ตอนที่ 599 รุก(ตอนสอง)
ทางด้านหลินหยางใบหน้าของเขายิ่งมายิ่งมืดมน ตอนนี้เขานึกเสียใจอย่างยิ่งที่ตนมิได้ทุ่มเทค่าสถานะทั้งไปยังความเร็วเพื่อใช้สำหรับการหนีจากสถานการณ์นี้ไปโดยเฉพาะ
ชายหนุ่มเบี่ยงปลายเท้าออกด้านข้างเพื่อตระเตรียมท่วงท่าทางหนีทีไล่ได้อย่างสะดวกมากขึ้น ปัดความคิดต่างทิ้งไปไม่ใยดี ขณะที่ร่างกายถูกกดดันจากพลังอำนาจที่เหนือกว่า ไม่ว่าวิชาใดแผนการรับมือไหนก็มิสามารถคิดค้นขึ้นมาได้ทัน
ครึก~
หลังจากยืนมองรูปการณ์อยู่นานในที่สุดเจ้าปีศาจก็ก้าวขาเดินเข้าประชิดตัวหลินหยางอีกครา และเป็นปกติที่ชายหนุ่มจะไม่รีรอให้มันสามารถเข้าใกล้ตนได้ เขาเร่งรีบถอยล่นอีกหนึ่งก้าวพยายามรักษะระยะห่างอย่างคงที่เอาไว้เพื่อมิให้ศัตรูคลาดสายตาไปจากตน
ทว่าครั้งนี้แวมไพร์ปีศาจมิได้หยุดอยู่แค่นั้น มันสาวเท้าต่ออย่างฉับพลันโดยที่หลินหยางยังมิทันได้ทรงตัวจากการถอยหลังเมื่อครู่เลยเสียด้วยซ้ำ ผลลัพธ์ก็คือร่างของมันห่างจากตัวเขามิถึงหนึ่งศอก ระดับความสูงที่ใกล้เคียงกับส่งผลให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวแถมระยะยังใกล้เคียงอย่างยิ่ง เห็นแม้กระทั่งรายละเอียดยิบย่อยบนใบหน้าของอีกฝ่าย
หลินหยางดวงตาเบิกโพลงตกใจที่ศัตรูตนนี้เข้าประชิดตัวเขาอย่างฉับพลัน เร่งรีบส่งแรงไปยังปลายเท้าถีบพื้นกระโดดถอยห่างไปอย่างแตกตื่น
รอยยิ้มอย่างชั่วร้ายบนใบหน้าของแวมไพร์ปีศาจกลับยิ่งฉีกกว้างมากขึ้นเมื่อมันเห็นสีหน้าที่แสดงออกจากเหยื่อของตน มันย่อตัวลงหนึ่งคราแผ่แขนทั้งสองข้างออกขนานลำตัว กางนิ้วมือทั้งห้าจากทั้งสองมือกลายสภาพคล้ายกับกรงเล็บ
บัดนี้มันมิหยุดเป็นเป้านิ่งอีกต่อไป มันเดินตรงดิ่งเข้าหาเหยื่อของตนอย่างต่อเนื่องทีละก้าวทีละก้าว ค่อยเพิ่มความเร็วขึ้นทีละเล็กละน้อย ระยะห่างระหว่างทั้งสองค่อยลดอย่างต่อเนื่อง
หลินหยางที่เคลื่อนที่ถอยหลังนั้นแน่นอนย่อมต้องเสียเปรียบในจังหวะจากความไม่สะดวกและคล่องตัว เชื่องช้ากว่าการเดินไปข้างหน้าอย่างแน่นอน แต่เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามอยู่ในครรลองสายตาเขาจึงจำต้องยอมเป็นต่อ
มิฉะนั้นหากเขาหันตัววิ่งเมื่อไหร่ นอกจากเขาจะมีตาหลังเช่นนั้นเขาย่อมไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของมันได้
เมื่อมันเข้าใกล้เกินกว่าครึ่งเมตรเมื่อใด เขาจักใช้แรงกระโดดเพื่อถอยห่างออกมา พยายามมิให้มันเข้ามาเกินกว่าระยะเหล่านี้
แต่เพียงไม่ถึงสิบก้าวยิ่งมายิ่งน่าเป็นห่วง ดูเหมือนเจ้าปีศาจจะเร่งความเร็วมากยิ่งขึ้น จนตอนนี้เสมือนว่ามันกำลังเดินเร็วอยู่ เท้าทั้งสองข้างของมันสลับกันจนเกินเสียงลม
ฟวับ~
ทันใดนั้นเองมีเสียงฉีกมวลอากาศเกิดขึ้นเมื่อในยามที่มันย่นระยะห่างเข้ามาใกล้จนเหลือเพียงครึ่งเมตร จู่ๆปีศาจแวมไพร์ก็ใช้กรงเล็บของตนตวัดอากาศในแนวขวางฟันเข้าใส่หน้าท้องของหลินหยางอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 600 รุก(ตอนสาม)
การโจมตีดังกล่าวไม่สามารถหลุดรอดสายตาของชายหนุ่มที่เพ่งสมาธิทั้งหมดมองทุกการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามได้ ทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงกรงเล็บดังกล่าวไปได้อย่างหวุดหวิด
แต่ทว่าการโจมตีของมันคราวนี้รวดเร็วกว่าครั้งก่อนมากนัก เรียกได้ว่าอาจจะเร็วเทียบเท่ากับความเร็วสูงสุดของเขาหรือมากกว่าเขาเสียอีก!
“!” หัวใจแทบจะตกลงลงยังไปปลายเท้า
เขาตกใจจนแทบหยุดหายใจไปชั่วขณะ ความเร็วของมันเป็นที่แน่ชัดว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าตัวเขาที่มากกว่ามนุษย์ทั่วไปเกินสองเท่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่มีใครคนใดจากผู้เริ่มต้นที่จะสามารถรับมือกับมันได้อย่างแน่นอน
ฟุบบบ~
ยังมิทันได้ทรงตัวยืนให้มั่นคง จู่ๆแขนอีกข้างของเจ้าปีศาจก็คว้าหมับเข้าคงช่วงลำคอของหลินหยาง แต่เป็นโชคร้ายของมันที่ชายหนุ่มอยู่ในช่วงโอนเอนร่างกายจากการกระโดดถอยหลัง ทำให้การโจมตีของมันคว้าได้แต่อากาศอีกครั้ง
หลินหยางรีบเร่งถอยเว้นระยะห่างทันที ตอนนี้มือเท้าเขาสั่นระทมเนื่องเพราะพึ่งผ่านพ้นการโจมตีถึงตายมาถึงสองครั้งสองครา
แหมะ~
ทว่า…เมื่อมองไปยังกรงเล็บของเจ้าปีศาจทำให้หลินหยางจำต้องยกแขนขึ้นมากุมลูบคลำลำคอของตนเองด้วยความแตกตื่นเพราะระหว่างปลายเล็บของแต่ละนิ้วของมันมีของเหลวไหลอาบย้อยลงตามแรงโน้มถ่วงตกกระทบลงบนพื้น มันเป็นอย่างอื่นไปมิได้นอกจากเลือด!
เมื่อมือของเขาสัมผัสลำคอของตนบริเวณคอหอยก็พบว่ามีเส้นผ่าเป็นบาดแผลเกิดขึ้น โดยมีบาดแผลที่รุนแรงที่สุดนั้นมีความลึกเกือบหนึ่งข้อนิ้วมือและมีความยาวราวสองถึงสามเซนติเมตร ยังโชคดีบาดแผลดังกล่าวมิเจาะเข้าไปถึงคอหอยมิโดนเหล่าเส้นเลือดที่สำคัญทั้งหลายแหล่
จากจำนวนนิ้วมือทั้งห้าที่สร้างเป็นกรงเล็บของเจ้าปีศาจ มีเพียงสามนิ้วเท่านั้นที่เอื้อมถึงลำคอของเขาและสามารถสร้างบาดแผลให้แก่ตนได้ บาดที่อีกสองแห่งนั้นมิได้ลึกดั่งเช่นบาดแผลแรกเท่าใดจึงมิน่าเป็นห่วงนัก
ทว่าแม้มิถูกอวัยวะสำคัญแต่ความเจ็บปวดเองก็สร้างความเสียหายให้แก่หลินหยางเช่นกัน
ทั้งเลือดที่เกิดจากบาดแผลเหล่านี้ก็นับได้ว่าฉกาจฉกรรจ์อยู่ไม่น้อย หากเขาไม่หาวิธีห้ามเลือดละก็แม้บาดแผลจะไม่หนักหนาสาหัสแต่ร่างกายของเขาก็ยังต้องเสียเลือดที่เป็นส่วนสำคัญของร่างกายออกไปเรื่อยๆ ยิ่งนานเข้าเท่าใดสติสัมปชัญญะของเขาจะถูกบั่นทอนลดลงทีละนิดตามเลือดที่เสียไป
หลินหยางใช้มือข้างซ้ายที่ถืออาวุธกระดูกอยู่และมีอาการบาดเจ็บจากกระดูกที่แตกหักมันจึงไม่สามารถสร้างประโยชน์ใดได้อีกสำหรับการต่อสู้ แต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะมีที่ให้มือข้างดังกล่าวใช้สอยได้แล้ว
เขาใช้หลังมือข้างนี้ทาบทับติดกับบาดแผลตรงลำคอของตนเอาไว้จนแน่นเพื่อห้ามเลือดมิให้ไหลออกมามากเกินไป ส่วนหนึ่งก็เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดจากบาดแผลนั่นแล
แวมไพร์ปีศาจยกมือของตนขึ้นมาจ้องมองในระดับสายตา เมื่อมันเห็นของเหลวที่แดงสดไหลรินตามนิ้วมือของตน มุมปากของมันก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอย่างน่าขนลุก ริมฝีปากล่างและบนของมันค่อยเผยอห่างออกจากกันพร้อมกับศรีษะของมันโง้มเข้าใกล้หาฝ่ามือตนเอง
แพลบบ~
จู่ๆมันก็แลบลินยาวออกมาตวัดเลียโลหิตของหลินหยางหนึ่งคราก่อนที่มันจะยืนนิ่งส่งเสียงฮึมฮัมพร้อมกับสีหน้าที่สับเปลี่ยนไปมาอย่างต่อเนื่อง เดี๋ยวแปลกใจระคนยินดี คล้ายกับว่ามันกำลังลิ้มลองรสชาติอาหารจานใหม่และดูเหมือนจะเป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับมันอีกด้วย