ตอนที่ 301 หนอนดิน(ตอนหก)
หนอนดินตัวหนึ่งมันพึ่งได้รับบาดเจ็บจากลูกธนูที่โจมตีปักเข้าใส่ร่างจึงหลบหลีกหนีมุดลงไปในดินเคลื่อนที่ไปมาไม่หยุดนิ่ง มันเว้นระยะห่างออกไปไกลและวกกลับมาเร่งความเร็วมาขึ้นเรื่อยๆ
จนกระทั้งเข้าใกล้แนวป้องกันมากพอที่จะอยู่ในระยะโจมตีของมัน มันไม่รอช้าแหวกแผ่นดินทะลุขึ้นมาแสดงตัวตนที่ใหญ่โตให้ศัตรูของตนเห็น
คล้ายกับว่ามันกระโดดขึ้นมาส่งร่างกายของมันยังพุ่งลอยอยู่ในอากาศจากความเร็วที่เคลื่อนที่ไม่ช้าไปกว่าการที่มันอยู่ใต้ผืนดินเลย
ตู้ม~
มันสบัดหางด้วยความรุนแรงฟาดเข้าใส่แนวโล่ป้องกันศัตรูของตนหมายจะแหกแหวกด่านแห่งนี้กัดกินชีวิตมนุษย์ทั้งหลายให้สิ้น
ค๊ากก~
แต่ทว่าก่อนที่มันจะได้รับรู้อะ ความเจ็บปวดจากหางที่ได้กระแทกฟาดเข้าใส่แนวป้องกันของมันกลับเจ็บปวดเสียเอง มันแหกปากร้องอย่างเจ็บปวดดังทุ้มน่าสงสาร
พรืดด~
มันรีบดึงหางของตนกลับทันที
แต่ทว่าการกระชากดึงหางของตนเองกลับนั้นกลับทำให้มันเจ็บปวดมากกว่าเดิม
เพราะผิวหนังของมันที่ประกบติดกับโล่โลหะใบนั้นกลับถูกความร้อนเผาไหม้จนผิวหนังแห้งกรังส่งกลิ่นเหม็น ชิ้นเนื้อของมันไหม้เกรียมหลุดติดอยู่กับโล่โลหะ!
ส่งผลให้มันมีบาดแผลฉกรรจ์เกิดขึ้นที่ส่วนหางกลายเป็นแผลเหวอะหวะผิวหนังหายไปเผยให้เห็นเนื้อและของเหลวสีเหลืองปนแดงไหลย้อยอาบพื้นดิน
ฉึก~
ฉึกก!
และแล้วมันก็ตกตายลงด้วยห่าฝนธนูราวเจ็ดถึงแปดดอกที่ปักเข้าใส่หนอนดินที่น่าสงสารทำให้มันมิทรมานอีกต่อไป
หนอนดินที่รุมโจมตีขบวนป้องกันเริ่มเยอะยั้วเยี้ยมากขึ้นจนเริ่มไร้ที่ว่างให้ตัวอื่นๆ เมื่อมันมิสามารถแทรกตัวเข้ามาโจมตีมนุษย์กลุ่มนี้ได้ ด้วยความดุร้ายและความต้องการตามธรรมชาติทำให้ส่วนที่เหลือนั้นมุดดินมุ่งหน้าเข้าเพื่อหวังประชิดกำแพงเมือง
ฟุ่บบ~
ฉึก!
มีหอกเล่มหนึ่งพุ่งปักเข้าใส่พื้นดินจุดนึง
ค๊ากก~
จู่ๆพื้นดินตรงจุดนั้นกลับแหวกแยกออกพร้อมกับหนอนดินตัวหนึ่งแทรกขึ้นมากรีดร้องอย่างเจ็บปวด กลางลำตัวของมันมีหอกเล่มหนึ่งปักลึกเข้าไปเกือบครึ่งด้าม!
ฉึกก!
มันมิทันได้ร้องเจ็บปวดนานนัก ก็มีหอกอีกเล่มพุ่งปักเข้าใส่ร่างกายของมันอย่างรวดเร็วปักคาร่างกายส่งปลายหอกโผล่ออกไปอีกฟากของลำตัว ส่งหนอนดินตัวดังกล่าวตกตายลงไปตามพักพวกของมัน
นี่คือการโจมตีจากทีมจู่โจมมนุษย์หมาป่าที่ประจำการอยู่บนกำแพงนั่นเอง
เพื่อมิให้หนอนดินเหล่านี้เข้าประชิดกำแพงเมืองพวกเขาจึงจำใจต้องกำจัดมันเสีย
แม้พวกมันจะเคลื่อนที่อยู่ใต้ดินแต่กระนั้นด้วยระยะใกล้บวกกับภาพวงกว้างในมุมสูงทำให้สามารถระบุตำแหน่งของพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ตอนนี้พวกเขาคุ้นชินกับวิธีเคลื่อนที่ของหนอนดินเหล่านี้แล้ว
หอกเพียงเล่มเดียวก็สามารถปลิดชีวิตหนอนดินระดับเจ็ดไปได้อย่างง่ายดาย แต่หอกเล่มที่สองนั้นเพื่อเร่งเวลาตายของพวกมันให้รวดเร็วทันใจมากขึ้นนั่นเอง
การขว้างปาหอกด้วยพละกำลังนั้นรุนแรงยิ่งนักต่างกับธนูหรือหน้าไม้ที่ต้องระดมโจมตีนับสิบดอกเพื่อจะปลิดชีวิตหนอนดินหนึ่งตัว
ตอนที่ 302 หนอนดิน(ตอนเจ็ด)
คึดด~
หนอนดินเหล่านี้เคลื่อนที่ไปมาใต้พื้นดินด้วยความรวดเร็วยิ่งนัก การโจมตีของพวกมันอย่างการสะบัดหางนั้นไม่ต่างจากการที่มนุษย์ใช้เชือกแส้เส้นเล็กๆฟาดเข้าใส่กันเลยทีเดียว ความรวดเร็วบวกเสริมเข้ากับขนาดตัวที่ใหญ่โตสร้างแรงปะทะอย่างรุนแรง
“ใช้ธนูพิษ” หลินหยางออกคำสั่งเสียงดัง
เมื่อเห็นว่าหนอนดินบางส่วนแบ่งแยกออกจากกลุ่มแนวป้องกันที่ตั้งใจดึงดูดความสนใจของพวกมันเริ่มหมดประสิทธิภาพลงแล้ว
หากปล่อยให้พวกมันกรูกันเข้าประชิดกำแพงเมืองแม้จะไม่สามารถบุกรุกผ่านประตูเมืองขนาดใหญ่ไปได้แต่ก็ต้องตกตายลงด้วยฝีมือของทีมจู่โจมอยู่ดี
เป้าหมายหลักในการเพิ่มระดับทีมก่อสร้างและทีมระยะไกลอาจจะได้ผลกระทบ เขาจึงออกคำสั่งใหม่ปรับเปลี่ยนแผนการโจมตีโดยใช้ลูกธนูพิษที่ได้ตระเตรียมเอาไว้นั่นเอง
เมื่อได้รับคำสั่งจากหลินหยาง มีชายฉกรรจ์สามคนช่วยกันแบกหามถังใบหนึ่งพวกเขาคือหน่วยเวรยามนั่นเอง ทั้งหมดช่วยกันแบกอย่างระมัดระวังส่งให้แก่ทีมระยะไกล
ภายในถังใบนั้นมีลูกศรวางเรียงกันอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าห้าสิบดอก
ลูกธนูพิษทั้งหมดนั้นวางแยกอยู่คนละที่กับลูกธนูปกติ เพื่อความปลอดภัยมิให้ใครเผลอแตะต้องและถูกพิษเข้านั่นเอง เหล่าเวรยามนำถังใบนั้นมาวางใกล้เคียงกับทีมระยะไกลเพื่อสะดวกในการหยิบจับ
ลูกธนูที่ถูกอาบไปด้วยเลือดของกบพิษหลายสิบดอกนี้ ส่วนหัวลูกศรเหล็กเหล่านั้นล้วนผุกร่อนจากฤทธิ์ของเลือดกบพิษ
บางอันเสียหายจนมิสามารถใช้งานได้จนต้องทิ้งขว้างเสียหายไปเนื่องจากฤทธิ์กัดกร่อนของเลือดกบพิษนั้นช่างรุนแรงยิ่งนัก การผลิตธนูพิษนั้นจะมีลูกธนูสามในสิบดอกจะเสียหายไปไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
ด้วยเหตุนี้หลินหยางจึงมิอยากใช้ลูกธนูที่อาบยาพิษพวกนี้เท่าไหร่นัก เพราะมันสิ้นเปลืองมากเกินไป
ลูกธนูที่พวกเขาผลิตขึ้นมาใช้กันเองนั่นจะเป็นลูกธนูที่มีส่วนหัวเป็นไม้เหลาแหลมคมธรรมดา แน่นอนว่าอนุภาพของมันย่อมด้อยกว่าลูกธนูที่มีปลายศรเป็นเหล็กแหลมคมเป็นแน่ ยิ่งกว่านั้นพวกเขาไม่สามารถผลิตลูกธนูปลายเหล็กได้เนื่องจากไม่มีวัตถุดิบนั่นเอง
รวมถึงเลือดกบพิษที่หาได้ยากยิ่งจนถึงบัดนี้พวกเขายังพบเจอกบพิษเพียงสองตัวเท่านั้น หนึ่งคือคลองน้ำแหล่งอาหารและแหล่งน้ำที่สำคัญของพวกเขานั่นเอง อีกหนึ่งคือจากคลองน้ำอีกแห่งที่พึ่งค้นพบโดยเหล่าเอลฟ์
ตอนนี้พวกเขาจึงมีถุงเลือดกบพิษอยู่เพียงสองถุงเท่านั้น และการจะเก็บรักษานั้นยากยิ่งกว่าการหาใหม่เสียอีก เพราะเลือดกบพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงแม้พวกเขาจะห่อหุ้มด้วยผิวหนังของตัวมันเองแต่ยิ่งปล่อยเอาไว้มันก็ระเหยแห้งกรังตามกาลเวลาไปเรื่อยๆ
สรุปคือเลือดกบพิษมีแต่นั้นลดลงเรื่อยๆไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกหากพวกเขาไม่พบเจอกบพิษตัวใหม่นั่นเอง
เหมยเหมยหญิงสาวตัวน้อยผู้นำการฝึกทีมระยะไกล
เธอหยิบธนูดอกหนึ่งภายในถังขึ้นมาด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง พร้อมกับวางพาดบนคันธนูเตรียมตั้งท่ารั้งสายธนูจนสุดกำลังปลดปล่อยปลายนิ้วส่งลูกธนูดอกนั้นออกไปพุ่งผ่านอากาศ
ฟิ้วว~
ฉึก!