เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 602

หลินหยางยังมิลืมการป้องกันอันแข็งแกร่งของศัตรูตนนี้ แม้แต่ปลายแหลมของดาบสั้นยังมิระคายผิวของมัน การโจมตีธรรมดาทั่วไปคงมิสามารถสร้างรอยขีดข่วนให้แก่มันได้

 

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นอย่างไรมันก็ยังเป็นสิ่งมีชีวิตใช้เลือดเนื้อหล่อเลี้ยงดำรงอยู่ แม้จะยังไม่เคยเห็นเหงื่อของมันสักเม็ดเลือดของมันสักหยด แต่เมื่อมันยังมีความหิวโหยรับประทานเนื้อมนุษย์เป็นอาหาร ฉะนั้นก็สามารถยืนยันได้แล้วว่ามันมิได้เป็นอมตะ

 

การป้องกันที่มันมีอาจเป็นเพียงชั่วคราวหรือเพียงบางจุดดั่งเช่นกอลิล่าที่มีแผงขนเป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติก็เป็นได้

 

ชายหนุ่มจำต้องคิดเข้าข้างตนเองเอาไว้ส่วนหนึ่งเพื่อเสริมความมั่นใจมิเชิดชูศัตรูจนอาจเอื้อม ไม่ว่าพลังป้องกันมันจะแข็งแกร่งกว่านี้อีกกี่เท่าความต้องการของเขาก็ยังเป็นเฉกเช่นเดิม เป้าหมายหลักอย่างใดก็คือการพิชิตชัยถ้ำแห่งนี้

 

มองไปยังมือซ้าย แม้ในมือข้างนี้จะมีอาวุธอยู่ก็ตามแต่ ทว่ามันแทบไม่มีส่วนร่วมในการต่อสู้ใดๆด้วยอาการบาดเจ็บที่มันได้รับมาก่อนหน้านี้ หน้าที่หลักของมือข้างนี้คือคอยซับเช็ดคราบเลือดที่ไหลออกจากลำคอของตน

 

ส่วนอาวุธกระดูกสันหลังของมนุษย์ที่ถืออยู่หรือ… อาวุธชิ้นนี้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง แม้แต่เหล็กยังทิ่มแทงเนื้อหนังของศัตรูมิเข้าแล้วกระดูกมนุษย์บอบบางมีหรือจะมีอานุภาพเหนือไปกว่าได้

 

‘หากเป็นมือข้างซ้ายเพียงข้างเดียวแล้วมิสามารถสร้างประโยชน์ได้ ถ้าอย่างนั้นเหตุใดมิใช้สองมือดูเล่า?…’ นี้คือความคิดที่แทรกเข้ามาในสมองของหลินหยาง

 

มิจำเป็นต้องคิดไตร่ตรอง ชายหนุ่มโยนกระดูกสันหลังมนุษย์ทิ้งไปข้างกายใช้มือซ้ายที่มีบาดแผลฉกรรจ์กุมจับมือขวาของตนเอาไว้ บัดนี้เขาใช้ทั้งสองมือสำหรับดาบสั้นเพียงเล่มเดียว

 

ฟวับ~

 

เจ้าปีศาจยังมิหยุดรุกคืบมันกวาดกรงเล็บวนซ้ายตะครุบขวาไม่เลิกรา

 

หลินหยางหรี่ดวงตาเล็กคอยจดจ้องการโจมตีจากเบื้องหน้าไม่วางตา ผ่อนคลายจิตใจและกล้ามเนื้อยกเว้นเพียงมือทั้งสองที่กุมด้ามดาบแน่น บางคราก็ก้มหลบ บ้างก็เอี้ยวตัว ร่างกายโอนอ่อนเลี่ยงการโจมตี

 

วูบ~

อีกครั้งกับกรงเล็บจากแนวขวางหมายขย่ำศรีษะของชายหนุ่ม เรียกเสียงลมฉีกอากาศผ่านใบหน้าศัตรูมันเพียงคืบ

 

“ฮึ่ม!” สิ้นการโจมตี ศัตรูยังมิทันได้ดึงมือกลับ หลินหยางพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ไม่รีรอให้ร่างกายตนสมดุลจากการเบี่ยงตัวหลบ เขาลดศรีษะตนลงฮวบฮาบจนอยู่ในระดับเดียวกันบริเวณช่วงเอวหน้าท้อง

สองเท้าหลินหยางบัดนี้มิได้ติดอยู่กับผืนดินแล้วร่างกายของเขาล่องรอยกลางอากาศมียึดติดกับส่วนใดของถ้ำ

สองเท้าออกแรงถีบส่งร่างผู้เป็นนายกระโจนเข้าหาปีศาจตรงหน้า สองมือกุมดาบส่งส่วนปลายชี้ขึ้นในแนวเฉียงโดยมีเป้าหมายคือทรวงอกของศัตรูตน

ใบดาบค่อยเรืองสีส่องแสงสีแดงขึ้น ปลายคมเคลื่อนเข้าหาร่างปีศาจแวมไพร์ใกล้เข้าทีละคืบ

 

แวมไพร์ปีศาจแสดงสีหน้าแตกตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัดผิดกับสีหน้าที่แสดงออกก่อนหน้าริบลับ แขนทั้งสองข้างของมันยังแข็งค้างอยู่ตรงอากาศว่างเปล่าเบื้องหน้า ส่วนศรีษะของมันก้มลงมองร่างชายหนุ่มที่พุ่งกระโจนร่างเข้าหามันจากเบื้องล่าง ดวงตาของมันยิ่งมายิ่งเบิกโพรงโตแทบถลน

 

มันเร่งดึงแขนของตนกลับทว่าแม้จะมีความเร็วมากกว่านี้อีกสองเท่าก็ไร้ประโยชน์ บัดนี้ปลายดาบห่างจากหน้าอกของมันไม่ถึงหนึ่งคืบ!

 

ฟุบ~

ฉวัะะ~

 

เกิดเสียงจากการกระทำของมันทั้งสอง

เสียงแรกเกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็วของพวกมันทั้งสองซึ่งส่วนใหญ่มาจากหลินหยางที่ก้มต่ำกระโจนเข้าศัตรูอย่างรวดเร็ว ส่วนเสียงที่ตามมาทีหลังนั้นคล้ายกับบางอย่างฉีกขาดซึ่งที่มาของเสียงมันมาจากร่างกายของเจ้าแวมไพร์และต้นตอที่ทำให้เกิดเสียงนี้ก็คือดาบสั้นที่อยู่ในมือหลินหยาง!!!

 

“!” หลินหยางตกใจกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝัน

 

ทั้งสองแขนยืดจนตึงแทงดาบออกไปจนสุดกำลังไม่เก็บออมไว้แม้แต่น้อย ใบหน้าของเขาห่างจากทรวงอกของแวมไพร์ปีศาจราวหนึ่งศอกทำให้เขาสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ตนเป็นผู้กระทำได้อย่างใกล้ชิดเต็มตา

 

เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่บนตัวของแวมไพร์ปีศาจถูกใบดาบแทงทะลุฉีกขาดสร้างรอยยาวเกือบหนึ่งคืบ ภายใต้อาภรณ์ผืนบางมีของเหลวสีดำอาบชโลมซึ่งเป็นอย่างอื่นไปมิได้นอกจากเลือดของมัน นั่นเท่ากับว่าบาดสั้นของเขาสามารถสร้างบาดแผลให้แก่มันได้!!

 

แต่บาดแผลที่เกิดขึ้นหาได้เกิดจากการแทงของดาบไม่ หลินหยางยังเห็นใบดาบสั้นทั้งเล่มอยู่ในครรลองสายตา นั่นแสดงว่าดาบของเขามิได้แทงทะลุเนื้อหนังปักร่างมันเข้าไปทั้งเล่มอย่างที่หวัง แต่เป็นเพียงคมดาบที่เฉี่ยวผิวหนังไปมันไปส่วนหนึ่งเท่านั้น เมื่อผิวหนังของมันถูกคมดาบถากไปเช่นนี้จึงไม่นับว่าเป็นบาดแผลฉกรรจ์อันใด

 

แม้ผลลัพธ์จะมิเป็นดังที่หวัง ทว่าบนใบหน้าหลินหยางกลับมีรอยยิ้มยกมุมปากอย่างตื่นเต้นยินดีเพราะตอนนี้เขาสามารถฝากรอยแผลสร้างความเจ็บปวดให้แก่ศัตรูตนได้แล้ว!!

 

การกระทำอย่างฉับพลันเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววิโดยอาศัยจังหวะที่เจ้าแวมไพร์ปีศาจยังมิทันได้ไหวตัวตั้งรับ มันยังคงหลงระเริงกับการโจมตีต่อเนื่องของตนเองโดยมันมิได้นึกคิดเลยว่าลูกแกะตัวน้อยที่ตกเป็นฝ่ายรับอยู่ฝ่ายเดียวจะหันคมดาบโจมตีกลับอย่างฉับพลัน มันจึงมิสามารถตั้งตัวติดดึงมือกลับมาตั้งรับได้ทันท่วงที

 

มันมิปล่อยให้ดาบปลายแหลมแทงทะลุร่างตนได้โดยไม่ปัดป้อง แม้ไม่สามารถดึงมือกลับมาป้องกันได้ทันเวลา แต่ร่างกายของมันเองก็เบี่ยงเอียงตัวไปด้านข้างเปลี่ยนมุมองศาหลบจุดปะทะของปลายดาบเช่นกัน มันจึงสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์จากการแทงของชายหนุ่มกลายเป็นบาดแผลถากเฉี่ยวไปเท่านั้น

 

ฮื่อ~

 

เจ้าแวมไพร์ส่งเสียงในลำคอคล้ายเสียงขู่คำรามของสัตว์ดุร้าย ดวงตาถลนปูดโปน ใบหน้าของมันบัดนี้บูดเบี้ยวเต็มที มันเบี่ยงหมุนตัวเสริมจากเดิมจนทำให้ปลายดาบที่ทิ่มอยู่บนผิวหนังหลุดออกไป บัดนี้ลำตัวของมันหันเข้ากำแพงถ้ำใช้สีข้างทางด้านซ้ายเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม

 

มันม้วนแขนซ้ายกลับมาโดยเปลี่ยนจุดประสงค์ แต่เดิมตั้งใจจะวกแขนกลับมาป้องกันการโจมตีของศัตรู แต่มันสายไปเสียแล้วเพราะคมดาบของศัตรูสร้างบาดแผลให้แก่มันเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้เป้าหมายที่มันม้วนแขนกลับหาใช่เพื่อป้องกันแต่เพราะต้องการโจมตี!

 

มันเกร็งข้อนิ้วทุกนิ้วสร้างเป็นกรงเล็บอาวุธประจำกายโง้มเข้าหาร่างกายตนเองบริเวณช่วงอก ตรงจุดนั้นคือศรีษะของหลินหยาง!

 

หลินหยางมิรอให้มันได้ทำได้ดังหวัง เมื่อแวมไพร์ขยับร่างเบี่ยงลำตัวผลักดาบสั้นที่ทิ่มเนื้อของมันออกไปรวมทั้งท่อนแขนของเขาก็ถูกร่างกายของมันกระแทกไปอีกฝั่ง ชายหนุ่มเองก็มิได้อยู่นิ่งเฉยแม้จะไม่มีดวงตาด้านหลังแต่ก็พอคาดเดาการกระทำของมันได้

 

เขาย่อลำตัวก้มศรีษะลดระดับความสูงตนเหลือเพียงครึ่งลำตัวของแวมไพร์ กระชับดาบสั้นในมือเพิ่มแรงให้แก่มือทั้งสองข้างใช้ออกสุดกำลังด้วยทักษะหลอมไฟหมุนเปลี่ยนมุมของใบดาบจากแนวตั้งกลายเป็นแนวขวางและฟันมันในระนาบเดียวกันนั่นคือทรวงอกของมัน!

ฟืดด~

 

ใบดาบกรีดผ่านทรวงอกฝั่งซ้ายมายังสีข้างลากยาวไร้การต่อต้าน

 

แกร๊ก~

จู่ๆเกิดเสียงแปลกประหลาดคล้ายโลหะกระทบกันพร้อมกับดาบสั้นที่ถือจับด้วยมือทั้งสองข้างของหลินหยางกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่เสียอย่างนั้น

 

“!?” หลินหยางตกใจระคนสงสัย เรี่ยวแรงที่ใส่ลงไปในการโจมตีคือพละกำลังสูงสุดที่ตนมี แต่เหตุใดใบดาบจึงติดอยู่ราวกับว่ากำลังถูกบางอย่างขวางกั้นไม่สามารถคืบหน้าไปต่อได้

 

“ฮ๊าา!!” ชายหนุ่มกู่ร้องคำราม มิย่อท้อเคี้ยวเข็นเร้นแรงกายพลังแฝงออกแรงบีบด้ามจับจนสุดกลั้นกล้ามแขนนูนเด่นเป็นสง่าเส้นเลือดโปนแทบปริแตก ออกแรงเสริมหมายจะกรีดใบดาบฟันร่างศัตรูให้เหวอะหวะสร้างบาดแผลฉกรรจ์

 

กึก~

 

ด้วยแรงเฮือกสุดกำลังของหลินหยางหาได้สร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างจากเดิมไม่ ใบดาบคมกริมเสริมด้วยความร้อนจากทักษะหลอมไฟกลับไม่สามารถฉีกกระชากฝ่าผิวหนังมันไปต่อ ดาบสั้นภายในมือสั่นเทารวมถึงแขนทั้งสองข้างเองก็สั่นเป็นเจ้าเข้าด้วยการออกแรงสูงสุด

 

อนึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเองกรงเล็บอันคมกริบก็คืบเข้าใกล้ตนจากด้านหลัง หลินหยางมิรอยคอยให้มันเข้ามาปะทะกับศรีษะอันอ่อนนุ่มไร้การห่อหุ้มไม่มีเกราะป้องกันเป็นแน่ เขาตัดใจจากการโจมตีทอดถอนคมดาบออกจากเนื้อหนังศัตรู ม้วนศรีษะก้มลอดใต้วงแขนของแวมไพร์ไปอย่างรวดเร็ว

 

ฟุ่บ~

 

กรงเล็บของแวมไพร์คว้าอากาศว่างเปล่าแต่มันหาได้หยุดมือไม่ มันสร้างการโจมตีต่อเนื่องใช้กรงเล็บข้างเดิมบิดเปลี่ยนมุมยืดออกคว้าไปด้านซ้ายของตนอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายก็คงใบหน้าของชายหนุ่มที่เอี่ยวตัวหลบลอดวงแขนมันไปเมื่อครู่

 

หลินหยางเสียหลักจากการหลบหลีกการโจมตีในคราแรกร่างกายเซถลาเข้าหาผนังถ้ำ เมื่อได้ยินเสียงฉีกกระชากฝ่าอากาศจากการออกกระบวนท่าของศัตรู ชายหนุ่มมิเสียเวลาทรงตัวใช้ขาข้างหนึ่งถีบยันผนังถ้ำกระโดดถอยไปด้านหลัง ทำให้การโจมตีของศัตรูพลาดเป้าไปอย่างหวุดหวิด

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset