เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 632

เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 632 ไขกระจ่าง

 

บาดแผลแรกที่เกิดขึ้นบนร่างของแวมไพร์ปีศาจอย่างปริศนาก็จักต้องมาจากค้างคาวตัวจิ๋วตนแรกที่ถูกโจมตีเข้ากลางลําตัวอย่างจังจนผ่าร่างมันออกเป็นสองซีกอย่างแน่นอน

 

หลังจากคิดหาเหตุผลมารองรับเพื่อเข้าข้างตนเองมาโดยตลอด ในที่สุดชายหนุ่มก็ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่าค่าระดับอันมีค่าจากค้างคาวตัวจิ๋วทั้งสองตัวได้หายไปกับสายลม

 

หรือว่ามันไม่ใช่สิ่งมีชีวิต?” จู่ๆเขาก็คิด แต่ทว่าในส่วนของสาเหตุที่ตนมิได้ระดับนั้น เขาก็ยังคงไม่ทราบอยู่เช่นเดิม

 

หลินหยางใช้สายตามองตามการเคลื่อนไหวของค้างคาวตัวจิ๋วพร้อมกับใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวตรวจสอบมันทันที

 

ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นจากการใช้งานทักษะแห่งการตรวจสอบคู่ต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่มีแม้แต่ข้อมูลหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นเพราะค้างคาวตัวจิ๋วตรงหน้ามันเคลื่อนที่เร็วเกินไปจนมิสามารถมองตามการเคลื่อนไหวได้ทันงั้นหรือ? หากคู่ต่อสู้ของมันมิใช่หลินหยางก็อาจเป็นไปได้ แต่สําหรับหลินหยางแล้วภาพของค้างคาวตัวจิ๋วอยู่กลางดวงตาของเขาทุกการเคลื่อนไหว ความรวดเร็วที่ชายหนุ่มครอบครองอยู่นั้นมิใช่เพียงการเคลื่อนไหวของร่างกายภายนอกที่เพิ่มขึ้น แม้กระทั่งประสาทสัมผัส ประสาทการรับรู้ก็ฉับไวขึ้นกว่ามนุษย์ปกติกว่าสองเท่าเช่นกัน

 

กลับกันเมื่อเขาหันศรีษะปลายตาใช้หางตาเพียงเล็กน้อยมองไปยังร่างของก้อนเนื้อแวมไพร์ด้านหลังของตนพร้อมกับใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยว ข้อมูลของมันก็แสดงขึ้นมาอย่างครบถ้วนทั้งชื่อเสียงเรียงนามและระดับ มีเพียงแค่ค่าสถานะและทักษะต่างๆที่ครอบครองเท่านั้นที่ถูกปิดบังเอาไว้ เนื่องจากระดับที่ห่างกันเกินไป

 

สําหรับทักษะดวงตาเหยี่ยวแล้วมันเป็นทักษะที่มีประโยชน์สูงและใช้งานได้หลากหลาย มันเป็นทักษะใช้งานกึ่งทักษะติดตัว นั่นเพราะทักษะดังกล่าวเพิ่มระยะการมองเห็นของผู้ใช้และเพิ่มความคมชัดเมื่อมองในที่มืดหรือยามค่ําคืนนั่นเอง ซึ่งตรงส่วนนี้เป็นจุดที่น่าหลงไหลที่สุด สําหรับทักษะนี้เพราะมันใช้งานเองโดยอัตโนมัติแถมมิสิ้นเปลืองพละกําลัง

 

และส่วนของการใช้งานทักษะนี้ยังมีอีกประการ นั่นก็คือการใช้มันเพื่อตรวจสอบระดับ ของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือคู่ต่อสู้ก็ตาม แต่มันก็มีเงื่อนไขการใช้งานอยู่เล็กน้อยสองประการ นั่นก็คือการใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวเพื่อตรวจสอบผู้อื่นนั้นจําเป็นต้องใช้พละกําลังส่วนหนึ่ง และอีกหนึ่งเงื่อนไขก็คือสิ่งนั้นต้องเป็นสิ่งมีชีวิต!

 

แน่นอนว่าเงื่อนไขและจํานวนของพละกําลังกายที่เสียไปของทักษะต่างๆ มิได้บ่งบอกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ผู้ใช้จักต้องค้นหาด้วยตนเอง ซึ่งหลินหยางก็ทําเช่นนี้อยู่เรื่อยมา เมื่อได้รับทักษะใหม่ๆที่ตนมิทราบแน่ชัดถึงข้อดีและข้อเสีย และทักษะดวงตาเหยี่ยวก็เป็นทักษะแรกๆที่หลินหยางได้รับ

 

และแน่นอนว่าเขาได้ทดลองทดสอบคุณสมบัติของมันแทบทั้งหมดด้วยตนเอง โดยใช้ทักษะดังกล่าวตรวจสอบดูค่าสถานะของทุกคนภายในเมืองของตนหรือใครก็ตามที่ตนพบเห็น เรียกได้ว่าประชากรภายในเมืองของเขาแทบทุกคนล้วนเป็นผู้ช่วยรับการทดสอบโดยที่พวกมันมิได้ยินยอมเต็มใจ

 

จากการทดลองที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใดทั้งมนุษย์และเผ่าพันธ์ใกล้เคียงอย่างมนุษย์หมาป่าหรือเอลฟ์รวมถึงเหล่าสัตว์ประหลาดหลากหลายชนิด พวกมันล้วนถูกผลของทักษะดวงตาเหยี่ยววิเคาะห์ทั้งลักษณะท่าทางและระดับรวมถึงทักษะที่ครอบครองให้ประจักษ์แก่หลินหยาง

 

แต่เมื่อเขาใช้ทักษะดวงตาเหยี่ยวกับสิ่งไร้ชีวิตอย่างเช่นดาบ โล่ หญ้า ต้นไม้ ผืนดินหรือแม้กระทั่งซากศพไร้วิญญาณ ทักษะดังกล่าวจะไม่แสดงผลลัพธ์ใดออกมาเพราะสิ่งเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดให้ต้องค้นหานั่นเอง

 

เมื่อผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้หลินหยางเริ่มปักใจเชื่อไปกว่าสิบส่วนแล้วว่าก่อนหน้ามิใช่เพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากตัวเขาหรือเป็นความผิดพลาดของทักษะดวงตาเหยี่ยว แต่เป็นเพราะค้างคาวตัวจิ๋วตรงหน้าต่างหากที่มิสามารถตรวจสอบได้ด้วยทักษะดวงตาเหยี่ยว!!

 

แต่เดี๋ยวก่อน หากค้างคาวตัวจิ๋วไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแล้วมันขยับได้เยี่ยงไร? ถ้ามันไม่ชีวิตแล้วก็ไม่ ต่างไปจากก้อนหินหรือต้นไม้ที่ไม่สามารถขยับเขยื่อนได้ด้วยตนเอง

 

“หรือว่าจะเป็นเจ้านี้” หลินหยางคิดพลางหันมองไปยังแวมไพร์ปีศาจทางด้านหลังของตน ดังข้างต้นหากเป็นก้อนหินมันย่อมไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนที่ได้ด้วยตนเอง แต่หากมีคนถือมัน ไว้ในมือแล้วขว้างปามันออกไปล่ะ?

 

แล้วมันทําได้ยังไง? เหตุใดมันจึงสามารถบังคับกายสั่งการค้างคาวตัวจิ๋วได้อย่างใจนึกราวกับว่าค้างคาวตัวจิ๋วเป็นหุ่นเชิดเช่นนี้

 

หรือค้างคาวตัวจิ๋วที่ตนเผชิญหน้ามาด้วยตลอดเป็นเพียงทักษะของแวมไพร์ปีศาจ?

 

คู

 

ขณะที่กําลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด แวมไพร์ปีศาจส่งเสียงร้องอิดโรยหนึ่งคราเมื่อมันเห็นหลินหยางและค้างคาวตัวจิ๋วในครรลองสายตาของตน ตอนนี้สภาพของมันแย่เสียยิ่งกว่าที่ตาเห็นเสียอีก มันพ่นลมหายใจฟืดฟาดออกทางปากของตนอย่างหนักหน่วงคล้ายกับคนที่วิ่งมาแล้วหลายสิบกิโลติดต่อกัน

 

ฟู่ป

 

ฉับพลันเมื่อแวมไพร์ปีศาจปริปากส่งเสียง ค้างคาวตัวจิ๋วที่หมุนวนในอากาศมาอย่างยาวนานกําลังจะพุ่งดิ่งลงโหม่งพื้นถ้ําเพื่อสร้างพายุใบมีดก็หยุดลงทันที ราวกับเสียงของแวมไพร์ปีศาจคือคําประกาศิตหยุดการเคลื่อนไหว

 

เมื่อพินิจดูการกระทําและสภาพของพวกมันทั้งสองตัวแล้วยิ่งย้ําเติมความมั่นใจของหลินหยางมากเพิ่มขึ้น เมื่อเขามองไปยังค้างคาวตัวจิ๋วที่เคลื่อนที่ขึ้นลงในอากาศไม่หยุดหย่อนไม่ทราบจํานวนรอบ คร่าวๆก็คงไม่ต่ํากว่าครึ่งพันอย่างแน่นอน แต่ทว่าในสายตาของหลินหยาง บัดนี้มันก็มิได้มีสภาพร่างกายแปรเปลี่ยนไปจากเดิม มันไม่มีความเหนื่อยล้าแสดงให้เห็น การกระพือปีกยังคงที่สม่ําเสมอ

 

ต่างกับแวมไพร์ปีศาจที่ดูจะเหนื่อยล้าเป็นพิเศษที่ดูเหมือนจะมิได้เป็นเพียงเพราะบาดแผลบนร่างเท่านั้น

 

ตั้งแต่เริ่มการเผชิญหน้ากับค้างคาวตัวจิ๋วทําให้เจ้าแวมไพร์ปีศาจอยู่นอกเหนือความสนใจของหลินหยางมาโดยตลอด ชายหนุ่มจึงมิได้ตระหนกถึงความผิดแปลกที่เกิดจากการกระทําของแวมไพร์ปีศาจที่มีต่อลูกสมุนสุดรักของมัน

 

แต่เมื่อชายหนุ่มรําลึกนึกถึงช่วงที่ผ่านมา เขาจึงเริ่มระแคะระคายที่ละเล็กละน้อยจนมากพอให้เกิดความสงสัยให้ตัวของแวมไพร์ปีศาจที่ไม่มีทั้งพลังโจมตี ไม่มีแม้แต่มือเท้า ไม่มีความอันตรายใดๆส่งออกมาจากร่าง ซึ่งหากรวมเข้าด้วยกันแล้วมันไม่เหมาะสมเลยกับจ้าวแห่งถ้ําปิศาจค้างคาวแห่งนี้

 

แต่ถ้าหากค้างคาวตัวจิ๋วตรงหน้าหลินหยางเป็นผู้อัญเชิญเสกสรรค์ออกมาด้วยทักษะของมันก็น่าจะมีเคร้าโครงความเป็นไปได้มากที่สุดสําหรับคําอธิบายในตอนนี้

 

ครีด

 

หลินหยางหันกายเบี่ยงข้างพลางเดินถอยหลังเข้าประชิดกับผนังถ้ําด้านขวาของตน ตอนนี้ทางซีกขวาของเขามีค้างคาวตัวจิ๋ว ที่กําลังกระพือปีกอยู่กับที่ส่วนซีกซ้ายของเขามีแวมไพร์ปีศาจที่กําลังอิดโรย

 

ในเมื่อความคิดของเขามีความเป็นไปได้สูง หากชายหนุ่มยังคงพะวงสู้อยู่กับค้างคาวตัวจิ๋วไปอย่างเปล่าประโยชน์ไม่ได้สิ่งใดตอบแทนทั้งยังรับมืออย่างยากลําบาก เมื่อเป็นเช่นนั้นหลินหยางจัดการกับตัวปัญหาตัวบงการอย่างแวมไพร์ปีศาจไปเลยมิดีกว่าหรือ?

 

ความสนใจจึงถูกหันเหไปทางแวมไพร์ปีศาจที่บัดนี้กลายเป็นเป้าหมายใหม่ ทว่าสําหรับค้างคาวตัวจิ๋วหลินหยางก็มิได้ปล่อยปละละเลย อนึ่งภัยอันตรายทั้งหมดล้วนมาจากค้างคาวตัวจิ๋ว แม้หลินหยางจะมุ่งการโจมตีทั้งหมดไปยังแวมไพร์ปีศาจ แต่เขาก็ยังต้องคอยรับมือกับค้างคาวตัวจิ๋วอยู่เช่นเดิม

 

ตอนนี้หลินหยางอยากจะยื้อเวลาให้นานที่สุดเพื่อให้เหล่าทีมระยะใกล้และทีมจู่โจมได้ทําหน้าที่ของตนให้สําเร็จรุล่วงจับกุมค้างคาวปีกเหล็กทั้งหมดกลับไปจนสิ้น เพื่อการนั้นถึงเขาจะทราบตัวผู้บงการและเป้าหมายที่แน่ชัดแล้ว แต่ก็มิสามารถถาโถมการโจมตีปลิดชีวิตมันได้

 

เพื่อซื้อเวลาให้ได้มากที่สุดและลดทอนความเสียหายจากร่างกายของตนมิให้รับภาระหนักเกินไป ชายหนุ่มทําได้เพียงโจมตีสร้างความเสียหายเล็กๆน้อยๆสั่งสมไปเรื่อยๆให้แก่แวมไพร์ปีศาจ

 

ฟุบ

 

ค้างคาวตัวจิ๋วกระพือปีกหนึ่งคราส่งร่างของตนทะยานขึ้นสูงเสียดเพดานถ้ําพร้อมกับค่อยๆเข้าประชิดผนังถ้ําทางฝั่งซ้ายที่ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกันกับหลินหยางที่แอบอิงผนังถ้ําอยู่

 

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset