ตอนที่ 157 สมรภูมิ(ตอนสอง)
ปุ่กก~
แกร๊กก~
เสียงของลูกศรที่ถูกปล่อยออกมาพุ่งเข้าใส่กองกำลังของหลินหยางเป็นห่าฝนขบวนสาย แต่มิสามารถเจาะฝ่าเข้าใส่ขบวนหลินหยางได้ ถูกป้องกันเอาไว้จากโล่ไม้อันใหญ่แผ่นหนาหนักอึ้ง
ฉึกก~
อึก!
แต่ก็มิสามารถป้องกันได้ทั่วทั้งหมด มีลูกศรบางดอกที่หลุดรอดผ่านเข้ามาตรงช่องว่างรอยต่อของโล่ไม้ บ้างก็ปักลงบนพื้นดิน บางดอกก็ปักลงบนร่างกายของพวกเขา
แต่โล่ที่ปกป้องต้านทานห่าฝนธนูก็ยังมิได้ตกลง กระบวนทัพมิได้แตกพ่ายยังคงยืนหยัดอยู่
“ฮึ่ม” หลินหยางพ่นลมเค่นเสียง ใช้แรงแบกโล่หนักต้านทานห่าฝนธนูเช่นกัน
เวลาผ่านไปกว่าสิบนาที
การโจมตีจากฝนธนูเริ่มแผ่วซาลงแล้วมิได้หนักหน่วงดังคราแรกดูท่าลูกศรของพวกมันใกล้หมดลงแล้ว เมื่อเป็นการต่อสู้ที่อีกฝ่ายมีโล่ป้องกันเช่นนี้ การโจมตีระยะไกลจึงมิสามารถหวังผลได้มากนัก
รวมถึงพวกมันมิสามารถเข้ามาโจมตีในระยะประชิดได้เช่นกันหากต้องการเข้ามาประชิดกองกำลังฝ่ายตรงข้าม พวกมันจำต้องหยุดการระดมโจมตีด้วยห่าฝนธนูที่ไร้ตาเหล่านี้ มิฉะนั้นอาจถูกพวกเดียวกันได้
การโจมตีระยะไกลนี้ไม่สามารถปลิดชีวิตหลินหยางและพวกได้แม้แต่คนเดียวแต่ก็มีผู้บาดเจ็บจนมิสามารถต่อสู้อีกได้กว่าห้าคน และบาดเจ็บเล็กน้อยกว่าสิบคน
ไม่นานการโจมตีจากฝนธนูก็หยุดลง
ฉือเทียนเมื่อเห็นผลลัพธุ์ไม่ได้ดังที่คาดหวังเอาไว้ มันยิ่งโกรธแค้นแหกปากตวาดดุด่าผู้ที่ยิงธนูโจมตีอย่างไม่ไว้หน้า
“เข้าไปฆ่ามัน” ฉือเทียนออกคำสั่งให้สัญญาณเพื่อเข้าโจมตีประชิดปลิดชีวิตหลินหยางและพวก
เมื่อการโจมตีจากระยะไกลหยุดลง ขบวนทัพของหลินหยางเปลี่ยนแปรงอีกครา พวกเขาล่นระยะล้อมกรอบสี่เหลี่ยมตั้งแนวโล่ทั้งสี่ทิศ และวางหอกพาดยื่นออกมา ตอนนี้ดูแล้วพวกเขาคล้ายกับเม่นขนาดยักษ์ที่มีหนามปกป้องร่างกาย
เนื่องจากจำนวนของอีกฝ่ายที่มากเกินไปและอยู่ในที่โล่งหลินหยางจึงมิได้มุ่งเน้นไปในเรื่องโจมตีตอบโต้ หากแต่เน้นไปที่การป้องกันเป็นหลัก
เมื่อคนของฉือเทียนเข้าประชิดพวกมันมิกล้าเข้าใกล้แนวป้องกันของหลินหยาง พวกมันกระจายกำลังจนสามารถล้อมกรอบพวกเขาได้แต่ก็มิสามารถบุกเข้าโจมตีอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้ มิเช่นนั้นผู้จะตายจะเป็นพวกมันเสียเอง
เมื่อกลุ่มของฉือเทียนล้อมรอบปิดทางหนีของหลินหยางและพวกจนมิดชิด พวกมันค่อยๆย่นระยะเข้าใกล้แนวป้องกันอย่างเชื่องช้าทันใดนั้นเองก็มีเสียงตะโกนดังออกมาจากภายในที่กำบังเมื่อสิ้นเสียง ก็มีหอกไม้พุ่งออกมาจากภายในทั้งสี่ทิศโจมตีไปโดยรอบพวกเขาอย่างสุ่มๆ
“โจมตี!!”
ฟุ่บบ~ ฉึกก!
อ้ากกก!
เมื่อการโจมตีอย่างมิคาดคิดระแรกผ่านไปไม่นาน ก็มีหอกพุ่งออกมาจากภายในอีกไม่หยุดหย่อนจนกระทั่งไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวดออกมาให้ได้ยินอีก
เพราะคนของฉือเทียนบัดนี้พวกมันถอยเว้นระยะออกไปไกลห่างไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่น้อย รอบๆแนวป้องกันมีร่างที่นอนแน่นิ่งพร้อมกับมีหอกปักอยู่บนร่างกายของพวกมันไม่ว่าจะ ลำตัว อก หรือแม้แต่ศรีษะ นอนเกลื่อนกลาดอยู่กว่ายี่สิบร่าง!
เป็นฝีมือของหลินหยางและพวกนั่นเอง!
นี่คือสิ่งที่พวกเขาถนัดโดยผ่านการฝึกซ้อมกันมาอย่างหนักหน่วงโชกโชน การปาหอก!
ตอนที่ 158 สมรภูมิ(ตอนสาม)
สำหรับการโจมตีระยะกลางเช่นนี้การปาหอกของพวกเขานับว่าได้แสดงประสิทธิภาพออกมาอย่างสูงสุด
บาดแผลที่ถูกโจมตีจากหอกนับว่าต่างกับลูกศรดอกธนูที่เป็นรูเล็ก อันเนื่องมาจากหอกที่มีขนาดใหญ่ เมื่อถูกปักเข้าไปบนร่างกายผู้เคาะห์ร้ายรายนั้นแทบไม่สามารถยืนหยัดขึ้นมาได้อีกเป็นครั้งที่สอง
ในทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมนั้นมีมนุษย์หมาป่าผสมปนเปกันอยู่ สำหรับการใช้อาวุธระยะไกลอย่างธนูและหน้าไม้นั้นพวกเขาเหล่านี้นับว่าไร้พรสวรรค์โดยสิ้นเชิง การโจมตีด้วยธนูจึงมิสามารถคาดหวังผลลัพธุ์ได้ ดังนั้นหลินหยางจึงมุ่งเน้นไปที่การปาหอกแทน จากการฝึกฝนอย่างหนักทุกวันคืนในที่สุดก็สัมฤทธิ์ผล
สำหรับการโจมตีระยะกลางแล้วนับว่าหอกเป็นอาวุธที่มีอานุภาพสูงชนิดนึง การโจมตีด้วยธนูเทียบไม่ติดแม้แต่น้อย แรงการเจาะทะลุของหอกนั้นมากมายมหาศาลแม้แต่โล่ไม้ที่พวกเขาถืออยู่หากโดนโจมตีด้วยหอกจากผู้ปาที่เน้นสถานะไปด้านพละกำลังก็คงไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้เป็นแน่
หลินหยางและพวกเมื่อสามารถโจมตีตอบโต้ได้พวกเขากลับมิได้ไล่ต้อนพวกมัน ยืนหยัดตั้งแนวป้องกันดังเดิม
“พี่เทียนเอายังไงดีครับ” ชายคนหนึ่งกล่าวถามใบหน้าเป็นกังวล หากพ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้พวกเขาต้องไม่มีชีวิตรอดกลับไปเป็นแน่ เพราะพวกเขาทรมานทุบตีร่างกายของเชลยที่จับมาได้จนสะบักสะบอม
“หึ่ม ยิงธนูไฟ” ฉือเทียนตะโกนออกคำสั่ง
ไม่นานพวกมันก็นำเศษผ้ามามัดพันไว้ที่ปลายศร ดูท่าพวกมันมิได้เตรียมตัวกันมาก่อนเลย มิมีแผนใดๆสำรองมีเพียงแต่รอดหรือตายเท่านั้น
เมื่อเสร็จเรียบร้อยพวกมันใช้ลูกธนูที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดจุดติดไฟขึ้นเล็งเป้า
หลินหยางที่เห็นพวกมันตระเตรียมธนูไฟ หลินหยางก็ขมวดคิ้ว โล่ของพวกเขาเป็นโล่ไม้หากถูกโจมตีจากธนูไฟเหล่านี้ย่อมเสียหายเป็นแน่ รวมถึงบาดแผลที่เกิดจากความร้อนแม้การเจาะทะลวงจะลดหย่อนลงไปแต่ความเจ็บปวดจากความร้อนเข้ามาแทนที่นับว่าสาหัสเลยทีเดียว
หลินหยางให้สัญญาณถอยทัพทันที หากอยู่ปักหลักกันต่อไปต้องเสียเปรียบในระยะยาวเป็นแน่
“ฆ่า” หลินหยางตะโกนวิ่งนำขบวนเปิดทางไปยังด้านหลังฟันฝ่ากลุ่มคนที่ล้อมรอบพวกเขาเพื่อเสาะหาเส้นทางหนี
เฮ~
เมื่อได้รับสัญญาณขบวนทัพของหลินหยาง ซ้าย ขวาและด้านหลังพวกเขาทิ้งโล่ไม้หนาหนักอึ้งทันที เปลี่ยนจับอาวุธดาบและหอกพุ่งโจมตีไปยังเส้นทางเดียวกันเพื่อฝ่าออกนอกระยะธนู
คนของฉือเทียนที่ยืนปิดกั้นเส้นทางอยู่กระจัดกระจายกันมิได้ตั้งทัพทางด้านหลังของขบวนหลินหยางมีอยู่เพียงยี่สิบคนเท่านั้น พวกมันเมื่อเห็นกองกำลังของหลินหยางลุกฮือเข้า พวกมันแหวกทางด้วยความหวาดกลัวทันทีมิกล้าเข้าปะทะ
ฉือเทียนเมื่อเห็นเช่นนั้นมันยิ้มย่อง หากการโจมตีด้วยธนูไฟไม่สำเร็จและแนวป้องกันของกระบวนทัพตรงหน้ายังมิแตกพ่าย พวกเขาก็ไม่สามารถบุกโจมตีเข้าไปได้เช่นกัน หากเข้าไปใกล้ยังมิทันได้โจมตีก็ถูกหลินหยางและพวกปาหอกตอบโต้ปลิดชีวิตเสียก่อนแล้ว
ฉือเทียนรีบออกคำสั่งไล่ล่าติดตามไปทันที สกัดกั้นมิให้หลินหยางและพวกถอยหนีได้อย่างสะดวกเขาต้องการจบชีวิตกองกำลังหลักของหลินหยางให้ได้ หากหลินหยางสามารถหนีรอดกลับไปย่อมไม่เป็นเรื่องดีสำหรับฉือเทียน วันดีคืนดีหลินหยางอาจยกทัพบุกเข้ามาโจมตีเมืองของมันก็เป็นได้