ตอนที่ 163 เอาตัวรอด
เจียวซิ่นวิ่งฝ่าเข้าไปอย่างง่ายดาย ยืนเคียงข้างหลินหยาง
หลินหยางเมื่อเห็นเจียวซิ่นเข้ามาสมทบจึงรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง ทักษะราชสีห์คำรามเมื่อครู่มิใช่การจบสงคราม แต่เพื่อเปิดโอกาศให้คนของเขาเข้าประชิดได้อย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่คนของฉือเทียนชะงักเจ็บปวด และตกตะลึงกันอยู่หยุดนิ่งมิขยับเขยื้อน
“ฆ่าพวกมัน” ฉือเทียนตะโกนปลุกพักพวกของตนจากภวังค์ ไม่นานพวกเขาก็ตื่นจากความตกใจ เร่งรีบตอบโต้ทันที พวกมันมิได้สนใจพวกพ้องที่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
“รวมตัว” หลินหยางตะโกน
เมื่อคนกว่าร้อยคนโหมโรนรันกันเข้ามาเช่นนี้ กองกำลังของหลินหยางที่มีเพียงสี่สิบคนจึงเกาะกลุ่มกันเพื่อตอบโต้ เพราะหากแยกกันพวกเขาอาจถูกโจมตีหลายทิศทางจนมิสามารถป้องกันได้
เมื่อรวมกลุ่มกันแล้ว ตอนนี้ข้างหน้าและซ้ายขวาล้วนแต่เป็นคนของฉือเทียน แต่หลินหยางและพวกมิได้ถอยหนีแม้จะไม่มีโล่ป้องกันก็ตาม
ย้ากกก
กองกำลังของฉือเทียนวิ่งเข้าใส่กลุ่มของหลินหยางที่อยู่กลางวงล้อม พวกมันพุ่งเข้ามาทั้งสามทิศทาง
เห็นดังนั้นหลินหยางมิได้ให้คำสั่งสัญญาณถอยแต่อย่างใดนั่นก็เพราะ…
ฟิ้วว~
ฉึกกก!
มีห่าฝนธนูพุ่งมาบนท้องฟ้าปักลงบนตัวของพวกมัน!
ตอนนี้ฉือเทียนมองเห็นผู้ที่โจมตีจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำรุนแรงแล้ว นั่นคือเผ่าเอลฟ์ทั้งหลายที่เข้ามาเสริมทัพ
ส่งผลให้การบุกเข้าไปปลิดชีวิตหลินหยางและพวกต้องหยุดชะงัก หันไปมุ่งเน้นการปัดป้องลูกศรที่หมายฆ่าชีวิตของตนแทน
“ฆ่าพวกมัน” หลินหยางเมื่อเห็นพวกมันพะวงอยู่กับลูกธนูเขาจึงให้สัญญาณพลางวิ่งเข้าใส่ทัพหน้าอย่างมิเกรงกลัว
เฮฮ~
กองกำลังของหลินหยางส่งเสียงเฮปลุกใจเพื่อนพ้องจัดอาวุธคู่กายเข้าโจมตีใส่คนที่อยู่ใกล้ตัว กองกำลังฉือเทียนเมื่อถูกโจมตีสองทางพวกมันก็ไม่อาจยื้อชีวิตของตนเอาไว้ได้ ตกตายภายใต้คมดาบ หอก และธนูอย่างอดสู
“หึ่ม” ฉือเทียนเค่นเสียงในลำคออย่างอาฆาตแค้นเมื่อเห็นทัพของตนตอนนี้ระส่ำระส่ายยิ่งนัก คงไม่สามารถยื้อเอาไว้ได้อีกมันที่อยู่แนวหลังรีบหันตัววิ่งกลับหนีหายไปทันที โดยพาผู้ติดตามไปกับมันสามคน
กองกำลังของฉือเทียนพวกมันมิรู้เลยว่าผู้นำของตนได้ถอยหนีออกไปแล้ว ทิ้งให้พวกมันยื้อซื้อเวลาให้กับการหนีของมันเองเสียด้วยซ้ำ
แต่มีหรือจะรอดพ้นสายตาของหลินหยาง เพราะการตอบโต้โจมตีของเขามุ่งเน้นไปที่ผู้นำของศัตรูทุกครา เมื่อคราแรกเข้ามิถึงตัวฉือเทียนจึงล้มเหลว ตอนนี้เมื่อให้คำสั่งโจมตีเขาโจมตีไปยังกลุ่มที่บดบังฉือเทียนอยู่แนวหลังและจ้องมองเป้าหมายอยู่ตลอดเวลา เมื่อเห็นเป้าหมายของตนกำลังหลบหนีออกไปหลินหยางย่อมมิปล่อยให้มันรอดพ้นเงื้อมมือไปได้
ย้ากก~
ตู้มมม!!
ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือน ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวด
หลินหยางใช้ทักษะสบั้นพสุธา!
หมายเปิดทางเบื้องหน้า เมื่อเป้าหมายของทักษะเป็นพื้นที่ราบกว้างรวมถึงผู้คนที่อยู่กันอย่างกระจัดกระจายเช่นนี้จึงมิสามารถคาดหวังผลลัพธ์ได้ แต่ก็เพียงพอสำหรับแหวกเปิดทาง!
หลินหยางพุ่งผ่านเหล่าทหารไปอย่างมิให้ความสนใจพวกมัน เมื่อทหารเหล่านี้ทรงตัวได้เห็นหลินหยางที่วิ่งผ่านร่างของตนไป จึงมองอย่างสับสนแต่เมื่อเห็นเป้าหมายของหลินหยาง พวกมันจึงรู้สึกโกรธแค้นเพราะตอนนี้ผู้นำของมันกำลังหนีเอาตัวรอด!
ตอนที่ 164 โกรธแค้น
ฉือเทียนและผู้ติดตามทั้งสองพวกเขาเมื่อตัดสินใจถอยหนีมิได้กลับมาดูด้านหลังอีกเลย เร่งฝีเท้าอย่างเต็มกำลัง
ตู้มมม!
แต่จู่ๆผืนแผ่นดินที่มันยืนอยู่เกิดการสั่นสะเทือนบางเบา จนเกือบเสียการทรงตัวล้มฟุบ มันตกใจจึงหันไปดูยังสนามรบ เห็นแท่งดินเข็มทรายพุ่งขึ้นมาจากพื้นทิ่มแทงไปยังร่างกายของเหล่าทหาร จากทักษะสบั้นพสุธาของหลินหยางนั่นเอง
‘หึหึเจ้าโง่’ ฉือเทียนคิดในใจ มิได้ให้ความสนใจกับกองทหารหันตัวเตรียมวิ่งต่อ
“เห้ยหลินหยาง” จู่ๆชายผู้ติดตามกล่าวออกมาอย่างตื่นตกใจ ชายคนนี้เขาคือผู้ส่งสารเจรจาเพื่อให้หลินหยางและพวกยอมแพ้นั่นเอง
ฉือเทียนเมื่อได้ยินคนข้างกายตนเอ่ยปากมันจึงหันกลับดูเมื่อเห็นมันจึงตกใจอย่างสุดขีด
เพราะตอนนี้หลินหยางกำลังวิ่งตรงเข้ามาหามันโดยที่มิมีผู้ใดหยุดยั้งเอาไว้แม้แต่คนเดียว กองกำลังของฉือเทียนบัดนี้พวกมันล้วนหยุดยืนนิ่งมิสู้กลับ บางคนโยนอาวุธในมือทิ้ง บ้างก็คุกเข่าลงกับพื้นแต่สายตาของพวกเขายังจ้องมองเป็นตาเดียว นั่นคือฉือเทียนและพวกอีกสองคนนั่นเอง เหล่าทหารที่ต่อสู้เพื่อมันเหล่านี้กำลังจ้องมองมันอย่างโกรธแค้นที่หนีเอาชีวิตรอด
กองกำลังของหลินหยางขณะที่กำลังฟาดฟันกับศัตรูตรงหน้าเมื่อหลินหยางใช้ทักษะสบั้นพสุธา เหล่าทหารของฉือเทียนที่ตกใจหันไปมองยังหลินหยางและเมื่อเห็นฉือเทียนที่พวกมันให้ความคาดหวังไว้วางใจเป็นผู้นำ แทนที่จะสู้รบไปเคียงข้างกันกลับถอยหนีหางจุกตูดเอาตัวรอด พวกเขาเหล่านี้จึงหมดกำลังใจจะสู้ต่อ
กองกำลังของหลินหยางเมื่อศัตรูตรงหน้าวางอาวุธลงพวกเขาก็มุ่งเข้าไปฟาดฟันคนอื่นที่ยังมีกระจิตกระใจจะต่อสู้อยู่สุดท้ายฝ่ายของฉือเทียนล้วนพ่ายแพ้ยอมจำนนแต่โดยดี แต่สายตาพวกมันยังโกรธแค้นผู้นำที่ละทิ้งพักพวกของตนเอาไว้จ้องมองไปยังฉือเทียนพร้อมกับคาดหวังให้หลินหยางปลิดชีวิตมันลงเสีย
ฉือเทียนแน่นอนตอนนี้มันตกใจอย่างสุดขีด หันตัววิ่งหนีอย่างสุดชีวิต มันมิได้มีความสามารถในการต่อสู้มากนักแถมยังมีเพียงระดับสาม แม้มันจะไม่ทราบระดับของหลินหยางแต่แน่นอนต้องมากกว่ามันเป็นแน่ เพราะออร์คตัวใหญ่ยักษ์ที่เฝ้าโพรงกระรอกที่มันหวาดกลัวยังพ่ายแพ้แก่หลินหยาง
มันจึงทำได้เพียงเร่งฝีเท้าหนีอย่างสุดชีวิตเท่านั้น
มันโยนอาวุธในมือทิ้งอย่างรวดเร็วเพื่อให้วิ่งไวขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ยังดี ตอนนี้มันมิอยากถือจับหรืออยากได้อาวุธใดๆอีกเพราะทำให้มันวิ่งช้าลง ที่มันต้องการคือขาอีกสองขาเพื่อหนีให้ห่างจากพญามัจจุราชที่กำลังเข้ามาหมายมั่นปลิดชีวิตของมัน
แต่น่าเสียดายที่มันมีเพียงสองขา หลินหยางที่มีความเร็วมากกว่าคนทั่วไปถึงสองเท่า แม้จะใช้ทักษะระดับสูงไปกว่าสองทักษะ ความเร็วของเขาก็ยังมากพอที่จะตามสามคนตรงหน้านี้ ไม่นานก็มาถึงชายสองคนผู้ติดตามฉือเทียน ชายทั้งสองเมื่อรู้ตัวว่าหลินหยางประชิดตัวมัน ชายคนนึงโจมตีกลับอย่างทันทีมันตวัดดาบฟันไปด้านหลังอย่างสุ่มๆ
ฉึบบ!
อึก~
หลินหยางฟันดาบใส่คอของมัน ส่งผลให้คอของมันแหว่งไปครึ่งนึงห้อยอยู่อีกด้านในที่สุดก็ทรุดตัวหมดลมหายใจ
หลินหยางง้างดาบเพื่อจะปลิดชีวิตของชายผู้ส่งสาร
“ผ-ผมยอมแพ้” เมื่อมันเห็นดังนั้นมันโยนอาวุธภายในมือทิ้งพร้อมกับคุกเข่าลงอ้อนวอนพ่นคำพูด
หลินหยางมิได้ฟันลงไป รีบวิ่งผ่านมันไปทันทีเพราะเป้าหมายของเขาคือฉือเทียน!