ตอนที่ 153 ถ่วงเวลา
“ขอปรึกษากันก่อน” หลินหยางกล่าวพลางรวมกลุ่มกันพูดคุยกระซิบกระซาบกันบางเบา
คนส่งสารเมื่อเห็นว่าข้อเสนอเริ่มได้ผลใบหน้าตื่นเต้นยินดี
สิบนาที ยี่สิบนาทีผ่าน
หลินหยางและพวกยังคงพูดคุยกระซิบกระซาบกันอยู่ ใบหน้าของพวกเขาบัดนี้มีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมา
คนส่งสารที่ยืนรอก็ไม่ต่างกันมันยืนจนเมื่อย สุดท้ายก็อดทนรอต่อไปไม่ไหว
“เห้ยพวกแกตกลงกันได้หรือยัง” มันตะโกนอย่างอารมณ์เสีย ในความคิดของมันหากตัวมันเป็นหลินหยางคงยอมแพ้อย่างมิต้องเสียเวลาปรึกษาใดๆ
“…” ไร้เสียงตอบกลับ หลินหยางและพวกยังก้มหน้าก้มตามิส่งเสียงใดๆ
ชายผู้ส่งสารเมื่อไม่สามารถรอต่อไปไหวจึงเดินกลับไปยังกองกำลังของมันเพื่อบอกข่าวคราวแก่ผู้นำของตน
“พี่เทียนพวกมันยังคงปรึกษากันอยู่ดูท่าคงไม่เสร็จง่ายๆ” ชายคนนั้นกล่าว
“เสียเวลาจริงๆ” ฉือเทียนกล่าว ในความคิดของมันก็ไม่ต่างจากชายส่งสารมากนัก หากตกอยู่ในสภาวะเดียวกับหลินหยาง ตัวมันหากมิยอมแพ้ก้คงถอยหนี
ทางด้านหลินหยาง
พวกเขาที่รวมหัวกันพลางกระซิบกระซาบกันอยู่มิได้กล่าวอันใดที่สามารถจับใจความได้ มีเพียงปากพวกเขาที่ขยับคล้ายกับพูดคุยเท่านั้น
หลินหยางพยักหน้าให้สัญญาณ เมื่อมันได้รับสัญญาณมนุษย์หมาป่าตนหนึ่งจึงวิ่งออกจากกลุ่มตรงกลับไปทางเมืองหลินหยาง และมีมนุษย์หมาป่าอีกหนึ่งตนแยกตัวออกไปวิ่งไปยังเส้นทางที่แตกต่างจนหายลับสายตา
“คงยื้อไว้ได้อีกไม่นาน” หลินหยางกล่าว เมื่อคนที่ล้อมรอบอยู่ได้ยินพวกเขาขมวดคิ้วใบหน้าเคร่งเครียดเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลย้อยลงมากขึ้นเรื่อยๆ กดดันยิ่งนัก
ตอนนี้พวกเขาซื้อเวลากันอยู่เพื่อรอกำลังเสริม พวกเขามิได้ปรึกษาพูดคุยเรื่องการยอมแพ้เลยแม้แต่คำเดียว
หากหลินหยางยอมแพ้ยกโพรงกระรอกให้แก่มัน อีกไม่นานพวกมันก็คงใช้วิธีเดิมเพื่อกดดันข่มขู่แย่งของทรัพย์สินหรือแหล่งอาหารของพวกเขาไปอีก เพราะเหตุนี้ไม้อ่อนจึงมิสามารถใช้ได้ผล
เมืองรอบข้างหากเห็นเมืองใหญ่ของหลินหยางแสดงความอ่อนแออ่อนข้อให้แก่เมืองของฉือเทียน เมืองของหลินหยางคงมิสามารถอยู่รอดปลอดภัยต่อไปบนผืนที่ราบแห่งนี้ได้
หากมิอยากให้ถูกข่มเหงต้องแสดงพลังที่สูงกว่าให้พวกมันได้ประจักษ์
สิบนาทีผ่านไป
ชายผู้ส่งสารมันเดินมุ่งตรงมายังหลินหยางและพวก เมื่อพวกเขาเห็นเช่นนั้นจึงมิได้ปรึกษาหารือกันต่อเมื่อคนส่งสารเดินเข้ามาอีกคราเช่นนี้แสดงว่าเวลาของพวกเขาหมดลงแล้ว
ชายผู้ส่งสารมันเดินกลับมาพร้อมกับคนผู้คุ้มกันกว่าสิบคน คาดว่าพวกมันก็คงหมดใจที่จะรอการตัดสินใจของหลินหยางเตรียมจะใช้ไม้แข็งเช่นกัน
หากเป็นเช่นนี้หลินหยางคงมิแคล้วต้องเอ่ยปากยอมแพ้ออกไป เพื่อหวังให้พวกมันปล่อยคนของเขาและวางแผนกันใหม่เพื่อปราบปรามฉือเทียนและพวก
แต่จู่ๆสีหน้าพวกเขาก็แปรเปลี่ยนตื่นเต้นกระตือรือร้น
เป็นเพราะว่าตอนนี้มีมนุษย์หมาป่าที่คุ้นเคยยืนโบกไม้โบกมืออยู่ ใบหน้าของมันยิ้มแย้มส่งสัญญาณอยู่ไกลๆ นั่นคือเจียวซิ่นนั่นเอง
ดูท่าแผนที่วางเอาไว้จะสำเร็จลุล่วงไปแล้วเป็นแน่
ตอนที่ 154 กระบวนทัพ
หลินหยางยิ้มแก้มปริ รอคอยคนส่งสารและพวกเดินเข้ามาใกล้เคียงอย่างใจเย็น
คนส่งสารที่เดินเข้ามายังมิถึงระยะที่จะพูดคุยกันได้ เมื่อมันเห็นหลินหยางมิได้ปรึกษาหารือกันต่อ มันจึงยิ้มย่องดีใจดูท่าหลินหยางและพวกจะตัดสินใจยอมแพ้กันแล้ว มันจึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
“ปรึกษากันเสร็จแล้วใช่ไหม” ชายผู้ส่งสารกล่าว
“ใช่แล้ว” หลินหยางตอบเฉยเมย
“เยี่ยมมาก” ชายผู้ส่งสารมันกล่าวใบหน้ายิ้มแย้มยินดี พลางตะโกนส่งเสียงเรียกฉือเทียนและพวก
ไม่นานฉือเทียนก็เดินเข้ามาหาหลินหยางและกลุ่ม มันมิได้หวาดกลัวกองกำลังของหลินหยางที่มีน้อยกว่ามันถึงสี่เท่าเช่นนี้เลย
เพราะตอนนี้หลินหยางและพวกที่ยืนอยู่ต่อหน้ามันนี้มีกำลังพลเพียงสี่สิบคนเท่านั้น หากเกิดการสู้รบย่อมไม่ครณามือของมันที่มีคนกว่าสองร้อยคน
“พวกเราจะส่งมนุษย์หมาป่าให้แกครึ่งนึง ห้ามพวกแกมาป้วนเปี้ยนแถวนี้อีกหากเห็นหนึ่งคน เท่ากับเชลยหนึ่งชีวิต!” ฉือเทียนกล่าวอย่างโหดเหี้ยม มันมิได้ตัดสินใจจะส่งเชลยนักโทษให้แก่หลินหยางทั้งหมด แต่เก็บพวกเขาเอาไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อกดดันบังคับมิให้หลินหยางและพวกลุกฮือต่อต้าน
หากมันเห็นคนของหลินหยางหนึ่งคน มันจะฆ่าเชลยที่ถูกจับหนึ่งชีวิต มันช่างโหดร้ายทารุณยิ่งนัก แต่สำหรับหลินหยางมันเป็นคนที่ฉลาดไม่น้อยเลยทีเดียว
หลินหยางและพวกมิได้ตอบกลับใดๆทั้งสิ้น
“ทิ้งอาวุธลงซะ” ฉือเทียนที่เห็นปฏิกิริยาของหลินหยางและพวกมันจึงขมวดคิ้ว พลางออกคำสั่งแก่หลินหยางและพวกให้พวกมันแสดงออกถึงการจำนนแก่มัน
เมื่อสิ้นเสียงของฉือเทียน แทนที่กองกำลังตรงหน้าจะทิ้งอาวุธตามคำบัญชาของมันกลับถืออาวุธในมือควบแน่นกว่าเดิม
“พลโล่!”
ตึงง!
หลินหยางตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง ทันใดนั้นมีชายกว่าสิบคนแทรกตัวขึ้นมาหน้าขบวนทัพพร้อมกับโล่ไม้อันใหญ่ปิดบังตัวตนผู้ถือมิดชิดพวกเขาปักโล่ลงบนพื้นคล้ายกับเป็นป้อมปราการเคลื่อนที่!
ตามมาด้วยพลหอก พวกเขานำหอกวางพาดดักไว้แทรกออกมาบริเวณช่องว่างของโล่ไม้ ตอนนี้ขบวนของหลินหยางแนวหน้าคล้ายกับเม่นก็มิปาน สามารถป้องกันการโจมตีและตอบโต้กลับไปได้ นี่คือขบวนทัพที่พวกเขาใช้ในการปราบปรามถ้ำมด
“พวกแกจะทำอะไร” ฉือเทียนตะโกน เมื่อเห็นกองกำลังตรงหน้าของมันตั้งกระบวนทัพเตรียมเข้าปะทะ
หลินหยางมิได้ให้ความสนใจกับคำพูดฉือเทียน เขาให้สัญญาณไม่นานคนของเขาทั้งหมดลดช่องว่างเข้าประชิดตัวติดกันแอบอยู่หลังโล่ไม้ ทั้งสองข้างขบวนซ้ายขวามีหอกตั้งตง่านอยู่
“หากพวกคุณยอมกลับไปแต่โดยดีผมจะไม่ถือสาเอาความ” หลินหยางที่อยู่อย่างปลอดภัยหลังโล่ไม้อันใหญ่ตะโกนส่งเสียงเล็ดรอดออกมา
“ฮ่าๆไอพวกนี้ท่าจะบ้า แกลืมไปแล้วหรอว่าคนของแกถูกจับเป็นเชลย” ฉือเทียนกล่าว คนของมันเมื่อได้ยินคำพูดที่อวดเบ่งใหญ่โตของหลินหยางก็หัวเราะร่า
“หากไม่ยอมวางอาวุธจำนน ไอพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้นจะต้องตาย!” ฉือเทียนตะโกนเสียงดัง
“หมายถึงพวกข้าหรือ?” ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนสอดแทรกขึ้นมา ฉือเทียนหันไปมองยังต้นตอของเสียงมันก็ต้องตกใจสุดขีดราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ
เพราะต้นตอของเสียงนั้นออกมาจากร่างของมนุษย์หมาป่าหนุ่มคนหนึ่งที่ร่างกายสะบักสะบอมเต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำ เจียวฮั่นนั่นเอง!!