ตอนที่ 463 สับเปลี่ยน
การรวมทีมกันระหว่างมนุษย์และหมาป่าจึงเกิดขึ้นมา การใช้หมาป่าสองตนในการสะกัดกั้นมิให้ค้างคาวได้รวมฝูงกันนี้นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่พวกเขามีในตอนนี้ พวกมันนั้นมิได้เพิ่มสถานะไปที่พละกำลังเลยแม้เพียงนิด
ด้วยเหตุนี้การโจมตีที่มิเป้าหมายเพียงแค่ให้ค้างคาวสลบหมดสติสิ้นฤทธิ์หรือเพียงแค่บาดเจ็บ ด้วยกำลังแต่ดั้งเดิมที่พวกมันมีนั้นก็นับว่ากำลังพอเหมาะพอดีเลยทีเดียว มิได้รุนแรงหรือบางเบาจนเกินไป
แกร๊ง~
ตูมม~
มนุษย์หมาป่าทั้งสองตนคอยใช้โล่เหล็กทุบใส่แผงตาข่ายไม่หยุดยั้ง จำนวนของค้างคาวปีกเหล็กนั้นมีลดบ้างเพิ่มบ้างเป็นครั้งคราว
บางส่วนของพวกมันเมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงตีปีกบินกลับหนีหายเข้าไปในถ้ำ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อย ยังคงมีค้างคาวตัวใหม่โผล่ออกมาอยู่เรื่อยๆเข้ามาเติมพื้นที่ภายในตาข่ายจนตอนนี้ใกล้จะแออัดเบียดเสียดกันเต็มที
ดูแล้วมีจำนวนไม่ต่ำกว่าแปดสิบตัวเป็นแน่ และส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งนั้นกองอยู่บนพื้นไม่รู้สึกตัวไร้สตินอนแน่นิ่ง
บางตัวตะเกียกตะกายปีนป่ายร่างกายของพวกพ้องดิ้นไปมาพยายามจะกางปีกบินอีกครา แต่มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่จะสามารถดีดตัวออกจากพื้นดินกลับขึ้นมาบนอากาศได้อีก เพราะร่างกายของพวกมันบาดเจ็บจากการกระแทกจากโล่เหล็กไม่มากก็น้อย
“เตรียมตัว” หลิวไห่กล่าวพลางตั้งท่าเตรียมพร้อมมันโน้มตัวลงต่ำคล้ายกับกำลังจะออกตัววิ่ง
ในมือของมันทั้งสี่ถือตาข่ายเอาไว้คนละมุมตระเตรียมเริ่มแผนการที่พวกมันเคยทำสำเร็จกันมาแล้ว ตอนนี้ทั้งสี่ยืนประจัญหน้ากับค้างคาวที่ถูกกักขังอยู่ในผืนตาข่ายของกลุ่มจิ่นเหอ
ตอนนี้ค้างคาวที่กลุ่มจิ่นเหอจับกุมไปนั้นใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว อีกไม่นานก็จะถึงคิวกลุ่มของพวกมันที่ต้องสลับสับเปลี่ยนทำหน้าที่ของตน
จิ่นเหอมองดูค้างคาวที่อยู่ภายในตาข่ายมันมีสีหน้าพึงพอใจ แต่ตอนนี้คงถึงเวลาที่พวกมันต้องจบงานนี้เสียที เพราะมันเริ่มมิสามารถทนรับน้ำหนักจับตาข่ายเอาไว้ได้อีก
มันเองก็ต้องเผื่อน้ำหนักเอาไว้ยามที่ต้องรวบรวมปิดผนึกค้างคาวพวกนี้ด้วยเช่นกัน มันมิได้บ้าพลังดังเช่นหลิวไห่จึงจะสามารถรวบค้างคาวออกมาจากถ้ำได้มากกว่าร้อยตัวหรือก็คือมีน้ำหนักเกินหนึ่งตัน
หากมันฝืนทำเกินกำลังของตนไปแม้ตัวมันจะทนได้ แต่มนุษย์อีกหนึ่งที่ทำงานคู่กับมันนั้นไม่แน่อาจจะสิ้นแรงไปเสียก่อนและหากมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นจริงๆ ค้างคาวเกือบร้อยตัวที่ถูกจับกุมอยู่ภายในตาข่ายผืนนี้ก็จะได้รับอิสระเสรีโบยบินขึ้นไปบนฟากฟ้ารวมกำลังกับพักพวกระดมโจมตีพวกเขาจนสิ้นท่าเป็นแน่
“นายพร้อมหรือยัง?” จิ่นเหอกล่าวถามหลิวไห่และกลุ่มของมัน
“…” เขามิทันได้รอรับคำตอบเพราะดูจากสีหน้าของมันที่แสยะยิ้มอย่างกับรอคอยเวลาอีกต่อไปมิไหวก็พอจะทราบความต้องการของมันแล้ว
‘หึหึ’ หลิวไห่ส่งเสียงน่าขนลุกบางเบาในลำคอ
ทรวงอกของมันพองขึ้นจนแทบระเบิดและยุบลงอย่างรวดเร็ว มันกำลังหายใจฟืดฟาด แสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย มันแทบจะอดทนรอถึงคิวของตนเองมิไหว
ตัดกันสีหน้าของมนุษย์และหมาป่าอีกสามชีวิตที่ยืนอยู่เคียงข้างซ้ายขวา พวกมันล้วนมีใบหน้าผะอืดผะอมกลืนมิได้คายมิออก…
ตอนที่ 464 ปวดร้าว
จิ่นเหอพยักหน้าให้แก่มนุษย์อีกหนึ่งนายทันที
ฟุบบ~
พวกมันทั้งสองหลังจากนัดแนะให้สัญญาณกันเสร็จสรรพ
มิรอช้าพวกมันเหนี่ยวรั้งมุมตาข่ายทั้งถูกยึดติดกับปากถ้ำเข้าหาตัวรวบมันลงบนพื้นดินทันที
ตอนนี้ตาข่ายผืนดังกล่าวถูกรวบจากทั้งสี่มุมจากมนุษย์สองคน ทำให้สภาพของตาข่ายผืนดังกล่าวคล้ายกับวงรีที่จุดศูนย์กลางนูนเด่นออกมาด้วยค้างคาวเกือบร้อยตัวนั่นเอง
เห็นดังนั้นหลิวไห่และกลุ่มของมันมิรีรอออกตัววิ่งทันที
เมื่อถึงตาข่ายวงรีที่กองอยู่บนพื้นซึ่งบรรจุไปด้วยค้างคาวปีกเหล็ก พวกมันทั้งสี่กระโดดข้ามตาข่ายผืนดังกล่าวไปมุ่งเข้าสู่ปากถ้ำโดยพลัน
ฟุ่บบ~
ในยามที่กลุ่มของหลิวไห่บุกเข้าไปภายในถ้ำนั้น มีค้างคาวปีกเหล็กระดับสี่กว่าห้าตัวสวนออกมาจากปากถ้ำ
ตูมม~
ตุบบ~
สองในห้าถูกโล่เหล็กกระแทกเข้าใส่จากมนุษย์หมาป่าทั้งสองตนที่ยืนประจำการอยู่ พวกมันทั้งสองสามารถโจมตีค้างคาวปีกเหล็กไปได้เพียงแค่สองตัวเท่านั้น
ส่วนอีกสามตัวสามารถหลุดรอดผ่านร่างของพวกมันไปได้และกางปีกโบยบินเป็นอิสระขึ้นไปบนฟากฟ้ารวมกลุ่มกับค้างคาวเกือบสองร้อยตัวที่รอคอยอยู่ก่อนแล้ว
มนุษย์หมาป่าทั้งสองตนส่ายหัวอย่างจนปัญญา
พวกมันหลุดออกมาเยอะเกินไป ลำพังทั้งสองตนย่อมมิสามารถจัดการพวกมันได้ทันท่วงที นี่คือหน่วงช่วงเวลาช่องโหว่ที่จะเกิดขึ้นในยามที่พวกเขาสลับสับเปลี่ยนกลุ่มกันนั่นเอง
ซึ่งจะมีเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวสำหรับกลุ่มที่รับหน้าที่จับกุมค้างคาวอยู่ด้านนอกถ้ำ
กลุ่มของจิ่นเหอมิสนใจค้างคาวที่หลุดออกมา
มนุย์หมาป่าทั้งสองตนเก็บอาวุธเข้าไปช่วยจัดระเบียบของตาข่ายที่ดักจับศัตรูได้จนอวบอ้วน
พวกมันทั้งสี่รวบแต่มุมเข้าหากันและมัดตอกฝาโรงมิให้สัตว์ประหลาดภายในสามารถออกมาได้อีกเป็นครั้งที่สอง พร้อมกับลากมันไปรวบเอาไว้กับผลงานจากกลุ่มของหลิวไห่
——————————————————————–
สถานที่แห่งหนึ่งในถ้ำค้างคาว
‘อืออ’ หลินหยางสลึมสลือลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
‘หือ?’ เขาหันมองซ้ายขวาด้วยความสับสนงงงวย
ตอนนี้ดวงตาเขาเบิกออกเต็มที่แล้วแต่ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็มิต่างจากดวงตาที่มืดบอดปิดสนิท มันมีแต่ความมืดมิดเท่านั้นที่เขามองเห็น
หลังจากใช้เวลาชั่วครู่ในการตรวจสอบสภาพแวดล้อม พบว่าบัดนี้ตนเองกำลังนอนแน่นิ่งหมดสภาพอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งที่มีความหนาวเหน็บเสียดแทงจนร่างกายสั่นสะท้าน ทั้งความอับชื้นในชั้นบรรยากาศคล้ายกับพึ่งผ่านพายุฝนกระหน่ำมาหมาดๆ
เขาพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่งยังมิทันได้ยกร่างขึ้นเขาก็หงายหลังล้มลงดังเดิม
กึดด~
ทันใดนั้นเองฟันทั้งบนและล่างของเขากระทบประกบกันแน่น
คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันเป็นปม หน้าผากย่นเป็นคลื่น
จู่ๆความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้าหาจนรับรู้ถึงความปวดร้าวของข้อต่อระหว่างกระดูก กล้ามเนื้อกระตุกเกร็งแน่นกระชับปวดระบม วิงเวียงศรีษะปวดตื้อ
มิรับรู้สิ่งใดนอกจากความเจ็บปวดของร่างกายที่แสดงออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันราวกับต้อนรับเขาที่ตื่นฟื้นขึ้นมาจากการสลบไสล