หากพูดกันตามหลักการแล้ว ด้วยความสามารถของหลัวเหว่ยเคอ ต่อให้เซนโทอินจะใช้กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาก็คงไม่สามารถทำร้ายเขาได้ง่ายๆ แบบนี้ แต่เนื่องจากเหตุผลสองประการ ประการแรกก็คือหลัวเหว่ยเคอต้องการช่วยหลีหวัง พวกเขาเป็นสหายร่วมรบกัน หลัวเหว่ยเคอและหลีหวังอยู่ที่ชายแดนมานานหลายปีขนาดนี้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองลึกล้ำมาก ประการที่สองเป็นเพราะหลัวเหว่ยเคอคิดไม่ถึงว่าเซนโทอินที่หน้าอกทะลุเป็นรูซึ่งต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย จะถึงกับใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้อีก
ความลำพองใจของหลัวเหว่ยเคอทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างมาก เขาถูกฝ่ามือโจมตีจนกระเด็นถอยออกไป ในขณะเดียวกันฝ่ามือนี้ของเซนโทอินก็ทิ้งร่องรอยจินตภาพเอาไว้กลางอากาศและลอยไปหาหลัวเหว่ยเคอที่กระเด็นออกไป มีพลังลมปราณในระดับพลิกมหาสมุทรทลายภูเขา ทำลายกิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บนพื้นจนแหลกเป็นชิ้นๆ ถ้าหากฝ่ามือนี้ประทับลงบนร่างมนุษย์จะต้องกลายเป็นเศษเนื้อแน่นอน
ตู้ม!
ในช่วงเวลาสำคัญ เย่เทียนเฉินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มือขวากำแน่นรวบรวมความสามารถในขอบเขตจอมราชันเอาไว้ข้างใน เซนโทอินไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะดูถูกได้ ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ามือนี้เรียกได้ว่าเป็นฝ่ามือเฮือกสุดท้ายของเซนโทอิน แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แฝงไปด้วยความไม่พอใจและความหวาดกลัวต่อความตายทั้งหมดของเขา นับว่าเป็นการโจมตีสุดท้ายของชีวิต
ปัง!
หมัดและฝ่ามือปะทะเข้าด้วยกัน เย่เทียนเฉินยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับเขยื้อน มือขวาโจมตีออกไปในสภาพกำหมัดไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเซนโทอินนั้นมุมปากมีเลือดพุ่งออกมาเนื่องจากได้รับการสั่นสะเทือนบนฝ่ามือ มือซ้ายเขาปรากฏรอยเลือดออกมา การดวลกันของการโจมตีนี้ของเขาและเย่เทียนเฉิน ผลแพ้ชนะปรากฏออกมาแล้ว
ปัง!
ปัง!
เงาร่างของหลีหวังและเซนโทอินแยกออกจากกัน ต่างยืนในตำแหน่งที่ห่างจากอีกฝ่ายไปสิบเมตร ยังคงไม่ขยับเขยื้อน จ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง ไม่ว่ามุมปากของหลีหวังจะมีเลือดไหลออกมาหรือบนหน้าอกของเซนโทอินจะมีเลือดไหลออกมาเต็มพื้นจนอาบย้อมพื้นเป็นสีแดง ทั้งสองก็ยังยืนอยู่แบบนั้น นี่เป็นสไตล์การดวลกันระหว่างยอดฝีมือ ต่อให้ตายแล้วก็จะไม่ทำให้ศัตรูมีชีวิตอยู่ต่อไป
“ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าหากประเทศชิบะของพวกเรามีให้มากขึ้นซักหลายคนคงจะดีมาก!” เซนโทอินใช้สายตาแปลกๆ มองไปที่เย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น
เมื่อพูดประโยคนี้จบ เซนโทอินก็ล้มลงท่ามกลางกองเลือด ไม่สามารถยืนหยัดได้อีกต่อไป หัวใจของเขาหยุดเต้น เมื่อเขาล้มไปที่พื้น หลีหวังก็ล้มลงไปตามลงไปติดๆ เขาได้รับบาดเจ็บถึงชีวิตไม่น้อยไปกว่าเซนโทอินเลย ดังนั้นการที่ยังมีแรงต่อสู้อยู่นับเป็นการฝืนอย่างหนัก ฝืนจนพวกชางหลางมาถึงได้ ในฐานะที่เป็นหัวหน้ากองทหารหน่วยรบพิเศษบริเวณชายแดน เขาทำหน้าที่หัวหน้าของตนเองให้ดีที่สุดและใช้การกระทำที่ดีที่สุดมาตอบแทนประเทศแม่
ในตอนที่หลีหวังล้มลงไปบนพื้น หลัวเหว่ยเคอเป็นคนแรกที่เข้าไปประคองหลีหวังเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วถามออกมาว่า “ไอ้หนู แกไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ไหนเลยจะรู้ว่า การที่หลัวเหว่ยเคอถามประโยคนี้จะเป็นการพูดจามากเกินความจำเป็น หลีหวังไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว หัวใจถูกแทงจนทะลุเป็นรู สามารถฝืนลมหายใจสุดท้ายเอาไว้ได้โดยไม่ตายทันทีก็เป็นเพราะการค้ำจุนจากปัจจัยทางร่างกายและพลังภายในที่แข็งแกร่งของพรรควรยุทธโบราณ มิฉะนั้นคงล้มลงสิ้นใจตายไปนานแล้ว กระทั่งหลัวเหว่ยเคอที่ถามคำถามนี้เองก็ยังรู้สึกปวดใจ เนื่องจากรอยด่างบริเวณหน้าอกของหลัวเหว่ยเคอเป็นการแทงทะลุเข้าไปยังหัวใจจนฉีดกขาดเป็นสองท่อน ตอให้เป็นจางอีเต๋อก็ไม่สามารถรักษาได้ ไม่สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้
“ไม่เป็นไร พวกคุณจำเป็นต้องรีบสักหน่อย ไปข้างหน้าอีกประมาณหมื่นเมตร ที่นั่นมีช่องเขาที่ลึกมากอยู่แห่งหนึ่ง พวกเราได้รับข้อมูลที่แม่นยำมาแล้ว คนที่ประเทศชิบะส่งออกมาในครั้งนี้ร่วมมือกับยอดฝีมือแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริว พวกเขาสร้างฐานกันอยู่ที่นั่น จุดประสงค์ของพวกเขาก็คือทำลายทางเข้าชายแดนป่าหมอกดำ สร้างผลกระทบที่ไม่ดีต่อประเทศจีนในระดับนานาชาติ ในขณะเดียวกันก็จะได้รับข้อมูลที่ถูกปกป้องไว้ที่ชายแดนด้วย การบุกรุกประเทศจีนในครั้งนี้มีประโยชน์มาก!” หลีหวังเป็นชายฉกรรจ์ที่แข็งแกร่ง ต่อให้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงขนาดนี้ ที่ปากก็มีเลือดไหลออกมา บริเวณหน้าอกก็เต็มไปด้วยรอยเลือด แต่ก็ยังพูดออกมาโดยไม่ติดขัด
“วางใจเถอะ พวกเรามาแล้ว จะต้องช่วยคนที่เหลือออกมาได้แน่!” ชางหลางเอ่ยปากพูด
“ศัตรูทั้งหมดที่ร่วมก่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกเราจะต้องฆ่ามันให้หมด!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเย็นชา
หลีหวังมองเย่เทียนเฉินครู่หนึ่ง เมื่อครู่นี้เย่เทียนเฉินปล่อยหมัดสู้กับเซนโทอินตามใจ เขาเองก็เห็นอยู่และรู้สึกแปลกใจกับความสามารถในการต่อสู้ของชายหนุ่มคนนี้มาก เขาดูออกว่าเย่เทียนเฉินอายุไม่เกินยี่สิบปีเท่านั้น ถึงกับมีความสามารถที่แข็งแกร่งเพียงนี้ ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อจริงๆ อย่างน้อยเขาหลีหวังก็เห็นเป็นครั้งแรก
“เจ้าหนุ่ม นายแข็งแกร่งมาก แต่อย่าได้ลำพองใจไป เซนโทอินไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่สำนักโฮคุชินอิตโตริว ได้ยินว่าครั้งนี้คนที่คอยออกคำสั่งในการปฎิบัติการเป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งในสำนักโฮคุชินอิตโตริว อย่างน้อยก็เป็นยอดฝีมือที่อยู่ในสิบอันดับแรกของสำนักโฮคุชินอิตโตริว หากต้องการจะเอาชนะเขานั้นมันไม่ง่ายเลย!” หลีหวังกล่าวเตือน
“ในการต่อสู้ ผมจะลงมือเต็มที่ ถ้าหากไม่สามารถเอาชีวิตคนพวกนี้ได้ ผมเย่เทียนเฉินมาที่นี่จะมีความหมายอะไร!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างจริงจัง
“นายก็คือเย่เทียนเฉินหรือ?” หลีหวังอดไม่ได้ที่จะถามอย่างแปลกใจ
“ใช่ครับหัวหน้าหลีหวัง ถือว่าคุณเป็นรุ่นพี่ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำก่อนหน้านี้!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ดี ดี ถึงแม้ฉันจะอยู่ที่ชายแดนแต่ก็ได้ยินข่าวลือจากในกองทัพ บอกว่าประเทศจีนของพวกเรามีชายหนุ่มที่มีความสามารถแข็งแกร่งเหนือระดับออกมาคนหนึ่ง กระทั่งท่านหยางและท่านผู้นำสูงสุดก็ยังให้ความสำคัญมาก วันนี้ได้พบนับว่าไม่ต่างจากข่าวลือจริงๆ …อึก…” หลีหวังหัวเราะแล้วพูดขึ้น
สำหรับคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้จะตายแล้ว การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยและการพูดนั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตเขามาก แต่หลีหวังกลับไม่ใส่ใจ เดิมทีเขาก็เป็นคนที่มีนิสัยเปิดเผยหนักแน่นมากอยู่แล้ว ความเป็นความตาย สำหรับเขาที่เป็นยอดฝีมือไม่ใช่เรื่องน่าหวาดกลัวอะไรนานแล้ว เขามองอย่างทะลุปรุโปร่ง
ฟู่!
เลือดสดๆ พุ่งออกมา หลีหวังรับรู้ได้ว่าตนจะยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่กลับกัดฟันแน่น ต้องการที่จะลุกขึ้นด้วยร่างกายสั่นสะท้าน เย่เทียนเฉิน ชางหลางและหลัวเหว่ยเคอที่ได้เห็นภาพนี้ต่างรู้สึกสะท้อนใจ หลีหวังเป็นชายที่แข็งแกร่งจริงๆ ทำให้พวกเขานับถือมาก
เย่เทียนเฉินรีบเข้าไปประคองหลีหวัง ประคองเขาให้ลุกขึ้นยืน หลีหวังมองไปบนท้องฟ้ามุมปากเผยรอยยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า “ฉันหลีหวัง นับว่าต่อให้ตายก็ยืนตายแล้ว!”
คำพูดเพิ่งจะถูกกล่าวออกมา ศีรษะของหลีหวังหักพับลง แต่เขากลับไม่ล้มลงไป ยืนหยัดอยู่อย่างนั้น เขาใช้พลังภายในที่แข็งแกร่งสุดท้ายในร่างกายค้ำยันไม่ให้ตนเองล้มลง ทำให้พวกเย่เทียนเฉินทั้งสามคนสะท้อนใจมาก
ผู้ชายที่ดี ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แม้ตายไปก็เป็นผีวีรบุรุษ ต่อให้ตายก็ไม่ตายอย่างน่าสมเพชเช่นนั้น ต้องการยืนเผชิญฟ้า นี่ถึงจะนับว่าเป็นลูกผู้ชายกระดูกเหล็กที่แท้จริง
ชางหลาง เย่เทียนเฉิน และหลัวเหว่ยเคอยืนเรียงแถวอยู่เบื้องหน้าหลีหวัง ถึงแม้หลีหวังจะไม่มีลมหายใจแล้ว แต่ลูกผู้ชายแบบนี้ทำให้พวกเขารู้สึกสั่นสะท้านเป็นอย่างมาก ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่ไม่รู้สึกนับถืออยู่ในใจอย่างแท้จริง
“ทำความเคารพ!” ชางหลางตะโกนเสียงขรึม
พรึ่บ!
พรึ่บ!
พรึ่บ!
เย่เทียนเฉิน ชางหลางและหลัวเหว่ยเคอต่างใช้ท่าทางวันทยาหัตถ์ที่มาตรฐานที่สุดและและแสดงถึงความเคารพได้มากที่สุดมาแสดงความนับถือต่อหลีหวัง แสดงความเคารพต่อผู้ชายที่ยืนค้ำฟ้าจนถึงวาระสุดท้าย
จากนั้นพวกเย่เทียนเฉินทั้งสามคนก็ไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย ต่างพุงเข้าไปในช่องเขาลึกบริเวณป่าหมอกดำอย่างรวดเร็วหาใดเปรียบ ระหว่างทางในครั้งนี้พวกเขาพบกับเรื่องมากมายจริงๆ การตายของอ่าไท่ การตายของหลีหวัง สิ่งเหล่านี้กระตุ้นพวกเขามาก ในครั้งนี้ประเทศชิบะได้ส่งผู้อาวุโสแห่งสำนักโฮคุชินอิตโตริวออกมา เป็นยอดฝีมือเหนือระดับคนหนึ่ง จุดประสงค์นั้นเรียบง่ายเป็นอย่างมาก ต้องการฆ่าทุกคนในทหารหน่วยรบพิเศษที่ชายแดนและในขณะเดียวกันก็จะได้ข้อมูลที่พวกเขาต้องการ
นี่ทำให้เย่เทียนเฉิน หลัวเหว่ยเคอ และชางหลางอดไม่ได้ที่จะกังวลใจ ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดอีกสิบคนที่เหลือและหานเจี๋ยจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่? หวังว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่และรอคอยการช่วยเหลือ
ความจริงแล้วในใจของเย่เทียนเฉินย่อมเป็นห่วงหานเจี๋ยมากที่สุด ถึงแม้เขาจะไม่ได้ติดต่อกับหานเจี๋ยมาก แต่ในความทรงจำของเย่เทียนเฉิน ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้าสู่กองทัพ หานเจี๋ยก็ให้ความดูแลเขา และในตอนที่หานเจี๋ยปลอมตัวเป็นหัวหน้าเพื่อเดินทางไปรับข้อมูลบางอย่างจากประเทศ M ตนก็ได้รับคำสั่งให้ไปคุ้มครอง ความสัมพันธ์สุดท้ายของทั้งสองก็คือการมีปากเสียงกันเล็กน้อย
แต่นั่นไม่ได้มีผลกระทบกับความประทับใจที่เย่เทียนเฉินมีต่อผู้หญิงคนนี้เลย นี่เป็นผู้หญิงที่ไม่เลวคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่มีบุญคุณกับตน เขาจำเป็นต้องไปช่วย ถ้าหากหานเจี๋ยตาย เขาก็จะทำให้ศัตรูตายไปทั้งหมด
จนกระทั่งพวกเขาสามคนไปถึงขอบเหวลึกของป่าหมอกดำฟ้าก็สว่างแล้ว ในตอนที่ไปสืบเสาะค้นหา เย่เทียนเฉินใช้พลังพิเศษแห่งการรับรู้ทำการตรวจสอบโดยตลอดเพื่อไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ไม่ใช่เพราะพวกเขาว่ากลัวคนกลุ่มนี้ แต่กลัวว่าหลังจากที่ทำให้คนกลุ่มนี้ตื่นตกใจพวกเขาจะทำให้คนที่เหลือที่ยังไม่ถูกฆ่าตายไปทั้งหมด
จากการคาดเดาของพวกเขาทั้งสามคน ทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดอีกสิบคนที่เหลือรวมไปถึงหานเจี๋ย เป็นไปได้มากว่าจะยังไม่ตาย เนื่องจากจุดประสงค์ของประเทศชิบะในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการทำให้ชายแดนป่าหมอกดำวุ่นวาย แต่ยังมีอีกจุดประสงค์หนึ่งนั่นก็คือต้องการได้รับข้อมูลที่พวกเขาอยากได้ มิฉะนั้นคงไม่จับตัวทหารหน่วยรบพิเศษชั้นยอดทั้งยี่สิบคนและหานเจี๋ยมา มีความสามารถแบบนี้ก็ฆ่าไปทั้งหมดก็สิ้นเรื่อง
เย่เทียนเฉิน ชางหลาง และหลัวเหว่ยเคอ คลานอยู่ในพุ่มหญ้าที่อยู่ไม่ไกล มองดูคนชุดดำที่ยืนอยู่บริเวณรอบๆ แต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือ ในใจรู้สึกแปลกใจมาก ดูท่าครั้งนี้เพื่อที่จะก่อความวุ่นวายที่ชายแดนป่าหมอกดำ ประเทศชิบะจึงลงทุนครั้งใหญ่ กระทั่งคนยืนยามก็ยังเป็นยอดฝีมือ นี่ทำให้พวกเย่เทียนเฉินทั้งสามระมัดระวังขึ้นไม่น้อย หลีหวังเคยบอกพวกเขามาก่อนว่าคนที่เป็นหัวหน้าในครั้งนี้เป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งของสำนักโฮคุชินอิตโตริว ภายในสำนักของเขาอย่างน้อยก็นับเป็นยอดฝีมือที่อยู่สิบอันดับแรก ส่วนเซนโทอินที่ถูกหลีหวังฆ่าตายอยู่ในอันดับที่ยี่สิบเท่านั้น คนละระดับโดยสิ้นเชิง ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้อาวุโสคนนี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน
“ฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว พวกเราแยกย้ายกันปฎิบัติภารกิจเถอะ ช่วยเหลือคนเป็นสำคัญ!” ชางหลางเอ่ยปากพูดเสียงเบา
“อืม ถ้าพบคนที่แข็งแกร่งก็ไม่ต้องปะทะด้วย รักษาความปลอดภัยของคนอื่นเป็นสำคัญ!” หลัวเหว่ยเคอพยักหน้าแล้วพูดขึ้น
“พวกคุณรับผิดชอบการช่วยเหลือคน ผมจะตามอยู่ข้างหลัง!”
เย่เทียนเฉินขมวดคิ้วพูด เขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังที่แข็งแกร่งในอากาศเบื้องหน้า