ตอนที่ 171 ป่าวประกาศ
หลินหยางสั่งการให้ทีมระยะใกล้แยกย้ายกันค้นหาสิ่งของที่พอมีประโยชน์เพื่อนำกลับไปยังเมืองของเขา หลายอย่างภายในเมืองนับว่าเป็นสิ่งของที่สามารถใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะถุงผ้าที่ได้มาจากห้องหลังประตู หรือแม้กระทั่งเศษชิ้นส่วนเสื้อผ้าที่ฉีกขาดก็สามารถนำไปเพื่อใช้ประโยชน์ได้ ข้อดีสำหรับเมืองมนุษย์คงหนีไม่พ้นต้นไม้ใหญ่โตที่ยืนล้อมรอบเมือง
ต้นไม้เหล่านี้นับว่ามีประโยชน์สูงสุดสำหรับเมืองของเขาตอนนี้ ไม่ว่าจะสร้างอาคารบ้านเรือน กำแพงป้องกัน หรือแม้แต่รถยิงธนูหรือรถยิงเมืองขว้างหิน ส่วนประกอบหลักก็คือต้นไม้ทั้งสิ้น
เศษไม้ที่มิสามารถใช้งานได้ก็ยังเอามาทำเป็นฟืนก่อไฟคลายความหนาวรวมถึงปรุงอาหารให้สุกพอที่จะสามารถรับประทานได้เนื่องจากพวกเขามิใช่สัตว์ที่จะกินอาหารดิบได้ เพราะเหตุนี้ต้นไม้จึงสำคัญไม่น้อยไปกว่าอาหารและน้ำเลยทีเดียว
เขาเจออาวุธที่หลงเหลืออยู่ภายในเมืองฉือเทียนกว่ายี่สิบเล่มและชุดสวมใส่อีกหลายสิบตัวหลินหยางจึงแบกขนนำกลับไปทั้งหมด เมื่อเสร็จการรวบรวมจากเมืองฉือเทียนแล้วพวกเขาก็ตระเวนไปอีกสามเมืองพันธมิตรของฉือเทียนรวมรวบสิ่งของทุกอย่างกลับไปจนสิ้น เมื่อกลับออกจากเมืองแห่งใดทิ้งไว้เพียงแต่เมืองโล่งมิมีสิ่งของใดหลงเหลืออยู่
ส่วนต้นไม้ที่ล้อมรอบเมืองหลินหยางและพวกไม่สามารถขุดถอนรากมันกลับไปได้ มีเพียงแต่ทีมก่อสร้างเท่านั้นจึงต้องรอกลับไปที่เมืองเพื่อให้พวกเขามาตัดพวกมันกลับไปใช้ประโยชน์ต่อไปภายภาคหน้า
เมื่อเสร็จสิ้นการรูดทรัพย์สินภายจากทุกเมืองพันธมิตรของฉือเทียนแล้วหลินหยางจึงกลับไปยังโพรงกระรอก ขากลับช่างเหน็ดเหนื่อยยิ่งกว่าขามาเสียอีกเพราะตอนนี้คนกว่ายี่สิบคนบนแผ่นหลังพวกเขาล้วนมีห่อผ้าที่ใหญ่เกินตัวสิ่งของภายในคือของที่รวบรวมมานั่นเอง…
ณ โพรงกระรอก
เหล่าคนของฉือเทียนตอนนี้พวกมันทำงานเสร็จสิ้นแล้ว บนหอกที่วางค้ำยันกันอยู่ล้วนแต่มีซากร่างผู้เสียชีวิตจากการต่อสู้มัดแขวนเอาไว้ แต่จำนวนหอกไม้ไม่เพียงพอที่จะรองรับต่อร่างไร้วิญญาณจำนวนมากกว่าร้อยร่างนี้ได้ ส่วนมากจึงกองกันอยู่ตรงพื้น
กองกำลังของฉือเทียนเมื่อทำงานเสร็จสิ้นต่างนั่งพักกับอย่างเหนื่อยหอบ พูดคุยกันบางเบามิกล้าส่งเสียงดังเพราะรอบข้างมีคนของหลินหยางยืนคุมอยู่มิเว้นช่วง พวกเขาจึงมิกล้าส่งเสียงดังมากนัก
พวกเขามิได้ทำพิธีฝังหรือเผาแต่อย่างใดเพียงแต่ปล่อยทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยเป็นอุทาหรณ์ข่มขู่ผู้ที่คิดร้ายลุกฮือต่อต้าน
‘หากมิอยากเป็นอย่างคนพวกนี้อย่าได้คิดทำอะไรโง่ๆ’ นั่นคือสิ่งที่หลายคนคิดเมื่อเห็นร่างกายที่กองสุมกันอยู่ ตอนนี้ทั่วบริเวณมิมีเมืองใดๆมาสอดแนมอีกต่อไปอาจเพราะเกรงกลัวจะโชคร้ายตกเป็นเป้าหมายของหลินหยาง พวกมันสมควรหวาดกลัวต่อเมืองหลินหยางขึ้นอีกหลายขั้นเลยทีเดียว
เหล่าเมืองใหม่ทราบเพียงว่าเมืองหลินหยางมีอิทธิพลในระแวกบริเวณนี้ นั่นคือเพียงข่าวที่บอกกล่าวต่อๆกันเท่านั้น นับแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกมันสมควรเห็นกับตาของตน ว่าหากแข็งข้อต่อต้านต้องเจอกับสิ่งใด!
ตอนที่ 172 รักษา
ไม่นานหลินหยางและพวกก็เดินกลับมาจากการไปยึดทรัพย์สินของเมืองทั้งสี่ เมื่อเห็นว่ากองกำลังของฉือเทียนทำงานเสร็จแล้วเขาจึงยิ้มอย่างพึงพอใจ
ตอนนี้บนแท่นหอกมีจุดที่น่าสนใจยิ่งนัก บนหอกที่ตั้งตระหง่านสูงกว่าอันอื่นนั้นมีร่างที่มิครบองค์ประกอบร่างนึงถูกมัดติดอยู่ ขาทั้งสองข้างขาดออกจากกัน และแขนอีกหนึ่งข้างก็มิได้ต่อติดร่างกาย แต่ดูท่าคนของฉือเทียนจะรวบรวมอัวยวะเหล่านี้มาต่อกันอย่างปราณีตเลยทีเดียว นั่นคือร่างของฉือเทียนนั่นเอง
มิทราบพวกเขาอาฆาตแค้นเพียงใดจึงตกแต่งร่างกายของจนเละเทะเช่นนี้ หน้าท้องถูกกรีดเครื่องในไหลทะลัก ดวงตาทั้งสองข้างถูกควักออกมา และอีกหลายอย่างเลยทีเดียว
ตามปกติฉือเทียนนับว่าเป็นคนที่ได้รับความนับถือจากผู้ใต้บังคับบัญชาไม่น้อย แต่เมื่อมันเลือกหนทางหันหนีเอาตัวรอดเพียงลำพัง เมื่อเหล่าทหารที่ต่อสู้เพื่อมันเหล่านี้ให้ความจงรักภักดีและคาดหวังในตัวมันเอาไว้มากเท่าใด เมื่อถูกหักหลังจึงโกรธแค้นอาฆาตมากเท่านั้น
เมื่อพวกมันเห็นหลินหยางเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นยืนอย่างพร้อมเพรียงรักษาท่าทีอย่างนอบน้อม
“พวกนายรออยู่ตรงนี้ก่อนห้ามมิให้ใครไปไหนแม้แต่คนเดียว จนกว่าผมจะกลับมา” หลินหยางกล่าวแก่ทีมระยะใกล้
“ครับ!” พวกเขาตอบรับอย่างแข็งขัน
หลินหยางคัดเลือกคนจากกองกำลังของฉือเทียนกว่ายี่สิบคนเพื่อแบกหามสิ่งของที่ได้มาและเกลื่อนกลาดเต็มพื้นหญ้าเพื่อนำกลับไปยังเมืองของเขา
หลินหยางทิ้งทีมระยะใกล้ไว้เพียงสิบคนเท่านั้นทุกคนล้วนมีระดับเก้าทั้งสิ้นเพื่อควบคุมคนที่เหลือกว่าหกสิบคนนี้ พวกมันแม้จะไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆอีกแต่ก็มิสามารถไว้ใจปล่อยวางให้พวกมันอยู่กันเองได้ จึงต้องทิ้งคนของเขาเอาไว้เพื่อคุมสถานการณ์เอาไว้ส่วนหนึ่ง
เมื่อรวบรวมอาวุธจากสมรภูมิจนหมดหลินหยางจึงเดินทางกลับเมือง ตอนนี้เขาคล้ายกับยกภูเขาออกจากอกโล่งใจไม่น้อย ผิดกับขามาที่หวั่นวิตกเป็นห่วงพวกพ้องของตนที่หายตัวไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ในที่สุดการต่อสู้นับว่าสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง ฝ่ายของฉือเทียนที่ยังรอดชีวิตและยอมจำนนมีทั้งสิ้นกว่าแปดสิบคน ส่วนที่ตกตายไปมีกว่าร้อยยี่สิบคน
เดิมทีมีเพียงร้อยสิบคนเท่านั้น แต่ในจำนวนผู้รอดชีวิตมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่สิบกว่าคน พวกมันล้วนตกตายจากบาดแผลดังกล่าวภายหลัง
ทางด้านหลินหยางนั้นมิสูญเสียใครไปแม้แต่คนเดียว แต่ก็นับว่าบาดเจ็บกันไปไม่น้อยเลยทีเดียวโชคดีที่ยังไม่รุนแรงจนถึงชีวิต ตอนนี้ผู้บาดเจ็บเหล่านี้สมควรกลับไปถึงเมืองและได้รับการรักษาจากหรงเถียนเหยาแล้ว
ณ เมืองหลินหยาง
หลินหยางเดินทางมาถึงเป็นที่เรียบร้อย นำอาวุธที่ยึดมาวางกองรวมกันเป็นภูเขาลูกย่อมๆสองร้อยชิ้น! เห็นกองอาวุธที่ทับถมกันทำให้หลินหยางรู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อยที่การต่อสู้ครั้งนี้มิสูญเปล่าไปเสียทีเดียว
หลินหยางเดินไปยังที่พักแห่งนึง ที่นี้มีคนเดินเข้าออกตลอดเวลามีเวรยามคอยยืนเฝ้าอย่างเข็มงวด เพราะที่นี่คือสถานพยาบาลแห่งเดียวและหมอเพียงคนเดียวในเมืองของเขานั่นเอง
เหล่าทหารเมื่อเห็นหลินหยางเดินเข้ามา พวกมันที่นอนซมบาดเจ็บแทบจะดีดตัวขึ้นจากพื้น!