เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 17-18

ตอนที่ 17 รวมเป็นหนึ่ง

 

‘ท่านได้เพิ่มค่าสถานะความเร็ว 0.1 เสร็จสิ้น’

 

‘ทักษะ หลอมไฟ ระดับ 1 ได้รับการเลื่อนขั้น 4/10 เรียบร้อยแล้ว การใช้งานครั้งต่อไป จะทำให้การโจมตีรุนแรงมากขึ้น’

 

หลินหยางได้เพิ่มสถานะและทักษะที่ได้มาทันทีเขาล้มตัวนั่งอย่างเหน็ดเหนื่อย

 

เนื่องเพราะเขาต้องวิ่งล่อเหยี่ยวมรกตทั้งสามตัวด้วยความกดดัน หากเขาพลาดท่ามีแต่ความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่

 

หลังจากที่ฆ่าเหยี่ยวมรกตไปทั้งสองตัว พวกเขากลับไม่เจอหนังสือทักษะมีเพียงแต่เหรียญเงินสี่สิบเหรียญเท่านั้นพวกเขาจึงแบ่งกันอย่างเท่าเทียมทั้งสองฝ่าย ซึ่งยังเหลือเศษอีกห้าถึงหกเหรียญหลินหยางจึงได้เก็บไว้

 

“ขอบคุณท่านหลินหยางจริงๆ” เอลฟ์เข้ามากล่าวขอบคุณหลินหยางด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว จากการที่โดนเหยี่ยวมรกตไล่ล่า วิ่งหนีไปคนละทิศด้วยความแตกตื่น

 

“ไม่เป็นไร ยังไงพวกเราก็เป็นเหมือนพันธมิตรกัน” หลินหยางยิ้มกล่าว

 

“ท่านหลินหยาง” เอลฟ์ด้านหลังมองเขาด้วยใบหน้าชื่นชม ราวกับหญิงสาวมองวีรบุรุษแต่เอลฟ์ที่มาต่อสู้ร่วมกับหลินหยางครานี้พวกเขาเป็น ผู้ชาย!!

 

“พวกเราจะแบ่งเหยี่ยวกันคนละตัว ส่วนอีกตัวพวกเราจะแบ่งครึ่งพวกท่านมีความเห็นว่ายังไง” หลินหยางกล่าวถาม

 

“เอาตามที่ท่านว่าเลย”เนื่องจากที่ออกมาคราวนี้ภารกิจหลักคือมาหาอาหาร มองไปที่เหยื่อตัวยักษ์ทั้งสามตัวก็อดภูมิใจไม่ได้

 

“วันนี้ใกล้มืดแล้วพวกเราควรจะกลับกันก่อน พรุ้งนี้เราค่อยไปที่แม่น้ำกัน” หลินหยางกล่าว

 

จากนั้นทีมหลินหยางและเหล่าเอลฟ์ ก็แบกร่างเหยี่ยวยักษ์หนึ่งตัวและอีกซักนึงแยกกันไป

 

“พี่หยาง พี่หยางกลับมาแล้ว” พอหลินหยางและทีมเดินมาถึงระยะสายตาของยามเฝ้าประตูเมือง พวกมันก็ตะโกนบอกผู้คนภายในภายในเมือง

 

หลินหยางและพวกวางซากเหยี่ยวลง

 

“โห นั้นมันนกยักษ์ที่พวกเราเห็นวันแรกนี่ พวกเขาไปสู้กับมันมาหรอ” มีเสียงคนซุบซิบ

 

“พวกเราจะแบ่งเนื้อของเจ้านี่ให้ทุกคนที่ลงชื่อคนละครึ่งกิโลกรัมต่อหนึ่งมื้อจนกว่าจะหมด ส่วนอีกครึ่งที่แบกมาเราจะทำเนื้อตากแห้งไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน” หลินหยางกล่าวกับผู้คน

 

“เดี๋ยว! นี้หลินหยางทำไมพวกเราถึงไม่ได้ละ พวกเราก็ต้องกินอาหารเหมือนกันนะ” เทียนหนิงเจี้ยนตะคอก

 

“คุณไม่ทำงาน คุณก็ต้องการจะได้รับส่วนแบ่งอย่างนั้นหรือ” เขาจ้อง

 

“ผมบอกไปแล้ว ผมจะให้อาหารกับคนของผมเท่านั้นหากคุณไม่ต้องการ คุณสามารถออกไปหาเองได้เลย” หลินหยางพูดพลางมองไปที่คนรอบๆตัวเทียนหนิงเจี้ยน หลังจากถูกหลินหยางจ้องแบบนั้นพวกเขาก็ทำตัวไม่ถูก

 

“เอ่อ…หลินหยาง ผมขอเข้าทีมคุณได้ไหมผมสามารถทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ผมออกไปสู้เลย” ชายคนนึงกล่าวด้วยใบหน้าหวาดกลัว

 

“ได้สิ คุณสามารถเข้าทีมก่อสร้างได้และคุณจะได้ส่วนแบ่งอย่างเท่าเทียม” หลินหยางยิ้มตอบ

 

“ขอบคุณ”

 

หลังจากนั้นคนอื่นๆก็วิ่งเข้าไปต่อแถวเอาเนื้อเหยี่ยวยักษ์ ที่ซิ่นก้งยืนหั่นอยู่พวกเขากลัวการต่อสู้กลัวสัตว์ประหลาด แต่กลัวว่าจะหิวตายมากกว่า

 

ตอนนี้เหลือเพียงเทียนหนิงเจี้ยน อยู่คนเดียว ที่ไม่ได้เข้าทีมของหลินหยาง เขามองผู้คน

 

เฮ้อ~

 

‘จากโลกเก่ามาก็ยังมิได้เป็นใหญ่ ต้องมาอยู่ใต้อาณัติผู้อื่นอีกแล้วหรือ ชาตินี้ข้าคงหลีกหนีชะตากรรมเช่นนี้ไม่พ้น’ เขาคิดพลางถอนหายใจและค่อยๆเดินไปหาหลินหยาง

 

“หลินหยางผมขอโทษที่เคยเป็นปฏิปักษ์กับคุณ ผมจะทำงานตามที่คุณสั่งทุกอย่าง” เขากล่าวด้วยใบหน้าสลด

 

“เรื่องที่ผ่านมาผมไม่ถือ หากคุณทำงานคุณจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมผมสัญญา” หลินหยางยิ้มตอบ

 

“ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ” เทียนหนิงเจี้ยนยิ้มรื่น

 

เพราะกลัวว่าหากหลินหยางโกรธแค้น เขาคงต้องอดตายเป็นแน่

 

มันเดินไปเข้าแถวเพื่อรอรับเนื้อจากซิ่นก้ง ด้วยใบหน้าผ่อนคลาย ทั้งนี้ใบหน้าของมันเองก็หนาไม่น้อย มันไม่สนเสียงนกเสียงกาที่ซุบซิบนินทามันอยู่เลย

 

หลังจากจัดการปัญหาภายในเรียบร้อยตอนนี้หลินหยางก็เป็นเสมือนผู้นำของพวกเขาไปโดยปริยายไม่มีใครคัดค้าน ไม่มีการแบ่งฝักฝ่าย

 

ตอนที่ 18 ความฝัน

 

หลินหยางกำลังนั่งย่างเนื้อเหยี่ยวที่เขาได้มาอยู่โดยมีเหมยเหมยนั่งอยู่เคียงข้างมิห่างกาย ทุกคนกำลังนั่งล้อมกองไฟ พวกทีมระยะใกล้ที่ได้ติดตามหลินหยางไปสู้กับเหยี่ยวมรกตกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส

 

“เมื่อไหร่หนูจะได้ออกไปนอกเมืองเสียที” เหมยเหมยถามด้วยใบหน้าออดอ้อน

 

“ไม่ได้มันอันตรายเกินไป” หลินหยางตอบเสียงขรึม

 

“ทำไมล่ะหนูยิงธนูได้นะ หนูก็สู้ได้เหมือนกัน” เธอตอบด้วยเสียงที่ซึมลงราวกับจะร้องไห้

 

“ถ้าเหมยน้อยโตกว่านี้ พี่จะพาออกไปด้วยพี่สัญญา” หลินหยางตอบด้วยใบหน้าจนใจ

 

“จริงๆนะ พี่สัญญาแล้วนะ” เหมยเหมยหัวเราะด้วยความร่าเริง ช่างเป็นภาพที่น่าดูจริงๆ

 

มองดูผู้คนกว่าสี่บสิบเก้าคนนั่งกินเนื้อเหยี่ยวด้วยกัน พูดคุยกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มช่างเป็นภาพที่อบอุ่นจริงๆ

 

“พรุ้งนี้พวกเราจะไปยึดแหล่งน้ำ ภายในน้ำมีกบยักษ์อยู่ด้วยหากว่าเราสามารถยึดได้เราจะไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำอีกต่อไป ถึงมันจะอันตรายแต่มันก็คุ้มค่าพวกคุณยินดีจะไปกับผมไหม” หลินหยางถามทีมระยะใกล้ที่ตามเขาวันนี้

 

หากมีพวกนี้อยู่ด้วยเขาก็สบายใจ เพราะตอนนี้ทั้งทีมอยู่ที่ระดับสองกันทุกคน

 

“พี่หยางไปไหน พวกผมไปด้วย” พวกเขาตอบอย่างหนักแน่น

 

“ดี วันนี้พอแค่นี้ไปพักผ่อนเก็บแรงเอาไว้ ทำร่างกายให้ผ่อนคลายพรุ้งนี้เรายังมีศึกที่ต้องสู้” หลินหยางกล่าวพลางลุกและเดินจากไป

กลางดึกวันนั้น

 

เหมยเหมยยังคงนอนกอดเขาเช่นเคย เขานอนไม่หลับกำลังมองดูดาวบนท้องฟ้า กำลังคิดเรื่องราวต่างๆนาๆ

 

น้ำที่เหลืออยู่หากใช้อย่างประหยัดคงอยู่ได้อีกเพียงสามวัน อีกนัยนึงก็คือหากพวกเขาไม่สามารถพิชิตแหล่งน้ำหรือหาน้ำไม่ได้พวกเขาก็ตายนั้นเอง

 

“พ่อ-แม่ หนูไม่อยากไปหนูกลัว” จู่ๆเหมยเหมยก็พูดพึมพำ น้ำตาไหลอาบสองแก้มเธอละเมอนั้นเอง

 

จากที่ฟังคาดว่าเธอคงจะถูกพ่อ-แม่บังคับให้เข้ามา”ประตูสู่สวรรค์”เป็นแน่

 

หลินหยางมองดูด้วยความสงสารพลางลูบหัวปลอบเธอจนสงบ

 

‘พ่อ-แม่ประสาอะไร หมาแมวมันยังไม่ทิ้งลูกฮึ่ม’ หลินหยางคิดในใจด้วยอารมณ์เดือดพล่าน

 

เหมยเหมยอายุเพียงสิบสี่ปีกลับต้องถูกพ่อและแม่หักหลัง ให้มาเผชิญโลกที่โหดร้ายหลังประตู

 

เขาดึงเธอเข้ามากอดปลอบประโลมจนทั้งคู่หลับไหลไปในที่สุด

 

ช่วงเช้า

 

หลินหยางและทีมระยะใกล้ออกเดินทางมาถึงหมู่บ้านเอลฟ์

 

“สวัสดีท่านหลินหยาง” เอลฟ์ยามกล่าวทักทาย

 

“เมื่อวานท่านลี่จูได้บอกเล่าวีรกรรมของท่านให้พวกเราฟังหมดแล้ว ท่านช่างเป็นมนุษย์ที่กล้าหาญเสียจริง ไม่เหมือนมนุษย์ จากโลกที่เราจากมา” ขณะที่เอลฟ์ยามพูดดวงตาของเขาเป็นประกาย

 

ลี่จูที่มันพูดถึงคือหัวหน้ากลุ่มเอลฟ์ที่ร่วมสู้รบกับหลินหยางเมื่อวานนี้นั่นเอง

 

ทีมของหลินหยางหลังจากเห็นเอลฟ์ยามกล่าวพร้อมกับจ้องมองเขาด้วยดวงตาระยิบระยับ พวกเขาต่างขนลุกอย่างมิได้นัดหมาย

 

“ท่านหลินหยาง ท่านมาพอดีข้ากำลังพูดถึงท่านอยู่เลย ฮ่าๆ” เอลฟ์ลี่จูกล่าว

 

“แหะๆ” หลินหยางยิ้มแห้งๆ

 

“พวกเราไปกันเถอะ เราควรไปเตรียมตัวก่อน” เขากล่าว

 

“ได้เลย” หลังจากนั้นเหล่าเอลฟ์กว่ายี่สิบคนถือคันธนูพร้อมรบและตามหลินหยางไป

 

บริเวณ ริมแม่น้ำ

 

หลินหยางถือหอกยืนอยู่ลำพังเขากำลังจ้องไปที่น้ำ เขาอยากจะตรวจสอบเจ้ากบนี้โดยใช้ทักษะตาเหยี่ยว แต่รอตั้งนานกลับยังไม่พบแม้แต่หาง

 

หลังจากทนรอต่อไปไม่ไหว เขาตัดสินใจที่จะดำลงไปในแม่น้ำ

 

เพียงแต่พอกำลังจะเดินเข้าใกล้เท่านั้นเขาสังเกตุเห็นสิ่งผิดปกติ ผิวน้ำเริ่มสั่นไหวเขาจึงรีบหันตัวกลับ ทิ้งระยะออกมาหันกลับไปมองเป็นกบยักษ์ตัวที่เห็นเมื่อวันก่อนโผล่พ้นน้ำอวดรูปร่างของมัน

 

แต่ที่ต่างออกไปคือขนาดตัวของมัน จากที่ใหญ่ราวกับรถยนต์ตอนนี้กับใหญ่ขึ้น เหมือนกับรถบรรทุกขนาดย่อมๆก็มิปาน

 

หลินหยางรีบใช้ทักษะตาเหยี่ยวทันที

 

กบพิษ

ระดับ 10

พลังโจมตี 15

ป้องกัน 8

ความเร็ว 1

คำอธิบาย : ????

คำเตือน : ????

‘เนื่องจากระดับของเป้าหมาย สูงกว่าท่านจึงไม่สามารถตรวจสอบได้’

 

หลินหยางมิได้มองผิด มันตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพราะมันพึ่งเลื่อนระดับ เมื่อวานตอนที่พวกเขากำลังสู้กับเหยี่ยวมรกตนั่นเอง

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset