ตอนที่ 225 ปากถ้ำ
แคว๊กก~
เสียงร้องของเหล่าค้างคาวปีกเหล็กเริ่มบางเบาลงแล้วพวกมันทยอยกลับเข้ารังกันเป็นแถว
จนกระทั่งค้างคาวปีกเหล็กตัวสุดท้ายหายลับเข้าไปในปากถ้ำ
พวกเขายังคงซุ่มรออยู่ยังมิได้มุ่งหน้าเข้าไปแต่อย่างใด เวลาผ่านไปราวสิบนาทีเมื่อแน่ใจว่าเจ้าค้างคาวปีกเหล็กกลับเข้ารังของตนจนหมดสิ้นแล้วหลินหยางจึงให้สัญญาณเพื่อเดินขบวนกองทัพเข้าไปในระยะประชิด
ณ ที่พักชั่วคราวที่พวกเขาได้ก่อสร้างขึ้นมาเมื่อวาน
บัดนี้มันชำรุดทรุดโทรมยิ่งนักจากการโจมตีอย่างมิได้ตั้งใจของเหล่าค้างคาวปีกเหล็กหลายพันตัว แต่กระนั้นก็มิได้เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาเพราะถึงอย่างใดมันก็เป็นเพียงเพิงพักที่สร้างขึ้นมาอย่างลวกๆเท่านั้น พวกเขาจึงจัดการซ่อมแซมพวกมันขึ้นมาใหม่โดยใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ
โดยการนำท่อนไม้อันเก่าที่หักโค่นเสียหายทิ้งออกไปและนำท่อนไม้อันใหม่เข้ามาแทนที่ทั้งสี่ด้าน และคลุมด้วยเศษผ้าผืนเดิมที่ขาดวิ่น
หลิวไห่เขาคือผู้นำการของการซ่อมแซมเพิงพักที่ทรุดโทรมหลังนี้เมื่อเสร็จสิ้นการทำงานแล้วเขายืนมองเพิงพักที่ดูเหมือนจะพังลงมาได้ทุกเมื่อด้วยใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจราวกับว่าเขาพึ่งสร้างพระราชวังขึ้นมาก็มิปาน…
หลินหยางกำลังขนสิ่งของที่ตระเตรียมมาลงจากเกวียนขนส่ง เหล่าทหารกำลังตระเตรียมตัวซ้อมฝีมือเพื่อทำตามแผนการที่ได้วางเอาไว้
เวลาผ่านไปราวสองชั่วโมง ตอนนี้พระอาทิตย์ทอแสงส่องสว่างไปทั่วผืนฟ้าทำให้บรรยากาศสดใสขึ้นทันตา
“ได้เวลาแล้วครับ” เจียวซิ่นกล่าวแก่หลินหยาง
เมื่อวานนี้ตัวเขานั้นหนีหัวซุกหัวซุนออกมาจากถ้ำค้างคาวปีกเหล็กเมื่อออกมาได้เขากลิ้งไปหลายตลบจนหมดสภาพแทบดูไม่ได้เลยทีเดียว จนหลินหยางและพวกต้องมาช่วยหิ้วปีกมันเพื่อถอยหนีออกไปไกลห่างจากปากถ้ำเพราะฝูงค้างคาวปีกเหล็กกำลังจะออกมานั่นเอง เมื่อมันได้สติกลับคืนมันอับอายจนแทบอย่างมุดแผ่นดินหนี..
หลินหยางพยักหน้า มองไปยังเหล่าชายฉกรรจ์นั่งพักผ่อนหย่อนใจกันอยู่ พวกเขารอเวลามากว่าสองชั่วโมงแล้วเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าค้างคาวปีกเหล็กหลายพันตัวเหล่านี้มิตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลอีก
“ทุกคนมารวมกัน” หลินหยางตะโกนเสียงดัง เพื่อปลุกเหล่าทหารจากความผ่อนคลายให้กลับมาเป็นทหารกล้าดังเดิม
“พวกนายแปดคนไม่ต้องตามเข้าไป” หลินหยางกล่าวพลางมอบหมายงานบางอย่างให้แก่มนุษย์ทั้งแปดคน พวกเขาได้รับงานที่แตกต่างจากผู้อื่น
“ครับ” พวกเขาทั้งแปดตอบรับมิมีบิดพริ้ว
“ส่วนที่เหลือตามผมมา พวกเราจะล้างเผ่าพันธุ์ค้างคาว!!” หลินหยางตะโกนปลุกจิตวิญญาณ
เฮฮ~~
เหล่าชายชาตทหารเมื่อได้ฟังผู้นำของตนกล่าว ราวกับว่าดวงไฟแห่งการต่อสู้ได้ถูกจุดขึ้นมาเลือดลมสูบฉีดอยากกวัดแกว่งอาวุธฟาดฟันปลิดชีวิตเหล่าค้างคาวปีกเหล็กพวกนี้ให้สิ้นซาก
หลินหยางเดินนำขบวนทัพมุ่งตรงเข้าสู่ถ้ำค้างคาวปีกเหล็กอย่างมิหวาดเกรง ครานี้เขามิได้เข้าไปเพื่อสอดแนมภายในถ้ำปริศนาแห่งนี้อีกแล้ว การบุกเข้าไปครานี้เพื่อคร่าฟันชีวิตเหล่าค้างคาว!
ตอนที่ 226 โล่
วูบบ~
หลินหยางนำทีมเดินเข้ามาภายในปากถ้ำที่มืดมิดเป็นคนแรก ไม่นานด้านหลังของเขาก็มีเหล่าชายชาตทหารทยอยเข้ามาจนครบ จากจำนวนคนทั้งเจ็ดสิบแปดคนของทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมที่ติดตามเขามายังถ้ำค้างคาวนี้
ผู้ที่เข้ามาภายในถ้ำเหลือเพียงเจ็ดสิบคนเท่านั้นซึ่งรวมทั้งตัวหลินหยางเอง พวกเขารักษาความเงียบสงบมิพูดคุยส่งเสียงใดๆกันทั้งสิ้นเพื่่อมิเป็นการปลุกเจ้าค้างคาวปีกเหล็กจากการหลับไหลให้รู้ตัวและจู่โจมพวกเขา
หลินหยางจุดคบไฟในมือขึ้นเบาๆ คบไฟที่นำเข้ามาภายในถ้ำค้างคาวปีกเหล็กครั้งนี้มีเพียงอันเดียวเท่านั้นซึ่งหลินหยางเป็นผู้ถือครองอยู่
นั่นเพราะหากว่าแสงไฟไปสะท้อนเข้ากับปีกเหล็กของค้างคาวเหล่านี้แน่นอนย่อมต้องทำให้พวกเขาสูญเสียการมองเห็นเป็นแน่เพราะเมื่อวานนี้เขาพึ่งเจอมากับตัวเองเขาแทบลืมตาไม่ขึ้นเลยทีเดียว
แสงไฟส่องสว่างภายในระยะห้าเมตรด้านหน้าของตน จุดแรกที่เขามองมิใช่ตรงหน้าแต่เป็นบนศรีษะของตนเอง
บนนั้นคือเพดานถ้ำตามปกติ แต่ทว่าหากเพ่งสายตาเพื่อมองมันอย่างจดจ่อกลับพบว่ามันมิใช่เพียงแค่เพดานถ้ำเท่านั้น
มันมีสิ่งมีชีวิตบางอย่างเกาะอยู่ดูกลมกลืนไม่ต่างจากถ้ำหินแห่งนี้เลยแม้แต่น้อย นั่นคือค้างคาวปีกเหล็กนั่นเอง ยามนี้พวกมันกำลังหลับไหลสู่ห้วงนิทราจึงมิได้รับรู้สิ่งใด
ร่างกายของค้างคาวเหล่านี้ยามที่มันหลับลึกเช่นนี้ปีกของพวกมันกลับมิได้เป็นเหล็กเฉียบคมสะท้อนแสง แต่เป็นเพียงปีกค้างคาวธรรมดาที่มีสีสันใกล้เคียงกับผนังถ้ำจนดูเหมือนเป็นผื้นผิวของถ้ำแห่งนี้มิผิดเพี้ยน
หากมิสังเกตให้ดีพวกเขาก็คงมิทราบเป็นแน่ว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่ใกล้ตัวพวกเขามากเช่นนี้ มันห่างจากศรีษะของพวกเขาเพียงช่วงแขนเท่านั้น
‘พลโล่’ หลินหยางยกแขนส่งสัญญาณมือ
เขายกแขนหนึ่งข้างขึ้นตั้งฉากพลางใช้แขนอีกข้างตบลงบนแขนข้างนั้น การกระทำเหล่านี้มิได้เปล่งวาจาส่งเสียงใดๆทั้งสิ้นเพื่อมิเป็นการรบกวนการนอนหลับของเจ้าค้างคาวปีกเหล็กพวกเขาจึงใช้สัญญาณมือที่ง่ายดายในการทำความเข้าใจใช้แทนภาษาพูด ในสถานการณ์ที่ต้องงดเว้นการใช้เสียงเช่นนี้นับว่ามีความสำคัญยิ่งนัก
เมื่อได้รับสัญญาณชายฉกรรจ์เผ่ามนุษย์จากทีมระยะใกล้มากกว่าครึ่งนึงเดินขึ้นมาแทรกแถวเว้นระยะห่างเพียงนิด
เมื่อเข้าประจำตำแหน่งของตนเป็นที่เรียบร้อยพวกเขายกโล่เหล็กขนาดที่สามารถบดบังร่างกายได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นต่างจากโล่ไม้ที่มีขนาดใหญ่
แต่ทว่าสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขามิสามารถใช้โล่ไม้ที่มีขนาดใหญ่โตปลอดภัยได้ เนื่องจากเจ้าค้างคาวปีกเหล็กพวกนี้แม้จะมีพลังโจมตีเพียงสองแต่ทว่าการดับเครื่องชนของพวกมันนั้นไม่ต่างจากใบมีดกรีดลม
โล่ไม้ที่ทำขึ้นมาเพื่อป้องกันคมดาบและธนูนี้คงมิสามารถทนรับการโจมตีที่เฉียบคมของปีกค้างคาวพวกนี้ได้
เมื่อเป็นเช่นนั้นพวกเขาคงต้องเสียทรัพยากรอันมีค่าอย่างไม้ที่หายากไปอย่างเสียเปล่า หลินหยางจึงเปลี่ยนไปใช้โล่เหล็กที่ได้รับมาจากห้องภายในต้นไม้ และรวบรวม ยึดครองมาจากเมืองอื่นที่พ่ายแพ้ให้แก่เขา