เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 42 เส้นทางแห่งการฆ่า

ยอดนักฆ่าถือปืนสิบกว่าคนบริเวณชั้นหนึ่งถูกเย่เทียนเฉินฆ่าเรียบภายในเวลาไม่ถึงห้านาที พวกเขาดูเหมือนจะไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะยกปืนขึ้นด้วยซ้ำ ต่อให้มีเสียงปืนดังขึ้น ก็จะไม่ถูกบุคคลภายนอกได้ยินแน่นอน เนื่องจากเย่เทียนเฉินใช้พลังเขตแดนปิดกั้น ทำให้เสียงทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในคฤหาสน์ที่หลี่เถี่ยอยู่อาศัยแห่งนี้ถูกปิดกั้นโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้เอง หลี่เถี่ยที่อยู่ชั้นสองของคฤหาสน์ นั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ มือขวาถือปืนไรเฟิล เขาเป็นคนที่ระมัดระวังคนหนึ่ง ย่อมไม่ยอมให้อันตรายใดๆ แม้เพียงเล็กน้อยตกอยู่กับตนเองแน่ เสี่ยวฉิงภรรยาน้อยนั้นยืนอยู่ข้างๆ เขาตลอด ใบหน้าไม่ปรากฏอารมณ์ใดๆ มองไม่ออกเลยว่ามีความหวาดกลัวและความตึงเครียดใดๆ อยู่แม้เพียงสักนิด

“แม่มันเถอะ ไอ้ขยะเย่เทียนเฉินมันยังกล้ามาจริงๆ ฉันว่ามันมาไม่ถึงชั้นสองก็ต้องตายแล้วล่ะ” ซานจีมีท่าทางไม่สบายเล็กน้อย เมื่อสักครู่นี้เขากำลังดูหนังโป๊ช่วยตัวเองอยู่ คิดว่าอีกสักครู่จะออกไปหาหญิงขายบริการสักหน่อย ที่ไหนได้กลับถูกซานซยงเรียกตัวให้ไปที่ห้องหนังสือของหลี่เถี่ย

“จะประมาทไม่ได้ ทั่วทั้งในและนอกคฤหาสน์มีลูกน้องพร้อมด้วยอาวุธปืนอยู่เต็มไปหมด เย่เทียนเฉินสามารถบุกเข้ามาได้ ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีฝีมืออยู่บ้าง ฉันไม่ต้องการให้มันขึ้นมาชั้นสอง ดังนั้นแกไปจัดการมันที่ชั้นหนึ่งซะ” หลี่เถี่ยมองซานจีครู่หนึ่ง รู้ดีว่าคนๆ นี้หยิ่งยะโส พลางพูดออกมาด้วยใบหน้าเข้มงวดจริงจัง

ซานจีเห็นท่าทางของหลี่เถี่ยก็ไม่พูดอะไรมาก แม้ว่าฝีมือของเขาจะแข็งแกร่งมาก แกร่งที่สุดในหมู่คนของหลี่เถี่ย แต่ว่าเป็นหลี่เถี่ยเป็นพี่ใหญ่ ไม่ใช่เขาซานจี ความหยิ่งก็ต้องมีระดับ มิฉะนั้นหากไปทำให้หลี่เถี่ยโกรธ เขาซานจีคงไม่ได้มีชีวิตที่ดีแน่

“พี่ใหญ่ หรือจะให้ผมเฝ้าอยู่ที่นี่ ซานซยงถึงฝีมือมันจะกาก แต่ยังไงก็ยังมีพี่น้องมือปืนอีกหลายสิบคน ต่อให้เย่เทียนเฉินร้ายกาจกว่านี้ ก็ทะลวงมาไม่ได้แน่” ซานจีไม่อยากจะลงมือ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เห็นเย่เทียนเฉินอยู่ในสายตา คิดว่าฝีมือของตนแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้าลงมือมั่วๆ ก็รู้สึกว่าเป็นการลดระดับตนเองอยู่บ้าง

หลี่เถี่ยกำลังจะด่ากราดซานจี ยังไม่ทันได้เปิดปาก ประตูห้องหนังสือก็ถูกคนผลักเขามาด้วยความตื่นตระหนก ซานซยงตัวสั่นไปทั้งตัว วิ่งเข้ามาอย่างทุลักทุเลพลางกล่าวว่า “มะ…ไม่ดีแล้ว อะ…ไอ้ลูกเต่าเย่เทียนเฉิน มัน มันฆ่าถึงชั้นสองแล้ว!”

“อะไรนะ?”

“เป็นไปไม่ได้ พี่น้องที่เฝ้าชั้นหนึ่งและชั้นสองมีสามสิบคน ทุกคนเป็นยอดฝีมือที่พกปืน ต่อให้เย่เทียนเฉินร้ายกาจกว่านี้ ก็ไม่สามารถฆ่าจนขึ้นมาข้างบนได้แน่” ซานจีกล่าวพลางส่ายหัวอย่างไม่เชื่อโดยสิ้นเชิง

***“ปะ…เป็นความจริง ไอ้หมอนั่น…มันเก่งเหลือเกิน เหล่าพี่น้องไม่มีโอกาสได้ลงมือก็ถูกมันฆ่าตายแล้ว!”

ซานซยงนั้นเห็นเย่เทียนเฉินลงมือชัดเจนเต็มสองตา ตอนนี้ตกใจกลัวเสียจนใบหน้าขาวซีด บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นไหลออกมาราวกับหยาดฝน โดยเฉพาะฉากที่เย่เทียนเฉินลงมือหนึ่งครั้งก็มีนักฆ่าต้องจบชีวิตไปหนึ่งคน ปรากฏวูบวาบเบื้องหน้าซานซยงไม่หยุด แม้ว่าเย่เทียนเฉินจะมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา แต่นั่นก็ราวกับรอยยิ้มของมัจจุราชก็มิปาน ใครที่ได้เห็น ผู้นั้นต้องตาย

“เย่เทียนเฉินพาคนมาเท่าไหร่ถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้?”  หลี่เถี่ยถามพลางขมวดคิ้ว

“กะ…ก็มีมันคนเดียว…” ซานซยงกล่าวตะกุกตะกัก

“คนเดียว? เป็นไปได้ไง?” ชั่วขณะนี้เอง กระทั่งซานจีก็ต้องกล่าวถามออกมาอย่างตกตะลึง

เดิมทีเมื่อได้ยินคำพูดของซานซยง ซานจีไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่นัก เนื่องจากการที่เย่เทียนเฉินคนเดียวสามารถฆ่านักฆ่ามือปืนอัจริยะสามสิบกว่าคนได้นั้น ตนเองฟังดูแล้วก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นเขาซานจีก็ไม่สามารถทำได้อย่างเด็ดขาด เหตุผลเดียวที่จะทำให้ซานจีเชื่อก็คือการที่เย่เทียนเฉินพาคนมาด้วยหลายคน ใครจะรู้ว่าซานซยงกลับกล่าวอย่างหนักแน่นว่า เป็นเย่เทียนเฉินคนเดียวที่ฆ่าขึ้นมาถึงชั้นบน ทำให้ซานซยงและหลี่เถี่ยช็อกเป็นอย่างยิ่ง

“ซานจี เวลาที่แกควรจะลงมือมาถึงแล้ว จะต้องฆ่าเย่เทียนเฉินให้ได้!” หลี่เถี่ยกล่าวเสียงเข้ม

“วางใจเถอะ ความสามารถอย่างไอ้ลูกเต่านี่ ฉันใช้หมัดเดียวก็จัดการมันได้แล้ว!” ซานจีได้สติกลับมา แม้ว่าจะรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังคงหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก หลายปีมานี้ เขาซานจีไม่ได้เจอศัตรูหลายคนนัก ต่อให้เจอก็ไม่ใช่คู่มือของเขา เขาย่อมหยิ่งผยองมากขึ้นทุกวัน

พูดจบ ซานจีก็หมุนตัวเพื่อจะเปิดประตูห้องหนังสือเดินออกไป เพิ่งจจะเดินถึงหน้าประตู  ก็เกิดเสียงดังปัง ประตูห้องหนังสือก็ถูกเย่เทียนเฉินใช้เท้าถีบเสียจนปลิว ซานซยงที่เดิมทียืนอยู่ตรงประตูถูกเย่เทียนเฉินซัดปลิว กระทั่งจะร้องก็ไม่ทันได้ร้องสักแอะ หัวกระแทกกำแพงอย่างรุนแรง เลือดสดๆ ไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง จบชีวิตลงโดยพลัน

หลี่เถี่ยประคองปืนไรเฟิลขึ้นทันที เตรียมจะยิงไปยังเย่เทียนเฉิน แต่ในตอนนี้เอง คำพูดประโยคหนึ่งของเย่เทียนเฉินก็ทำให้เขาตกใจจนนิ่ง

“ฉันเตือนแกว่าอย่ายิงปืนจะดีกว่า ปืนยิงออกมาเร็ว คนที่ตายไม่ใช่ฉัน แต่เป็นแก!” เย่เทียนเฉินกล่าวพลางมองหลี่เถี่ยอย่างเย็นชา

“แกก็คือเย่เทียนเฉิน?” ซานจีกล่าวออกมาอย่างเหยียดหยาม แม้จะแปลกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ได้เห็นเย่เทียนเฉินอยู่ในสายตา

เย่เทียนเฉินไม่เหลือบมองซานจีสักนิด เขาฆ่าคนขึ้นมาตลอดทาง เดิมทีก็ไม่อยากจะเสียเวลา ถ้าไม่ใช่ว่ามีหลายอย่างที่อยากจะถามหลี่เถี่ย ก็คงลงมือฆ่าไปตั้งนานแล้ว เย่เทียนเฉินไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคนที่เป็นอันตรายต่อคนใกล้ชิดของตนเด็ดขาด

“หลี่เถี่ย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังแกคือตระกูลฉินใช่ไหม?” เย่เทียนเฉินเดินมายังเบื้องหน้าของหลี่เถี่ย กล่าวถามออกมาอย่างไม่สนใจปืนไรเฟิลในมือเขา

“เฮอะ ฉันจำเป็นต้องบอกแกด้วยเหรอไง?”

หลี่เถี่ยกำปืนไรเฟิลในมือแน่น จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าลูกน้องของตนสามสิบกว่าคนที่เป็นยอดนักฆ่าพร้อมด้วยอาวุธปืนและทุกคนต่างก็มีฝีมือไม่อ่อนแอ จะถูกเย่เทียนเฉินคนเดียวฆ่าตายทั้งหมดในเวลาเพียงแวบเดียว คนๆ นี้เป็นปีศาจอย่างแท้จริง กล่าวตามจริง ตอนนี้หลี่เถี่ยเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาบ้างแล้ว เสียใจที่ไปหาเรื่องตระกูลเย่และดูถูกความสามารถของเย่เทียนเฉิน

“นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่แกจะได้พูด หวังว่าแกจะคว้าโอกาสนี่ไว้!” เย่เทียนเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส

“แม่งเอ้ย ไอ้ขยะ แกรนหาที่ตายซะแล้ว บิดาใช้หมัดเดียวก็อัดแกจนหน้าทิ่มดินได้แล้ว!”

ซานจีถูกการเมินของเย่เทียนเฉินทำให้โกรธจึงกล่าวถ้อยคำหยาบคายออกมาทันที คำพูดเพิ่งจะออกจากปาก ก็ซัดหมัดไปยังใบหน้าของเย่เทียนเฉิน

ไม่กล่าวไม่ได้ว่าฝีมือของซานจีนั้นไม่อ่อนแอเลย ไม่แปลกที่จะมีข่าวลือว่าเขาเทียบได้กับอู๋เสวี่ยที่เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของจิงตู ภายในหมัดแฝงไปด้วยจิตวิญญาณของวรยุทธเส้าหลินสายใน

หากว่าตอนนี้เย่เทียนเฉินยังคงเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับราชัน อยากจะเอาชนะซานจีก็ยังจำเป็นต้องเปลืองมือเปลืองเท้าอยู่บ้าง แต่การต่อสู้กับอู๋เสวี่ยทำให้เย่เทียนเฉินทะลวงไปยังระดับจอมราชันได้แล้ว ความสามารถไม่เหมือนในวันวานอีกต่อไป แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ดังนั้นเผชิญหน้ากับหมัดของซานจีที่แฝงไปด้วยจิตวิญญาณของวรยุทธเส้าหลินสายใน เย่เทียนเฉินไม่ขยับสักนิด ปล่อยให้หมัดๆ นั้นต่อยเข้ามา

ปัง!

ซานจีซัดหมัดออกไป ไม่ได้ถูกเย่เทียนเฉินจนหน้าทิ่มดิน แต่กลับเป็นเขาเองที่หน้าทิ่มดิน เนื่องจากตอนที่หมัดของเขาใกล้จะถูกหน้าเย่เทียนเฉิน เย่เทียนเฉินก็ใช้มือขวาคว้าจับข้อมือข้างที่เขาออกหมัดเอาไว้ พลันเปลี่ยนทิศทางหมัดของซานจี หมัดของซานจีจึงต่อยลงไปบนใบหน้าของตนเอง เขาทรุดลงกับพื้น เจ็บเสียจนกัดฟันกรอด กระอักเลือดออกมาจากปาก และยังมีฟันหลายซี่ปนออกมาด้วย

ฉากนี้ทำให้หลี่เถี่ยและภรรยาน้อยของเขาเสี่ยวฉิงที่ได้เห็นต้องตกตะลึง พวกเขารู้ฝีมือของซานจีดี ไม่ต้องกล่าวถึงว่าพลังภายในที่ซานจีได้ฝึกฝนนั้นร้ายกาจขนาดไหน แค่พลังของหมัดๆ นี้ คนธรรมดาก็ไม่สามารถรับได้แล้ว

การที่ผู้ที่เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของพรรควรยุทธโบราณแข็งแกร่งกว่านักสู้และบอดีการ์ดธรรมดามากนั้น เป็นเพราะว่าท่วงท่าในการต่อสู้ของพวกเขายืดหยุ่นไม่ตายตัว ทำให้คนอื่นป้องกันไม่ได้ สิ่งที่เป็นส่วนสำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือทักษะวิชาวรยุทธโบราณเหล่านี้ล้วนแต่เหมาะสมในการใช้คู่กับพลังภายในที่สอดคล้องกัน พลานุภาพของหนึ่งหมัดรุนแรงมาก กล่าวให้ชัดเจนก็คือ หากคนธรรมดาต่อยเขาหนึ่งร้อยหมัด ทำได้แค่เจ็บๆ คันๆ เท่านั้น เขาต่อยคุณหนึ่งหมัด คุณก็ตายเสียแล้ว นี่คือความแตกต่าง

“อา…แม่งเอ้ย บิดาจะเอาชีวิตแกซะ!” ซานจีพุ่งตัวไปด้วยความโกรธ สองหมัดกำแน่นจนส่งเสียงดังกรอบ อยากจะโจมตีด้วยความรวดเร็ว คว่ำเย่เทียนเฉินลงให้ได้

ตอนแรกนั้นซานจีกล่าวออกมาเป็นชุดเพื่อสำแดงว่าตนเองเจ๋งขนาดไหน คิดไม่ถึงว่าพอลงมือก็ถูกเย่เทียนเฉินซัดจนฟันร่วงไปหลายซี่ นี่เป็นเหตุการณ์ที่แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติการต่อสู้ของเขาซานจี เป็นความอัปยศอย่างยิ่ง ดังนั้นซานจีจึงต้องการใช้พลังทั้งหมดเพื่อฆ่าเย่เทียนเฉิน

แต่ว่า  ซานจีเพิ่งจะพุ่งตัวออกไป ต้องการที่จะซัดหมัดใส่เย่เทียนเฉิน ก็ถูกเย่เทียนเฉินตวัดเท้าเตะอย่างรวดเร็วจนกระเด็นออกไป การเตะครั้งนี้ทั้งรวดเร็วแม่นยำและรุนแรง ซานจีหลบไม่ทันจึงถูกเตะจนปลิวออกไปและกระแทกกับกำแพงอย่างรุนแรงจนราวกับเกิดแผ่นดินไหวก็มิปาน กำแพงถูกกระแทกจนเเกิดรูโหว่ขึ้นรูหนึ่ง ส่วนซานจีนั้นก็ถูกเย่เทียนเฉินจัดการไปเช่นนี้เอง

ฟิ้ว ฟิ้ว!

หลี่เถี่ยตกตะลึงจนหน้าซีด รีบดึงสลักปืนไรเฟิลแล้วยิงไปยังศีรษะของเย่เทียนเฉิน แต่เขาไม่มีโอกาสลั่นไก เพิ่งจะยกปืนไรเฟิลขึ้น เย่เทียนเฉินก็มาถึงเบื้องหน้าของเขาแล้ว มือขวาจับกระบอกปืนไว้แน่น ใช้แรงเพียงเล็กน้อย ก็บีบให้ปืนไรเฟิลที่สร้างมาจากเหล็กเสียรูปได้

“นี่…แก…” หลี่เถี่ยตกใจจนถอยหลังไม่หยุด ที่พึ่งทั้งหมดของเขาล้วนถูกเย่เทียนเฉินทำลายหมดแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นเฉกเช่นลูกไก่ที่อยู่ในฝ่ามือเย่เทียนเฉิน จัดการได้ตามใจเขา

เดิมทีหลี่เถี่ยต้องการอาศัยลูกน้องกองปืนอัจฉริยะฆ่าเย่เทียนเฉิน กำจัดตระกูลเย่ ไม่ถึงห้านาทีนักฆ่าชั้นยอดสามสิบกว่าคนล้วนถูกเย่เทียนเฉินจัดการจนหมด เดิมทีต้องการอาศัยฝีมือของซานจีอัดเย่เทียนเฉินให้คว่ำ ที่ไหนได้ซานจีทนการโจมตีไม่ได้สักครั้ง เดิมทีตต้องการพึ่งพาปืนไรเฟิลในมือ คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเย่เทียนเฉินทำลายลำกล้องไปเสียได้

“พูดมาเถอะ ตระกูลฉินให้แกจัดการตระกูลเย่ของฉันใช่ไหม?” เย่เทียนเฉินกล่าวเสียงเย็น

“ฉัน…นี่… อา ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตด้วย…”

เย่เทียนเฉินไม่ใช่คนใจดีอะไร ต่อให้ใจดีก็จะใจดีกับคนดีๆ เท่านั้น คนพาลเช่นหลี่เถี่ยไม่จำเป็นต้องเกรงใจด้วย เห็นหลี่เถี่ยพูดจาตะกุกตะกัก เย่เทียนเฉินก็บีบคอเขาแน่น หลี่เถี่ยกลัวจนใบหน้าซีดขาว รีบร้องขอชีวิต ส่วนภรรยาน้อยเสี่ยวฉิงที่อยู่ด้านข้างก็กลัวจนสั่นไปทั้งตัว อยู่ด้านหนึ่งอย่างไม่กล้าส่งเสียง

“ตอนนี้ท้องฉันหิวมาก อย่ามาถ่วงเวลากินข้าวของฉัน!” เย่เทียนเฉินกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ

……………………………………………………………………………………….

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset