หากมันได้รับบาดเจ็บร้ายแรงกว่าที่เป็นอยู่มิทราบเสียงร้องของมันจะดังมากขึ้นกว่าตอนนี้หรือไม่ และไม่ทราบถึงตอนนั้นชายหนุ่มจะทานทนรับเสียงแบบนี้ได้อีกไหม?
ก้อนเนื้อแวมไพร์ใช้สายตามองดูบาดแผลที่ตนได้รับทั้งจากคู่ต่อสู้ และบาดแผลปริศนาผ่าครึ่งลําตัวของมันด้วยสายตาที่น่าหดหูเอ็นดูอย่างยิ่ง ตอนนี้ดูเหมือนดวงตากลมโตคู่ยักษ์ของมันจะมีของเหลวใสเอ่อนองอยู่คล้ายกับมันกําลังจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น
มีเสียงสะท้อนไปมาภายในถ้ำจากเสียงร้องของแวมไพร์ปีศาจได้ยินแว่วรําไร หลินหยางผ่อนคลายสีหน้าลงสูดหายใจลึก แม้เสียงร้องที่ทําร้ายคู่ต่อสู้โดยไม่ตั้งใจของมันจะน่าหวาดกลัวแต่ก็มีสิ่งนึงที่ฉุดหลินหยางขึ้นจากความหวาดหวั่นกลายเป็นความปิติยินดี
เมื่อก้อนเนื้อแวมไพร์ตนนี้เจ็บปวดจนถึงกับร้องเสียงหลง นั่นแสดงว่าบาดแผลที่เขาพึ่งสร้างไปสามารถสร้างความเสียหายให้แก่ร่างกายของมันได้!
รูเท่ากําปั้นที่เกิดขึ้นบนร่างของมันหากจะเรียกว่าเล็กก็เล็กมาก หากมองว่าใหญ่ก็ใหญ่เช่นกัน รูลึกของมันคล้ายกับบาดแผลที่คล้ายกับลูกกระสุนปืน แต่เป็นกระสุนที่มีเส้นรอบวงขนาดใหญ่กว่านับร้อยเท่า!
ดั่งร่างกายมนุษย์เมื่อถูกยิงด้วยปืนแม้ปากแผลจะมีความกว้างเพียงปลายก้อยก็สามารถทําให้คนผู้นั้นเสียชีวิตได้อย่างไม่ยากเย็น
เช่นเดียวกับก้อนเนื้อแวมไพร์ถึงขนาดตัวของมันจะใหญ่กว่ามนุษย์มากก็ตามที แต่รูที่เกิดขึ้นบนร่างกายของมันก็ใหญ่เพิ่มทวีคูณเช่นกัน หากหลินหยางเจาะจงโจมตีตรงจุดเดิมขยายบาดแผล เพิ่มความลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีรูโหว่ที่มีขนาดใหญ่พอเกิดขึ้นกลางลําตัวไม่ว่ามันผู้นั้นจะเก่งกาจ มีระดับมากมายเพียงใดก็ย่อมต้องตกตายลงอย่างแน่นอน
แค่สภาพร่างกายที่เป็นอยู่ของก้อนเนื้อโง่งมตอนนี้ก็นับว่าหนักหนาสาหัสเอาการ ทั้งบาดแผลปริศนาและรูโหว่ที่เขาเป็นผู้มอบให้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความเจ็บปวดทรมานถึงขีดสุด ไม่ต้องกล่าวถึงเลือดที่ไหลออกมาหลายสิบลิตรจนพื้นถ้ำเอ่อนองไปด้วยเลือดสีดําเน่าเหม็นของตัวมันเอง แม้นไม่ทําให้มันตกตายก็ทําให้ร่างกายของมันทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด
—————————–
ภายนอกถ้ำค้างคาว
ตรงปากถ้ำมีคนยืนเกาะกลุ่มกันอยู่เกือบสองร้อยชีวิต พวกมันล้วนส่งเสียงเอะอะโครม
ครามกวัดแกว่งอาวุธคู่กายฟาดฟันไปมาไม่หยุด
แสงอาทิตย์ถูกบดบังไปด้วยร่างของค้างคาวปีกเหล็กนับร้อยที่บินว่อนไปมาโฉบเฉียวจู่โจมเข้าหาผู้บุกรุก
ตู้มม
เกิดเสียงอื้ออึงดังกึกก้องทั่วบริเวณ
“ฮึ่ม” หลิวไห่พ่นลมออกจมูกพลางดึงชุดที่สวมใส่ขึ้นซับเหงื่อบนใบหน้า มองไปข้างกายของมันมีตาข่ายเถาวัลย์ขนาดยักษ์ที่พันธการผูกมัดค้างคาวปีกเหล็กทั้งระดับสี่และหกเอาไว้ภายในจนแออัด ผืนหญ้าที่เป็นจุดประทับของคุกเถาวัลย์ถูกย้อมไปด้วยสีแดงสดส่งกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง มันมาจากการที่หลิวให้โยนเถาวัลย์ก้อนนี้ลงพื้นอย่างรุนแรงทําให้ค้างคาวผู้โชคร้ายหลายชีวิตต้องตกตายลงไปอย่างมิได้ตั้งใจ
บนร่างกายกํายําของมันเปียกปอนไปด้วยหยาดเหงื่อที่ไหลอาบหยดลงบนผืนดินราวกับมันพึ่งวิ่งฝ่าพายุฝนมาหมาดๆมีไอระเหยออกมาจากผิวกายของมันจากการที่ร่างกายระบายความร้อน ตัดกับอากาศที่หนาวเหน็บข้างกายหลิวไห่มีชายสามคนที่สภาพร่างกายไม่แตกต่างไปจากกันมากนัก
“ข้าไม่ไหวแล้ว” ชายคนหนึ่งทิ้งตัวนั่งลงข้างกองเถาวัลย์พลางกล่าวสีหน้าซีดเซียวไร้เรี่ยวแรงราวกับคนใกล้ตาย
“ข-ข้าด้วย” เมื่อเห็นสหายของตนทิ้งกายอย่างหมดสภาพ ชายคนที่สองทรุดตัวลงนอนแผ่หลาไม่ไกลจากสหายของมัน
ชายอีกคนที่เหลืออยู่มันมิได้ทิ้งตัวลงพร้อมกับสหายของตน แต่บัดนี้มันค่อมหลังใช้สองมือกุมหัวเข่าทั้งสองข้างพร้อมส่งเสียงหายใจฟืดฟาดจนคนรอบข้างได้ยิน ผิวกายแดง ดวงตาปรือใกล้สิ้นสติลงเต็มที่
หัวคิ้วของหลิวไห่ยนเข้าหากันโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นชายทั้งสามร่างกายอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงแห้งเหี่ยว
“พวกแกยังเป็นชายอยู่ไหม!” หลิวไห่ตวาดลั่น เสียงของมันทําให้ผู้คนนับสองร้อยชีวิตหยุดชะงักสะดุ้งตกใจชั่วครู่ ก่อนที่จะกลับไปสาละวนฟัดเหวี่ยงกับค้างคาวปีกเหล็กต่อ
มิต้องกล่าวถึงชายทั้งสามที่อยู่ใกล้ในระยะเผาขน พวกมันสะดุ้งโหยงแก้วหูแทบแตกหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มกับเสียงตวาดที่ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
“แค่ไม่กี่รอบพวกแกก็หมดสภาพแล้วรึ ไอ้พวกเด็กตัวกระเบี้ยกในเมืองยังมีจิตใจห้าวหาญกว่า พวกแกเสียอีก!” หลิวไห่กล่าวเสียงดัง
ชายทั้งสามใบหน้าถอดสีเมื่อพบเจอกับคําพูดแทงใจดําจากหลิวไห่ชายร่างยักษ์
“ขอข้าพักสักหน่อยเถอะ” ชายคนนึงกล่าวเสียงแหบพร่า มันแทบไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงที่จะกล่าวคําพูดแล้วเสียด้วยซ้ำ
“แล้วเอ็งยังเป็นคนอยู่ไหม” ชายผู้ที่ค่อมหลังอย่างเหนื่อยหอบกล่าวอุบอิบ มันคือหนึ่งในสี่ของทีมนี้ โดยที่ตัวมันนั้นเป็นผู้มีพละกําลังสูงเช่นเดียวกับหลิวไห่ ส่วนชายอีกสองที่ล่วงไปนอนกับพื้นนั้นคือมนุษย์หมาป่าที่ครอบครองความเร็วอยู่กับตัวจึงมิแปลกใจสักเท่าไหร่ที่พวกมันจะสิ้นเรี่ยวแรงหมอบลงกับพื้น ส่วนมันนั้นแม้สถานะพลังจะใกล้เคียงกับหลิวไห่ผู้นําทีมแต่ทว่า หลังจากสําเร็จภารกิจไปนับสิบครั้งเรี่ยวแรงทั้งหมดก็ใกล้หมดลงเต็มทีซึ่งมิได้ผิดแปลกอันใดสําหรับผู้ที่ใช้กําลังในการทํางานเช่นมัน แต่ที่ผิดปกติก็คือหลิวไห่ชายผู้บ้าคลั่งคนนี้ต่างหาก ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติภารกิจจนถึงบัดนี้หลิวไห่มันใช้เรี่ยวแรงมหาศาลมากกว่าตนเกือบสองเท่าทั้งยังเขี้ยวเข็ญจัดการกับค้างคาวปีกเหล็กที่เล็ดรอดออกมาอีกนับไม่ถ้วน เรียกได้ว่าหลิวไห่แทบมิได้หยุดพักกายพักใจเลย แต่ในสายตาของมันบัดนี้หลิวไห่ยังคงอยู่ในสภาพปกติมิได้ต่างไปจากเดิมราวกับการทํางานที่ผ่านมามิได้สิ้นเปลืองพละกําลังก็ว่าได้
“หือ!!” หลิวไห่ใช้สายตาจ้องเขม็งไปยังพวกมันทั้งสาม เมื่อประสบพบเจอกับสายตาดุจดั่งเพชรฆาตทําให้พวกมันล้วนขนลุกขนชันเงียบปากลงทันใด
“พวกค้างคาวยังเหลืออีกเท่าไหร่” ตอนนั้นเองก็มีเสียงชายคนนึงดังขึ้นกล่าวถามแก่หลิวไห่มันมาจากเทียนหนิงเจี้ยนที่ยืนกุมบังเหียนอยู่บนหอสังเกตุการณ์นั่นเอง
“เหลือเท่าไหร่หรือ? ราวสามถึงสี่ร้อยตัวไม่มากไปกว่านี้” หลิวไห่ถูกดึงดูดความสนใจหันกายไปตอบต่อเทียนหนิงเจี้ยน ชายทั้งสามที่อยู่ข้างกายของมันแทบอยากจะหมอบคลานไปกราบเทียนหนิงเจี้ยนที่พูดขัดจังหวะมิให้หลิวไห่ต่อว่าด่าทอพวกมันอีก
“ยอดเยี่ยม!” เทียนหนิงเจี้ยนอุทานพร้อมกับมุมปากฉีกยิ้มกว้าง ตอนนี้จํานวนของค้างคาวปีกเหล็กลดลงไปถึงหนึ่งในสามจากจํานวนเดิมแล้ว การทํางานของทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมนับว่ารวดเร็วเกินคาด ถึงประสิทธิภาพและความสามัคคียังต้องฝึกปรือเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากการที่มันขึ้นเป็นผู้บัญชาการชั่วคราวตอบ
” หลิวไห่ ตรงนี้ใกล้เสร็จแล้ว!” พรานหนุ่มจิ่นเหอตะโกนเสียงดังเตรียมส่งไม้ต่อให้แก่หลิวไห่ ตอนนี้สภาพร่างกายของทีมงั้นเหอและหลิวไห้ไม่ต่างกันเลย พวกมันล้วนเหี่ยวเฉาใกล้หมดแรงอยู่รอมร่อ แม้แต่ชิ้นเหอที่มีระดับเทียบเท่ากับหลิวไห่ก็ยังดูย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด
หลิวไห่พยักหน้าตอบรับ ชายทั้งสามที่ใกล้สิ้นเรี่ยวแรงเต็มที่ข้างกายของมันเองก็ลุกขึ้นเช่นกัน พวกมันสบัดหัว บางคนกระโดดโหยงเหยง บ้างก็ตบหน้าตนเองเรียกคืนสติเตรียมพร้อมเข้าประจัญกับค้างคาวปีกเหล็กฝูงใหม่ แม้พวกมันจะอิดออดอยู่บ้างแต่ก็มิได้ขลาดเขลาอ่อนแอเมื่อถึงเวลาเผชิญหน้าพวกมันก็ล้วนตื่นตัวเตรียมพร้อมเต็มที่
มีกลุ่มชายฉกรรจ์ลากเถาวัลย์ผืนใหม่มาประเคนให้แก่หลิวไห่และพวก พวกมันไม่รอช้าจับมุมแต่ละผืนลากไปตระเตรียมใกล้กับปากถ้ํา
ตุบ
จิ่นเหอรวบแผงตาข่ายจากด้านบนลงปิดล่างพันธนาการค้างคาวปีกเหล็กนับร้อยอยู่ ภายในมัดเป็นก้อนกลมเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของตน
หลิวไห่และสหายไม่ปล่อยให้ปากถ้ำเกิดช่องโหว่นานเกินไป พวกมันแบกตาข่ายผืนยักษ์วิ่งฝ่าฝูงค้างคาวที่กรูกันออกมาอย่างไม่สนใจใยดี ค้างคาวผู้โชคร้ายบางตัวหลังจากถูกปากถ้ำผลักออกมายังมิทันได้ตั้งตัวดีนักถูกร่างกายใหญ่โตกํายําของหลิวไห่กระแทกใส่จนสิ้นสติ บางตัวถึงขั้นสิ้นชีวิต!
หลิวไห่และกลุ่มถูกแรงดึงดูดของปากถ้ําดึงร่างหายเหลือแต่ความว่างเปล่า
คว้ากกก
ทันทีทันใดเสียงแรกที่พวกมันทั้งสี่ได้ยินหาใช่เสียงร้องของค้างคาวปีกเหล็กไม่กลับเป็นเสียงแหลมทะลุโสทประสาทพร้อมกับแรงลมกรรโชกพัดผ่านร่างเสียดสีผิวหนัง เสียงดังกล่าวก้องกังวาลดังต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้พวกมันทั้งสี่ยกมือขึ้นปิดหูของตนเองโดยอัตโนมัติจนกระทั่งเสียงนั้นเริ่มเบาบางและหายไปในที่สุด