ฉินเหยาเยว่ก็คือหนึ่งในยอดฝีมือสี่สาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณเทียนซวงเอ๋อร์? นี่ทำให้เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าฉินเหยาเยว่จะเป็นชื่อที่เทียนซวงเอ๋อร์เปลี่ยนมาใช้เพื่อที่จะเข้ามาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของคณะโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิงได้อย่างสะดวกราบรื่น ผู้หญิงคนนี้เสียความคิดเวลามากมาย บางทีที่สำนักเทียนซู่ฉีของพวกเธอยอมเสียความพยายามมากขนาดนี้เพื่อให้เทียนซวงเอ๋อร์เข้าไปเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของคณะโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยหลงเถิง จะต้องมีความลับที่บอกคนอื่นไม่ได้แน่นอน
“นี่เป็นเรื่องที่มีเพียงคนตายที่จะได้รู้ เธออยากจะรู้ไหมล่ะ?” เทียนซวงเอ๋อร์ระเบิดกลิ่นอายความเย็นยะเยือกออกมากทั้งร่าง เป็นกลิ่นอายที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก สามารถแช่แข็งทุกอย่างได้ในพริบตา
“ในเมื่อพรรคของพวกเธอสองคนไม่มีความเห็นอะไร ถ้างั้นก็รอชิงเฉิงเยว่แล้ว ถ้าหากพรรคสระหยกของพวกเธอไม่มีปัญหาอะไร หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ก็จะเป็นการร่วมมือกันของพรรคใหญ่ทั้งสี่พรรคของพวกเรา ปรับปรุงกฏระเบียบที่วุ่นวายนับ 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ จะได้ลดการฆ่าฟันลงบ้าง!” ตงฟางเมิ่งมองเซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์แล้วพูดขึ้น
“เรื่องปรับปรุงกฎระเบียบของพรรควรยุทธโบราณที่วุ่นวายฉันไม่มีความเห็นอะไร เพียงแต่ในพรรคของพวกเราทั้งสี่ อำนาจของพรรคมีดบินอ่อนแอที่สุด ถ้าร่วมมือกันจะไม่เป็นการฉุดกันถอยหลังเหรอ?
ฟิ้ว!
คำพูดของเทียนซวงเอ๋อร์ยังไม่ทันออกจากปาก มีดบินก็ที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายเย็นยะเยือกก็พุ่งไปยังศีรษะของเทียนซวงเอ๋อร์ แต่ในตอนที่ใกล้จะถึงเบื้องหน้าของเทียนซวงเอ๋อร์ เทียนซวงเอ๋อร์ก็ขมวดคิ้ว ยื่นมือขาวดุจหยกออกไป มือขวาตบออกไปเป็นฝ่ามือ ในฝ่ามือขวามีปราณน้ำแข็งอยู่ พริบตาเดียวมีดบินก็ถูกแช่แข็ง ในขณะเดียวกันก็กำมือลง มีดบินที่ถูกแช่แข็งพลันแตกสลายในพริบตา ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วพริบตา ไม่เกิน 3 วินาทีเท่านั้น เย่เทียนเฉินที่ได้เห็นต้องตื่นตะลึง ผู้หญิงสามคนนี้คนนี้เป็นน้ำกับไฟที่เข้ากันไม่ได้ และมักจะพูดจาทำร้ายกัน เมื่อลงมือก็จะกลายเป็นการต่อสู้เป็นตาย ดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ
นี่ทำให้เย่เทียนเฉินสัมผัสได้มากขึ้นว่า โลกของพรรควรยุทธโบราณในจีนนี้ลึกล้ำและกว้างขวาง แฝงไปด้วยความลับมากมาย มากมายเหลือเกิน ตนเองจะต้องไปวัดเส้าหลินสักครั้ง ดูซะหน่อยว่ามีคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นหรือไม่ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่เพิ่มระดับความแข็งแกร่งของกายเนื้อของตนอย่างแท้จริง และผสานพลังภายในของพรรควรยุทธโบราณและพลังพิเศษเข้าด้วยกัน ทำให้ความสามารถของตนเพิ่มขึ้นอีกระดับ
“เธอฆ่าฉันได้เหรอ? การประลองของพวกเราสี่คนในพรรควรยุทธโบราณยังไม่เริ่มขึ้น เธอก็ออกกระบวนท่าสังหารแล้ว อยากตายรึไง?” เทียนซวงเอ๋อร์เอ่ยถาม เดินออกมาจากมุมมืด บนใบหน้างดงามเจือไปด้วยความโกรธ
ตอนนี้เย่เทียนเฉินมองเห็นใบหน้าของเทียนซวงเอ๋อร์ได้อย่างชัดเจนแล้ว เป็นฉินเหยาเยว่จริงๆ ดูท่าทางสำนักเทียนซู่ฉีที่เทียนซวงเอ๋อร์อยู่จะส่งเทียนซวงเอ๋อร์มาแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นฉินเหยาเยว่จริงๆ ให้มาเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของคณะโบราณคดีในมหาวิทยาลัยหลงเถิง ที่นี่จะต้องซ่อนความลับสำคัญอะไรบางอย่างเอาไว้แน่นอน มิฉะนั้นคงไม่ส่งยอดฝีมืออย่างเทียนซวงเอ๋อร์มาทำภารกิจ และยังเปลี่ยนชื่อแบบนี้เพื่อปิดบังฐานะของตน
“ฉันไม่รังเกียจที่จะฆ่าเธอก่อนแล้วค่อยฆ่าตงฟางเมิ่งและชิงเฉิงเยว่!” เซี่ยอวี่เหอกำมือขาวนวลแน่น มองไปที่เทียนซวงเอ๋อร์แล้วพูดขึ้น
“ถ้าหากเธออยากสู้ฉันก็จะสู้เป็นเพื่อน ฉันเพียงแค่อยากจะบอกเธอว่า ชิงเฉิงเยว่แข็งแกร่งมาก คัมภีร์ดรุณีหยกของตงฟางเมิ่งก็ฝึกฝนจนถึงขั้นสุดท้ายแล้ว พรรคสุสานโบราณลึกล้ำไม่อาจคาดเดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคัมภีร์ดรุณีหยกที่แข็งแกร่ง เกรงว่ากระทั่งชิงเฉิงเยว่ก็ต้องปวดหัว ด้วยความสามารถของเธอ ฆ่าพวกเราไม่ได้หรอก มีเพียงฉันถึงจะทำได้!” เทียนซวงเอ๋อร์พูดอย่างมั่นใจ
จนถึงตอนนี้เย่เทียนเฉินย่อมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ตนเองพบเข้ากับการรวมตัวของสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณทั้งสามคนโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งก็คือเซี่ยอวี่เหอ ตงฟางเมิ่ง และเทียนซวงเอ๋อร์ พวกเธอเป็นคนที่มาประลองการแข่งขันสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ จากคำพูดของพวกเธอ เย่เทียนเฉินได้รู้ข้อมูลไม่น้อย อย่างน้อยก็รู้ชื่อของสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณ และพรรคที่พวกเธอสังกัดอยู่
เซี่ยอวี่เหอพรรคมีดบิน ตงฟางเมิ่งพรรคสุสานโบราณ เทียนซวงเอ๋อร์พรรคเทียนซู่ฉี ชิงเฉิงเยว่พรรคพรรคสระหยก
ทั้งสี่เป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ของพรรคที่สังกัดอยู่ ไม่เพียงแต่คนทั้งสี่จะสวยเหมือนนางฟ้า แต่ยังเป็นเป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งอีกด้วย การต่อสู้ของพวกเธอในครั้งนี้เกี่ยวพันไปถึงเกียรติยศของพรรคของตน ยิ่งไปกว่านั้นนี่ยังเป็นการต่อสู้ถึงขั้นเป็นตายแล้วแต่โชคชะตา ทุกคนมีผู้ความสามารถ มีเคล็ดวิชาสังหาร เมื่อสู้กันขึ้นมาจะต้องรุนแรงมากแน่นอน
“ชิงเฉิงเยว่ยังมาไม่ถึงพวกเธอก็จะลงมือกันแล้วหรือ? เธอแข็งแกร่งมาก เมื่อถึงตอนนั้นก็ทำได้เพียงรอความตายแล้ว!” ตงฟางเมิ่งมองท้องฟ้า พูดออกมาอย่างเรียบเฉย
เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์ชะงักไป พวกเธอรู้ว่าตงฟางเมิ่งพูดได้ถูกต้อง ในหมู่พวกเธอทั้งสี่คนชิงเฉิงเยว่แข็งแกร่งที่สุด และก็กล่าวได้ว่าไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด เนื่องจากในหมู่พวกเธอทั้งสี่คนไม่เคยต่อสู้กันอย่างแท้จริงมาก่อน เพียงแต่ได้ยินว่าชิงเฉิงเยว่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเธอสี่คน อายุแค่ 20 กว่าปีเท่านั้นก็สามารถเทียบได้กับเจ้าสำนักสระหยกแล้ว เป็นอาจารย์ของชิงเฉิงเยว่ สู้กันหลาย 10 กระบวนท่าก็ยังไม่พ่ายแพ้ นี่เป็นตำนานเล่าขาน ทำให้ผู้คนไม่กล้าเชื่อ
พรรคสระหยกเป็นพรรคที่แข็งแกร่งมากในหมู่พรรควรยุทธโบราณทั้งหลาย โดยเฉพาะพลังภายในของสระหยก เรียกได้ว่าเป็นการดำรงอยู่ที่ไม่แพ้คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นของสำนักเส้าหลินในพรรควรยุทธโบราณเลย เมื่อฝึกฝนพลังภายในประเภทนี้จะซึมซับพลังและจิตวิญญาณดั้งเดิมที่สุดของดินฟ้าเข้าไป ทำการบ่มเพาะร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นสระหยกสองคำนี้มีความหมายเหมือนกับความฝัน ยอดฝีมือชรามากมายประเมินสระหยกเอาไว้เพียงประโยคเดียว นั่นก็คือ ฝ่ามือเดียวสะเทือนฟ้า!
“ฮ่าๆ งั้นเหรอ? แม้แต่เธอก็บอกว่าชิงเฉิงเยว่แข็งแกร่งมาก ฉันอยากจะเห็นจริงๆ ว่าเธอจะแข็งแกร่งขนาดไหน ฝ่ามือสะเทือนฟ้าของสระหยกจะเทียบกับคัมภีร์ดรุณีหยกของพรรคสุสานโบราณของเธอได้หรือเปล่า?” เทียนซวงเอ๋อร์เป็นพวกอยากรู้อยากเห็น ถามออกมาด้วยรอยยิ้มเย็นชา
ตงฟางเมิ่งไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปด้านข้าง นั่งลงบนก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง รอย่างเย็นชาและเงียบงัน รอการปรากฏตัวของชิงเฉิงเยว่ การประลองครั้งนี้ ชิงเฉิงเยว่ถึงจะเป็นศัตรูตัวฉกาจของเธอ ถึงแม้เซี่ยอวี่เหอและเทียนซวงเอ๋อร์จะแข็งแกร่งมาก แต่อย่างน้อยตงฟางเมิ่งก็ยังไม่ระมัดระวังเท่าชิงเฉิงเยว่
เดิมทีการประลองสี่สุดยอดสาวงามแห่งพรรควรยุทธโบราณในครั้งนี้ คุณลุงของตงฟางเมิ่งไม่ต้องการให้ตงฟางเมิ่งมา เนื่องจากคัมภีร์ดรุณีหยกของตงฟางเมิ่งยังฝึกฝนไม่ผ่านขั้นสุดท้าย นี่เป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของเธอ คัมภีร์ดรุณีหยกเป็นวิชาพลังภายในที่มีพลังเทียบเท่าคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็น แข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงห้าปี ตงฟางเมิ่งก็ฝึกวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกไปถึงส่วนสุดท้ายแล้ว เรียกได้ว่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ เพียงแต่น่าเสียดายที่ส่วนสุดท้ายของคัมภีร์ดรุณีหยกจะต้องฝึกเป็นคู่ต้อง ให้ผู้หญิงฝึกร่วมกับผู้ชาย ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องอยู่ในสภาพแลกเปลี่ยนกันด้วย นี่เป็นกำแพงที่เธอข้ามไปไม่ได้ เนื่องจากนี่จะเท่ากับว่าตงฟางเมิ่งต้องถวายร่างกายอันบริสุทธิ์ของตนออกไป
มีอยู่หลายครั้งที่ตงฟางเมิ่งไม่เข้าใจเหตุผลมาโดยตลอด อาจารย์บรรพบุรุษของพรรคสุสานโบราณสร้างคัมภีร์ดรุณีหยกในส่วนนี้ออกมาทำไม ตอนก่อนที่จะบ่มเพาะต้องให้ผู้หญิงที่ต้องการฝึกฝนเย็นชาเป็นน้ำแข็ง โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาดุจน้ำแข็งไปทั้งร่าง แต่เมื่อถึงการฝึกฝนส่วนสุดท้าย ถึงกับต้องฝึกเป็นคู่ร่วมกับผู้ชาย แล้วยังต้องแลกเปลี่ยนกันแบบนั้น นี่มันเพื่ออะไรกัน?
ตงฟางเมิ่งที่ฝึกฝนมาจนถึงส่วนสุดท้ายของคัมภีร์ดรุณีหยกมาโดยตลอด ใคร่ครวญปัญหานี้อยู่เนิ่นนาน จนถึงตอนนี้เธอเพิ่งจะเข้าใจ ที่แท้อาจารย์ที่สร้างวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกส่วนนี้ออกมา ไม่ต้องการให้ลูกศิษย์ของพรรคสุสานโบราณเป็นเหมือนเธอที่ต้องอยู่โดดเดี่ยวไปจนตาย พรรคสุสานโบราณรับแต่ศิษย์หญิง นี่เป็นกฎสำนักที่สืบต่อกันมาหลายพันปี แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คัมภีร์ดรุณีหยกเป็นวิชาพลังภายในที่เหมาะจะให้ผู้หญิงฝึกฝน เพียงแต่ส่วนสุดท้ายต้องการความช่วยเหลือจากผู้ชาย ต้องการพลังหยางมาข่มพลังหยินในร่างของผู้หญิงถึงจะฝึกฝนส่วนสุดท้ายได้สำเร็จ
หลายปีมานี้ตงฟางเมิ่งไม่พบผู้ชายที่ทำให้เธอเลื่อมใสเลย ถ้าจะให้เธอหาผู้ชายคนหนึ่งมาตามใจเพื่อฝึกฝนส่วนสุดท้ายของวิชาคัมภีร์ดรุณีหยก เธอก็ทำไม่ได้ ดังนั้นทำได้เพียงติดอยู่ที่ส่วนสุดท้ายของคัมภีร์ดรุณีหยกมาตลอด ไม่สามารถฝึกฝนได้อย่างสมบูรณ์ คุณลุงของตงฟางเมิ่งบอกว่า ถ้าหากตงฟางเมิ่งไม่ได้ฝึกฝนวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกไปถึงส่วนสุดท้ายจนสำเร็จ หากต้องการเอาชนะชิงเฉิงเยว่เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เนื่องจากพลังภายในของพรรคสระหยกร้ายกาจหาใดเปรียบ โดยเฉพาะฝ่ามือสะท้านฟ้า ฝ่ามือเดียวก็มีอำนาจสั่งสะเทือนฟ้าแล้ว
“ถึงตอนนั้นเธอก็รู้เองไม่ใช่รึไง? รอชิงเฉิงเยว่ปรากฎตัวออกมาก่อนค่อยว่ากันเถอะ!” ตงฟางเมิ่งไม่สนใจเทียนซวงเอ๋อร์ หลับตาลงช้าๆ เธอกำลังสงบอารมณ์ของตนอยู่ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ปรับสภาพของเธอให้อยู่ในสภาพสุดยอดที่สุดของขอบเขตพลัง หากสู้กับชิงเฉิงเยว่จำเป็นต้องระวังให้มาก นี่ผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ที่สุดในรอบ 100 ปีของพรรควรยุทธโบราณ ความสามารถแข็งแกร่งมาก ทำให้คนจำนวนมากของพรรควรยุทธโบราณต้องกดดันจนหายใจไม่ออก
“ฉันได้ยินว่าเธอยังฝึกวิชาคัมภีร์ดรุณีหยกส่วนสุดท้ายไม่สำเร็จ คัมภีร์ดรุณีหยกที่ไม่สมบูรณ์จะมีพลังมากขนาดไหนกัน?” เทียนซวงเอ๋อร์ไม่ใช่คนดีอะไร ถึงแม้ตงฟางเมิ่งจะไม่สนใจเธอ แต่เธอก็ยังพูดต่อไป ต้องการสืบหาความลับของพรรคสุสานโบราณ
พรรคเทียนซู่ฉีที่เทียนซวงเอ๋อร์สังกัดอยู่เป็นรรคที่มีความสามารถด้านการสืบค้นข้อมูลที่แข็งแกร่งที่สุด รวบรวมเรื่องราวที่เป็นความลับไว้มากมายที่สุด รวมไปถึงข้อมูลของพรรควรยุทธโบราณแต่ละแห่งและข้อมูลของผู้มีพลังพิเศษด้วย ถ้าหากคุณคิดว่าพรรคที่รวบรวมข้อมูลได้อย่างเดียวไม่แข็งแกร่งมากพอ ถ้างั้นคุณก็คิดผิดครั้งใหญ่ นั่นเป็นเพราะพวกเขารวบรวมเรื่องที่เป็นความลับบนโลกนี้เอาไว้ ย่อมพบกับการป้องกันที่แข็งแกร่งมากมาย ถ้าไม่มีความสามารถ ถ้างั้นก็ต้องมีจุดสิ้นสุดที่ความตายอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นพรรคนี้จึงไม่อ่อนแอ
“ฉันได้ยินว่า ส่วนสุดท้ายของคัมภีร์ดรุณีหยกต้องให้ผู้ชายมาร่วมฝึกด้วยกัน ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นถึงจะไปยังขอบเขตที่สมบูรณ์แบบได้ ทำให้ผู้คนลำบากใจจริงๆ ผู้หญิงของพรรคสุสานโบราณแต่ละคนล้วนเป็นสาวงาม สุดท้ายยังต้องหาผู้ชายมาร่วมฝึกฝน นี่ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้ารึไง? กล่าวเช่นนี้ ตงฟางเมิ่งก็ขาดผู้ชายไปคนหนึ่งน่ะสิ…” เทียนซวงเอ๋อร์พูดต่อไปไม่หยุดปาก
เย่เทียนเฉินอยู่บนต้นไม้มาตลอด ได้ยินสนทนาของผู้หญิงสามคนนี้ ได้รู้ข้อมูลไม่น้อย ในใจรู้สึกทอดถอนใจ พรรควรยุทธโบราณลึกล้ำไม่อาจคาดเดาจริงๆ ตนเองจำเป็นต้องไปตรวจสอบให้ชัดเจน บางทีอาจจะมีประโยชน์ในเรื่องการยกระดับความสามารถของตนเองก็เป็นได้
……………………..