ตอนที่ 397 ค้างคาวปีกเหล็ก(ตอนสิบ)
เมื่อเห็นว่ามนุษย์หมาป่าตนนั้นสามารถกลับมาอุดรูรั่วร่วมแนวป้องกันได้อย่างปลอดภัยเขาจึงโล่งใจลงบ้าง
“แถวสองคอยระวังด้านหลังเอาไว้ด้วย เมื่อครู่มีค้างคาวปีกเหล็กระดับหกตัวนึงมันหลุดเข้ามาได้” หลินหยางกล่าวพลางคอยหันศรีษะมองอย่างหวั่นวิตกหวาดระแวง
ด้วยทักษะดวงตาเหยี่ยวของเขาทำให้สามารถมองเห็นแยกแยะได้อย่างชัดเจนถึงค้างคาวระดับสี่และหก
และเมื่อครู่ยามหมาป่าตนนี้พลาดพลั้งเปิดช่องโหว่ไปนั้น มีค้างคาวปีกเหล็กระดับหกตัวหนึ่งหลุดรอดเข้าได้และบินหายลับเข้ากลีบเมฆไปในความมืด จนถึงตอนนี้เขายังมิเห็นตัวของมันวกกลับมาแต่อย่างใด
เขาจึงอดหวาดระแวงมิได้
หากมิคอยมองสอดส่องอยู่เช่นนี้และถูกโจมตีทีเผลอเข้าใส่จากมุมอัปทางด้านหลัง แม้จะมีกี่ชีวิตก็คงไม่รอดกลับไปเป็นแน่ เพราะค้างคาวระดับหกนั้นพลังโจมตีและความรวดเร็วของมันย่อมสูงกว่าค้างคาวระดับสี่ทั่วไป
บางทีทักษะของมันอาจจะสูงกว่าค้างคาวระดับสี่อีกด้วยหากโดนโจมตีเข้าสักคราคงไม่โชคดีเพียงแค่เสียหลัก อาจจะไม่สามารถลุกขึ้นกลับเข้าสู่การต่อสู้ได้อีกเป็นครั้งที่สอง
“ผ-ผมว่าการโจมตีเมื่อครู่มันแปลกๆ” มนุษย์หมาป่าผู้พลาดท่ากล่าวออกมา
“ไม่ใช่ว่าแกอ่อนแอเองหรอกหรือ ฮ่าๆ” มนุษย์หมาป่าอีกตนผู้ถือโล่อยู่แถวเดียวกับมันทางด้ายซ้ายกล่าวขึ้นพลางหัวเราะสร้างสีสัน
“จะใช่ได้ยังไง..ฮึ่ม” มนุษย์หมาป่าผู้พลาดท่าตอบกลับพ่นลมออกจมูกอย่างดุดัน มันรู้ตัวดีว่าการโจมตีเมื่อครู่แม้จะเป็นจังหวะทีเผลอไปบ้างแต่มันก็ย่อมไม่เสียทีให้กับการโจมตีของค้างคาวตัวกระจ้อยตัวไหนแน่
มนุษย์หมาป่าที่เหลือหัวเราะลั่นเมื่อเห็นมันแก้ตัว
ตู้ม~
อั่กก~
มิทันสิ้นเสียง
จู่ๆเจียวซิ่นก็ร้องออกมาอย่างแตกตื่นพร้อมกับเซถอยหลังเล็กน้อย แม้จะเป็นเช่นนั้นเขามิปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดตั้งสติเข้ามาประจำการจุดเดิมอย่างทันที
เมื่อมันกลับเข้ามายังแนวป้องกันแล้วใบหน้าของมันเคร่งเครียดขึ้น เพราะการโจมตีที่รุนแรงจนทำให้มันเสียหลักเมื่อครู่นั้นมันช่างน่าแปลกประหลาดยิ่งนัก เพราะมันยังมิเห็นตัวผู้โจมตีมันเลยแม้แต่เงา!
“เป็นอะไร” หลินหยางกล่าวถามด้วยเสียงแหบพร่าท่าทีตกใจกับการโจมตีที่เจียวซิ่นพบเจอ
แฮ่กก~
เจียวซิ่นหอบหายใจหนักหน่วงใบหน้าตื่นตระหนกตกใจ มันเกือบจะตั้งตัวไม่ทันเสียแล้ว โชคดีที่มันได้เห็นรับรู้มาก่อนหน้าจากหมาป่าที่พลาดท่าถูกการโจมตีนี้เข้าไปเสียก่อน จึงเพิ่มความระมัดระวังถึงขีดสุดจนกระทั่งพบเจอกับตัวเอง
“แกพูดถูกมันมิใช่การโจมตีปกติธรรมดา พี่หยางระวังด้วยเมื่อครู่มีบางอย่างโจมตีเข้าใส่โล่ของผมอย่างรุนแรงแต่ผมไม่เห็นแม้แต่ตัวของมันเลยด้วยซ้ำ” เจียวซิ่นกล่าวยืนยันให้แก่มนุษย์หมาป่าผู้พลาดท่า เพราะเขาพึ่งประสบพบเจอกับการโจมตีแบบเดียวกัน
มันรุนแรงจนเขาเกือบจะพลาดท่าเสียการทรงตัว หากมิใช่เพราะเขาตั้งสติเตรียมพร้อมอยู่เสมอคงจะมีชะตากรรมไม่ต่างจากมนุษย์หมาป่าตนนั้น
ตอนที่ 398 ค้างคาวปีกเหล็ก(ตอนจบ)
“!?” หลินหยางเงียบเสียงใช้ความคิดทันที
การโจมตีที่ทำให้เจียวซิ่นเกือบพลาดท่านี้มันสมควรเป็นการโจมตีที่รุนแรงยิ่งนัก แต่ทว่าเหตุใดการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้จึงเป็นปริศนามิเห็นตัวผู้กระทำ
สำหรับค้างคาวระดับสี่นั้นตัดออกไปได้เลยเพราะมันมิได้มีเรี่ยวแรงมหาศาลเพียงนั้น จะว่าเป็นค้างคาวระดับหกก็มิใช่ถึงแม้มันจะมีพลังโจมตีสูงกว่าค้างคาวทั่วไปแต่มันก็คงมิสามารถโจมตีได้รุนแรงถึงเพียงนี้
ยิ่งกว่านั้นการที่ค้างคาวเหล่านี้จะสามารถโจมตีได้รุนแรงสูงสุดนั้นพวกมันต้องการพื้นที่ที่กว้างพอสมควรเพื่อเร่งความเร็วให้ถึงจุดสูงสุดและโจมตีพลีชีพนั่นเอง
แต่ทว่าด้านนอกแนวป้องกันเต็มไปด้วยฝูงค้างคาวเช่นนี้พวกมันย่อมไม่สามารถกระทำเช่นนั้นได้ หากมันทำจริงพวกเขาต้องเห็นตัวพวกมันมาแต่ไกลก่อนที่จะได้เข้าประชิดเสียอีก
“หยุดก่อน” หลินหยางกล่าวหยุดการถอยทัพ
พวกเขาทั้งหมดหยุดตั้งหลักป้องกันอยู่กับที ยิ่งคิดมากเท่าใดยิ่งมิสามารถหาคำตอบจากการโจมตีปริศนานี้ได้ตอนนี้จึงทำได้เพียงเพิ่มการป้องกันพร้อมกับเสาะหาสาเหตุการโจมตีปริศนานี้เท่านั้น
เขาต้องมองเห็นรับรู้การโจมตีเสียก่อนจึงจะสามารถหาทางป้องกันได้
หากยังคงเคลื่อนที่ถอยหลังพร้อมกับป้องกันการโจมตีไปด้วยเช่นนี้ยิ่งมีโอกาศพลาดพลั้งมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการโจมตีที่สามารถกระแทกพวกเขาจนเสียหลักนั้นได้มันช่างน่าเกรงกลัวยิ่งนักหากถูกโจมตียามที่กำลังล่าถอย พวกเขาต้องถูกแรงนั้นผลักส่งเป็นแน่
ฮื่อ~
ฮู่วว~
ชายฉกรรจ์ทั้งหกคนสูดและพ่นลมหายใจเสียงดังความเหน็ดเหนื่อยถาโถมเข้ามาไม่หยุดบางครั้งยามที่ยกแขนกวัดแกว่งอาวุธยังได้ยินเสียงกระดูกขยับเขยื่อน
ได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้นเป็นจังหวะรุนแรงและรวดเร็วกว่ายามปกติ เสียงสรรพสิ่งนอกร่างกายเริ่มเบาบางมิถนัดหู
พวกเขาพึ่งถอยมาได้แค่หนึ่งส่วนสี่เท่านั้น ยังมิถึงครึ่งทางเลยด้วยซ้ำกว่าจะถึงทางออก นี่นับว่าเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่งสำหรับที่นำคนอยู่สกัดค้างคาวปีกเหล็กเพียงห้านาย หากนำคนมาเพิ่มมากกว่านี้คงมิลำบากอย่างที่เป็นอยู่
แต่การต่อสู้ด้วยแผนการตอนนี้มิใช่สิ่งที่พึ่งคิดค้นขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน แต่พวกเขาได้ปรึกษาหารือคิดค้นแผนที่ใช้สำหรับรับมือกับฝูงค้างคาวเอาไว้แล้ว ตอนที่จัดการประชุมของเหล่าผู้นำแต่ละทีมนั่นเอง
แต่ดูแล้วแผนการที่คิดขึ้นมาโดยการรวมมันสมองของผู้นำแต่ละคนประกอบเป็นภาพร่างขึ้นมานั้นจะมิใช่แผนที่ดีเท่าที่ควร
ตอนที่ร่วมกันคิดขึ้นมานั้นแม้แต่เขาเองก็คิดว่ามันเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมเหมาะสมที่จะจัดการกับค้างคาวทั้งฝูงได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริงนั้นกับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง พวกเขาประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไปและให้ค่าตนเองสูงเกินกว่าที่ควรเป็น
มิได้คิดไตร่ตรองถึงความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องเผชิญสำหรับการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ
ตอนนี้พวกเขาทั้งหกนับว่าเสียเปรียบศัตรูยิ่งนัก
แฮ่ก~
หลินหยางหอบหายใจเปลือกตาตกลงเหลือเพียงครึ่งเดียว ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากได้ที่สุดมิใช่กองกำลังเสริมแต่เป็นน้ำ.. คอที่แห้งผากจนรู้สึกแสบของเขาต้องการน้ำเปล่าเพื่อมาดับกระหาย