ตอนที่ 161 สมรภูมิ(ตอนปลาย)
ฉือเทียนและพวกพวกมันเหลืออยู่มากกว่าร้อยคน แต่ตอนนี้กำลังถอยหนีวิ่งแตกทัพกันอย่างอลหม่านมิเป็นระเบียบ
กองกำลังของหลินหยางแม้จะมีน้อยแต่ระดับพวกเขาล้วนสูงกว่ามากนัก ตอนนี้กลุ่มมนุษย์หมาป่าผู้สังกัดอยู่ในทีมระยะใกล้พวกเขาเร่งฝีเท้าเข้าประชิดกลุ่มคนเบื้องหน้า คนของฉือเทียนที่วิ่งหนีกันอย่างแตกตื่นปล่อยทิ้งพักพวกไว้ด้านหลัง พวกที่ตามกลุ่มของตนมิทันจึงตกเป็นหมายของมนุษย์หมาป่าที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
พวกเขาลดระยะห่างกว่าสองร้อยเมตรภายในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากเน้นสถานะไปที่ความเร็วเสียส่วนใหญ่รวมกับระดับที่เพิ่มสูงขึ้นถึงระดับแปดและเก้า ความคล่องตัวจึงมากกว่าคนปกติทั่วไปเกือบสองเท่า เมื่อเข้าประชิดในระยะโจมตีจึงใช้ดาบภายในมือฟาดฟันฆ่ามนุษย์ที่เชื่องช้าเหล่านี้จากด้านหลังอย่างง่ายดายโดยไร้การปัดป้องต่อต้าน
แต่ผู้ที่มีความเร็วสูงสุดมิใช่มนุษย์หมาป่า แต่เป็นหลินหยางเขาเมื่อให้คำสั่งสัญญาณบุกโจมตี ตัวเขาเองวิ่งบุกเบิกทางเป็นคนแรก เมื่อมาถึงกลุ่มของฉือเทียนเขาฟาดฟันเข่นฆ่าผู้คนที่ขวางเส้นทางของตน และมุ่งตรงเข้าสู่กลางวงทัพของฉือเทียน
“หยุด” ฉือเทียนตะโกนเสียงดัง
กองกำลังของฉือเทียนเมื่อวิ่งออกมาได้กว่าห้าร้อยเมตร เมื่อคิดว่ารอดพ้นจากระยะการโจมตีของธนูปริศนาแล้ว มันจึงออกคำสั่งเพื่อกลับมาตั้งขบวนใหม่อีกครา หากถอยหนีต่อไปเช่นนี้ย่อมตกเป็นฝ่ายถูกฆ่าจนมิมีชีวิตเหลือแม้แต่คนเดียวเป็นแน่
ว้ากกกก~~
ทันใดนั้น เมื่อผู้คนที่แตกแยกกันกระจัดกระจายได้รับคำสั่งพวกมันกำลังเตรียมตัวเพื่อมุ่งไปรวมตัวกันตั้งขบวนทัพตั้งรับขึ้นใหม่ จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังแสบแก้วหูเมื่อสิ้นเสียงมีบางคนทรุดตัวลงกับพื้นแน่นิ่ง หลายคนคุกเข่าลงเอามือปิดหูของตนอย่างสับสน
นี่คือการโจมตีจากทักษะราชสีห์คำราม!
หลินหยางเขาวิ่งเข้ามาอยู่กลางวงล้อมไม่ห่างไกลจากฉือเทียนมากนัก หลินหยางมิได้ออกนอกเส้นทางไปเข่นฆ่าคนอื่น เขาวิ่งตรงแทรกกลางระหว่างทัพของฉือเทียนดาบภายในมือของเขาฆ่าเพียงคนที่อยู่ภายในเส้นทางของตนเท่านั้นเขาต้องการจบการต่อสู้ที่มิได้ประโยชน์นี้เสีย นั่นคือจัดการกับตัวการใหญ่ฉือเทียน!
แต่ยังมิทันเข้าถึงตัวของมัน ฉือเทียนมันไหวตัวออกคำสั่งเสียก่อน หากปล่อยให้คนเหล่านี้รวมกลับกันอีกคราการต่อสู้ต้องยืดเยื้อต่อไปเป็นแน่รวมถึงตัวเขาเองหากตกอยู่ในวงล้อมศัตรูเช่นนี้ก็คงไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้ จึงได้ใช้ทักษะราชสีห์คำรามโจมตีทางวิญญาณเป็นวงกว้าง!
สำหรับเมืองที่พึ่งมาถึงใหม่เหล่านี้หากมิถูกจู่โจมด้วยสัตว์ประหลาดที่มีการโจมตีทางวิญญาณพวกเขาย่อมไม่ลงค่าสถานะไปที่พลังวิญญาณดังเช่นหลินหยางหากมิถูกกลุ่มราชสีห์ตาเดียวบุกโจมตีและได้รับบทเรียนจากการโจมตีทางวิญญาณของมัน
ตั้งแต่ตอนนั้นเขาจึงเน้นสถานะไปที่พลังวิญญาณเสียส่วนใหญ่เพราะมันคือทักษะที่ไม่สามารถป้องกัน ต่อต้าน ขัดขืนใดๆได้เลยแม้แต่น้อย!
ตอนนี้ค่าสถานะวิญญาณของเขามีถึง 2.4 และทักษะราชสีห์คำรามที่มีระดับ 4 ขั้นที่ 2
ความต่างของพลังจึงแสดงให้เห็นเบื้องหน้า!
ตอนที่ 162 ราชสีห์คำราม
ตอนนี้รอบๆตัวหลินหยางมีคนที่ถูกโจมตีจากทักษะราชสีห์คำรามทรุดคุกเข่าลงกับพื้น บางคนนอนแผ่หรา บ้างล้มทั้งยืนคว่ำหน้ามิขยับเขยื้อนดูท่ามันจะหมดสติไปแล้ว
ดูแล้วผู้ที่หมดสติไม่สามารถสู้ต่อได้มีราวห้าคน และคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักมากกว่ายี่สิบคน ส่วนที่เหลือนับว่าไม่เป็นอันตรายมากนัก เนื่องจากระยะที่มีผลกับการใช้ทักษะ ยิ่งไกลเท่าใดพลังโจมตียิ่งเบาบางลงมากขึ้นเท่านั้น
รวมถึงเป้าหมายที่มีมากอยู่รอบตัวเขาเช่นนี้ หากเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวเพียงใช้ทักษะนี้คราเดียวคู่ต่อสู้ที่มิมีพลังวิญญาณต่อต้านย่อมหมดสติแน่นอน หรืออาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต!
ตั้งแต่เขาเพิ่มระดับทักษะราชสีห์คำรามจนถึงระดับสี่ การโจมตีด้วยทักษะราชสีห์คำรามจึงมีโอกาศเล็กน้อยที่จะทำให้ผู้เสียหายหมดสติ แม้จะเป็นการใช้งานครั้งแรกหลังจากเพิ่มระดับ แต่ผลลัพธุ์ที่ออกมาก็นับว่าไม่เลวเลยทีเดียว
“เกิดอะไรขึ้น” ฉือเทียนตะโกนอย่างแตกตื่นลนลาน เมื่อครู่จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังแสบแก้วหูตามมาด้วยการปวดศรีษะคล้ายกับถูกทุบตี แต่เนื่องจากตัวมันอยู่ไกลจากระยะการโจมตีจึงมิได้รับความเสียหายมากนัก
แต่เมื่อมองไปยังพักพวกของมันที่ทรุดลงเกลื่อนกลาดกว่าห้าสิบนาย ล้วนแล้วแต่มีเลือดไหลออกจากปาก หู และจมูกคล้ายกับถูกยาพิษร้ายแรงมันจึงสับสนอย่างยิ่ง
มันสมควรสับสนงงงวยเพราะมันเป็นเมืองใหม่ที่พึ่งมาถึง ในกองกำลังกว่าสองร้อยคนนี้มิมีแม้เพียงผู้เดียวที่มีหนังสือทักษะใดๆติดตัวเลยแม้แต่น้อย พวกมันเคยต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่หมายครอบครองเมืองของมันแต่มิได้มีหนังสือทักษะใดๆตกลงมา
“หลินหยาง” ฉือเทียนเค่นในลำคอโกรธแค้นนี่คือคราแรกที่มันเห็นการใช้ทักษะ แถมตัวมันยังตกเป็นเป้าหมายด้วย ตอนนี้มันเห็นจุดศูนย์กลางของกลางโจมตีแล้ว กลางวงล้อมนั้นมีชายคนนึงยืนอยู่นั่นคือหลินหยางนั่นเอง
เมื่อการโจมตีที่รุนแรงแสดงผลเป็นที่น่าพึ่งพอใจ แต่ผลกระทบก็รุนแรงตามไปด้วยเช่นกัน หลังจากใช้ทักษะราชสีห์คำรามไปแล้วราวกับว่าพละกำลังของเขาถูกสูบหายไปกว่าครึ่งนึงเลยทีเดียว ขาเขาอ่อนแทบทรุดลงกับพื้นเนื่องจากเรี่ยวแรงที่หายไปอย่างฉับพลันมิทันตั้งตัว
หลินหยางเขาทราบดีถึงผลกระทบจากการใช้ทักษะระดับสูง ทั้งสบั้นพสุธาและราชสีห์คำรามสองทักษะนี้ไม่ว่าจะใช้คราใดเรี่ยวแรงก็ถูกสูบออกไปทุกครั้ง การต่อสู้ครานี้เขาไม่ได้คิดจะใช้ทักษะทั้งสองแม้แต่น้อยแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงจำเป็นต้องใช้ออกมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้จะเป็นเช่นนี้นับว่าได้มากกว่าเสีย เพราะเขายังมีแรงเหลืออยู่ ส่วนคนของฉือเทียนนั้นหมดสภาพไปมากโข นับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก
ฉับบบ!
ชายคนหนึ่งที่ยังตื่นตกใจอยู่ ทันใดนั้นเองภาพตรงหน้าของมันก็บิดเบือนท้องฟ้าและผืนดินกลับตาลปัตรหมุนวนท้ายที่สุดโลกของมันก็มืดบอดลง ภาพที่มองเห็นคือเท้าสองข้างที่อยู่ต่อหน้า มันโดนตัดศรีษะอย่างมิทันรู้ตัว!
“ฆ่า” เจียวซิ่นตะโกนเสียงดัง เขาคือผู้ตัดศรีษะของชายเคาะห์ร้าย เมื่อตะโกนออกคำสั่งแล้วเขาจึงโจมตีฝ่าวิ่งเข้าไปสมทบกับหลินหยาง เขาเองก็ทราบเช่นกันถึงผลกระทบจากการใช้ทักษะ จึงรีบเข้าไปเพื่อคุ้มกันหลินหยางที่ตกอยู่ในวงล้อม