ตอนที่ 385 พลีชีพ(ตอนต้น)
แคว๊กก~
เสียงของค้างคาวร้องประสานกันดังออกมาให้ได้ยินเป็นระยะมิขาดสาย ยิ่งมุ่งหน้าเดินเข้าลึกมากเท่าใดเสียงนั้นส่งมาให้ได้ยินมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาคงเข้าใกล้ฝูงค้างคาวแล้วเป็นแน่
“ระวังการโจมตีทีเผลอด้วย” หลินหยางกำชับพลโล่เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง
เพราะตอนนี้พวกเขาใกล้เข้าปะทะกับค้างคาวทั้งฝูงแล้ว เนื่องจากจุดสิ้นสุดของถ้ำมีทางตัน นอกเสียจากมันจะหายตัวดำดินได้จึงจะสามารถออกไปยังนอกถ้ำโดยที่มิผ่านแนวป้องกันของเขา
บัดนี้ค้างคาวทั้งหมดภายในถ้ำรวมตัวกันอยู่แออัดเป็นกลุ่มเดียว แน่นอนอีกไม่นานต้องปะทะกำลังกันแน่หากค้างคาวทั้งฝูงพุ่งเข้ามาเป็นกลุ่มโจมตีพวกเขาอย่างมิทันตั้งตัว แนวป้องกันต้องแตกพ่ายอย่างแน่นอน
หลิวไห่และพลโล่ทั้งหมดเกร็งแขนของตนจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนพร้อมกับก้าวสาวเท้ายาวเดินต่อไปอย่างมั่นคง
“ตั้งแต่แถวที่สิบกลับออกไปให้หมด บอกให้หลิวเจี่ยเตรียมพร้อมเอาไว้” หลินหยางออกคำสั่ง
เขาส่งคนตั้งแต่แถวที่สิบจนถึงแถวสุดท้ายกลับออกไปภายนอกถ้ำเสียจนสิ้นบัดนี้จึงเหลือเพียงแค่สิบแถวเท่านั้น
ซึ่งสองแถวหน้านั้นล้วนเป็นพลโล่มีหน้าที่สร้างแนวป้องกันปกป้องสหาย แถวที่ห้าลงไปล้วนเป็นตัวสำรองคอยสับเปลี่ยนกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือหมดเรี่ยวแรง
ซึ่งตอนนี้พวกเขายังมิได้ใช้กำลังออกไปเลยเพียงนิด เนื่องจากแนวป้องกันยังมิถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง พลโล่ทั้งหมดยังมีพละกำลังเหลือเฟือสามารถยื้อยุดฉุดกำลังกับค้างคาวปีกเหล็กได้อย่างสบาย
ทั้งนี้เขายังส่งคนออกไปเพื่อแจ้งเรื่องบางอย่างให้แก่หลิวเจี่ยผู้นำทีมก่อสร้าง
เหล่าทหารทยอยกันออกไปจากถ้ำตามคำสั่ง ตอนนี้ภายในถ้ำจึงเหลือคนอยู่ไม่ถึงครึ่งเดิมเสียด้วยซ้ำ แต่นั่นมิเป็นปัญหากับการต่อสู้แต่อย่างใด
เนื่องจากกลุ่มที่จะได้จับอาวุธต่อสู้จริงๆนั้นมีเพียงสี่ถึงห้าแถวแรกเท่านั้น ส่วนที่เหลือล้วนแล้วแต่ยืนเก้อรอคอยสลับเปลี่ยนตัวเป็นกำลังเสริมทั้งหมด
หลังจากเหลือคนเพียงน้อยนิดทำให้ขบวนทัพสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น พวกเขาเว้นระยะห่างกันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนที่มิขัดแข้งขัดขากันอีกต่อไป
หลินหยางจับหอกในมือของตนเดินตามแนวโล่เคลื่อนที่่ไปอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเดินลึกมากเพียงใดเสียงของค้างคาวปีกเหล็กที่ส่งออกมายิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น แสดงว่าพวกเขาและฝูงค้างคาวอยู่ไม่ไกลห่างกันมากนักเท่าใด ฟังจากเสียงที่ส่งออกมานั้นคงอยู่ห่างไม่ถึงสองร้อยเมตร
แคล้งง~
ตอนนั้นเองมีบางอย่างพุ่งเข้ามากระทบเข้ากับโล่เหล็กในมือของหลิวไห่เข้าอย่างรุนแรง แต่กระนั้นก็มิส่งผลกระทบต่อแนวป้องกัน
พละกำลังของหลิวไห่มิได้เป็นสองรองใครเลยในกองกำลังหลักของเมืองหลินหยาง สิ่งที่เข้ามากระทบเข้ากับโล่เหล็กของมันนั้นคือร่างของค้างคาวระดับสี่ตัวนึง
มิทราบมันใช้ความเร็วมากมายเท่าใดจึงทำให้ร่างกายของมันแหลกเหลวเละเทะเหลือเพียงซากบางส่วนที่เกาะติดอยู่บนโล่ ส่วนที่เหลือค่อยๆไหลย้อยตกลงสู่พื้นถ้ำ มันตกตายลงทันทีจากการปะทะ..
ตอนที่ 386 พลีชีพ(ตอนกลาง)
ขบวนทัพหยุดชะงักลงชั่วครู่ด้วยตกใจ
ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็มีแต่ความมืดบวกกับบนพื้นถ้ำมีเลือดฉาบพื้นผิวเอาไว้เสียหมด กลิ่นคาวคละคลุ้งในอากาศ ทำให้บรรยากาศชวนน่าขนลุก
เมื่อจู่ๆถูกโจมตีเข้าใส่อย่างมิทันได้ตั้งตัวทำให้ส่วนใหญ่สะดุ้งตกใจตามสัญชาติญาณ แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้นพวกเขากลับเข้าสู่ความพร้อมอีกคราใบหน้าแน่วแน่เตรียมรับมือต่อสู้
พึบ~
พับ~
ยังมิทันได้ก้าวเท้าเดินหน้า เสียงกระพือปีกของสัตว์เดรัจฉานค้างคาวปีกเหล็กดังกระหึ่มกลบแม้กระทั่งเสียงร้องของพวกมันจนสิ้น
‘…’ หลินหยางหยุดฟังเสียงของมันชั่วครู่เสียงจากการกระพรือปีกของมันเริ่มบางเบาลงแทนด้วยเสียงบางอย่างที่กำลังพุ่งฝ่าชั้นบรรยากาศเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ได้ยินดังนั้นทำให้คิ้วของเขาขมวดแน่นเป็นปม
“ระวัง! ป้องกันสามชั้น!!” หลินหยางตะโกนเสียงดังออกคำสั่งทันทีหลังจากเห็นการเปลี่ยนแปลงของศัตรู
แถวที่สามหยิบจับโล่เหล็กในมือของตนแทรกตัวเบียดเสียดเข้าไปเกาะกลุ่มกับแถวแรกและแถวสองยกโล่เหล็กในมือปิดช่องว่างด้านบนทันที
ไม่รอช้าพลหอกทั้งหมดดึงหอกคู่ใจของตนเองกลับมาเพื่อให้พลโล่ได้เข้าแทนที่ของตนเอง
ตอนนี้ขบวนทัพผู้บุกรุกมิสามารถตอบโต้ค้างคาวปีกเหล็กได้อีกต่อไปเนื่องจากมิมีสิ่งของมีคมอย่างหอกแหลมมาคอยดักขวางเส้นทางอีกแล้ว แต่เป็นโล่เหล็กกว่าเก้าบานที่เปิดเส้นทางจนมิดชิดมิเหลือช่องว่างให้สิ่งอื่น
แคล้ง~
ตูมม~
ราวกับเวลาเป็นใจ ทันทีที่แนวป้องกันสร้างเสร็จยังมิทันได้พักหายใจ เกิดการกระทบกระทั่งเกิดขึ้นอย่างรุนแรงตามแนวป้องกันโล่เหล็กทั้งเก้าแผ่น บัดนี้ค้างคาวปีกเหล็กโจมตีเข้าใส่แนวป้องกันอย่างหนักหน่วง
พวกมันเมื่อมีที่ว่างมากขึ้นจึงสามารถถอยไปตั้งหลักอยู่ห่างไกลและกระพือปีกโบยบินเร่งความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
กว่าจะปะทะเข้ากับแนวป้องกันของผู้บุกรุก ความเร็วของพวกมันก็ถึงขีดสุดที่สามารถใช้ได้ ซ้ำร้ายด้วยร่างกายที่มีขนาดใหญ่กว่าค้างคาวทั่วไป น้ำหนักคงไม่ต่ำกว่าสิบกิโลเป็นแน่
เมื่อมันพุ่งมาด้วยความเร็วเช่นนี้บวกเข้ากับน้ำหนักของตัวมันเอง พลโล่ทั้งหลายก็ไม่ต่างจากถูกลูกตุ้มขนาดสิบกิโลปาเข้ามาปะทะเข้าใส่โล่เหล็กที่พวกเขาถือครองอยู่
เป็นดังคาด
ค้างคาวทั้งฝูงกำลังใช้การโจมตีพลีชีพต่อต้านผู้บุกรุก ใช้ร่างกายของตนเองเข้าปะทะกับศัตรู ดูแล้วนี่น่าจะเป็นแผนการรับมือที่คิดขึ้นมาจากค้างคาวปีกเหล็กระดับหกที่ออกคำสั่งในการต่อสู้ในครานี้ตั้งแต่เริ่ม
ไม่ทราบพวกมันพึ่งคิดขึ้นมาได้อย่างบังเอิญหรือไตร่ตรองวางแผนรับมือกับพวกเขาเอาไว้แล้ว
ด้วยความรุนแรงเช่นนี้แรกเริ่มนั้นก็พอจะสามารถออกแรงเกร็งโล่ต้านกำลังได้
แต่เมื่อนานเข้าพวกเขาเริ่มเสียสมดุลพละกำลังหดหายทำให้บางส่วนเริ่มเซถลาบ้างหลังจากถูกปะทะ และรีบกลับเข้าไปอุดช่องโหว่ของตนอย่างรวดเร็ว
หากเป็นแบบนี้ต่อไปไม่นานพวกเขาต้องหมดแรงไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้อีกเป็นแน่