ตอนที่ 131 นางพญามด(ตอนจบ)
หลินหยางเช็ดเหงื่อบนใบหน้าพลางดื่มน้ำตามไปอึกใหญ่ เขาไม่คิดจะใช้ทักษะราชสีห์คำรามอีกเป็นครั้งที่สองเนื่องจากนางพญามดไฟมันมีสติปัญญาสูงส่งที่สุดในจำนวนมอนสเตอร์ที่เขาพบเจอ มันย่อมไม่ติดกับอีกคราเป็นแน่
แต่การใช้ทักษะราชสีห์คำรามส่งผลให้บาดแผลของมันไม่สมานตัวรักษาตามธรรมชาติเพราะงั้นเขาจึงต้องพักเพื่อให้หายเหนื่อยและคอยใช้ทักษะราชสีห์คำรามตัดกำลังของมันแม้จะไม่สามารถโจมตีมันได้ก็ตาม
เมื่อคิดได้ดังนั้นหลินหยางขมวดคิ้ว พลางใช้ความคิดเดินเข้าไปชะโงกหัวดูนางพญามดไฟ เห็นมันกำลังใช้ขาของมันปาดเช็ดเลือดที่ไหลอาบทั่วร่างกาย เขาจึงหันตัวเดินกลับ
‘มันไม่มีทักษะ?’ หลินหยางคิด ตั้งแต่เขาโจมตีมันมาตอนนี้ก็ร่วมสองวันแล้วเขายังไม่เคยเห็นมันใช้ทักษะใดๆตอบโต้พวกเขาเลย นางพญามดไฟระดับสามสิบร่างกายที่ใหญ่โตแต่กลับเชื่องช้า พลังโจมตีต่ำ แต่พลังป้องกันสูง ดูท่ามันจะมิใช่มอนสเตอร์ประเภทต่อสู้
แต่หลินหยางยังมิสามารถไขปัญหาของมดไฟระดับสี่ได้ ที่ตัวมันระเบิดแตกออกสร้างผลกระทบรอบบริเวณ เพราะเขาใช้ทักษะตาเหยี่ยวตรวจสอบพวกมันแล้วกลับมีเพียงข้อความเตือนที่เหมือนกับมดไฟระดับสองเท่านั้น
“พวกนายไปโจมตีมันก่อน” หลินหยางกล่าวกับจิ่นเหอและหลิวไห่ เมื่อเห็นว่านางพญามดไฟมิได้ระมัดระวังตัวมันกำลังงุ่นอยู่กับบาดแผลของตัวมันอยู่ ส่วนตัวเขาต้องการพักเอาแรงเรียกพละกำลังกลับคืนมาเสียงก่อน รวมถึงการโจมตีของจิ่นเหอและหลิวไห่นั้นรุนแรงกว่าเขาเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาทั้งคู่เน้นสถานะไปที่พลังอย่างเดียว
หากสามารถใช้ทักษะหลอมไฟโจมตีควบคู่ไปได้เขาอาจจะปลิดชีวิตเจ้านางพญามดไฟไปได้นานแล้วก็เป็นได้ แต่ช่างน่าเสียดายที่มันป้องกันการโจมตีจากทักษะของมันเอง
เมื่อจิ่นเหอและหลิวไห่ปาหอกใส่มันเรียบร้อยพวกเขาก็เร่งถอยกลับทันที
กี๊~
เวลาผ่านไปกว่ายี่สิบนาทีหลินหยางที่พละกำลังฟื้นฟูขึ้นมาเกือบสมบูรณ์ ทันใดนั้นได้ยินเสียงนางพญามดไฟร้องออกมาจากภายใน
หลินหยางจึงลุกขึ้นแอบไปตามผนังชะโงกหัวเข้าไปดูภายในรังของมัน ในสายตาของเขาตอนนี้มองเห็นนางพญามดไฟมันหันหลังอยู่มิได้สนใจปากทางเข้ารังของมันเลยแม้แต่น้อย ดูเหมือนมันกำลังสนใจบางอย่างอยู่
หลินหยางมิได้โจมตีมันเพียงแต่จ้องมองดูการกระทำของมันอย่างมิลดละ แต่ตัวนางพญามดที่ใหญ่โตบดบังสายตาของเขามิสามารถมองเห็นสิ่งที่มันกำลังสนใจได้
เขาจ้องมองมันอยู่นานสองนาน เวลาผ่านไปเรื่อยๆตัวเขาก็มิได้โจมตีมันแต่อย่างใด ตัวนางพญามดไฟก็มิได้ขยับเขยื้อนสนใจสิ่งอื่นแม้แต่น้อย
ตูมมม~
ตอนนั้นเองร่างของนางพญามดไฟที่ใหญ่โตค่อยๆโงนเงนและล้มลงอย่างรุนแรงส่งผลให้ถ้ำแห่งนี้สั่นสะเทือนจนหลินหยางและพวกเกือบสูญเสียการทรงตัวและล้มลง
‘เกิดอะไรขึ้น?’ หลินหยางขมวดคิ้วทันที การโจมตีของพวกเขาไม่น่าจะสามารถปลิดชีวิตมันได้ง่ายดายขนาดนี้ รวมถึงยังไม่มีเสียงข้อความแจ้งเตือนเรื่องการฆ่ามันอีกต่างหาก แต่เมื่อมองไปยังร่างของนางพญามดไฟหลินหยางก็โล่งใจ เพราะมันยังมิได้ตกตายไป แต่ดูแล้วมันอ่อนล้าลงมากโข
หลินหยางคิดเท่าใดก็ไม่สามารถหาเหตุผลได้ เนื่องจากสถานการณ์นี้มิได้เกิดจากการโจมตีของพวกเขาแน่ๆ แม้พวกเขาจะโจมตีมันมากว่าสองวันแต่บาดแผลพวกนี้นับว่าเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับขนาดตัวของมัน
แล้วเหตุใดมันถึงล้มลง และอ่อนล้าเช่นนี้?
ตอนที่ 132 ตัดศรีษะ
หลินหยางจ้องมองมันอย่างสับสน ดูนางพญามดไฟที่ร่างกายอ่อนแรงลงเรื่อยๆคล้ายจะหมดลมได้ทุกเมื่อ เขาจึงใช้ทักษะตาเหยี่ยวตรวจสอบมัน
นางพญามดไฟ ระดับ 29
พลังโจมตี 1
พลังป้องกัน 29
ความเร็ว 1
คำอธิบาย : ???
คำเตือน : ???
‘เนื่องจากระดับของเป้าหมายสูงกว่าท่านจึงไม่สามารถตรวจสอบได้’
‘เกิดอะไรขึ้น?’ หลินหยางขมวดคิ้ว ระดับมันลดลง มิเพียงเท่านั้น พลังโจมตีจากเดิมที่มีถึงสิบ บัดนี้เหลือเพียงแค่หนึ่งเท่านั้น!
ผ่านไปชั่วครู่เมื่อเห็นมันขยับพลิกตัวช้าๆคล้ายคนชราที่ไร้เรี่ยวแรงเขาใช้ทักษะตาเหยี่ยวตรวจสอบมันอีกครา
นางพญามดไฟ ระดับ 28
พลังโจมตี 1
พลังป้องกัน 28
ความเร็ว 1
คำอธิบาย : ???
คำเตือน : ???
‘เนื่องจากระดับของเป้าหมายสูงกว่าท่านจึงไม่สามารถตรวจสอบได้’
“ฆ่ามันเร็ว” หลินหยางเมื่อเห็นดังนั้นเร่งรีบเรียกจิ่นเหอและหลิวไห่ทันที พลางชักดาบคู่กายพุ่งตรงเข้าใส่นางพญามดไฟอย่างรวดเร็วหมายมั่นปลิดชีวิตของมันเสีย
เหตุผลที่พวกเขาเสี่ยงชีวิตต่อสู้กับนางพญามดไฟนั่นก็เพราะระดับที่สูงส่งของมันหากพวกเขาสามารถเข่นฆ่ามันได้ระดับของพวกเขาย่อมเพิ่มสูงขึ้นไม่มากก็น้อย แต่ตอนนี้ระดับเป้าหมายของเขากำลังลดลงเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้พวกเขาคงเสียเวลาไปต่อสู้โรมรันกับมันมากว่าสองวันไปเสียเปล่าเป็นแน่
หลินหยางเร่งรีบเข้าไปโจมตีมันอย่างรวดเร็วใบหน้าเขาเคร่งเครียดไม่น้อย เขาต้องแข่งกับเวลา พลางตรวจสอบระดับของมันอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มันเหลือเพียงระดับยี่สิบเจ็ดแล้ว
“ตัดหัวมัน” เมื่อจิ่นเหอและหลิวไห่มาสมทบหลินหยางออกคำสั่งทันที ทั้งสามใช้ดาบฟันอย่างรุนแรงเข้าใส่คอของมันที่ใหญ่โตกว่าร่างกายของคนสองคนเสียอีก แม้จะฟันเข้าไม่ลึกแต่พวกเขาก็โจมตีจุดเดิมอย่างรุนแรงต่อเนื่องหวังตัดให้ขาด
นางพญามดไฟที่นอนไร้เรี่ยวแรงมันมิได้ปัดป้องใดๆทั้งสิ้นปล่อยให้มนุษย์ทั้งสามโจมตีเข้าใส่ร่างกายของมัน มันคล้ายกับปล่อยเปิดทางให้พวกเขาโจมตีมันได้อย่างสะดวกเสียด้วยซ้ำ เหมือนกับปลดปล่อยมันจากความเจ็บปวดอย่างกับว่ามันเตรียมตัวตายเอาไว้แล้ว
มนุษย์ทั้งสามสลับสับกันลงดาบอย่างไม่หยุดพัก พวกเขามิได้เกรงกลัวการโจมตีของนางพญามดไฟเลยแม้แต่น้อย แม้แต่แรงจะขยับเขยื้อนตัวของมันแทบสิ้นคงไม่มีแรงตอบโต้อีกแล้ว เมื่อระดับของมันลดลงพลังป้องกันของมันก็ตกลงตามไปด้วยการโจมตีของพวกเขาจึงลึกขึ้นเรื่อยๆ
ฉึก!
ฉึก!!
‘คุณฆ่านางพญามดไฟ ระดับ 25 หนึ่งตัว’
‘ยินดีด้วยคุณได้เลื่อนระดับ เป็นระดับ 19 แล้ว โปรดให้ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น’
‘ยินดีด้วยคุณได้เลื่อนระดับ เป็นระดับ 20 แล้ว โปรดให้ค่าสถานะที่เพิ่มขึ้น’
‘เนื่องจากการเลื่อนระดับ เป็นระดับ 20 ท่านสามารถเพิ่มระดับทักษะได้ 1 ระดับ’
ในที่สุดพวกเขาทั้งสามก็สามารถปลิดชีวิตนางพญามดไฟลงได้
หลินหยางนั่งลงข้างร่างของนางพญามดตัวโตเท่าตึกอย่างเหนื่อยหอบ เหงื่อของเขาผุดขึ้นเต็มใบหน้า
เขากดดันยิ่งกว่าตอนต่อสู้ประจันหน้ากับมันเสียอีก เนื่องจากต้องแข่งขันกับเวลา นางพญามดไฟจากระดับสามสิบระดับของมันลดลงเรื่อยๆเมื่อพวกเขาสามารถฆ่ามันได้ก็เหลือเพียงระดับยี่สิบห้าเท่านั้น หายไปถึงห้าระดับ
“เฮ้อ” หลินหยางถอนหายใจ ถึงมันจะมีระดับสามสิบมันก็ไม่สามารถโจมตีตอบโต้พวกเขา และต้องตกตายภายใต้คมดาบและหอกของเขาอยู่ดี แต่ตอนนี้พวกเขาสามารถฆ่ามันลงได้อย่างง่ายดายแต่หลินหยางมิได้ยินดีแม้แต่น้อย เขาอดเสียดายระดับของมันที่เสียไปมิได้
พลางมองดูร่างกายที่ใหญ่โตของมัน เขาคิดหาสาเหตุที่มันเหนื่อยล้าอ่อนแรงลงมิได้ มันเกิดขึ้นอย่างมิได้ตั้งตัว