถอะ ผมต้องการรู้ข้อมูลทุกอย่างที่คุณทราบในตอนนี้ หวังว่าคุณจะบอกผมโดยไม่ตกหล่นไปซักคำ คุณต้องรู้ว่าครั้งนี้หานเจี๋ยและทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดอีกยี่สิบกว่าคนมีอันตรายเป็นอย่างมาก ไม่แน่ว่าอาจจะถูกทำร้ายก็ได้!” เย่เทียนเฉินพยักหน้าแล้วพูดขึ้น
ครั้งนี้ ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดซึ่งมีอาวุธครบมือทั้งยี่สิบกว่าคนหายตัวไป ในนั้นยังมีหานเจี๋ยที่หาตัวไม่พบอีกด้วย เรียกได้ว่าสั่นสะท้านไปทั่วทั้งประเทศจีน ผู้นำระดับสูงให้ความสนใจมาก จะอย่างไรนี่นับว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนในช่วงหลายปีมานี้ ต้องทราบว่าประชาชนชาวจีนอย่างพวกเรายิ่งใหญ่ขึ้นทุกวัน กล่าวไปแล้วพวกต่างชาติเหล่านั้นต่างจ้องที่จะตะครุบ ต้องการเข้ามาบุกรุกแต่ก็ไม่กล้าบุกรุกตามใจ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดทุกวิถีทางเพื่อทำลายประเทศจีนของพวกเรา ข้อมูลของทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบกว่าคนนี้ หากมีประเทศที่แข็งแกร่งประเทศใดสอดมือเข้ามา เรื่องนั้นก็อาจจะยกระดับกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับนานาชาติเลยก็ได้ เป็นไปได้มากว่าจะก่อให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ
“จากการตรวจสอบของผม ผมรู้สึกว่าเรื่องในครั้งนี้ดูเหมือนจะมีการไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า เหมือนกับมีคนวางแผนการในเรื่องนี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ จุดประสงค์ก็เพื่อต้องการกำจัดทหารหน่วยรบพิเศษบริเวณชายแดนของพวกเรา นี่ไม่ใช่องค์กรเอกชนธรรมดา เป็นไปได้มากว่าจะมีประเทศใดประเทศหนึ่งลอบปฏิบัติการณ์อย่างลับๆ!” หลัวเหว่ยเคอก็ไม่ได้เกรงใจอีก พูดออกมาตามตรง
ถึงแม้ว่าเย่เทียนเฉินจะไม่ใช่คนในโลกนี้ และมาเกิดใหม่ที่นี่ได้ไม่นาน แต่ความสามารถในการปรับตัวของเขาดีมาก และเข้าใจถึงเรื่องบางอย่างด้วย การต่อสู้ระหว่างประเทศต่างๆ นั้นแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยหยุดหย่อน เบื้องหน้าปรองดองเพราะไม่ต้องการให้เกิดสงครามใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างประเทศใหญ่ต่างๆ เมื่อเกิดสงครามก็จะต้องมีจุดจบที่พ่ายแพ้สูญเสียทั้งสองฝ่าย ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงทำการต่อสู้กันเบื้องหลัง และการต่อสู้นี้ไม่สามารถดูเบาได้เลย จะทำให้ประเทศหนึ่งค่อยๆ ตกต่ำลงอย่างช้าๆ ในตอนที่คุณตกต่ำจนถึงขั้นที่เขาสามารถกลืนกินคุณได้ ถ้าเช่นนั้นคุณก็จบสิ้นแล้ว
ถ้าหากเรื่องในครั้งนี้มีประเทศใหญ่บางประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องจริงๆ และจะถือโอกาสนี้จัดการกับประเทศจีน ถ้าเช่นนั้นก็จะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดของชายแดนทั้งยี่สิบคนนี้หรือกระทั่งหานเจี๋ยถูกฆ่าตายไปด้วยกัน จะมีผลต่อประเทศจีนในระดับนานาชาติแน่นอน เป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างมาก
“เป็นเรื่องที่มีการไตร่ตรองมาก่อน? ผมคิดว่าองค์กรธรรมดาทั่วไปทำไม่ได้แน่ จะต้องมีบางประเทศสนับสนุนอยู่เบื้องหลังถึงจะถูก!” เย่เทียนเฉินคิดครู่หนึ่งแล้วพูดออกมา
จินตนาการได้เลย การล่อให้ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบคนลงมือเคลื่อนไหว และยังทำให้พวกเขาทั้งหมดหายไปในเวลาเพียงสั้นๆ แค่นี้ นี่จะทำให้ผู้คนตื่นตะลึงมากเกินไปแล้ว หากกล่าวว่าฆ๋าทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบคนนี้ไปหมดแล้วก็อาจจะทำให้คนอื่นคิดว่าอีกฝ่ายร้ายกาจมากเท่านั้น ไม่อาจดูเบาได้ แต่การที่สามารถทำให้ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยไร้ซุ่มไร้เสียงนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตะลึงโดยสิ้นเชิง และไม่กล้าที่จะจินตนาการได้เลย
ดังนั้นหลังจากผ่านการวิเคราะห์มาแล้ว เบื้องหลังของเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดองค์กรหนึ่งหรือจะเป็นประเทศใดประเทศหนึ่งก็ช่างเถอะ แต่อย่างน้อยจะต้องมีประเทศใหญ่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแน่ มิฉะนั้นคงไม่สามารถทำถึงระดับที่ร้ายกาจขนาดนี้ได้แน่
“หลังจากที่ผมตรวจสอบ ผมสงสัยว่าเป็นประเทศชิบะ!” หลัวเหว่ยเคอมองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
“ประเทศชิบะ? ไอ้พวกนี้มันไม่ร้ายกาจและเหิมเกริมขนาดนี้หรอก หลายปีมานี้ถูกประเทศจีนของพวกเรากดดันเอาไว้ จะคิดก่อสงครามอีกหรือไง?” เย่เทียนเฉินอดไม่ได้ที่จะถามออกมาอย่างสงสัย จะอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนบนโลกใบนี้ เข้าใจเรื่องนี้เพียงผิวเผิน แต่ไม่ได้เข้าใจอะไรมากมาย
“จะพูดให้คุณฟังแบบนี้ก็แล้วกัน หลายปีมานี้ความต้องการที่จะทำลายประเทศจีนของประเทศชิบะยังไม่ได้หายไป คิดจะบุกรุกประเทศจีนของพวกเรามาโดยตลอด แต่น่าเสียดายที่ประเทศจีนในตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ประเทศชิบะไม่กล้าลงมือง่ายๆ ดังนั้นจึงทำได้เพียงก็เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในครั้งนี้พวกเราเข้าไปที่ป่าหมอกดำ ถึงแม้จะหาร่องรอยของคนเหล่านั้นที่หายไปไม่เจอ แต่กลับพบจุด น่าสงสัยบางจุด!” หลัวเหว่ยเคอพูดเสียงขรึม
“พบกับจุดน่าสงสัยบางจุด?” เย่เทียนเฉินขมวดคิ้วถาม
หลัวเหว่ยเคอพยักหน้า เดินไปไม่ไกล พลิกกก้อนหินที่ไม่ค่อยเรียบขึ้นมา จากนั้นจึงส่งสัญญาณให้เย่เทียนเฉินเดินมาดู ในตอนที่เย่เทียนเฉินเดินไปนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว พบว่าบนก้อนหินก้อนนั้นมีรอยจากอาวุธมีคมที่ลึกมากอยู่ หนึ่งรอย ร่องรอยจากอาวุธมีคมนั้นมีลักษณะพิเศษ ไม่ใช่ร่องรอยที่เกิดจากการถูกคมดาบฟัน แต่เหมือนกับถูกคมดาบลมปราณกระทำขึ้น ซึ่งเป็นคมดาบลมปราณที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากสายหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นในตอนที่เย่เทียนเฉินแผ่ขยายพลังพิเศษแห่งการรับรู้ออก ไปถึงกับพบว่ามีความรู้สึกต้องการฆ่าเย่เทียนเฉินให้ตายพุ่งออกมาจากคมดาบลมปราณนั้นด้วย
“นี่…” เย่เทียนเฉินรู้สึกว่าคมดาบลมปราณนี้ดูคุ้นเคย น่าจะคุ้นเคยมาจากที่ไหนแต่ก็คิดไม่ออก สรุปแล้วเขาประเมินค่าคมดาบลมปราณนี้เอาไว้สูงมาก คนที่ใช้คมดาบลมปราณนี้ออกมาจะต้องแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แข็งแกร่งจนถึงขั้นไม่ธรรมดา
“เคล็ดวิชาดาบที่สืบทอดกันมาจากโบราณของประเทศชิบะ มาจากสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริว!” หลัวเหว่ยเคอพูดอย่างจริงจัง
เมื่อได้ยินคำว่าสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวนี้ เย่เทียนเฉินก็คิดถึงขึ้นมาได้ วันนั้นตอนที่เขาอยู่ในบ้านตระกูลจางของจางอีเต๋อ เพื่อที่จะช่วยมู่หรงซิน เขาจึงใช้วิธีการที่เรียกได้ว่าทุ่มสุดชีวิตจนเกือบจะทำให้ตัวเองต้องติดพิษสยบแล้ว ในตอนนั้น คาเมดะอิจิโร่แห่งสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวมาลอบโจมตี ต้องการที่จะฆ่ามู่หรงอวี๋ตู เย่เทียนเฉินสู้กับเขาครั้งใหญ่ ไม่กล่าวไม่ได้ว่าเพลงดาบของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ทำให้เขามองไม่ออก ตอนนั้นเย่เทียนเฉินลงมือสุด กำลังใช้พลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันขั้นสูงสุดออกมาแล้วก็ยังทำได้เพียงพอฟัดพอเหวี่ยงกันเท่านั้น ยังไม่ได้ตัดสินแพ้รู้ชนะอีกฝ่ายก็จากไปแล้ว สามารถมั่นใจได้เลยว่าเขาไม่ใช่คนที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริว อำนาจสำนักนี้ของชิบะที่เทียบเท่าได้กับพรรควรยุทธโบราณของประเทศจีน ไม่สามารถดูเบาได้เลยจริงๆ
“เพลงดาบของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวไม่เพียงแต่แปลกประหลาด แต่ยังมีพลังแห่งการฆ่าฟันที่รุนแรงอีกด้วย แข็งแกร่งมากจริงๆ!” เย่เทียนเฉินพูดออกมาอย่างจริงจัง
“ในสถานที่เกิดเหตุ ไม่เพียงแต่จะมีก้อนหินที่ถูกปราณดาบทำลายแบบนี้ แต่ยังมีต้นไม้จำนวนหนึ่งอีกด้วย เป็นต้นไม้ที่ใหญ่ขนาดหนึ่งคนก็โอบไม่หมด มันถูกตัดขาดกลางต้น ที่ปากแผลมีรอยเลือดสีแดงอยู่แห่งหนึ่ง ที่สำคัญก็คือ ในสถานที่เกิดเหตุรู้สึกถึงบรรยากาศที่ทำให้ผู้คนต้องขนลุก เหมือนก็มีเหตุการณ์อะไรบางอย่างกำลังเกิดซ้ำอีกรอบ!” หลัวเหว่ยเคอพูดถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเล็กน้อย
เย่เทียนเฉินพยักหน้า เขารู้ว่าสิ่งที่หลัวเหว่ยเคอพูดคืออะไร เคล็ดวิชาดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวก็คือวิชาดาบลวงตา เป็นวิชาดาบที่มีความแปลกและคาดการณ์ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ผู้คนรู้สึกเกิดจินตนาการเหมือนกับตกไปอยู่ในนรกขุมที่เก้าอย่างไรอย่างนั้น น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้คนแยกความฝันกับความเป็นจริงไม่ออกและง่ายที่จะถูกฆ่า
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นตอนนี้พวกเราก็ไปป่าหมอกดำกันเถอะ ท่าทางเรื่องในครั้งนี้พวกประเทศชิบะเป็นคนทำ และยังมียอดฝีมือชั้นสูงของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวอยู่ด้วย มิน่าล่ะถึงสามารถทำให้ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดที่ติดอาวุธครบมือหายไปในพริบตาได้!” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากพูด
“ตอนนี้?” หลัวเหว่ยเคออดไม่ได้ที่จะชะงักไปเล็กน้อย ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสามทุ่มกว่าแล้ว ถ้าหากไปป่าหมอกดำเกรงว่าคงหาใครไม่พบหรอก
“ถูกต้อง!” เย่เทียนเฉินยิ้มแล้วหมุนตัวเดินจากไป ไปยังโรงแรมที่อยู่ไม่ไกล การปฏิบัติการเช่นนี้จะต้องเรียกชางหลางด้วยแน่นอน มีเย่เทียนเฉิน ชางหลางและหลัวเหว่ยเคอ ซึ่งเป็นยอดฝีมือทั้งสามคนนี้ คงจะไม่มีปัญหาอะไรที่จะทำร้ายคนกลุ่มนี้ได้ หวังเพียงว่าทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบคนและหานเจี๋ยจะยังไม่ตาย
“ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว พวกเราจะไปป่าหมอกดำหรอ? จะไปหาใครเจอ?” หลัวเหว่ยเคออดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย
“คุณคิดดูสิ ตอนนี้ในป่าหมอกดำ ไอ้พวกที่จับคนของพวกเราไปกลุ่มนั้นมันจะคิดยังไง? จะต้องคิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเข้าไปทำการค้นหาตอนกลางคืนแน่นอน เพราะหาในตอนกลางวันแล้วยังหาพวกเขาไม่เจอ แล้วกลางคืนจะเจอหรือเปล่า? ยิ่งไปกว่านั้นเวลาตอนกลางคืนก็เป็นช่วงเวลาที่คนผ่อนคลายความระมัดระวังมากที่สุด!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
หลัวเหว่ยเคอได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะชะงักไป เขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายวัยรุ่นคนนี้จะถึงกับมีความฉลาดและรอบคอบแบบนี้ได้ ช่างทำให้เขาคิดไม่ถึงจริงๆ
“ผมรู้สึกว่าอายุของคุณไม่เหมาะสมกับประสบการณ์ของคุณเลยจริงๆ!” หลัวเหว่ยเคออดไม่ได้ที่จะพูดกับเย่เทียนเฉิน