ตอนที่ 253 วิกฤต(ตอนสี่)
โชคดีที่ค้างคาวปีกเหล็กตัวนั้นตกตายลงด้วยน้ำมือหลินหยางและพักพวก หากมันยังมีชีวิตอยู่และถูกจับกินทั้งเป็นเช่นนี้แค่คิดก็สยองแล้ว..
“พวกข้าขอซากพวกนั้นได้ไหม” ผู้นำมนุษย์กิ้งก่ากล่าวขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าปิติยินดีของน้องสาวตนเองที่มีความสุขกับการทานอาหาร
หลินหยางยิ้มขึ้นทันที ดูท่าจะมิใช่สถานการณ์เลวร้ายดังที่เขาคาดคิดไว้
“ได้สิ” หลินหยางตอบกลับใบหน้ารื่น
ถึงอย่างไรพวกเขาคงใช้ร่างกายค้างคาวปีกเหล็กพวกนี้ไปสร้างประโยชน์อันใดมิได้ คงมีเพียงเหล็กแผ่นบางที่ติดอยู่บนปีกพวกมันเท่านั้น
หากสามารถนำร่างกายไร้วิญญาณพวกนี้แลกกับมิตรภาพและความปลอดภัยของกองกำลังของเขาได้แน่นอนเขาย่อมต้องทำอยู่แล้ว
แต่แล้วความยินดีของเขากลับอยู่ต่อได้เพียงไม่นาน เมื่อมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นมาขัด…
“ท่านผู้นำ ข้าว่าข้างในต้องมีค้างคาวพวกนี้อีกไม่น้อยเป็นแน่ หากพวกเราสามารถจัดการค้างคาวพวกนี้เองได้พวกเราก็จะได้มีระดับเพิ่มพูนขึ้นด้วย และยังได้รับอาหารกลับมาด้วย” เสียงนั้นมาจากชายมนุษย์คนหนึ่งข้างกายมัน
ดูเหมือนชายคนนี้จะเป็นผู้นำของเมืองมนุษย์ที่เข้าร่วมกองกำลังพันธมิตรตรงหน้า
‘ไอบัดซบ’ หลินหยางที่ได้ยินเช่นนั้นขมวดคิ้วเคร่งเครียดทันที เขาอยากจะวิ่งเข้าไปบั่นคอเจ้ามนุษย์คนนั้นเสียจริง
จากคำกล่าวเมื่อครู่ทำให้ผู้นำมนุษย์กิ้งก่าครุ่นคิด หันไปปรึกษากับเหล่าบริวารของตน
เมื่อเห็นเช่นนั้นยิ่งทำให้หลินหยางเครียดหนักขึ้นกว่าเดิม มองไปยังมนุษย์คนนั้นมันมีใบหน้ายิ้มแย้มระรื่นเมื่อเห็นว่าการเป่าหูของมันได้รับการพิจารณา
มันเองตั้งแต่ข้ามผ่านเข้าประตูสวรรค์มา จึงได้รู้ซึ้งถึงพลังอำนาจว่ามีค่ามหาศาลมากเพียงใดอย่างเช่นตอนนี้ที่มันต้องตกเป็นเบี้ยล่างยกมนุษย์กิ้งก่าขึ้นเป็นผู้นำของตัวเองนั่นเอง
โดยเมื่อวานนี้คนของมันได้ตรวจพบเจอเข้ากับถ้ำปริศนาแห่งนี้แต่ทว่าตัวมันเองมิกล้าเข้ามาสำรวจอย่างโดดเดี่ยว จึงได้ไปเชิญเมืองต่างๆรอบบริเวณเพื่อเข้าร่วมพันธมิตรและเมื่อเห็นความแข็งแกร่งของมนุษย์กิ้งก่าซึ่งส่วนใหญ่มีระดับสองนั้น
พวกมันจึงให้มนุษย์กิ้งก่าเป็นผู้นำในการสำรวจครั้งนี้ แต่ทว่าเมื่อครู่เมื่อมาถึงกลับพบเจอกองกำลังอื่นเข้าไปสำรวจภายในถ้ำแห่งนี้ก่อนมันเสียแล้ว
แต่เมื่อยังมีคนคอยเฝ้าปกป้องสถานที่ไว้อยู่แสดงว่าพวกมันยังคงอยู่ข้างใน
จนกระทั้งหลินหยางออกมานั่นเอง
ตัวมันนั้นเมื่อทราบว่าภายในถ้ำแห่งนี้มีมอนสเตอร์อาศัยอยู่ รวมกับซากร่างไร้วิญญาณของค้างคาวที่นอนเกลื่อนกลาดหลายร้อยตัวแน่นอนความโลภย่อมแสดงออกมา
แต่ทว่าสิ่งที่มันต้องการมิใช่ชื่อเสียงเงินทองแต่อย่างใด แต่เป็นระดับ!
เมื่อเห็นว่าเจ้ามนุษย์กิ้งก่าโง่งมตัวนี้กลับพึงพอใจเพียงซากค้างคาวไร้ชิวิต แม้มันจะเป็นอาหารอันโอชะสำหรับมนุษย์กิ้งก่าแต่สำหรับมนุษย์อย่างมันแล้วมันช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก
แน่นอนมันย่อมไม่ปล่อยให้ถ้ำแหล่งเพิ่มพูนระดับตรงหน้ารอดพ้นเงื้อมมือมันไปแน่ จึงได้ใช้ลมปากพูดกรอกหูผู้นำมนุษย์กิ้งก่าตนนี้
ตอนที่ 254 วิกฤต(ตอนห้า)
“ผมว่าพวกคุณถอยกลับไปเถอะ ถ้ำแห่งนี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกคุณจะสามารถรับไหว” หลินหยางกล่าว เมื่อเห็นว่ากองกำลังที่ล้อมรอบนี้กำลังปรึกษาหารือกันอยู่
เมื่อได้ฟังที่หลินหยางกล่าวพวกมันหลายคนเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน เพราะดูจากซากค้างคาวตรงพื้นหลายร้อยตัวนี้ แต่ละตัวมีร่างกายใหญ่โตราวกับหมาแมวก็มิปาน โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์แค่เห็นพวกมันส่วนใหญ่ก็ใจฝ่อหน้าซีดแล้ว
แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องการเพิ่มพูนระดับตัวเองเช่นกัน แม้จะพึ่งมาถึงแต่พวกมันคงเป็นเช่นเดียวกับเมืองของหลินหยางที่ถูกมอนสเตอร์บุกโจมตีในวันแรก เพราะระดับของพวกมันนั้นมีทั้งระดับหนึ่งและสองปะปนกันไป
หลินหยางส่ายหัว
หากพวกมันเข้าไปพบเจอฝูงค้างคาวหลายพันตัวภายในถ้ำต้องตกตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาปรามพวกมันด้วยความหวังดีเพื่อชีวิตของพวกมันเอง ทั้งปกป้องผลประโยชน์ของตัวเขาด้วยเช่นกัน
แม้พวกมันจะฆ่าค้างคาวปีกเหล็กไปได้เพียงน้อยนิด แต่นั่นก็เท่ากับว่ามีค้างคาวปีกเหล็กที่จะเพิ่มพูนระดับให้กับคนของเขาหายไปตามจำนวนด้วยเช่นกัน
“ไอหนุ่มอย่าเห็นแก่ตัวไปเลย แบ่งปันกันสักเล็กน้อยจะเป็นไรไป” ผู้นำชาวมนุษย์กล่าวขึ้น
หลินหยางขมวดคิ้ว
คำกล่าวห้ามปรามของเขานั้นดูเหมือนจะมีอิทธิพลได้ผลไม่น้อยสำหรับผู้อื่นที่ไม่ใช่มนุษย์หน้าด้านคนนี้
เมื่อชายตรงหน้ากล่าวขึ้นเช่นนี้ทำให้คนของมันเริ่มเปลี่ยนความคิด พวกมันคิดว่าหลินหยางอยากเก็บเกี่ยวผลประโยชน์เอาไว้คนเดียวเสียนี่
สิ่งที่พวกมันคิดก็มิผิด แน่นอนว่าเขาคงไม่ปล่อยให้ถ้ำค้างคาวถูกแย่งไปจากมือ
“คนที่นอนอยู่ข้างในนั้นล้วนมีระดับสูงกว่าพวกคุณทุกคน แต่ดูสภาพของพวกเขาตอนนี้สิ” หลินหยางกล่าวพลางใช้สายตามองไปยังที่พักพิงชั่วคราวที่พวกเขาได้สร้างขึ้นอย่างลวกๆซึ่งมีผู้บาดเจ็บนอนอยู่ข้างใน
“อย่าโม้ให้ยากไอหนู พวกมันอ่อนแอเองหรือเปล่า” เหล่ามนุษย์ที่ห้อมล้อมเริ่มส่งเสียงออกความเห็น
บัดนี้มีเพียงมนุษย์หมาป่าและมนุษย์กิ้งก่าเท่านั้นที่มิได้โต้เถียงกับหลินหยาง
ดูเหมือนพวกเขาเองนำคำพูดของหลินหยางกลับมาคิดไตร่ตรองเช่นกัน มีแต่เหล่ามนุษย์ในทีมพันธมิตรตรงหน้าที่ถูกความโลภเข้าบดบังพวกมันล้วนอยากครอบครองถ้ำปริศนาตรงหน้า
“พวกผมเป็นผู้ค้นพบที่แห่งนี้ ฉะนั้นที่นี้พวกผมจึงมีสิทธิ์ในการจัดการ” หลินหยางกล่าวดุดัน มิเสียเวลาอีกต่อไป
ยิ่งเขาอยู่ข้างนอกนี้นานเท่าใดขบวนทัพข้างในถ้ำค้างคาวยิ่งอันตรายมากเท่านั้น ทัพด้านในทำได้เพียงป้องกันและตอบโต้กลับได้เล็กน้อยเท่านั้น
แผนการโจมตีที่ได้วางเอาไว้มีหลินหยางเป็นตัวหลักโดยที่เขาใช้ทักษะราชสีห์คำรามเพื่อเปิดช่องว่างให้พวกเขาสามารถโจมตีได้
ตอนนี้หน้าถ้ำค้างคาวปีกเหล็กนั้นมีคนยืนอยู่ทั้งหมดมีมากกว่าร้อยคน
สิบคนนั้นเป็นหลินหยางและพักพวกและผู้บาดเจ็บอีกสิบที่นอนซมอยู่
รอบกายเขานั้นมีคนยืนล้อมรอบอยู่ปิดเส้นทางล้อมรอบพวกเขาเป็นครึ่งวงกลม พวกมันมีราวร้อยชีวิตคละเผ่าพันธุ์ ทั้งมนุษย์ มนุษย์หมาป่าและมนุษย์กิ้งก่าที่รวมตัวเข้าเป็นพันธมิตรกันนั่นเอง
“ท่านผู้นำข้าว่าพวกมันต้องโกหกเราแน่ ข้างในนั้นต้องมีอาหารอยู่อีกไม่น้อย พวกมันคงต้องการเก็บเอาไว้กินเองคนเดียว” ผู้นำมนุษย์กล่าวโนมน้าวกับผู้นำมนุษย์กิ้งก่า!