ตอนที่ 459 หนักใจ
“หากไม่อยากตายก็เลิกสนใจสิ่งอื่นเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับหน้าที่ของตนซะ ความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความตาย!” เทียนหนิงเจี้ยนกล่าวทิ้งทวนตอนนี้มันต้องรีบปิดบัญชีค้างคาวพวกนี้ให้ไวที่สุดเพื่อมิให้เกิดข้อผิดพลาด
มันไม่ต้องการให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นอีก หากชายผู้เคาะห์ร้ายคนนั้นเสียชีวิตในขณะที่มันเป็นผู้บัญชาการแทนหลินหยางชั่วคราวนี้ แน่นอนความรับผิดชอบต้องตกอยู่ที่มันเป็นแน่
“ได้ยินแล้วใช่ไหมเลิกว่อกแว่กแล้วทำงานของตนซะ” จิ่นเหอตะโกนก้อง ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบงันตอนนี้จิตใจของเหล่าพลทหารมีความหวาดกลัวเข้ามาแทรก
ไฟแห่งการต่อสู้ของพวกมันลดน้อยถอยลงไป จิ่นเหอจึงตะเบ็งเสียงเรียกสติให้แก่พวกมันแม้จะได้เพียงเล็กน้อยก็เถิด
มันเองก็ตกใจอยู่มิน้อยที่ได้รับคำสั่งแปลกใหม่ให้กลุ่มของมันทำงานทดแทนกลุ่มอื่น
เทียนหนิงเจี้ยนผู้นี้ไม่ได้ไถ่ถามความเห็นของมันเสียเลยก่อนจะตัดสินใจลงไปเช่นนี้ แต่เมื่อคิดถึงภาพรวมมันก็ทำได้เพียงส่ายหัวยอมรับคำสั่งอย่างจนใจ
เหล่าทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมที่ยืนจับถือแผงตาข่ายรอคอยคิวของตนอยู่มีอาการสับสน
ท้ายสุดพวกมันก็ทำตามแต่โดยดี ตอนนี้พวกมันนำแผงตาข่ายวางซ้อนกันอยู่บนพื้นหน้าปากถ้ำ และรวมตัวกันเป็นวงกลมตามคำสั่งของเทียนหนิงเจี้ยน ส่วนบนของศรีษะของพวกมันตั้งโล่เหล็กป้องกันเอาเกือบมิดเหลือช่องไว้เพียงพอต่อการมองเห็น
ช่องว่างระหว่างโล่เหล็กนั้นห่างกันมิถึงคืบ ช่องเหล่านั้นมีดาบและหอกยื่นออกมา บางช่องก็มีปลายลูกศรยื่นมาจากหน้าไม้
ตอนนี้พวกเขาตั้งขบวนป้องกันเกือบเต็มยศเลยก็ว่าได้
คนนับร้อยที่รวมตัวกันเป็นวงกลมพร้อมกับสร้างแนวป้องกันจนมิดนี้เมื่อดูจากภายนอกช่างดูแข็งแกร่งดังป้อมปราการมนุษย์ที่มิสามารถตีฝ่าได้ก็มิปาน
ชายฉกรรจ์จากทีมก่อสร้างล้วนมีสีหน้าสดใสขึ้นมาบ้าง
พวกมันที่รักตัวกลัวตายอยู่แล้ว ยามที่เห็นร่างผู้บาดเจ็บทำให้ขวัญแทบกระเจิงหาย
ส่วนตอนนี้มันมิต้องกังวลอีกต่อไปว่าจะตกเป็นเป้าหมายกลายเป็นผู้เคาะห์ร้ายรายที่สอง
เพราะบัดนี้ร่างกายของพวกมันหลบซ่อนอยู่ภายในแนวป้องกันอันแข็งแกร่ง มิต้องเอาร่างกายของตนไปเสี่ยงเป็นเป้าล่อลวงสายตาของค้างคาวปีกเหล็กอีกต่อไป
หลิวไห่และกลุ่มของมันเดินแยกตัวออกมายืนจับกลุ่มกันอยู่ด้านหลังมนุษย์หมาป่าทั้งสองของทีมจิ่นเหอ
กลุ่มของหลิวไห่ทั้งสามคนที่เดินตามมามันมานั้นมีอาการคอตกใบหน้าหม่อนหมองเล็กน้อย เพราะบัดนี้เทียนหนิงเจี้ยนตั้งใจจะใช้เพียงแค่กลุ่มของจิ่นเหอและหลิวไห่เพื่อดำเนินตามแผนการเพียงสองกลุ่มเท่านั้น ทั้งที่แต่เดิมวางไว้สำหรับคนนับร้อย!
นั่นแสดงว่าพวกมันทั้งแปดคนต้องทำงานคนอื่นๆจนกว่าค้างคาวภายในถ้ำจะหมดไป พ
วกมันมิได้บ้าเลือดดั่งหลิวไห่ จึงมิยินดีปรีดาที่จะเป็นตัวหลักของแผนการที่พึ่งคิดขึ้นมาอย่างฉุกละหุกนี้เท่าใด
แต่ถึงกระนั้นพวกมันทั้งสามก็มิสามารถปฏิเสธได้อยู่ดีเพราะศักดิ์ศรีที่สั่งสมมามันค้ำคออยู่นั่นเอง
หากตอนนี้มันเห็นสีหน้าของอีกสามชีวิตจากกลุ่มของจิ่นเหอ พวกมันทั้งหกคนคงกอดคอกันนั่งปรับทุกข์กันเป็นแน่ เพราะสีหน้าของพวกมันก็มิต่างจากกันมากเท่าใดนัก…
ตอนที่ 460 ผ่อนปรน
ณ บนหอสังเกตุการณ์
เทียนหนิงเจี้ยนใช้สายตามองดูผู้คนเบื้องล่างพลางฉีกยิ้มที่วาจาเอ่ยของมันมีอำนาจมากพอจะให้เหล่าชายฉกรรจ์ทำตามโดยมิบ่ายเบียง
มันเองก็มิได้คิดเลยว่าฝ่ายที่ออกมาจากถ้ำแห่งนี้ก่อนนั้นจะเป็นฝูงค้างคาวแทนที่จะเป็นกลุ่มของหลินหยางและมนุษย์หมาป่าทั้งห้า
สถานการณ์จึงกลับตาลปัตรกลายเป็นฝ่ายพวกมันเสียเองที่พลาดท่าเสียทีให้แก่สัตว์เดรัจฉาน เพราะการนั้นจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
แผนการที่พวกมันได้วางเอาไว้นับว่าแทบจะล่มสลายลงไปในพริบตา เพราะบัดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากค้างคาวไปแล้วหนึ่งราย
ซึ่งบาดแผลของมันนั้น เกินคำว่าสาหัสไปมากโขมันกำลังจะกลายเป็นคนพิการที่เหลือแขนเพียงข้างเดียวเท่านั้น
“พี่เทียน เจ้านั่นเป็นยังบ้าง?” หลิวเจี่ยหัวหน้าทีมก่อสร้างกล่าวถามด้วยความเป็นห่วง
อย่างใดก็ตามชายผู้เคาะห์ร้ายรายนั้นก็เป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของมัน โชคชะตาช่างเล่นตลกกับมันเสียยิ่งนัก
การตบเท้าออกจากเมืองของมันให้คราก่อนเข้าห้ำหั่นกับออร์คตัวยักษ์ก็มีสมาชิกทีมก่อสร้างผู้โชคร้ายถูกออร์คตัวดังกล่าวปลิดชีพลงอย่างน่าเศร้า
ในยามนี้มันนำพาทีมของตนเข้าร่วมศึกต่อกรกับค้างคาวปีกเหล็กยังมิทันไรก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของศัตรูแล้ว ซ้ำร้ายยังเป็นการบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
“เดี๋ยวเดียวมันก็หาย” เทียนหนิงเจี้ยนตอบกลับพลางฉีกยิ้ม เพราะบัดนี้แพทย์หัตเทวดากำลังรักษาให้แก่มันอยู่ นั่นคือหรงเถียนเหยา
เธอถูกรบกวนจากเทียนหนิงเจี้ยนปลุกตื่นจากการสลบไสล แม้พลังวังชาจะกลับมายังมิถึงครึ่ง แต่มิใช่ปัญหาที่จะใช้ทักษะที่ตนมีรักษาให้ชายผู้เคาะห์ร้ายหายจากการเจ็บปวดจากทักษะโลหิตคลั่งของค้างคาว
ส่วนบาดแผลใหญ่ที่เกิดขึ้นกับแขนของมันนั้นเขาเองก็มิทราบชะตากรรมของมันเช่นกันว่าจะสามารถหายขาดกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้หรือไม่..
ณ ปากถ้ำ
“ฮึ่มม~” จิ่นเหอส่งเสียงในลำคอบัดนี้แขนทั้งสองข้างของมันมีเส้นเลือดปูดโปนแทรกระหว่างกล้ามเนื้อขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
มันกำลังสู้แรงกับค้างคาวที่ติดอยู่ภายในตาข่ายแผงนี้ กะด้วยสายตาคงมีไม่ต่ำกว่าห้าสิบตัวเป็นแน่และด้วยจำนวนนี้จึงมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าครึ่งตัน
พวกมันล้วนกระพือปีกออกแรงดันตาข่ายทั้งแผงหวังจะหลุดออกไปให้จงได้
ค้างคาวร่วมห้าสิบตัวกำลังสู้แรงกับมนุษย์ทั้งสองคนอยู่อย่างไม่ลดละ พวกมันทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจตุงตาข่ายจนสุดความยืดหยุ่น
หากเถาวัลย์ที่นำมาร้อยเรียงกันมิเหนียวแน่นแข็งแรงพอ คงจะขาดเป็นเสี่ยงๆไปแล้วเป็นแน่
แกร๊งง~
ตูมม~
ทันใดนั้นเองมีเสียงการปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้น มองไปยังจิ่นเหอเขามีสีหน้าผ่อนคลายลงบ้างเล็กน้อย แขนที่เกร็งจนกล้ามเนื้อแทบจะปริแตกนั้นผ่อนปรนกำลังลง
ตึงง~
ทุกคราที่มีเสียงดังกล่าวเกิดขึ้น จิ่นเหอจะผ่อนกำลังลงเล็กน้อยให้กล้ามเนื้อของตนมิเกร็งจนเกินไป
เสียงที่ดังขึ้นมานี้มันมาจากมนุษย์หมาป่าทั้งสองตนในกลุ่มของมันนั่นเอง พวกมันทั้งสองกำลังทำบางอย่างตามหน้าที่ของตน