เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 639

เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 639 เหนือชั้น(ตอนปลาย)

 

มันหันมองไปยังเส้นทางที่มุ่งตรงออกจากถ้ําทันที่ทว่ามันก็ไม่พบวี่แววหรือเบาะแสใดๆเลย และมันก็ปัดเป่าความคิดนั้นไปเสียเพราะมันไม่มีน้ําหนักพอ จากประสบการณ์เผชิญหน้ากับมนุษย์ผู้นี้ก็พอจะบ่งบอกได้ว่าจุดประสงค์หลักของคู่ต่อสู้ตนหาใช่การหนีออกไปจากถ้ําแห่งนี้ไม่ เป้าหมายหลักของมนุษย์ตัวน้อยก็คือตัวมันที่เป็นราชาแห่งถ้ําค้างคาวต่างหาก

 

โดยช่องว่างที่เว้นอยู่สามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ดี หากชายหนุ่มต้องการหนีไปตั้งแต่แรกก็ย่อมสามารถทําได้โดยง่ายไม่จําเป็นต้องประมือกันต่อเลยเสียด้วยซ้ํา

 

และสิ่งที่ยืนยันความคิดของมันอีกประการก็คือมันไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนที่ของชายหนุ่มเลยแม้สักแอะ

 

และหากสิ่งที่มันคิดถูกต้องนั่นก็เท่ากับว่ามนุษย์ตัวน้อยยังอยู่บริเวณนี้อยู่

 

มันดึงสายตาของตนกลับทันที่มองสอดส่องไปทั่วทุกสารทิศ

 

โดยเป้าหมายของสายตาของมัมนั้นก็คือบริเวณรอบตัวของมันนี่เอง ทั้งด้านหลังด้านข้างและบน จนกระทั่ง

 

พรืด

 

ขณะที่ก้อนเนื้อแวมไพร์กําลังเร่งรีบเสาะหาอยู่นั้นจู่ๆก็มีเสียงการเคลื่อนไหวดังขึ้นมาจากจุดที่มันมิเคยให้ความสนใจ นั่นก็คือใต้ล่างของมัน!

 

เสียงดังกล่าวดึงดูดสายตาของเจ้าแวมไพร์มันมองหาต้นตอของเสียงปริศนาทันทีแต่ด้วยรูปลักษณ์ที่เสมือนกับลูกบอลและมีดวงตาประดับอยู่ด้านบนเช่นนี้ ทําให้ส่วนลําตัวของมันยื่นนูนออกมาบดบังการมองเห็นข้างล่างของตนไปโดยปริยาย ทําให้มันมิสามารถมองเห็นจุดดังกล่าวได้อย่างถนัดถัดถี่มากนัก

 

แต่ถึงจะมองไม่เห็นตัวก็เถิด มันก็พอทราบถึงต้นตอของผู้ที่สร้างเสียงแปลกประหลาดที่อยู่ใต้ตัวของมันเพราะในสมรภูมิแห่งนี้ก็มีกันอยู่เพียงสามตนเท่านั้น สองในสามก็คือตัวมันและลูกสมุน ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกัน ส่วนอีกหนึ่งนั่นหรือ..หลินหยาง!

 

มันกําลังจะกระเถิบตัวถอยเพื่อให้เพิ่มระยะการมองเห็นของตนให้สามารถมองเห็นร่างของศัตรูคู่อาฆาตที่หลบอยู่ใต้ร่างของตน ทว่ามันก็ทําได้เพียงแค่คิดเท่านั้น เมื่อครรลองสายตาตรวจ พบบางอย่างที่กําลังคืบคลานขึ้นมาจากมุมล่างไต่ขึ้นมาบนร่างของมันอย่างรวดเร็ว มันคือดาบสั้น!

 

ตอนนี้ในสายตาของมันคือภาพแขนหนึ่งข้างของมนุษญ์ที่กําลังไถลขึ้นมาจากมุมอับสายตาของตนทําให้มันเห็นเพียงแค่แขนข้างนี้เท่านั้น ส่วนร่างของชายหนุ่มยังคงถูกพุงปองๆของมันบดบังสายตาของตนอยู่จนมิดชิด

 

มันทราบถึงต้นตอของเสียงปริศนาก่อนหน้าแล้ว มันเกิดขึ้นจากชุดที่ชายหนุ่มใส่เสียดสีไปกับผิวกายของมันนั่นเอง

 

ใบหน้าของเจ้าแวมไพร์บูดเบี้ยวเหยเกด้วยความแสบสันเมื่อแขนของชายหนุ่มคาบผ่านบาดแผลเหวอะหวะบนร่างของตน

 

แต่มันก็จําต้องอดกลั้นทนต่อความเจ็บปวดโดยฉับพลันเพราะปลายแหลมของดาบกําลังไต่สูงขึ้นมาเรื่อยๆและเป้าหมายก็คือดวงตาอันแสนสําคัญของมัน!

 

จากเมื่อครู่มันอยู่ในช่วงชุลมุนวุ่นวายในการเสาะหาร่างของมนุษย์ตัวน้อยเพื่อชี้เป้าให้แก่ค้างคาวตัวจิ๋ว ทําให้มันเปิดช่องโหว่อย่างมิได้ตั้งใจโดยปีกเหล็กซึ่งเป็นเกราะป้องกันด่านสุดท้ายของตนขยับออกห่างจากดวงตาและลําตัวราวสองคืบ ทําให้มีช่องว่างระหว่างลําตัวของตนเองตั้งแต่หัวจรดกลางลําตัวเลยทีเดียว

 

และมนุษย์ผู้นี้ก็ไม่ปล่อยให้โอกาศดังกล่าวหลุดรอดไปโดยง่าย ใช้ช่องว่างที่มีน้อยนิดแต่ก็เพียงพอสําหรับท่อนแขนที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ให้รอดผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็นยื่นปลายดาบแหลม คมมุ่งเข้าหาดวงตาคู่โตโดยไร้สิ่งใดขวางกั้น

 

ตัวดาบสั้นบัดนี้แม้จะชํารุดทรุดโทรมไปมากจากการใช้งานอย่างหนักหน่วงในช่วงเวลาสั้นๆ ผ่านการแตกหักไปถึงสองรอบเข้าไปแล้ว ความยาวของมันลดเหลือหนึ่งในสามจากสภาพสมบูรณ์ ส่วนปลายของมันแม้ไม่แหลมคมกริบเรียบเนียนดั่งก่อนหน้าแต่มันก็ยังเหลือส่วนคมสามารถแทงดวงตาที่อ่อนนุ่มของแวมไพร์ปีศาจได้อย่างสบายๆ

 

กว่าก้อนเนื้อแวมไพร์ปีศาจจะรู้ตัวปลายดาบก็ห่างจากดวงตามันมิถึงหนึ่งศอกแล้ว ด้วยเมือกเหลวที่ห่อหุ้มร่างกายของมันซึ่งสามารถป้องกันผิวกายให้มันก็เป็นข้อเสียได้เช่นกัน ท่อนแขนหลินหยางที่เรียบไถลไปกับตัวมันนั้นไม่ติดขัดไหลลื่นอย่างยิ่ง และด้วยความหนาของเมือกสีดําเหล่านี้ ทําให้ตัวมันแทบไม่รู้สึกเลยเสียด้วยซ้ําว่ามีสิ่งแปลกปลอมกําลังเลื้อยขึ้นมาบนตัวของตน

 

เมื่อเห็นภาพคมดาบขยายใหญ่เข้าใกล้ดวงตามากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนมันย่อมแตกตื่นร้อนลนยิ่ง ทว่าก็เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้น ก่อนมันจะติดสินใจดึงปีกของตนตะปบกลับแนบลําตัวโดยที่มีท่อนแขนของมนุษย์หนุ่มคั่นกลางระหว่างปีกยักษ์และลําตัวของตน

 

ตัวดาบหาได้หยุดชะงักทันทีไม่ มันพยายามฝืนขัดขืนอยู่เล็กน้อยก่อนจะหมดหนทางไปต่อ มันมิสามารถเอื้อมไปได้มากกว่านี้แล้ว หัวไหล่ของชายหนุ่มติดขัดกับส่วนล่างของปีกเหล็กซึ่งตอนนี้ดูเหมือนเจ้าแวมไพร์จะออกแรงเกร็งปีกยักษ์ของตนเพื่อหมายจะบีบท่อนแขนข้างนี้ให้แหลกไปเสีย

 

แขนของเขายุบจมลงไปในผิวกายของเจ้าแวมไพร์เกือบครึ่งด้วยความยืดหยุ่นจากร่างกายของแวมไพร์ปีศาจทําให้หลินหยางแทบมิรู้สึกถึงความเจ็บปวดเลย กลับกันมันให้ความรู้สึกนุ่มสบาย เสียมากกว่าหากไม่มีของเหลวสีดําที่ส่งกลิ่นเหม็นมาแปดเปื้อนแขนของตนละก็นะ…

 

แวมไพร์ปีศาจฉีกยิ้มกว้างด้วยความคิดที่ว่าตนสามารถจับกุมศัตรูได้อยู่หมัดภายใต้การบีบอัดจากปีกเหล็กของตน ทว่ารอยยิ้มของมันมีอยู่ได้เพียงเสี้ยววิ

 

พรืดดด

 

ท่อนแขนของมนุษย์ถูกดึงหายกลับไปทางด้านล่าง จนไม่หลงเหลือส่วนใดประกบติดกับร่างของมันอีกเลย

 

นั่นเพราะเมือกเหลวที่เคลือบอยู่บนกายของมันเป็นส่วนหล่อเลี้ยงให้แขนของชายหนุ่มสามารถลื่นหลุดออกมา

 

เมื่อมิสามารถจับตัวคู่ต่อสู้ได้อย่างที่คิด แวมไพร์ปีศาจจึงกระเถิบตัวหมายจะถอยหลังเว้นระยะห่างเพื่อให้มองเห็นร่างของเป้าหมาย และชี้ตําแหน่งให้ค้างคาวตัวจิ๋วที่จวนเจียนจะถึงขีดจํากัดของการเปลี่ยนทิศทางอยู่รอมร่อ

 

พรึ่บ

 

ทว่าเจ้าแวมไพร์มิจําเป็นต้องเคลื่อนย้ายร่างของตน มนุษย์หนุ่มที่หลบซ่อนอยู่ใต้ร่างของมันในที่สุดก็ปรากฏตัวเผยโฉมออกมาด้วยตนเอง

 

หลินหยางกระโจนตัวขึ้นมาจากพื้นด้วยแรงกระโดดบางเบาส่งให้ร่างลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ส่งผลให้ระดับความสูงของเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับแวมไพร์ปีศาจ

 

ชายหนุ่มยกสองแขนขึ้นเหนือศรีษะยึดกุมด้ามดาบเอาไว้หมายจะโจมตีมันจากมุมสูง ซึ่งจากมุมสูงนี้เป็นจุดที่เจ้าแวมไพร์ปีศาจเหลือช่องว่างเป็นรูเล็กๆระหว่างปีกของมันไว้เล็กน้อยเพื่อให้สามารถมองรอดออกมา

 

เมื่อเจอกับการโจมตีไม่คาดฝันแวมไพร์ปีศาจมิได้แตกตื่นตกใจเลย มันเพียงแค่เกร็งกระชับปีกของตนเข้าแนบลําตัวมากขึ้นพร้อมกับขยับมาบดบังดวงตาของตนจนมิดชิดเพื่อป้องกันการโจมตีดังกล่าว

 

มันแสยะยิ้มขึ้นบนมุมปากรอคอยการโจมตีด้วยใจจดจ่อ เหตุการณ์ต่อไปที่สมองมันรังสรรค์ขึ้นมาก็คือ หลังจากป้องกันการโจมตีได้สําเร็จ มันจะใช้ปีกเหล็กของตนสบัดผลักดันร่างของมนุษย์ตัวน้อยให้เสียหลักปลิวถลาอัดเข้ากับผนังถ้ํา และทําการควบคุมค้างคาวตัวจิ๋ว เข้าโจมตีชายหนุ่มในช่วงเวลาดังกล่าว เมื่อเป็นแบบนี้ผลลัพธ์แห่งชัยชนะจะหนีไปจากมันได้เช่นไร มันช่างเป็นการประสานงานกันอย่างสมบูรณ์แบบ..นั่นคือสิ่งที่มันคิด

 

ตึง

 

และแล้วสิ่งที่มันรอคอยก็เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมมาแตะต้องเข้ากับปีกเหล็กของมันอย่างรุนแรง

 

ก้อนเนื้อแวมไพร์ชะงักเล็กน้อยเมื่อเผชิญกับแรงกระแทกของการโจมตี พลังในการโจมตีครั้งนี้ มันรุนแรงมากกว่าครั้งไหนๆส่งผลให้ร่างของมันเกิดการสั่นสะเทือนเลยทีเดียว

 

ผลพวงจากการโจมตีสร้างทีมทึบที่ฟังดูแล้วมิเหมือนการปะทะกันของเหล็กเสียเท่าไหร่

 

แต่ดูเหมือนก้อนเนื้อแวมไพร์จะมีสนใจเรื่องเล็กน้อย

 

เจ้าตัวยิ้มแก้มแทบปริ ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันคิดไม่ผิดเพี้ยนมันเร่งรีบสยายปีกด้วยความรวดเร็วเพื่อเพิ่มแรงผลักให้ถึงขีดสุด

 

วูบ

 

แกร๊ง

 

ปีกของถูกกางออกจนสุดจนส่วนปลายชนเข้ากับผนังถ้ํา

 

เจ้าแวมไพร์มิสามารถอดกลั้นเสียงหัวร่อเอาไว้ได้อีก มันฉีกยิ้มกว้างดวงตาหยีเล็ก ทุกอย่างมันช่างง่ายดายยิ่งกว่าที่มันคิดไว้เสียอีก มันแทบไม่รู้สึกถึงแรงต่อต้านสู้แรงจากมนุษย์ตัวน้อยเลย นี่มันสามารถดันร่างคู่ต่อสู้ให้กระแทกอัดกับผนังถ้ําได้ง่ายเช่นนี้เชียวหรือ? คู่ต่อสู้ของมันอ่อนแอปวกเปียกมากถึงเพียงนี้? หรือเป็นตัวมันที่แข็งแกร่งเกินไป? แวมไพร์ปีศาจกล่าวคําถามในใจพร้อมกับใบหน้าแห่งความสุขสมภาคภูมิกับความแข็งแกร่งของตนเอง

 

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset