เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – ตอนที่ 96 จะสอนให้ว่าจะสู้กับผู้มีพลังพิเศษอย่างไร

เย่เทียนเฉินใช้หมัดต่อยทำลายม่านพลังที่ผู้มีพลังสายป้องกันกางเอาไว้จนแตกเป็นเสี่ยงๆ  ทั้งยังกระเทือนไปยังผู้ใช้ทั้งหมดจนตาย หมัดนี้ถูกเขาตั้งชื่อว่า “หมัดพี่ชายสุดหล่อ” หลิ่วหรูเหมยที่ได้ยินก็แทบอยากจะอ้วก ในใจคิดว่าแย่จริงๆ ที่ไอ้คนไม่น่าพึ่งพาได้อย่างเย่เทียนเฉินสามารถคิดออกมาได้

ทำลายม่านพลังไปแล้ว เย่เทียนเฉินก็หาวออกมาครั้งหนึ่ง เดินไปยังใจกลางของถนนช้าๆ ณ เวลานี้ หย่งชุนไท่ หลิวอวี่ เจียงเหมิง และเฟยอวิ๋น กำลังคลุกคลีต่อสู้อยู่กับผู้มีพลังพิเศษทั้งสี่คนนั้น และยังคงเสียเปรียบอยู่ เย่เทียนเฉินเห็นดังนั้นก็ส่ายหน้า

ในความคิดของเย่เทียนเฉิน ความสามารถของพวกเขาสี่คนเหนือกว่าผู้มีพลังพิเศษสี่คนนั้นเสียอีก เพียงแต่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์สู้กับผู้มีพลังพิเศษมาก่อน จึงถูกวิชาอันแปลกประหลาดของผู้มีพลังพิเศษหลายคนนี้กดข่ม มิฉะนั้นแล้วหากสู้กับด้วยฝีมือล้วนๆ ผู้มีพลังทั้งสี่คงถูกกำจัดไปนานแล้ว จะมาถูกต่อยจนอนาถาขนาดนี้ที่ไหนกัน

“นี่ ทำไมนายเพิ่งจะมาเอาป่านนี้ นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะมาหาวอีก รีบไปสู้กับศัตรูสิ!” หลิ่วหรูเหมยเห็นเย่เทียนเฉินที่มีท่าทางว่างงาน ก็ร้อนใจจนอยากจะต่อยเขาสักหมัด

“อ่า…คุณหนู รบกวนดูด้วยขอรับว่าตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามแล้ว เลยเที่ยงคืนมาแล้ว คนปกติเขานอนกันไปตั้งนานแล้ว ผู้ชายปกติคงนอนกอดเมียหลับสบายไปแล้ว มีแต่ฉันที่ต้องมาระหกระเหินอยู่ข้างนอกอย่างยากลำบาก…” เย่เทียนเฉินหาวอีกครั้ง พลางยกนาฬิกาที่สวมอยู่บนมือให้หลิ่วหรูเหมยดู

หลิ่วหรูเหมยเห็นว่าเย่เทียนเฉินคนนี้ยังมีกะจิตกะใจมาล้อเล่นอยู่ ก็ร้อนใจจนหยิกแขนเขาไปครั้งหนึ่งแล้วกล่าวว่า “พวกเราเจอกับผู้มีพลังพิเศษที่แข็งแกร่ง นายไม่เห็นหรือไง? ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป พวกเราทั้งหมดได้ตายอยู่ที่นี่แน่!”

“นี่ อย่ามาทำเป็นว่าฉันกับเธอสนิทกันให้มากนักนะ ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นเธอเป็นผู้หญิง ฉันตอบโต้ไปแล้ว!” เย่เทียนเฉินกล่าวกับหลิ่วหรูเหมยอย่างไม่พอใจ

 “นาย…ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ เสียทีที่ผู้อื่นเขาเป็นห่วง” หลิ่วหรูเหมยโกรธจนทำปากยู่อย่างน่ารัก พลางกัดฟันกล่าว

“เป็นห่วงฉัน? เธอใจดีขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันว่าเธอห่วงว่าฉันจะกลับมาอย่างราบลื่นซะมากกว่า!” เย่เทียนเฉินกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

“นายจะเกินไปแล้ว หมาไม่รู้จักดีชั่วกัดได้กระทั่งมือที่ยื่นอาหารให้! เฮอะ” หลิ่วหรูเหมยใช้ดวงตาอันงดงามจ้องมองไปยังเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินเบ้ปากครั้งหนึ่งแล้วก็ไม่สนใจหลิ่วหรูเหมยอีก เดินตรงไปด้านหน้า เห็นเจียงเหมิงกับเฟยอวิ๋นถูกต่อยจนถอยหลังหลายก้าว กระทั่งโอกาสโจมตีตอบโต้ก็ไม่มี พลันรู้สึกหดหู่ขึ้นมา ก่อนจะตะโกนออกไปในบัดดลว่า “ไอ้โง่อย่างพวกนายสองคนมัวแต่กลัวอะไรอยู่? คนประเทศMมันก็แค่เสือกระดาษ ผู้มีพลังพิเศษประเทศMมันก็แค่เสือกระดาษ อย่าถูกวิชาที่ดีแต่ท่าสวยของเจ้าสี่คนนี้ข่มเอาสิ!”

ได้ยินเสียงด่าของเย่เทียนเฉิน เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นก็ตกตะลึง แต่ก็ยังไม่กล้าเชื่อคำพูดของเขา เนื่องจากข้อแรกก็คือ ผู้มีพลังพิเศษที่พวกเขาเผชิญหน้าด้วย คนหนึ่งคือสายว่างเปล่า คนหนึ่งสือสายแสงสว่าง เหตุผลข้อสองก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งคู่สู้กับผู้มีพลังพิเศษ จะมากน้อยในใจก็ยังคงหวาดกลัวความแปลกประหลาดและความไม่รู้ต่อวิชาที่น่าอัศจรรย์เหล่านั้น

ผู้มีพลังพิเศษทั้งสองที่สู้อยู่กับเจียงเหมิงและเฟยอวิ๋ยก็ได้ยินที่เย่เทียนเฉินพูด พวกเขาชะงักไปเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็เข้าไปโจมตีเจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นต่อ

ผู้มีพลังแสงสว่างใช้หมัดที่ส่องแสงสว่างโชติช่วงต่อยไปยังศีรษะของเฟยอวิ๋น เนื่องจากเฟยอวิ๋นกำลังตะลึงอยู่ ในวินาทีที่หันกลับมาก็พบว่าหมัดของผู้มีพลังแสงสว่างมาพบเบื้องหน้าแล้ว จะหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว ทันใดนั้นก็เกิดตื่นตระหนกขึ้นมา

ตู้ม!

เสียงหมัดดังขึ้น คนที่ถูกต่อยจนกระเด็นกลับไม่ใช่เฟยอวิ๋น แต่เป็นผู้มีพลังแสงสว่างคนนั้น จนกระทั่งเฟยอวิ๋นจ้องมอง จึงพบว่าเย่เทียนเฉินยืนอยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว ช่วยเขาออกหมัดซัดผู้มีพลังแสงสว่างจนปลิว

“ฉันจะสอนพวกนายสู้กับผู้มีพลังพิเศษสักหน่อยก็แล้วกัน เห็นรึเปล่า? ถึงฉันจะหล่อกว่านาย แต่หมัดก็ไม่ได้หนักไปกว่านายสักเท่าไร นายอย่าไปถูกหมัดส่องแสงของหมอนี่ต้มเอาสิ มันทำร้ายนายไม่ได้หรอก วางใจเถอะ!” เย่เทียนเฉินตบบ่าเฟยอวิ๋น กล่าวพลางทำท่าทีควาดหวังว่าเขาจะมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น

เฟยอวิ๋นอดหู่ไม่ได้ อยากจะโต้แย้งกลับไปสักหลายๆ ประโยค แต่ที่เย่เทียนเฉินพูดมานั้นถูกต้องทั้งหมด อีกอย่างหากไม่ใช่เพราะเขา ตนเองคงได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้ว

เย่เทียนเฉินใช้หมัดเดียวซัดผู้มีพลังพิเศษสายแสงสว่างผู้นั้นจนปลิวตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง แต่คนคนนั้นก็แข็งแกร่งมากจริงๆ แปบเดียวก็พลิกตัวลุกขึ้นมาได้ มองไปยังเย่เทียนเฉินอย่างโหดเหี้ยม เป็นครั้งแรกที่เขาถูกต่อยจนกระเด็น สำหรับผู้มีพลังพิเศษที่ถือว่าแข็งแกร่งมากในโลกแห่งนี้แล้ว นี่นับว่าเป็ยความอัปยศของเขา

ผู้มีพลังพิเศษที่เป็นหัวหน้าและผู้มีพลังแห่งความว่างเปล่าได้ยินก็มองไปยังชายวัยรุ่นชาวตะวันออกผู้นั้นอย่างตกใจ จินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ อายุน้อยเช่นนี้ ท่าทางไม่เอาไหนเช่นนี้ แต่ฝีมือกลับแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว

“ดูสิ อย่าไปกลัวถูกอัดหน้า หน้าของนายยังไปทำศัลยกรรมได้น่า อีกฝ่ายหายตัวไปแล้วนายจะกลัวอะไร เตะมันออกไปก็สิ้นเรื่อง” เย่เทียนเฉินมองเจียงเหมิงพลางกล่าวราวกำลังสั่งสอนลูกของตนอยู่ก็มิปาน

ใบหน้าของเจียงเหมิงถูกอัดไปหลายหมัด ย่อมมีอาการบวมช้ำอยู่บ้าง เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉินก็ยิ่งกลายเป็นอัปลักษณ์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเย่เทียนนเฉินใช้การปฏิบัติจริงพิสูจน์ให้พวกเขาเห็น ผู้มีพลังพิเศษทั้งสองอ่อนแอกว่าพวกเขา พวกเขาเพียงแค่ถูกพลังพิเศษของเจ้าสองคนนั่นหลอกจนลายตา

ตอนที่เย่เทียนเฉินเดินเข้ามา ท่าทางภายนอกของเขาดูเอ้อระเหยไม่สนใจ แต่ความจริงเขาได้ใช้พลังพิเศษแห่งการรับรู้วิเคราะก์ความสามารถของผู้มีพลังพิเศษทั้งสี่ที่ต่อสู้อยู่กับพวกหย่งชุนไท่แล้ว  คนที่สู้อยู่กับหย่งชุนไท่แข็งแกร่งที่สุด คนผู้นี้เป็นสายเสริมพลัง ไม่ว่าจะหยิบอะไรขึ้นมาก็สามารถเพิ่มพูนอานุภาพได้ในพริบตา ไม่การป้องกันได้ อันดับสองก็คือผู้มีพลังสายฟ้าที่สู้อยู่กับหลิวอวี่ ฝ่ามือสายฟ้าของคนคนนี้ฝึกฝนจนถึงขั้นฆ่าคนได้แล้ว ไม่เพียงแต่พลานุภาพของหมัดที่รุนแรง ยังมีการทำร้ายจากพลังสายฟ้าอีกด้วย หากว่าถูกโจมตีจะต้องเป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน

สำหรับผู้มีพลังทั้งสองที่สู้กับเจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นนั้นไม่มีอะไรมาก พลังพิเศษของพวกเขายังไม่ถึงขั้นพลังสังหาร หากกล่าวถึงพลังแห่งความว่างเปล่าของผู้มีพลังพิเศษคนนั้น แม้ว่าจะสามารถหายไปในความว่างเปล่าได้ในชั่วพริบตา แต่ระยะทางก็ไม่ได้ไกลมากนัก เพียงแค่แกว่งหมัดเหวี่ยงเท้าไปสักหลายๆ ครั้ง จะต้องโจมตีถูกคนๆ นั้นได้อย่างแน่นอน ส่วนผู้มีพลังพิเศษสายแสงสว่างคนนั้น หมัดที่ส่องแสงสว่างของเขา นอกจากจะทำให้คู่ต่อสู้แสบตา ก็ไม่ได้มีพลังในการสังหารอะไรเลย ด้วยความสามารถของเฟยอวิ๋น หากสู้กับคู่ต่อสู้เช่นนี้ หลับตาลงก็ยังสามารถหาตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ ต่อยเขาไปสักหมัดก็หมอบแล้ว

ผู้มีพลังพิเศษทั้งสองที่สู้กับเจียงเหมิงและเฟยอวิ๋น หากกล่าวถึงความสามารถทางร่างกาย ก็อาจจะสามารถสู้กับพวกเขาทั้งสองได้สักตั้ง แต่ก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเฟยอวิ๋นอยู่ดี พลังพิเศษของพวกเขายังไม่ถึงระดับที่จะใช้ฆ่าคนได้

“เย่เทียนเฉิน นายคุ้มครองคุณหนูหนีไปซะ พวกเราสี่คนจะระวังหลังให้เอง!” หลิวอวี่รีบกล่าวกับเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินมองหลิวอวี่ครู่หนึ่ง แม้ว่าเมื่อก่อจะมีการเข้าใจผิดกันเล็กน้อย แต่ฝีมือของหลิวอวี่และความภักที่ที่ทุ่มเทให้กับตระกูลหลิ่วของเขา ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกนับถือ

ทันใดนั้น เย่เทียนเฉินก็ขมวดคิ้ว เขารู้สึกได้ถึงการผันผวนของพลังพิเศษอันแข็งแกร่งสายหนึ่ง ผู้มาใหม่ย่อมไม่ใช่ผู้มีพลังพิเศษธรรมดาๆ แน่ แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

“ไม่ทันแล้วล่ะ พวกนายรีบไปเถอะ ฉันจะหยุดคนพวกนี้เอง” สายตาของเย่เทียนเฉินจ้องมองไปเบื้องหน้า พลางเปิดปากกล่าวเสียงเรียบ

“แต่…”

“บอกให้ไปก็ไปสิ ไม่ต้องพูดจาไร้สาระให้มากความ ฉันจะไปรวมตัวกับพวกนายแน่นอน ไม่ต้องกังวล” เย่เทียนเฉินกล่าวขัดคำพูดของหลิวอวี่เสียงเข้ม

พวกหย่งชุนไท่ทั้งหลายต่างก็ตกตะลึง และรู้สึกได้ว่าเรื่องราวชักจะไม่สวย ตลอดทางเย่เทียนเฉินคนนี้ต่างก็มีท่าทางเอ้อระเหยลอยชาย ไม่เคยมีท่าทีจริงจังเช่นนี้มาก่อน หากไม่ได้เป็นเพราะมีศัตรูที่แข็งแกร่งมาโจมตี เย่เทียนเฉินคงไม่เป็นเช่นนี้ กล่าวตามจริง หากมีศัตรูที่แข็งแกร่งโผล่มาอีก พวกเขาอยู่ที่นี่ก็ช่วยอะไรเย่เทียนเฉินไม่ได้ กลับจะไปถ่วงการต่อสู้ของเย่เทียนเฉินเสียมากกว่า

“ไปเถอะ!” หย่งชุนไท่เปิดปากกล่าว

หลิวอวี่ เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋น ทั้งสามต่างก็รีบล่าถอยไปคุ้มครองอยู่ข้างกายหลิ่วหรูเหมยเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เหลือเพียงเย่เทียนเฉินคนเดียวที่ยังคงยืนประจันหน้ากับผู้มีพลังพิเศษทั้งสี่โดยไม่ขยับเขยื้อน

“คุณหนูพวกเราไปกันเถอะ!” หย่งชุนไท่ที่เห็นท่าทางเป็นกังวลของหลิ่วหรูเหมยกล่าวขึ้น

หลิ่วหรูเหมยพยักหน้า มองเงาหลังของเย่เทียนเฉิน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าชายไม่เอาไหนคนนี้ ในเวลาเช่นนี้กลับยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น ยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า ช่างมีเสน่ห์และอำนาจที่อธบายไม่ถูก

“เย่เทียนเฉิน นายระวังตัวด้วย พวกเราจะรอ!” หลิ่วหรูเหมยอดไม่ได้ที่จะตะโกนไปยังเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้หันกลับไป ทำเพียงโบกมือไปมาเท่านั้น

หย่งชุนไท่ หลิวอวี่ เจียงเหมิงและเฟยอวิ๋นสี่คน คุ้มครองหลิ่วหรูเหมยจากไป ส่วนเย่เทียนเฉินยืนขวางอยู่ด้านหน้าของผู้มีพลังพิเศษทั้งสี่ สายตาของเขาไม่ได้มองทั้งสี่คนนี้ แต่รับรู้ได้ถึวความผันผวนของพลังพิเศษที่แข็งแกร่สายหนึ่งงที่ปรากฏออกมาในพริบตาเมื่อครู่ เขารู้ดีว่านี่เป็นยอดฝีมือที่แท้จจริงแห่งหน่วยสืบราชการลับพลังพิเศษแห่งประเทศM คนที่ควรค่าในการต่อสู้กับตนเองอย่างแท้จริง

“จะไปงั้นเหรอ? เกรงว่าจะไม่ง่ายอย่างนั้น!”

ผู้มีพลังพิเศษแห่งความว่างเปล่าเป็นคนแรกที่ขยับ คิดอยากจะหายไปในอากาศเพื่อตามไปฆ่าพวกหลิ่วหรูเหมย เพียงแต่น่าเสียดาย เขาเพิ่งจะหายไปในอากาศ เย่เทียนเฉินก็ใช้เท้าซ้ายเตะออกไป พลันมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ผู้มีพลังพิเศษแห่งความว่างเปล่าปรากฏตัวออกมา สองมือกุมอยู่ที่เป้ากางเกง ล้มลงไปกองกับพื้น นอนตายน้ำลายฟูมตาย เนื่องจากเป้าของเขาถูกเย่เทียนเฉินเตะแตกไปแล้ว

ผู้มีพลังพิเศษที่เป็นหัวหน้าจ้องมองเย่เทียนเฉินเขม็ง เหลือเพียงเขากับผู้มีพลังสายฟ้าที่ไม่ได้ลงมือ ส่วนผู้มีพลังพิเศษแห่งความส่างเปล่าและผู้มีพลังพิเศษสายแสงสว่างล้วนถูกเย่เทียนเฉินอัดจนแพ้ไปแล้ว ต่อให้บุกเข้าไปอีก ก็มีแต่ตายกับตาย

“หรือว่า…หรือว่าแกก็คือปีศาจตะวันออก?” ผู้เป็นหัวหน้ากล่าวถามด้วยน้ำเสียงอันสั่นเทา

“คนประเทศMอย่างพวกแกชอบตั้งฉายาให้คนอื่นเหรอ? แต่ฉายาปีศาจตะวันออกนี่ฟังดูไม่เลวเลย ดูทรงอำนาจดี ฉันชอบ!” เย่เทียนเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฆ่าก่อนค่อยว่ากัน!”

ผู้มีพลังสายฟ้ากล่าวเสียงเย็น พลังสายฟ้าภายในหมัดทั้งสองซัดสาด เขากระตุ้นพลังสายฟ้าทั่วทั้งร่างของตน พุ่งเข้าไปยังเย่เทียนเฉิน แม้เขาจะตกใจกับฝีมือของเย่เทียนเฉิน แต่ก็ยังคงมั่นใจในตัวเอง เพราะความสามารถของเขาเหนือกว่าผู้มีพลังพิเศษแห่งความว่างเปล่าและผู้มีพลังพิเศษสายแสงสว่าง

……………………………………………..

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

นิยายแฟนตาซี แปลจีน เกิดใหม่ ต่อสู้ ผู้มีพลังพิเศษระดับพระเจ้ามาเกิดใหม่ในร่างของ ‘เย่เทียนเฉิน’ หน่วยรบพิเศษผู้ไม่เอาถ่าน ระหว่างกำลังปฏิบัติภารกิจคุ้มกันตัวผู้บัญชาการสาวหานเจี๋ยกลับประเทศ แม้การเกิดใหม่ครั้งนี้จะทำให้พลังระดับเทพเจ้าลดเหลือเพียงระดับราชัน แต่ขณะที่เผชิญหน้ากับกองกำลังผู้ก่อการร้ายข้ามชาติที่ได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนทั้งคู่ เย่เทียนเฉินในร่างใหม่ได้ใช้ความสามารถจากการดูดซับพลังปราณ แสดงฝีมือการต่อสู้อันเป็นเลิศออกมา สร้างความประหลาดใจให้ทั้งศัตรูและมิตรสหายโดยทั่วกัน ประตูสู่การเป็นสุดยอดนักรบเปิดออกแล้ว! แต่เย่เทียนเฉินคนใหม่ยังต้องไล่สะสางปัญหาที่ร่างเดิมก่อเอาไว้เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการล้างแค้นญาติพี่น้องผู้ชั่วช้า รับมือกับคู่แข่งทางการเมืองของบิดา หรือกอบกู้ชื่อเสียงให้วงศ์ตระกูลจากความอัปยศในอดีต ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อจะได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอันอบอุ่นเสียที

Comment

Options

not work with dark mode
Reset