เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 369-370

ตอนที่ 369 เหล่าผู้นำ(ตอนสอง)

 

การพูดคุยของเหล่าผู้นำยังคงดำเนินไปต่อ

 

“ผมว่าพวกเราควรเพิ่มการป้องกันสถานที่แหล่งอาหารของพวกเรา” หวงฮั่นกล่าว เนื่องจากเขาเป็นผู้นำของหน่วยเวรยาม เขาจึงอดเป็นห่วงความปลอดภัยของบริวารตนเองมิได้

 

สำหรับเวรยามที่ประจำอยู่ภายในเมืองนั้นมิน่าเป็นห่วงเท่าใดเพราะพวกเขายังอาศัยกำแพงเมืองเป็นตัวกำบัง แต่ทว่าโพรงกระรอก ถ้ำวัวและคลองน้ำล้วนแต่เป็นพื้นที่โล่งกว้าง หากถูกบุกโจมตีพวกเขาคงไม่มีทางเลือกนอกจากวิ่งหนี

 

เพราะเวรยามแต่ละชุดนั้นมีจำนวนเพียงสิบนายเท่านั้น พวกเขามีหน้าที่แค่แสดงตัวตนเป็นเจ้าของและคอยจับสัตว์ที่ออกมาจากแหล่งอาหาร

 

พวกเขาเคยแสดงความเป็นเจ้าของพร้อมข่มขู่ผู้ที่คิดจะรุกรานไปแล้ว อย่างการนำศพของผู้เคาะห์ร้ายมาปักเสียบประจาญเอาไว้โดยฝีมือของหลินหยางนั่นเอง

 

แต่นี่ก็เป็นเพียงคำเตือนเท่านั้น เมืองใหม่ๆที่พึ่งมาถึงนั้นพวกมันยังไม่ประสีประสามิรู้ความ บางเมืองหากได้ผู้นำที่ดีก็เป็นโชคดีของพวกมัน แต่หากได้ผู้นำที่บ้าอำนาจขวานขวายหาการสู้รบ พวกเขาคงไม่สนใจซากศพที่เน่าเปื่อยเหล่านี้

 

รวมถึงเมืองเก่าหากพวกเขาจนตรอกหิวโซไม่สามารถหาอาหารประทังชีวิตได้ คงไม่มีทางเลือกนอกจากรวมตัวกันโจมตีแย่งชิงแหล่งอาหารซักแห่ง

 

การแจ้งเตือนมิให้พวกมันคิดการใหญ่นี้ใช้ได้เฉพาะกับเมืองที่มีผู้นำที่ดีมีสติปัญญาสูงสามารถคิดถึงผลได้ผลเสียเป็นหลัก ถึงพวกมันจะบุกเข้ามาก็ต้องพ่ายแพ้ตกตายลงอยู่ดีเพราะเมืองในระแวกนี้มิมีเมืองใดที่มีกำลังพลพอจะต่อกรกับหลินหยางและพวกได้

 

“ผมเห็นด้วย หลิวเจี่ยนายคิดว่าไง” หลินหยางกล่าว

 

เดิมทีเขาคุมตัวหวงฮั่นและพักพวกหวังจะจับให้พวกมันมาเป็นตัวตายตัวแทนให้แก่เมืองของเขา ให้พวกมันคอยเฝ้าแหล่งอาหารเอาไว้

 

แต่ตอนนี้หลังจากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาผ่านสารทุกข์สุกดิบต่างๆนาๆ หวงฮั่นและพักพวกก็มิได้แตกต่างไปจากพลเมืองของเขาเลย พวกมันทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีเยี่ยม

 

“ผมไม่ขัดข้อง แต่ว่าพวกเราจะเพิ่มการป้องกันยังไงล่ะ?” หลิวเจี่ยผู้นำทีมก่อสร้างกล่าว หากต้องการเพิ่มการป้องกันนั้นแน่นอนปัจจัยหลักคือสร้างสิ่งปลูกสร้างที่มีความแข็งแรงทนทาน ป้องกันการโจมตีจากภายนอกรักษาชีวิตผู้ที่อยู่ภายใน ซึ่งหน้าที่หลักนี้คงหนีไม่พ้นทีมก่อสร้างนั่นเอง

 

“อย่างแรกเราต้องสร้างกำแพงที่แข็งแรงล้อมรอบ” เทียนหนิงเจี้ยนเสนอความคิด

 

แหล่งอาหารอย่างโพรงกระรอกและถ้ำวัวนั้น พวกเขาก็ได้สร้างรั้วล้อมรอบเอาไว้แล้ว แต่มันเป็นเพียงรั้วที่สร้างขึ้นลวกๆเพื่อมิให้สัตว์ภายในหนีรอดหลุดเงื้อมือไปได้เท่านั้น มันมีสามารถต้านทานการโจมตีจากเมืองอื่นได้

 

“ผมว่าพวกเราสร้างป้อมสังเกตุการณ์ด้วยดีไหม?” จิ่นเหอเสนอความคิด

 

“อืมห์” หลิวเจี่ยกำลังครุ่นคิดใช้สมองหลังจากได้ฟังคำกล่าวของทั้งสองคน การจะสร้างสิ่งใดซักอย่าง วัสดุและแรงงานนั้นมิใช่ปัญหา สิ่งที่มันขาดอยู่ในตอนนี้คือรูปแบบของสิ่งปลูกสร้างที่มีความแข็งแรงมากพอจะต้านทานการโจมตีจากศัตรูได้

 

“มีใครคัดค้านไหม?” หลินหยางถามความเห็นจากเหล่าผู้นำ

 

พวกเขาล้วนพยักหน้าเห็นด้วย

 

“ดี งั้นเอาตามนี้” เขาอนุมัติยืนยันตามข้อเสนอของเทียนหนิงเจี้ยนทันที

 

 

ตอนที่ 370 เหล่าผู้นำ(ตอนสาม)

 

หลังจากแก้ไขไปแล้วหนึ่งเรื่อง เรื่องต่อไปก็ตามมาทันที

 

“พวกเราจะทำอย่างไรกับถ้ำค้างคาวครับ” เจียวซิ่นเอ่ยปากถามจุดประเด็น

 

“หืม?” หลินหยางส่งเสียงในลำคอ

 

นี่เองก็เป็นเรื่องที่เขาคิดมิตกเช่นกัน พวกเขาพลาดการกวาดล้างถ้ำแห่งนี้มาครานึงแล้วถึงสาเหตุหลักจะเป็นไปด้วยเหตุบังเอิญก็เถิด

 

ยิ่งกว่านั้นถ้ำแห่งนี้ก็ถูกพบเจอเป็นที่รู้จักแก่เมืองอื่นหลากหลายเมืองไปแล้ว มันไม่ต่างจากถ้ำสาธารณะที่ใครๆก็สามารถบุกเข้าไปได้

 

หากพวกเขาบุกเข้าไปแล้วเผอิญมีเมืองอื่นตามมาและตีตลบหลังพวกเขาก็คงแย่เหมือนกัน

 

หัวข้อในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากเหล่าสมาชิกทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมไม่น้อย

 

เนื่องจากเป็นแหล่งเพิ่มพูนระดับชั้นยอดที่พวกมันต้องการ แม้จะมีภัยอันตรายรอคอยอยู่แต่พวกมันก็อดใจฝันถึงระดับที่เพิ่มขึ้นของตนมิได้

 

“พวกเราควรบุกถ้ำค้างคาวอีกครั้ง” หลิวไห่เสนอความคิดของตนทันที

 

ความอันตรายมิได้ทำให้มันหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย มันต้องการสิ่งที่ได้มาหลังจากปลิดชีวิตมอนสเตอร์นับพันตัวนั้นมากกว่า

 

“ผมคิดว่าเราไม่ควรเข้าถ้ำนั่นอีก มันอันตรายเกินไปที่จะนำคนไปเสี่ยง” เทียนหนิงเจี้ยนกล่าวแย้ง

 

การบุกโจมตีถ้ำค้างคาวนี้จะมิได้ประโยชน์อันใดเลยหากพวกเขาเพลี่ยงพล้ำเป็นฝ่ายตกตายลงเสียเอง

 

มันที่ทำหน้าที่บริการให้ความสะดวกประชาชนมิได้ออกไปสู้รบปรบมือกับศัตรูนั้น มิเห็นว่าสิ่งที่ได้มาจะคุ้มกับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ

 

“แต่ผมคิดว่าพวกเขาเต็มใจที่จะเสี่ยงเพื่อระดับที่เพิ่มขึ้นนะ ผมเห็นด้วยกับหลิวไห่พวกเราน่าจะบุกไปถ้ำนั้นอีกครั้ง ครานี้พวกเราคงไม่โชคร้ายดังเดิมอีกแน่” เจียวฮั่นกล่าว

 

จากการต่อสู้ภายในถ้ำนั้นทำให้ตัวมันมีระดับเพิ่มสูงขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งระดับเพิ่มมากเท่าใดความต้องการต่อสู้ของมันยิ่งเพิ่มตามไปด้วย มอนสเตอร์ภายในถ้ำนั้นมิต่างจากยาเสพติดที่จะบรรเทาความต้องการของมันลงได้

 

“เราจะใช้การโหวตในการตัดสินใจ มีใครไม่เห็นด้วยไหม?” หลินหยางกล่าวถาม เมื่อความเห็นมิลงรอยกันเช่นนี้หากยืดเยื้อต่อไปเรื่องราวอาจบานปลายสร้างความเข้าใจผิด เขาจึงตัดปัญหาเสีย

 

หลังจากกล่าวออกไปเช่นนั้นมิมีใครโต้แย้งอันใด

 

“ใครไม่เห็นด้วยที่จะบุกเข้าถ้ำค้างคาวปีกเหล็กให้ยกมือขึ้น” หลินหยางกล่าว

 

พรึ่บ~

 

ในจำนวนคนที่นั่งล้อมรอบเป็นวงกลมกันอยู่นั้นมีคนยกมือขึ้นอย่างรวดเร็วหลังสิ้นเสียงหลินหยางทั้งสิ้นสามคน

 

ไม่ผิดจากที่คาดมากเท่าใด สามคนนั้นคือ เทียนหนิงเจี้ยน เหมยเหมย และหวงฮั่น พวกเขามิเห็นด้วยสำหรับการบุกโจมตีถ้ำค้างคาวอีกครั้งหลังจากล้มเหลวมาแล้ว

 

ส่วนเทียนหนิงเจี้ยนและหวงฮั่นพวกมันมิได้ต้องการระดับที่เพิ่มมากขึ้นแต่อย่างใด มันต้องการเมืองที่สงบสุขผู้คนอยู่กันพร้อมหน้า ไร้ศึกสงครามมิมีเรื่องให้ปวดหัวมากกว่า

 

ส่วนเหมยเหมยนั้นแม้เธอจะมีจิตใจกล้าแข็งไม่แพ้ชายใดและต้องการจะออกไปสู้รบข้างนอกเมืองเคียงข้างหลินหยางก็ตาม แต่ก็อดเป็นห่วงหลินหยางมิได้ที่ต้องออกไปต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตแปลกปลาดหลายพันตัวเช่นนั้น

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset