ตอนที่ 375 เป็นห่วง
ปัจจุบันแม้จะมีประชากรเพิ่มมาจากการรวบรวมพันธมิตรสามเผ่าพันธุ์เข้าด้วยกันอีกเกือบร้อยชีวิตก็มิใช่ปัญหาอีกต่อไป พวกเขายังมีอาหารเหลือเลี้ยงคนอีกครึ่งพันได้อย่างสบายๆ
ตอนนี้เมืองที่มีพันธนาการผูกมัดอยู่อย่างเมืองฉางเปา พวกมันขึ้นตรงกับเมืองหลินหยางเพียงผู้เดียว เดิมทีพวกเขาต้องแบ่งปันอาหารเลี้ยงพวกมันจนกว่าจะได้แหล่งอาหารเป็นของตนเองนั้น
บัดนี้พวกมันสามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับข้อตกลงที่ได้เห็นชอบด้วยกันทั้งสองฝ่ายนั่นคือมันต้องแบ่งอาหารให้แก่เมืองหลินหยาง
ข้อตกลงนั้นคือสามในสิบส่วนจากปริมาณทั้งหมด นั่นเท่ากับว่าในหนึ่งวันจำนวนไก่ทั้งสองร้อยสี่สิบตัวนั้นจะถูกแบ่งให้หลินหยางทั้งสิ้นเจ็ดสิบสองตัว
พวกมันจะเหลืออาหารส่วนของตนเองอีกร้อยเจ็ดสิบตัวเพื่อเลี้ยงคนภายในเมืองของตน
แน่นอนแม้จะแบ่งให้หลินหยางไปแล้วแต่จำนวนที่เหลืออยู่ก็เพียงพอจะเลี้ยงคนของมันไปได้ตลอดปีแถมยังมีเหลือเก็บไว้อีกมากกว่าครึ่งในแต่ละวันอีกด้วยซ้ำ
พวกมันมิต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารอีกต่อไป ทั้งหลินหยางและฉางเปานั้นนับว่ามีแต่ได้มิมีเสีย
หลินหยางนั่งคุยกับฉางเปาและพวกต่อไป
เรื่องราวส่วนใหญ่คือปัญหาในการควบคุมกองทัพของมันนั่นเอง
หากมันใช้คนเป็นเบี้ยเช่นนี้อีกไม่นานเมืองของมันต้องล่มจมสูญสลายตายไปหมดเป็นแน่
จนเวลาล่วงเลยผ่านไปพระอาทิตย์ขึ้นส่องสว่างเมืองขนาดใหญ่อาบไปด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ
ผู้คนภายในเมืองตื่นขึ้นจากฝันหวานเดินพลุกพล่านทำให้บรรยากาศกลับมาคึกคักคึกครื้นอีกครา
เขานำเจียวเป่าและจางเฉินมนุษย์กิ่งก่าหนุ่มมาแนะนำตัวทำความรู้จักกับฉางเปาสร้างมิตรภาพ ต่อจากนี้ไปพวกเขาต้องทำงานร่วมกันอีกนับไม่ถ้วน
เช้าวันใหม่นี้อาหารมื้อแรกของวันตกไม่พ้นเนื้อไก่ย่างแสนอร่อย
พวกเขาอดใจรอคอยที่จะลิ้มลองรสชาติอาหารรสใหม่มิไหว จึงนำไก่ตัวอวบอ้วนทั้งหมดมาทำอาหารทานกันทันที ผู้คนมากมายล้อมวงทานอาหารพร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกปาก
หัวข้อส่วนใหญ่หนีไม่พ้นเรื่องถ้ำค้างคาวที่เหล่าชายชาติทหารกำลังจะเผชิญนั่นเอง
เหล่าชายฉกรรจ์นั้นพวกเขามิได้หวาดกลัวต่อภัยอันตรายที่จะพบเจอภายในถ้ำแม้แต่น้อย กลับกันพวกเขาฮึกเหิมรอคอยที่จะเข้าไปภายในถ้ำค้างคาวมิไหว
สำหรับโลกใหม่ที่ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตนี้ปฏิเสธมิได้ว่าระดับนั้นคือสิ่งที่มีค่าสูงสุดสำหรับกำลังรบในแต่ละบุคคล
มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่อดเป็นห่วงพวกเขามิได้ ส่วนใหญ่คือเหล่าคนชราและอิสตรีบางกลุ่ม
คนกว่าสี่ร้อยกว่าชีวิตนี้แน่นอนย่อมมีความคิดแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน แม้จะเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็อยู่ร่วมกันอย่างราบรื่นมิมีเรื่องกระทบกระทั่ง
แม้คนชราจะเป็นห่วงเหล่าทีมต่อสู้ที่ต้องออกไปเผชิญภัยอันตรายแต่พวกเขาก็มีสามารถห้ามปรามได้ เพราะรู้ดีเหตุที่ชายฉกรรจ์เหล่านี้ต้องออกไปต่อสู้ค้นหาสิ่งแปลกใหม่ ส่วนหนึ่งก็เพื่อบ้านเมืองของตน
ตอนที่ 376 อบรม
หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อย พวกเขาก็แยกย้ายกันไปทำงานตามที่ตนเองได้รับมอบหมาย
ส่วนทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมพวกเขาตรวจสอบอาวุธของตนเอง เพื่อเตรียมตัวมุ่งสู่ถ้ำค้างคาว
เหล่ามนุษย์กิ้งก่าและมนุษย์หมาป่าที่พึ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่เมื่อวาน พวกมันยังมิได้เข้าร่วมสังกัดทีมต่อสู้ใดๆ
หลินหยางส่งพวกมันให้แก่ซิ่นก้งจัดการฝึกสอนอบรมเสียก่อน
แม้แต่เดิมพวกมันจะมีฝีมือการต่อสู้สั่งสมมาตั้งแต่เยาว์วัยแต่นั่นก็เป็นเพียงการต่อสู้ส่วนตัวเท่านั้น
เพื่อให้พวกมันสามารถต่อสู้ร่วมกับคนอื่นๆได้มิถ่วงแข้งถ่วงขา เขาจึงต้องให้พวกมันเรียนรู้วิธีการต่อสู้ของเมืองแห่งนี้เสียใหม่
“คัดลอกไปให้หมด” เทียนหนิงเจี้ยนกล่าวพร้อมกับวางแผ่นหนังสัตว์หลายแผ่นลงบนโต๊ะที่มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งง่วงวาดเขียน เหงื่อเม็ดโตไหลอาบใบหน้ามันคือฉางเปา
สิ่งที่มันกำลังคัดลอกอยู่นั้นคือแผนที่รอบๆเมืองหลินหยางในบริเวณห้าสิบกิโลเมตรที่เทียนหนิงเจี้ยนเป็นผู้วาดขึ้นมา
แผ่นหนังหลายสิบผืนนี้ล้วนเต็มไปด้วยเส้นสายลายมือของมันเอง เพื่อมิให้เกิดข้อผิดพลาดมันจึงต้องเสี่ยงชีวิตติดตามออกไปกับทีมสำรวจและเป็นผู้จดจำรายละเอียดต่างๆด้วยตนเองทั้งสิ้น นับว่าเป็นงานหนักสำหรับมันไม่น้อย
ฉางเปาที่กำลังทำหน้าที่คัดลอกวาดเขียนลงบนแผ่นหนัง ดูจะมิใช่งานที่ยากเย็นอันใดเลยสำหรับมัน แต่งานที่ต้องทำต่อจากนี้ต่างหากที่มันกังวล
เพราะวันนี้ทั้งวันมันต้องนั่งฟังการอบรมของเทียนหนิงเจี้ยนตลอดจนค่ำมันจึงจะสามารถกลับเมืองของตนไปได้ เพื่อปรับปรุงแผนการรบและเปลี่ยนแปลงความคิดของมันเสียใหม่ นี้คือที่มาของเหงื่อเม็ดโตที่อาบใบหน้าของมัน…
“เปิดประตู” หวงฮั่นตะโกนออกคำสั่ง
ครืนน~
ประตูเมืองขนาดใหญ่ค่อยๆเลื่อนเปิดอ้าออกอย่างช้าๆด้วยพละกำลังจากเหล่าเวรยาม
ทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมเดินออกไปมุ่งหน้าตรงสู่ถ้ำค้างคาวปีกเหล็กทันที
กองทหารทั้งแปดสิบชีวิตถือสิ่งของพลุงพลัง ในมือทั้งสองข้างถือหอกและโล่คู่ใจที่สู้ไปด้วยกันทุกศึก
ข้างเอวของตนเสียบไว้ด้วยดาบยาวและดาบสั้นเพื่อสะดวกในการหยิบจับนำมาใช้ในนาทีวิกฤต ทั้งยังสะพายหน้าไม้ไว้บนไหล่ แผ่นหลังมีกระเป๋าผ้าใบโตที่ทำมาจากหนังสัตว์
ภายในนั้นมีอาหารแห้งและน้ำเปล่าทุกสิ่งนี้เตรียมไว้เผื่อในยามฉุกเฉิน พวกเขาสามารถใช้อาหารนี้ประทังชีวิตอยู่รอดภายนอกเมืองได้ถึงสามวัน บางคนยังเอาสุราใส่ไว้ภายในอีกด้วย
เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่นั้นเป็นชุดที่ได้มาจากห้องปริศนา
ชุดเหล่านี้นุ่มสบายทำให้การเคลื่อนไหวมิติดขัด อาวุธ อาหาร กระทั่งจิตใจพวกเขาล้วนมีเพรียบพร้อม
ตอนนี้มิว่าจะเป็นการต่อสู้แห่งหนใดก็มิหวั่นเกรง สามารถยืนหยัดท้าทายศัตรูได้ทุกสมรภูมิ
ท้ายขบวนมีเกวียนขนสิ่งของอย่างทุกครา
เหล่ามนุษย์หมาป่าตัวน้อยและเด็กมนุษย์ผู้ใฝ่ฝันจะเข้าร่วมต่อสู้อย่างกล้าหาญพวกมันล้วนแล้วแต่ยืนขนาบข้างขบวนทัพส่งเหล่าทหารออกนอกเมืองด้วยความตื่นเต้นดวงตาเป็นประกาย หวังว่าสักวันตนเองจะได้เข้าร่วมกับทีมต่อสู้ทีมใดทีมหนึ่ง
แต่ทว่ามิได้มีเพียงเหล่าชายชาติทหารทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมเท่านั้นที่เดินทางออกไปครั้งนี้..