ตอนที่ 15 เหยี่ยวมรกต(ตอนต้น)
ตอนนี้หลินหยางและพวกกำลังใช้เปลือกไม้และเถาวัลย์มัดต่อกันอยู่พวกเขากำลังทำตาข่ายขนาดใหญ่เพื่อไปจับนกยักษ์นั่นเอง
“เสร็จแล้ว” เขายิ้มพลางปาดเหงื่อ
“อีกสิบนาทีพวกเราจะออกเดินทาง ทุกคนเตรียมอาวุธให้พร้อม” หลินหยางตะโกนบอก
หลังจากที่ตกลงร่วมมือกันมีเอลฟ์หนุ่มสาวกว่ายี่สิบคน ที่เชี่ยวชาญด้านการยิงธนูติดตามหลินหยางไปด้วย
ตอนนี้เวลาประมาณบ่ายสามหลินหยางและพวกรวมถึงเอลฟ์ก็มาถึงจุุดหมาย ห่างจากแม่น้ำประมาณห้าร้อยเมตรเมตร
พวกเขากำลังหมอบอยู่ที่พื้น
ซึ่งมีหลินหยางยืนอยู่เพียงลำพังสร้างความโดดเด่น เขาตั้งใจจะใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อนกยักษ์นั่นเอง
หลังจากรออยู่ไม่นาน เป้าหมายที่เฝ้ารอก็โผล่มาให้เห็ฯมันคือนกยักษ์สามตัวกำลังโผบินตรงมาทางพวกเขา
‘สู้พร้อมกันทั้งสามตัวคงไม่ไหว’ เขาคิดและก้มตัวลงหมอบต่ำ
“นายพอจะยิงถูกมันไหม” หลินหยางกล่าวถามเอลฟ์ตนนึง ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าของเอลฟ์ที่นำทีมตามเขามา
“หากต่ำกว่านี้อีกหน่อยข้าพอจะยิงถึง แต่คงสร้างความเสียหายให้มันไม่ได้เพราะมันไกลเกินไป ท่านหลินหยางท่านถามทำไมหรือ” เอลฟ์ตนนั้นตอบ
“หลังจากที่มันบินผ่านพวกเราพวกมันจะลดระดับบินต่ำลง นายช่วยยิงตัวที่อยู่หลังสุดได้หรือไม่ ที่เหลือผมจะจัดการเอง” หลินหยางกล่าว
“ได้เลย” เอลฟ์ตอบ
พอนกยักษ์ใกล้เข้ามาและบินต่ำลงตามคาด เอลฟ์หนุ่มรูปงามก็ทำตามแผน พอมันบินผ่านหัวของพวกเขาไปแล้ว เอลฟ์ตนนั้นยิงธนูใส่นกยักษ์ตัวด้านหลัง ลูกธนูปักไปที่ขนหนาของมันไม่นานลูกธนูก็ร่วงตกลงมา มันไม่สามารถเจาะทะลุแผงขนของนกยักษ์ไปได้
นกที่ถูกธนูยิงก็ชลอความเร็ว มันหันมองซ้ายขวาเสาะหาต้นตอผู้ที่สะกิดร่างกายของมัน และแล้วมันก็พบเจอเข้ากับกลุ่มคนที่นอนหมอบอยู่บนพื้น ใจกลุ่มคนนั้นมีชายคนหนึ่งกำลังยืนกระโดดโลดเต้นอยู่ นั่นคือหลินหยางนั่นเองเขากำลังเรียกร้องความสนใจของนกยักษ์ตัวนี้อยู่
มันไม่รอช้าพุ่งใส่เขาด้วยความโกรธแม้มันจะมิได้รับบาดเจ็บก็ตาม
หลินหยางเห็นดังนั้นจึงยิ้มเยาะ และเริ่มวิ่งหนีการไล่ล่า
นกยักษ์หลังจากเห็นหลินหยางวิ่งหนี มันยิ่งโกรธบินไล่ไม่คิดชีวิต ระยะห่างระหว่างทั้งสองเริ่มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งร้อย เจ็ดสิบ ห้าสิบ ยี่สิบเมตร!
จู่ๆก็มีตาข่ายผลุบขึ้นมาคลุมมันทั้งตัว นี้คือทีมที่ซุ่มรอคอยจังหวะนี้อยู่
“โจมตี ฆ่ามันให้ได้” หลินหยางตะโกนพร้อมใช้ทักษะหลอมไฟเข้าโจมตีแทงลงใส่ช่องว่างของตาข่ายทันที
เมื่อหยุดการเคลื่อนไหวของนกยักษ์ได้คนที่เหลือใช้ดาบและหอกแทงเข้าไปในตาข่าย รวมถึงเอลฟ์ที่ใช้ธนูระดมยิงไม่ขาดสาย
นกยักษ์ดิ้นรนได้ไม่นานก็สิ้นชีวี
‘คุณฆ่าเหยี่ยวมรกตระดับ 7 หนึ่งตัว’
‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนระดับถึง 4 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’
‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนระดับถึง 5 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’
พอมองใกล้ๆตัวมันใหญ่กว่าที่เห็นบนท้องฟ้าเสียอีก สูงกว่าสองเมตรกว้างหนึ่งเมตร
ข้างๆศพมันมีหนังสือทักษะตกอยู่และเหรียญเงินอีกสามสิบเหรียญ
“คุณเลื่อนระดับ 2 คืออะไร” ทีมของหลินหยางหลายคนโหวกเหวกสงสัย
“มีใครเลื่อนระดับบ้าง” หลังจากที่เขากล่าวมานั้นก็มีคนตอบกลับมาหลายคน
‘เจ็ดคน ไม่เลว’ หลินหยางยิ้มรื่น
การจะเลื่อนระดับนั้นสมควรจะวัดจากการโจมตี ความถี่และแรงแค่ไหนเพราะทั้งเจ็ดคนนี้คือคนที่ถือตาข่ายและเข้าจับนกยักษ์ พวกเขาจึงได้โจมตีมันก่อนนั่นเอง และมีเหล่าเอลฟ์เลื่อนระดับไปทั้งสิ้นสามคน จากทั้งหมดยี่สิบคน นั่นเพราะพวกเขาโจมตีจากระยะห่าง และต้องระมัดระวังไม่ให้ยิงถูกพวกเดียวกันพวกเขาจึงโจมตีช้า
“เพ่งสมาธิและคิดถึงค่าสถานะ มันจะมีบางอย่างขึ้นมาพวกนายควรลงค่าสถานะไปที่พลัง” หลินหยางกล่าว
“มีเหรียญเงินอยู่จำนวนสามสิบห้าเหรียญและหนังสือทักษะหนึ่งเล่ม เหรียญเงินผมจะแบ่งให้คนละหนึ่งเหรียญ ส่วนหนังสือทักษะนั้น….” เขาเงียบไปเพราะไม่รู้จะแบ่งกันยังไง
“พี่หยาง พี่เสี่ยงอันตรายมากที่สุดทำไมพี่ไม่ใช้เองล่ะ” ซิ่นก้งกล่าว
“ใช่ๆ พี่ควรจะได้มันนะ” จากนั้นก็มีคนผสมโรง
หลินหยางจึงหันไปมองเอลฟ์
“ท่านสมควรได้รับมัน” เอลฟ์กล่าว เอลฟ์ตนอื่นๆก็เห็นด้วย
“ขอบคุณ” หลินหยางตอบกลับ
หลังจากแบ่งเงินให้คนละหนึ่งเหรียญแล้ว ก็เหลืออยู่อีกสามเหรียญพวกเขาจึงลงความเห็นกันว่าให้เป็นของหลินหยาง
หลินหยางมองดูหนังสือทักษะภายในมือ
ทักษะระดับ 3 ดวงตาเหยี่ยว
คำอธิบาย : สามารถตรวจสอบสิ่งมีชีวิต ที่มีระดับต่ำกว่าตนเอง
ตอนที่ 16 เหยี่ยวมรกต(ตอนปลาย)
หลินหยางตัดสินใจเรียนทักษะที่ได้มาทันที หลังจากเปิดหน้าแรกแล้ว ก็พบตัวอักษรประหลาดดังเคย ไม่นานตัวอักษรประหลาดนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวของเขา หนังสือทักษะเริ่มไหม้และมลายหายไป
‘คุณได้เรียนรู้ทักษะดวงตาเหยี่ยวระดับ 3 เรียบร้อยแล้ว’
เขาเปิดดูค่าสถานะของตนเอง
ชื่อ หลินหยาง เผ่า มนุษย์
ระดับ 5
สถานะ
พลัง 1
ป้องกัน 1
ความเร็ว 1.2
วิญญาณ 1
ค่าสถานะที่เพิ่มได้ 0.2
ทักษะ หลอมไฟ ระดับ 1 1/10
ดวงตาเหยี่ยว ระดับ 3 1/10
ค่าทักษะที่เพิ่มได้ 4
‘อืม…เพิ่มความเร็ว 0.2 เพิ่มค่าทักษะ หลอมไฟ 2 และ ดวงตาเหยี่ยว 2’ นั่นคือสิ่งที่หลินหยางคิดจากนั้นไม่นานก็มีเสียงใดดังขึ้นหายในหัว
‘เพิ่มค่าสถานะความเร็ว 0.2 เสร็จสิ้น’
‘ทักษะหลอมไฟระดับ 1 ได้รับการเลื่อนขั้น 3/10 เรียบร้อยแล้ว’
‘ทักษะดวงตาเหยี่ยวระดับ 3 ได้รับการเลื่อนขั้น 3/10 เรียบร้อยแล้ว’
หลินหยางลองมองไปที่จิ่นเหอและใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวที่พึ่งเรียนรู้ก็มีบางอย่างปรากฏขึ้น
ชื่อ จิ่นเหอ เผ่า มนุษย์
ระดับ 2
สถานะ
พลัง 1.1
ป้องกัน 1
ความเร็ว 1
วิญญาณ 1
ทักษะ หลอมไฟ ระดับ 1 2/10
คำอธิบาย : มีความแข็งแรงกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย มีความอดทนสูง
หลินหยางหัวเราะ
“พี่หยางมีอะไรหรอ” จิ่นเหอถามหลังจากเห็นหลินหยางมองเขาแปลกๆพลางหัวเราะ
“ป่าวไม่มีอะไร เราจัดการกับเหยี่ยวมรกตอีก 2 ตัวกันเถอะ” เขากล่าวพลางจ้องเหยี่ยวมรกตที่บินโฉบอยู่บนแม่น้ำก็มีข้อมูลของมันขึ้นมา
เหยี่ยวมรกต
ระดับ 7
พลังโจมตี 7
พลังป้องกัน 4
ความเร็ว 6
คำอธิบาย : ????
คำเตือน : ????
‘เนื่องจากระดับของเป้าหมายสูงกว่าท่านจึงไม่สามารถตรวจสอบได้’
“ทีมระยะใกล้พวกนายซุ่มอยู่ตรงนี้ เตรียมตาข่ายไว้เดวผมจะล่อมันมาเอง” หลินหยางกล่าวและหันไปบอกเหล่าเอลฟ์
“เอลฟ์ให้ซุ่มอยู่ด้านข้างพวกคุณเตรียมโจมตีเหยี่ยวอีกตัวที่ตามผมมา ส่วนอีกตัวทีมของผมจะจัดการเอง”
“ได้เลย ท่านเองก็ระวังตัวด้วย” เอลฟ์ตนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวหลังจากวางแผนเสร็จสรรพแล้ว
หลินหยางย่องเข้าไปใกล้เหยี่ยวมรกตที่งุ่นอยู่กับการหาอาหาร โดยไม่รู้ตัวเลยว่าพวกของมันหายไปตัวนึง
“ว้ากกกก!! เจ้านกโง่ ไอนกบ้า” หลินหยางตะโกน
หลังจากได้ยินเสียงแปลกๆ เหยี่ยวมรกตทั้งสองก็หยุดอยู่ริมน้ำแล้วชะเง้อหาต้นเสียง ก็พบมนุษย์คนนึงยืนโหวกเหวกอยู่พวกมันจึงขึ้นบินและไล่ล่าหลินหยางด้วยความดุร้าย
“พี่หยางใจกล้าจริงๆ” กลุ่มของหลินหยางที่ซุ่มอยู่กระซิบกระซาบกัน
แค่เห็นเหยียวตัวยักไกลๆก็เสียวสันหลังวาบหัวใจสั่นไหว ตัวมันใหญ่จริงๆหากโดนโจมตีเข้าคงสิ้นชีวี พวกมันจึงอดนับถือหลินหยางมิได้ที่กล้าหาญใช้ตนเองเป็นตัวล่อ
หลังจากที่ความเร็วของหลินหยางเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 เขาวิ่งไวกว่าคนปกติถึง 40% ระยะห่างระหว่างเขาและเหยี่ยวจึงใกล้มาอย่างช้าๆมิได้รวดเร็วดังเก่าก่อน
เมื่อวิ่งมาถึงระยะที่เหล่าเอลฟ์ซุ่มอยู่
“เอลฟ์โจมตี” หลินหยางตะโกน
พรึ่บ!!
เหล่าเอลฟ์ลุกขึ้นยืนและระดมยิงธนูใส่เหยี่ยวมรกตตัวด้านหลังทำให้มันชะงักอยู่กับที่ด้วยความตกใจ แต่ธนูไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บร้ายแรงได้
เหยี่ยวอีกตัวที่กำลังตามหลินหยางมันยังคงบินไล่เขาอยู่ จู่ๆหลินหยางก็หยุดวิ่งและหันมามองมัน เหยี่ยวมรกตซึ่งเป็นผู้ล่า หลังจากเห็น’เหยื่อ’ของมันท้าทายมันจึงลดระดับความสูงลงและพุ่งเข้าใส่ด้วยความโกรธ เมื่อมันเข้าใกล้จะถึงตัวหลินหยาง
“ตอนนี้แหละ” ทันใดนั้นเองหลินหยางตะโกน
พรึ่บ!!
มีตาข่ายผลุบขึ้นมาดักทางของมันเอาไว้มันมิสามารถชลอความเร็วหรือเปลี่ยนเส้นทางกระทันหันได้ ส่งผลให้มันมุ่งเข้าหากับดักด้วยตนเอง
ตาข่ายทั้งผืนคลุมตัวของเหยี่ยวมรกตทั้งตัวจนมิดร่างของมันกระแทกลงบินพื้นดินเสียสมดุลกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น
“ฆ่ามันนน!!” หลินหยางออกคำสั่งและโจมตีพร้อมทักษะหลอมไฟ
ตอนนี้ดาบของเขาแดงและขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก
หลังจากนั้นไม่นานเหยี่ยวตัวนั้นก็ไม่สามารถทนรับการโจมตีที่กระหน่ำจากกลุ่มมนุษย์ได้มันจึงสิ้นชีวีลงในที่สุด
‘คุณฆ่าเหยี่ยวมรกตระดับ 7 สองตัว’
“ไปช่วยพวกเอลฟ์เร็ว” หลังจากจัดการตัวแรกเสร็จหลินหยางตะโกน
รีบพาทีมไปช่วยเอลฟ์ที่ต่อสู้กับเหยี่ยวอีกตัวนึง ซึ่งตอนนี้มันอยู่บนพื้นและบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยธนูของเหล่าเอลฟ์ แต่มันก็ยังมิได้สิ้นฤทธิ์ วิ่งไล่พวกเอลฟ์จนแตกกระเจิง
หลินหยางกระชับดาบในมือและใช้ทักษะหลอมไฟพุ่งเข้าโจมตีมันด้านหลัง เขาฟันเข้าไปที่หัวของมันอย่างรุนแรง
ฟึ่บบบ!!
หัวของเหยี่ยวมรกตขาดลงโดยที่ดวงตาของมันยังเบิกกว้างในแววตาของมันยังคงมึนงงไม่ทราบว่าตนเองนั้นเสียชีวิตได้ยังไง
‘หืม?’ หลินหยางยืนงงมองดาบในมือของตนเขาสับสนกับผลลัพธ์อยู่ไม่น้อย
เขาไม่คิดว่าการโจมตีของเขาจะสามารถปลิดชีวิตมันได้ง่ายดายขนาดนี้
‘คุณฆ่าเหยี่ยวมรกตระดับ 7 สามตัว’
‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนระดับถึง 6 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’