เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 604

สิ่งที่อยู่ในมือของหลินหยางก็คือร่างของค้างคาวปีกเหล็กระดับสี่ เสียงร้องของมันอ่อนแรงไร้กำลังอย่างยิ่งคล้ายกับใกล้สิ้นชีวีเต็มที สิ่งที่ถูกเขวี้ยงใส่ใบหน้าของแวมไพร์ในคราแรกก็คือร่างของค้างคาวปีกเหล็กเช่นกัน แต่ในครานั้นแตกต่างจากตอนนี้เล็กน้อยเนื่องจากคราแรกมันเป็นซากร่างค้างคาวปีกเหล็กที่สิ้นชีวิตไปแล้ว

 

แต่ที่อยู่ในมือของหลินหยางบัดนี้มันยังมีชีวิตไม่สิ้นลม แต่ก็คงอีกไม่นานสักเท่าไหร่สำหรับเวลาไปเยี่ยมยมบาลของค้างคาวปีกเหล็กตัวนี้ เพราะมันอ่อนล้าใกล้ตายเต็มที มิทราบมันรอดชีวิตมาได้เยี่ยงไร ทั้งที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ โชคดีแค่ไหนที่มันไม่ถูกฝูงเท้าเหยียบย่ำจนตายไปเสียก่อน

 

เขาโยนมันขึ้นบนอากาศสองถึงสามคราเพื่อความคุ้นมือราวกับค้างคาวปีกเหล็กตัวนี้คือลูกบอล

 

ในความโชคดียังมีโชคร้าย…เพราะตอนนี้มันกำลังจะเป็นกระสุนค้างคาวลูกใหม่ให้หลินหยางขว้างปา!!

 

หลินหยางเงื้อง้างแขนไปด้านหลังพร้อมกับก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าวหมุนสะบัดแขนปลดปล่อยร่างค้างคาวปีกเหล็กพุ่งตรงในแนวนอนดิ่งมุ่งเข้าหาศัตรู!

 

ฟิ้ว~

 

เจ้าแวมไพร์แม้จะพยายามหลบเลี่ยงมากเท่าใดก็มิสามารถหลบพ้นได้หมดจด มันเบี่ยงตัวหลบเข้าหาผนังถ้ำอีกด้านแต่มีหรือร่างกายของมันจะรวดเร็วไปกว่าร่างลูกสมุนที่ถูกเขวี้ยงมาด้วยความเร็ว

 

ปั่ก~

 

ร่างของค้างคาวปีกเหล็กถูกเขวี้ยงด้วยความรวดเร็วสูงสุดพุ่งผ่านอากาศเบื้องหน้าราวกับกระสุนปืนใหญ่ กระแทกเข้าใส่ร่างกายของผู้นำตนเองอย่างแวมไพร์ปีศาจอย่างรุนแรง

 

‘คุณฆ่าค้างคาวปีกเหล็กระดับ 4 หนึ่งร้อยสามสิบเอ็ดตัว’

 

และแล้วค้างคาวปีกเหล็กที่น่าสงสารก็ตกตายไปอย่างอนาถด้วยแรงปะทะที่หนักหน่วงรุนแรงเกินร่างกายจะทานทน

 

แวมไพร์ใบหน้าโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุดหลักจากเห็นการกระทำของหลินหยาง

 

“ฮ่าๆ” หลินหยางเปร่งเสียงหัวเราะร่าอย่างสะใจ เขามิหยุดมือควานหาเศษซากร่างค้างคาวที่บางร่างเละเทะไม่ครบสามสิบสอง บางครั้งก็เจอกับชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ เขาไม่ปล่อยให้พวกมันกลายเป็นสิ่งของไร้ประโยชน์ ชายหนุ่มเขวี้ยงปาพวกมันใส่แวมไพร์ปีศาจอย่างสนุกมือ พร้อมกับตีฝีปากด่ากราดเยาะเย้ยหรือหัวเราะดูถูกศัตรูของตนอย่างโหดร้าย

 

แวมไพร์ปีศาจแม้ไม่เข้าใจภาษาคำกล่าวของศัตรูใจเหี้ยมตรงหน้า แต่มันก็พอทราบว่าวาจาที่ชายหนุ่มเปล่งออกมาเหล่านี้ย่อมไม่ใช่คำชมเสนาะหูอย่างแน่นอน

 

ผิวกายที่ขาวซีดของมันยิ่งมายิ่งมีสีสัน คล้ายกับมีเลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยง ใบหน้าของมันแดงก่ำไม่ทราบเป็นเพราะความโกรธแค้นเดือดดาลถึงขีดสุดหรือเป็นเลือดจากลูกบอลที่หลินหยางปาใส่มันไม่หยุดหย่อนกันแน่

 

ตูม~

 

“ค๊าา~” จู่ๆแวมไพร์ปีศาจก็มิอยู่นิ่งเฉยอีกต่อไป มันกระทืบเท้าเสียงดังพร้อมกับกางแขนทั้งสองข้างขนาบร่างกายซ้ายขวา ย่อตัวลงต่ำตั้งท่าเตรียมโจมตี

 

ฟุบ~

 

หลินหยางตื่นตกใจขีดสุดรีบทิ้งเศษซากสิ่งของในมือ ชูดาบสั้นขึ้นกึ่งกลางลำตัวตั้งท่าอย่างมั่นคงในพริบตา

 

ชายหนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดรอคอยอย่างจดจ่อ ทั้งสองตั้งท่าพร้อมกับใช้สายตาดุจดั่งเหยี่ยวจ้องมองอีกฝ่ายไม่ลดละไม่อ่อนข้อให้กันเลยแม้แต่น้อย

 

‘เข้ามาสิ เข้ามาเลย!!’ ในใจหลินหยางลอบนึกคิด สิ่งที่เขารอคอยมาแสนนานผ่านการกระทำยั่วยุศัตรูกำลังจะได้รับการตอบรับแล้ว

 

ทว่า…

 

“คิ๊คิคิ” แวมไพร์ปีศาจหาได้โจมตีมาดั่งที่หวังไม่ มันหุบแขนกลับแนบลำตัวยืนตรงพร้อมกับส่งเสียงคล้ายหัวเราะเยาะสีหน้าสนุกสนาน

 

มันไม่โจมตี!!

 

หลินหยางยืดตัวกลับสู่สภาวะปกติด้วยใบหน้ามืดหม่น

 

“ไอ้เวรนี่!” หลินหยางสบถอย่างแค้นเคือง เขาเผลอปล่อยไก่ตัวโตไปเสียแล้ว เจ้าแวมไพร์ตัวนี้มันมิได้มีเจตนาโจมตีตั้งแต่แรก เพียงแค่กลั่นแกล้งทำให้ชายหนุ่มเป็นตัวตลก!

 

ตูม~

ยังมิทันสิ้นคำกล่าวจู่ๆแวมไพร์ตนนี้ก็กระทืบเท้าตั้งท่าอีกครา ส่งผลให้หลินหยางแตกตื่นไม่รอช้าวางท่าเตรียมตั้งรับทันท่วงที

 

“คิ๊คิคิคิ๊” ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นตามมา นอกจากมุมปากของแวมไพร์ฉีกกว้างแยกฟันหัวเราะร่า

 

สีหน้าท่าทางของมันพึงพอใจอย่างยิ่ง เสียงหัวร่อดังต่อเนื่องไม่หยุด มือทั้งสองปรบตีกันชอบใจอย่างสนุกสนาน ยิ่งเห็นปฏิกิริยาของชายหนุ่มมันยิ่งหัวเราะดังขึ้นไปอีก

 

บัดนี้กลายเป็นเขาเสียเองที่ถูกมันปั่นหัว

 

หลินหยางขมวดคิ้วเคร่งเครียด ตอนนี้เขาอยากจะเข้าไปสับไอแวมไพร์วิปริตตรงหน้าเป็นหมื่นๆชิ้นยิ่งนัก ทันใดนั้นเองสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนมีรอยยิ้มขึ้นมุมปาก เนื่องตัวเขานึกคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้

 

ตุบ~

 

“คิ๊!!” แวมไพร์ปีศาจสะดุ้งโหยงแตกตื่นอย่างยิ่งกับเสียงแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ไม่นานมันก็พบว่าเป็นหลินหยางที่กระทืบเท้าหยอกล้อมัน!

 

ใบหน้าของมันที่พึ่งหัวเราะสนุกสนานชอบใจเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความมืดหม่นค่นแค้น ที่ถูกสวนกลับด้วยการกระทำของตนเอง มันยืนตัวกลับมองตอบชายหนุ่มด้วยความเดือดดาล

 

“ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มไม่ยอมน้อยหน้าตะเบ็งเสียงหัวเราะกลบเสียงของมันจนสิ้น

 

ตุบ~

 

ขณะที่กำลังหัวเราะอย่างสบายใจอยู่นั่นเอง ใบหน้าแปรเปลี่ยนจริงจังฉับพลันพร้อมกับขาหนึ่งข้างก้าวไปข้างหน้ากระทืบลงบนพื้นเสียงดัง ส่งผลให้เจ้าแวมไพร์พึ่งผ่อนคลายได้มินานกลับมาสะดุ้งตกใจอีกคราตั้งท่าเตรียมรับมือ ทว่าเป็นการตั้งท่ารอเก้อไม่ได้รับการตอบสนองจากมนุษย์หนุ่ม เพราะไม่นานก็มีเสียงหัวเราะของหลินหยางตามมา

 

“คิ๊” มันส่งเสียงพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำกลับมาผ่อนคลายร่างกายอีกครา

 

ตุบ~

 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเดิมดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับเท้าหนึ่งข้างของหลินหยางที่ก้าวคืบกระทืบพื้นถ้ำอย่างหนักหน่วงรุนแรง

 

ครานี้กลับเป็นแวมไพร์ปีศาจที่มีรอยยิ้มประดับมุมปากมันแยกเขี้ยวคล้ายกำลังจะหัวเราะ ใช้สายตาดูถูกมองหลินหยางที่ใช้แผนการเดิมซ้ำซากแถมยังใช้ออกถี่จนเกินไป ผิดกับมันที่หยอกล้อเป็นจังหวะจึงได้ผล ในครั้งนี้มันจึงมิได้หลงกลการข่มขู่ของชายหนุ่ม มันเตรียมหัวร่อเยาะการกระทำอันโง่เขลา

 

ทว่า…เพียงเสี้ยววินาทีต่อมาใบหน้าของมันก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นแตกตื่นถึงขีดสุดเมื่อมนุษย์ตรงหน้าหาได้หยุดการเคลื่อนไหวไว้เพียงกระทืบเท้าไม่!!

 

เขาก้าวเท้าสืบต่อออกแรงบีบด้ามดาบภายในมือพร้อมกับแทงมันออกไปสุดแรง!

 

ฟุ่บ~

ฉั๊วะ~

 

ปลายดาบพุ่งตรงดิ่งเข้าหาหน้าท้องแวมไพร์แทงทะลุผิวหนังจนมิดด้าม!!

ฟวับ~

 

ไม่รอคอยปฏิกิริยาตอบโต้ของอีกฝ่าย หลินหยางเบี่ยงวิถีดาบเพิ่มกำลังดันข้อมือไปทางด้านขวาฟันเป็นแนวนอนกรีดหน้าท้องมันเป็นบาดแผลขนาดใหญ่ยาวลึก

 

กึก~

 

ปลายดาบถูกหยุดด้วยเกราะป้องกันปริศนาอีกครั้งบริเวณสีข้างเอวของมัน หลินหยางมิดื้อรั้นดึงดาบกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับดีดตัวกระโดดถอยหลังห่างออกจากร่างของแวมไพร์สร้างระยะปลอดภัยดังเดิม

 

เจ้าแวมไพร์มันพลาดท่าเสียแล้ว

 

“ค๊าา” แวมไพร์ร้องเสียงดังแสดงออกถึงความเจ็บปวดจากบาดแผลที่พึ่งได้รับ ด้วยการคาดการณ์ผิดพลาดมิคิดฝันว่ามนุษย์ตรงหน้ามิได้หยอกล้อดั่งสองคราก่อนหน้า ทำให้ตัวมันมิทันตั้งตัวปล่อยปละละเลยทิ้งการป้องกันเผยช่องว่างให้ชายหนุ่มสามารถโจมตีได้ถนัดถัดถี่บรรจงเสียบดาบเข้าใส่ร่างกายของมันจนมิดด้าม

 

“ฮ่าๆๆ” หลินหยางระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่น การลอบโจมตีในครั้งนี้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเกิดคาดเดา นี่คือการโจมตีที่พึ่งคิดขึ้นอย่างฉุกลหุก กระทั่งตัวเขาเองยังมิมั่นใจถึงสิบส่วน แต่ใครจะคาดคิดว่าเจ้าแวมไพร์โง่เง่าตนนี้จะชะล่าใจมากถึงเพียงนี้

 

เสียงหัวร่อหลินหยางมิได้เบาเลย แต่ดูเหมือนแวมไพร์ตนนี้จะหาได้สนใจเสียงเยาะเย้ยนั้นไม่ มันคอตกใช้มือลูบไร้บาดแผลฉกรรจ์บนหน้าท้องของตน บาดแผลนี้ความลึกของมันยากหยั่งถึง มันถูกแทงเข้าจนสุดตัวดาบจนถูกหยุดไว้ด้วยด้ามจับของตัวดาบเองนั่นเท่ากับว่าความยาวของดาบเล่มนี้ก็คือความลึกของบาดแผลมันนั่นแล

 

ร่างกายช่วงล่างของมันอาบไปด้วยเลือดสีดำเปรอะเปรื้อนจนกลมกลืนไปกับความมืด เลือดยังคงไหลออกมาจากบาดแผลราวกับเขื่อนแตกไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่อย่างใด หากเป็นการแทงธรรมดาคงไม่มีเลือดไหลออกมามากมายถึงเพียงนี้

 

นั่นเป็นเพราะการโจมตีถัดมาของหลินหยางที่ใช้สันคมดาบกรีดหน้าท้องมันเป็นแผลยาวเหวอะหวะต่างหาก ความลึกเท่าเดิมแถมยังมีความยาวเสริมขึ้นมาอีกจรดสีข้าง บาดแผลของมันเกิดกว่าคำว่าฉกาจฉกรรจ์ไปมากโข

 

หากเป็นคนทั่วไปมิจำเป็นต้องคว้านลึกลากยาวเทียบเท่ามัน เพียงมีความลึกและยาวเพียงครึ่งเดียวจากบาดแผลบนร่างของแวมไพร์ปีศาจหากผู้ที่มีบาดแผลเฉกเช่นเดียวกับมันเป็นมนุษย์ป่านนี้พวกมันคงตกตายไปสักหลายสิบรอบแล้วเป็นแน่แท้

 

บัดนี้หลินหยางแทบไม่มีความกังวลใจเหลืออยู่ แม้แวมไพร์ตรงหน้าจะมีความเร็วมากกว่าตนมีระดับสูงส่งทั้งพลังป้องกันอันพิศวงเป็นปริศนา แต่กระนั้นสิ่งที่มันครอบครองอยู่ไม่สามารถสร้างความได้เปรียบเหนือตนเองได้แม้เพียงนิด หลินหยางสามารถลดข้อด้อยของตนด้วยมันสมองใช้ความคิด ส่งผลให้ฝีมือของทั้งสองคู่คี่สูสีไม่ห่างชั้นกันมากนัก

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset