ตอนที่ 425 เจียนตาย(ตอนแรก)
เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งหมดจ้องมองเทียนหนิงเจี้ยนเป็นตาเดียว
พวกมันแปลกใจไม่น้อยที่พบเห็นเขาในสถานที่นี้ เพราะปกติเทียนหนิงเจี้ยนจะอาศัยอยู่แต่ภายในเมืองแทบมิเดินทางออกไปไหนเลยหากมิได้รับคำสั่งจากหลินหยาง
“ทางนี้ครับ” มีเสียงตะโกนเรียกดังขึ้นมาจากที่พักชั่วคราวมิได้สนใจบรรยากาศที่กำลังเงียบเชียบอยู่เลย
เสียงนั้นมาจากเจียวฮั่นมนุษย์หมาป่าหนุ่มที่ตะโกนเรียกหญิงสาวนางหนึ่ง
ตอนนี้มันมีสีหน้าแตกตื่นยิ่ง
มันไม่ได้สนใจบรรยากาศที่อึมครึมเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้มันกำลังเป็นห่วงพี่ชายที่มันเคารพนับถืออย่างเจียวซิ่นที่ถูกโจมตีจนมีสภาพใกล้ตาย
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใดชีพจรของมันยิ่งเต้นแผ่วบางลงเรื่อยๆ
ใบหน้าเจียวฮั่นตอนนี้คล้ายกับว่ามันจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ
ร่างกายอาบชโลมไปด้วยเม็ดเหงื่อเนื่องจากมันอาสาเสนอตัวเองเพื่อกลับเมืองไปรับหรงเถียนเหยามารักษาเจียวซิ่นด้วยตนเอง
มันคัดเลือกนำเฉพราะมนุษย์หมาป่าจากทีมระยะใกล้ที่มีระดับสูงมากกว่ามันไปทั้งสิ้นมันใช้เวลาเพียงไม่นานก็เดินทางไปถึงเมือง
“หลบไปโว้ย”
“อย่าเกะกะ” มีเสียงมนุษย์หมาป่าดังขึ้นมาเพื่อเบิกหนทางมุ่งไปสู่ที่พักพิงให้เร็วไว
มนุษย์หมาป่าทั้งหลายเองก็เป็นห่วงเจียวซิ่นมิแตกต่างกับมัน พวกมันตะโกนโหวกเหวกเสียงดัง ตอนนี้ฝูงชนถูกแบ่งออกเป็นสองซีกเปิดเส้นทางให้แก่พวกมันทันที
สตรีนางนั้นรีบวิ่งตรงตามเส้นทางที่เปิดอ้าออกทันทีพบเจอเข้ากับเจียวซิ่นที่นอนสิ้นสภาพจะตายมิตายแหล่อยู่ เธอคือหรงเถียนเหยาที่เสี่ยงอันตรายเดินทางออกจากเมืองมาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของมัน
ตอนนี้สภาพร่างกายของเธอมิแตกต่างจากเจียวฮั่นมากไปกว่ากันนัก เธอเองก็วิ่งกลับมาตลอดเส้นทางเช่นกัน เพราะเหตุที่หลินหยางให้คนมานำตัวเธอออกไปจากสถานที่ปลอดภัยเช่นนี้แน่นอนย่อมต้องเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงจนมิสามารถเคลื่อนย้ายร่างผู้บาดเจ็บได้เป็นแน่
เธอจึงวิ่งสุดชีวิตแทบมิหยุดพักเลยทีเดียวนับว่าแตกต่างจากภาพลักษณ์ภายนอกผอมบางร่างน้อยของเธอ
“น-นี่มัน” เธออุทานออกมาเมื่อเห็นสภาพร่างกายของเจียวซิ่น
ยิ่งเมื่อเธอตรวจดูอาการของมันแล้วยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ แม้จะเป็นโลกเดิมที่เธอจากมาหากมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงนี้ถึงจะมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยก็คงไม่สามารถยื้อชีวิตของมันได้ต่อไป
แต่นั่นมิใช่ปัญหาสำหรับเธอแม้จะไม่มีเครื่องมือซักชิ้น เธอคือผู้ครอบครองทักษะการรักษาแม้เจียวซิ่นจะบาดเจ็บมากกว่านี้อีกสิบเท่าขอเพียงมันมิสิ้นใจไปเสียก่อนก็ไม่ใช่ปัญหาเลยที่จะดึงวิญญาณมันกลับมาเข้าร่าง
หากเธอมาถึงช้ากว่านี้อีกหน่อยมิทราบเจียวซิ่นจะสามารถฝืนทนอยู่ต่อได้อีกหรือไม่บางทีมันอาจจะสิ้นใจไปเพราะทนพิษบาดแผลมิไหว อาการบาดเจ็บของมันมิใช่เล็กน้อยเลย
หากในยามนั้นหลินหยางยังให้มันต่อสู้เคียงบ่ากับเขาต่อไปบางทีตอนนี้มันคงจะเหลือเพียงแต่ร่างไร้วิญญาณเป็นผีเฝ้าถ้ำค้างคาวไปแล้วก็เป็นได้
ตอนที่ 426 เจียนตาย(ตอนสอง)
ไม่รอช้าเธอทำหน้าที่ของตนทันทีใช้ทักษะที่มีรักษาให้แก่เจียวซิ่นอย่างรวดเร็ว
นำมือเรียวงามขาวผ่องทั้งสองข้างวางทาบหน้าอกของมนุษย์หมาป่าหนุ่มไม่ช้าฝ่ามือของเธอก็มีแสงสว่างสวยงามแผ่ความอบอุ่นออกมาอาบลงบนร่างกายของเจียวซิ่นตั้งแต่หัวจรดเท้า
กร๊อบ~
เสียงที่น่าหวาดเสียวสยดสยองดังขึ้นมาจากร่างของเจียวซิ่น
เหล่ามนุษย์หมาป่าที่ยืนล้อมมุงดูอยู่ล้วนมีสีหน้าหวาดเสียวสั่นกลัวกับเสียงที่ได้ยิน
แต่มันมิใช่สิ่งเลวร้ายกลับกลายเป็นเรื่องดีเสียมากกว่าเพราะตอนนี้กระดูกซี่โครงของมันที่แตกหักออกจากกันกำลังผสานกลับคืนเข้าที่เดิมอย่างน่าปาฏิหาริย์
เจียวฮั่นไล่มนุษย์หมาป่าตนอื่นออกไปจากที่พักชั่วคราวจนสิ้นเหลือไว้เพียงเจียวฮั่นและหรงเถียนเหยาที่กำลังรักษาบาดแผลให้แก่เจียวซิ่นอยู่
เขามิต้องการให้มนุษย์หมาป่าที่มุงดูเหล่านี้มาเกะกะทำลายสมาธิของแพทย์หญิงที่กำลังจดจ่ออยู่คนนี้
สีหน้าของเจียวซิ่นค่อยๆดูมีชีวิตชีวามากขึ้นความเจ็บปวดจากบาดแผลค่อยๆทุเลาลงทีละเล็กละน้อย
กลับกันหรงเถียนเหยามีสีหน้าย่ำแย่ลงตามลำดับเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนใบหน้าที่เรียบเนียนของเธอ ไม่นานเธอก็ดึงมือกลับมาพลางหอบหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย
แม้จะมิใช่ทักษะสายต่อสู้แต่มันการสูบกำลังของเธอมิด้อยไปกว่าทักษะระดับสูงเลย
ยิ่งใช้ต่อเนื่องนานมากเท่าใดทักษะดังกล่าวเสมือนหลุมดำที่ดูดกลืนเรี่ยวแรงของเธอหายไป ทดแทนมาด้วยร่างกายที่อ่อนล้าราวกับวิ่งติดต่อกันหลายกิโลมิได้หยุดพัก
มิผิดมากนักเพราะเธอเองก็พึ่งมานับสิบกิโลนั่นแลเมื่อมาถึงเธอยังมิได้นั่งพักจิบน้ำแม้เพียงอึกเดียว เร่งรีบรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่มนุษย์หมาป่าหนุ่มเสียก่อน
แค่ก~
เจียวซิ่นเริ่มรู้สึกตัวจากการสลบไสลบ้างแล้วแต่มันทำได้เพียงส่งเสียงในลำคอเท่านั้นยังมิสามารถสื่อสารกับใครได้
สภาพของมันตอนนี้จะยังดูย่ำแย่หาใดเปรียบ มันพ่นเลือดสีดำออกมากองโตไหลอาบแก้มทั้งซ้ายขวาของมันเอง
“!?” เจียวฮั่นดวงตาเบิกโพลงปกติกับเลือดกองโตนั้นหันไปมองหน้าหรงเถียนเหยาด้วยความสับสน
ก่อนทีมันจะได้ปริปากเอ่ยถาม เธอก็ไขข้อข้องใจให้แก่มันเสียก่อนแล้ว
“น-นั่นมันเลือดที่คั่งอยู่ในปอดของเขา” หรงเถียนเหยากล่าวขึ้นน้ำเสียงสั่นเครือสีหน้าซีดขาวใบหน้าพยายืมฝืนยิ้ม เมื่อเธอเห็นใบหน้าตกใจของเจียวฮั่นจึงอธิบายเกี่ยวกับการรักษาให้แก่มันทราบเพื่อมิให้มันตีตนไปก่อนไข้
เมื่อมันได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของมันยิ้มแย้มกระดี้กระด้าขึ้นทันตาเห็น
‘หืม?’ ตอนนั้นเองเธอพบว่ามีบางอย่างแปลกๆกับร่างของเจียวซิ่นที่นอนซมอยู่ ตอนนี้เธอคุกเข่าทั้งสองข้างลงข้างกายของมัน
ทว่าเมื่อเธอได้รักษามันไปนั้นก็พบว่าขาทั้งสองข้างของเธอนั้นกำลังเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวบางอย่าง มันคือเลือดนั่นเอง
เลือดที่ดูจะออกมามากจนเกินไปมันไหลอาบเอ่อนองทั่วร่างของเจียวซิ่นย้อมผืนหญ้าเขียวขจีรอบตัวมันจนเป็นสีแดงฉาน