ตอนที่ 43 ตลบหลัง
หน้าทางเข้าเมือง หลินหยางและคนของมันต่างกระจายตัวแนบหลังไว้กับต้นไม้ทั้งซ้ายและขวาประกบทางเข้า ในมือถือเถาวัลย์อันยาวร่วมสองเมตรที่มัดต่อกันสร้างขึ้นมาเฉพาะกิจสดๆร้อนๆ
“ล่อมันออกมา ลุมฆ่าทีละตัวให้ความสำคัญกับชีวิตของตนเองไว้” หลินหยางบอกทีมของเขาและส่งสัญญาณให้เริ่มการโจมตี
“ว้ากกกกก” จิ่นเหอวิ่งเข้าไปตะโกนโวยวายและรีบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขิน
คั่กๆๆ
ก็อบลินเห็นมนุษย์ยืนกระโดดโลดเต้นพวกมันหัวเราะยกใหญ่และวิ่งตามออกมา
เมื่อพวกมันเข้าใกล้ประตูหลินหยางให้สัญญาณ คนที่ขนาบทั้งสองด้านขึงเถาวัลย์ที่ตำแหน่งข้อเท้าขึ้นทันทีก็อบลินราวห้าตัวที่วิ่งนำมามันมิได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่น้อย ขาพวกมันเกี่ยวเถาวัลย์ล้มกลิ้งทันทีพวกเขาไม่ปล่อยให้โอกาศหลุดลอยไปปลิดชีวิตพวกมันทันควัน เมื่อพวกเขาจัดการเสร็จเรียบร้อยก็หลบข้างกำแพงดังเดิม
ก็อบลินกว่าสิบห้าตัวที่ตามมาด้านหลังเห็นพวกของมันถูกฆ่าต่อหน้าและคนที่ฆ่าพวกมันกลับแอบอยู่ที่เดิม
แม้พวกมันจะสติปัญญาต่ำแต่ก็มิได้โง่เง่าจนมิรู้ความ พวกมันไม่วิ่งต่อแต่ค่อยๆย่องเข้าไปเป็นกลุ่ม
พอถึงข้างกำแพงพวกมันเตรียมง้างมือเพื่อทุบหัวเหล่ามนุษย์ที่มันเห็น แต่เมื่อพวกมันโผล่ออกไปเตรียมจะสังหาร ข้างเมืองกลับว่างเปล่าไม่มีมนุษย์อยู่แม้แต่คนเดียว
ทันใดนั้นเอง
เหล่ามนุษย์ที่พวกมันคิดว่าอยู่ข้างเมืองกลับกระโดดลงมาด้านหลังพวกมันและปลิดชีวิตพวกมันไปกว่าแปดตัว
เมื่อพวกเขาฆ่ากลุ่มแรกได้ พวกเขาก็ทำทีแอบข้างกำแพงเพื่อให้พวกมันตายใจแท้จริงแล้วกลับปีนป่ายขึ้นต้นไม้และรอคอยพวกมันเข้ามาเพื่อตลบหลังเป็นแผนการลอบสังหารชั้นเยี่ยมเหมาะสำหรับสัตว์ประหลาดโง่งมเป็นที่สุด
เมื่อก็อบลินที่มักโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยจำนวนเป็นจุดเด่น แต่เมื่อขาดกำลังพลมันก็กลายเป็นข้อด้อย ก็อบลินที่เหลือถูกรุมสะกำยำเละเพียงอึดใจเดียวก็สิ้นชีวี
‘คุณฆ๋าก็อบลินระดับ 4 ห้าตัว’
‘คุณฆ่าก็อบลินระดับ 5 สามตัว’
‘ยินดีด้วยคุณเลื่อนถึงระดับ 10 สำเร็จแล้ว ได้รับแต้มค่าสถานะเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’
‘เนื่องจากการเลื่อนถึงระดับ 10 ท่านสามารถเพิ่มระดับทักษะได้ 1 ระดับ’
“เพิ่มระดับทักษะ?” หลินหยางสงสัยกับข้อความแปลกใหม่
ชื่อ หลินหยาง เผ่า มนุษย์
ระดับ 10
สถานะ
พลัง 1
ป้องกัน 1
ความเร็ว 1.7
วิญญาณ 1.1
ค่าสถานะที่เพิ่มได้ 0.1
ทักษะ หลอมไฟ ระดับ 1 5/10
ราชสีห์คำราม ระดับ 2 2/10
ดวงตาเหยี่ยว ระดับ 3 3/10
ค่าทักษะที่เพิ่มได้ 1
‘มีระดับทักษะจากการเพิ่มถึงระดับ 10 หนึ่งแต้ม’
มีข้อความแปลกตาปรากฏในหน้าต่างค่าสถานะของหลินหยาง ก่อนอื่นชายหนุ่มจัดแจงตามความเข้าใจของตนเคลียร์แต้มค่าสถานะและทักษะที่พึ่งได้รับมาโดยเพิ่มหนึ่งแต้มค่าสถานะลงไปพี่พลังวิญญาณและอีกหนึ่งค่าทักษะสำหรับทักษะราชสีห์คำรามและแล้วก็มาถึงฉนวนแห่งความสงสัยที่ยังคงเหลืออยู่
‘อืม…’ หลินหยางครุ่นคิดก่อนจะทดลองเพ่งสมาธิมุ่งความนึกคิดใช้แต้มปริศนาไปยังทักษะราชสีห์คำราม
‘ทักษะราชสีห์คำรามระดับ 2 ได้รับการเลื่อนเป็นระดับ 3 เรียบร้อยแล้ว ท่านได้รับค่าสถานะพิเศษทุกการเลื่อนขั้นทักษะนี้จะได้รับค่าพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นหนึ่งจุด’
“ห๊ะ” หลินหยางตกใจเร่งรีบย้อนกลับไปดูหน้าต่างค่าสถานะไล่จากบนลงล่างอีกคราว
ชื่อ หลินหยาง เผ่า มนุษย์
ระดับ 10
สถานะ
พลัง 1
ป้องกัน 1
ความเร็ว 1.7
วิญญาณ 1.4 (0.2เพิ่มขึ้น)
ค่าสถานะที่เพิ่มได้ —
ทักษะ หลอมไฟ ระดับ 1 5/10
ราชสีห์คำราม ระดับ 3 3/10
ดวงตาเหยี่ยว ระดับ 3 3/10
ค่าทักษะที่เพิ่มได้ —
ปรากฏว่าทักษะราชสีห์คำรามจากเดิมที่มีระดับสองขั้นที่สามกลับกลายเป็นระดับสามไปเสียดื้อๆพร้อมกับค่าพลังวิญญาณพิเศษที่ได้รับมาฟรีๆถึงสองจุด….ซึ่งนั่นทำให้มุมปากของหลินหยางฉีกกว้างยิ้มจนถึงหูโดยที่มิรู้ตัว
ตอนที่ 44 สำรวจ
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง หลินหยางก็รวบรวมเหรียญเงินที่ตกอยู่ข้างๆศพของเหล่าก็อบลิน แต่มันก็มีเพียงแต่เหรียญเงินเท่านั้นไร้วี่แววของหนังสือทักษะ
“ฝังร่างของมนุษย์พวกนี้ ส่วนก็อบลินเผาร่างพวกมันซะ” เดิมทีชายหนุ่มก็อยากจะเอาร่างก็อบลินพวกนี้ไปเป็นอาหารอยู่หรอก ทว่า..สรีระร่างกายที่ดูเหมือนมนุษย์นี้คงไม่น่ารับประทานเสียเท่าไหร่
“รับทราบ!!” หลังสิ้นเสียงคำสั่งหลินหยางคนของเขาก็ตอบกลับทันที
หลินหยางเดินเข้าไปดูภายในเมือง
ด้านในมีแต่ร่างของเด็กและคนชรากลิ่นคาวเลือดเตะจมูก มิทราบก่อนจะสิ้นชีวีพวกเขาจะหวาดกลัวมากเพียงใด
เขาอดรู้สึกโศกเศร้าไม่ได้เมื่อเห็นสภาพร่างกายที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น
“พ-พี่ชาย ฮือๆ” ทันใดนั้นเองมีเสียงเด็กคนหนึ่งดังขึ้นมา
หลินหยางมองหาต้นเสียงพบเจอร่างเด็กคนนั้นอยู่ด้านบนของต้นไม้ คาดว่าตอนที่ก็อบลินบุกมาเขาคงจะหลบอยู่บนนี้แต่แรก พวกก็อบลินจึงมิได้สังเกตุเห็น
“ลงมาเถอะ” หลินหยางยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ฮือๆ” หลินหยางมองเด็กคนนี้ที่ยังคงร้องไห้มิหยุด เขาคงจะหวาดกลัวมิน้อยแต่เขาก็เข้มแข็งเช่นกันที่สามารถแอบอยู่ได้จนที่หลินหยางมาพบเจอ
“หนูน้อยชื่ออะไรหรอ” หลินหยางยิ้มถาม
“ผ-ผมชื่อซานอี้ ฮึก” เด็กชายตอบพลางเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้า
หลังจากสอบถามกับซานอี้ก็ไม่ผิดจากที่หลินหยางคิดไว้นัก
พวกเขามาถึงที่แห่งนี้เมื่อสามวันก่อนซึ่งทุกอย่างก็ยังเป็นเรื่องแปลกใหม่เหนือจินตนาการ ขวบจนถึงเมื่อวานมีเสียงประหลาดบอกว่าจะมีก็อบลินบุก แต่ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นจึงมิได้สนใจนัก เมื่อถึงเวลาที่เสียงประหลาดแจ้งเตือนก็มีก็อบลินกว่าสามสิบตัวบุกมาจริงๆ พวกเขาจึงสู้ทั้งที่ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไรเลยเหล่าคนหนุ่มฆ่าพวกก็อบลินไปได้กว่าสิบตัวแต่พวกเขาก็พ่ายแพ้แก่พวกมันอยู่ดี
“หลิวไห่พาเขากลับเมืองบอกให้เทียนหนิงเจี้ยนหาที่พักให้เขา” หลินหยางกล่าวกับหลิวไห่
ซึ่งตอนนี้หลิวไห่หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากซานอี้เขากำลังยืนน้ำตาซึม แม้ร่างกายเขาจะกำยำแข็งแรงแต่จิตใจเขาช่างไม่เหมือนกับรูปลักษณ์เสียเลย
หลินหยางและทีมที่เหลือช่วยกันขุดหลุมเพื่อฝังร่างมนุษย์ที่โชคร้ายเหล่านี้ กว่าจะเสร็จสิ้นเวลาก็ล่วงเลยมาถึงตอนเย็น พวกเขาจึงเดินทางกลับเมืองมิได้สำรวจต่อไป
เมืองหลินหยาง
“หลิวเจี่ยพรุ้งนี้คุณพาทีมก่อสร้างไปตัดต้นไม้จากเมืองของซานอี้มาให้หมด พวกเราจำเป็นต้องใช้มัน” หลินหยางกล่าวกับหลิวเจี่ยหัวหน้าทีมก่อสร้าง
“ครับ” เขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว
วันนี้หลินหยางส่งทีมสำรวจออกไปสามทีมรวมทั้งทีมของเขา เมื่อพวกเขากลับมาทั้งหมดก็มารายงานต่อหลินหยาง พวกเขาไม่เจออะไรเลย มีแต่เมืองใหม่ๆเต็มไปหมดไร้วี่แววของแหล่งอาหารและน้ำ เมื่อได้ฟังดังนั้นหลินหยางเรียกเทียนหนิงเจี้ยนเข้ามาพบและให้ทีมสำรวจแต่ละทีมบอกเส้นทางและตำแหน่งที่พวกเขาได้เดินทางผ่าน เขาต้องการทำแผนที่ขึ้นมานั่นเอง ถือเป็นผลประโยชน์พ่วงจากการสำรวจล่ะนะ
วันรุ่งขึ้นหลินหยางก็ส่งทีมสำรวจออกไปสามทีมเช่นเดิม ซึ่งเขาก็ร่วมเดินทางเหมือนเคย
หลินหยางมาทางเดิมที่เมื่อวานได้ผ่านมาแล้วเนื่องเพราะพวกเขายังไปไม่สุดเส้นทาง กำลังมุ่งหน้าไปที่เมืองของซานอี้โดยที่มีทีมก่อสร้างติดตามมาด้วยทั้งสิบหกคนหลินหยางต้องพาพวกเขาไปเมืองของซานอี้เพื่อให้ตัดต้นไม้
“เมืองนี้แหละ หากทำเสร็จแล้วก็กลับไปได้เลย” หลินหยางกล่าวกับหลิวเจี่ย
“ครับ” ทีมก่อสร้างตอบกลับและเริ่มตัดต้นไม้กันทันที
หลินหยางและทีมสำรวจก็แยกตัวออกเดินทางตามกำหนดการเดิม