เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 652 ไม่รู้ความ
ชายทั้งสี่มองหน้ากันด้วยความสับสนงงงวย
จากเสียงที่ได้ยินบ่งบอกตัวตนพวกมันเหล่านี้ว่าเป็นมนุษย์หรือไม่ก็มนุษย์ครึ่งสัตว์
กลุ่มเสียงดังกล่าวใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งได้ยินชัดเจนในที่สุด แต่มิสามารถจําแนกจับใจความข้อความจากความชุลมุลวุ่นวายได้เนื่องจากระหว่างต้นตอของกลุ่มคนปริศนาและพวกมันทั้งสี่ถูกคั่นกลางด้วยฝูงค้างคาวปีกเหล็กนับร้อยที่บินว่อนส่งเสียงกระพือปีกและเสียงร้องประสานกลบจนมิด
“พวกมันเป็นใคร?” นี่คือสิ่งแรกที่หลิวไห่และสหายคิดขึ้นเช่นเดียวกัน
เหตุใดภายในถ้ําค้างคาวจึงมีคนอื่นอยู่อีกนอกจากพวกมันแล้วคนพวกนี้มันมาจากที่ใดเข้าไปตอนไหน?
แควก
ฝูงค้างคาวปีกเหล็กที่ยังตกค้างเหลืออยู่ร่วมร้อยตัวเกิดอาการสับสนไม่ต่างจากหลิวไห่และพวกตอนนี้ข้างหน้าและหลังของพวกมันถูกประกบด้วยกลุ่มผู้บุกรุก ค้างคาวทั้งฝูงจึงถูกแบ่งออกเป็นสองฝังเผชิญหน้ากับผู้บุกรุกที่อยู่ใกล้กับพวกมันมากที่สุด
กลุ่มผู้รอดชีวิต
“เอาไงดีวะ” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งกล่าวถาม ตอนนี้เหล่าชายฉกรรจ์ทั้งยี่สิบเป็นผู้นํากลุ่มอยู่แนวหน้าทั้งหมด
ฝูงค้างคาวนับร้อยมิได้ทําให้พวกมันแปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะก่อนหน้าพวกมันก็ได้เผชิญหน้ากับค้างคาวทั้งฝูงมาก่อนแล้วในช่วงการเริ่มหนีออกจากถ้ําในคราแรก
“รีบฆ่าพวกมันสิ” เสียงคนด้านหลังยุยง
แค่ลมปากจากคําพูดมันย่อมง่ายดาย แต่การปฏิบัติจริงนั้นกลับแตกต่างกันสุดขั้ว จากการปะทะกันของกลุ่มผู้รอดชีวิตและฝูงค้างคาวในคราแรกมีชายฉกรรจ์ผู้อัปโชคตกตายไปหลายสิบคนเลยทีเดียว
เรียกได้ว่าชายฉกรรจ์ทั้งยี่สิบคือคนที่พอจะมีความกล้าในตัวอยู่บ้าง และเป็นชนกลุ่มน้อยจากผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่มีฝีมือการต่อสู้
นิ้ว
ทันใดนั้นเองค้างคาวปีกเหล็กตัวหนึ่งเริ่มเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน มันบินเป็นเส้นตรงมิช้ามเร็วกรีดใบมีดเหล็กใส่แขนของชายฉกรรจ์รายหนึ่งไป ชายฉกรรจ์ที่ตกเป็นเป้าหมายรายนี้แม้จะเห็นร่างของค้างคาวตัวจ้อยมุ่งตรงมาหาตัวแต่มันก็มสามารถหลบเลี่ยงไปทิศทางใดได้เลยเพราะรอบกายมันไม่มีพื้นที่เหลือให้ใช้สอย
ฉีก
ด้วยแรงส่งของเจ้าค้างคาวส่งให้ปีกเหล็กของมันเจาะทะลวงจมลึกเข้าไปในผิวหนังของชายฉกรรจ์และหยุดลงเมื่อปีกเหล็กของมันปะทะเข้ากับกระดูกท่อนแขนของชายผู้นี้
อ๊าก
ชายฉกรรจ์เป้าหมายร้องด้วยความเจ็บปวด
แควก
ด้วยความลึกของบาดแผลส่งผลให้ปีกเหล็กที่เสียบอยู่นั้นมิสามารถดึงกลับออกมาได้ด้วยแรงของค้างคาวระดับสี ทําให้ตัวมันประกบติดกับแขนขวาของเป้าหมาย ตัวมันพยายามกระพือปีกอีกข้างเพื่อสร้างแรงดึงร่างของตนทว่าสายไปเสียแล้ว
“ยิ้ม” ชายเป้าหมายเค่นเสียงในลําคอพร้อมกับคว้าหมับเข้าที่ลําตัวของเจ้าค้างคาว
มันออกแรงบีบมือจนร่างของค้างคาวปีกเหล็กผู้ทําร้ายตนแหลกเหลวคามือปลิดชีวิตค้างคาวตัวน้อยไปอย่างเอนจอนาถฉิบ
ชายผู้นี้ดึงปีกเหล็กที่เสียบอยู่บนแขนขวาของตนออกด้วยสีหน้าหวาดเสียว
ขนขวาของตะ
“ไอ้ตัวบัดซบ” เมื่อดึงออกมาจนหมดมันก็มีสีหน้าผ่อนคลายลง มันพูดพลางโยนซากค้างคาวในมือทิ้งอย่างไม่ใยดี
“เกือบไปแล้วไหมล่ะ” ชายฉกรรจ์ข้างกายมันกล่าวพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
” จะว่าไปค้างคาวพวกนี้ก็ไม่เห็นจะน่าหวาดกลัวเลยนี่หว่า” มันกล่าวต่อ
“เออวะ แขนข้าก็ไม่ค่อยเจ็บแล้ว” ชายผู้ถูกโจมตีกล่าว ตอนนี้ความรู้สึกแขนขวาของมันเริ่มเบาบางลงแล้ว แม้ความลึกจากการถูกปีกเหล็กแทงจะลึกจนถึงกระถูกแต่ความกว้างของขาดแผลนั้นไม่ถึงหนึ่งมิลลิเมตรเสียด้วยซ้ํา มีเพียงความแสบไม่มากไม่มายภาค
หรือคือค้างคาวที่จับมันมายังถ้ําปริศนา? ค้างคาวที่มันหวาดกลัวตัวสั่น? ปีกเหล็กที่แสนภาคภูมิใจของสัตว์ประหลาดค้างคาวแม้จะคมกริบก็จริงแต่แรงเจาะทะลวงของมันนั้นต่ําต้อยอย่างยิ่ง มันมิสามารถตัดกระดูกได้เสียด้วยซ้ํา นี่มันเทียบไม่ได้กับคมดาบที่อยู่ในมือของมนุษย์เลย
แล้วเหตุนี้พวกมันยังจักต้องกลัวค้างคาวตัวน้อยเหล่านี้อีกหรือ?
“รู้แบบนี้ตั้งแต่แรกข้าคงจะฆ่าพวกค้างคาวพวกนี้ไปจนหมดแล้ว” ชายฉกรรจ์อีกรายที่เห็นการโจมตีของค้างคาวกล่าวด้วยสีหน้ามีความหวัง
“มา! เดี๋ยวข้านําขบวนเอง ฮ่าๆ” ชายฉกรรจ์ผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวด้วยสีหน้าสึกเหิม มันควงอาวุธกระดูกท่อนใหญ่ในมือก้าวเท้าเข้าหาฝูงค้างคาวด้วยความองอาจ
“จ-เจ้าโง่” จู่ๆชายฉกรรจ์ข้างมันก็ส่งเสียงด้วยใบหน้าแตกตื่นพร้อมกับยกแขนขึ้นขวางหน้าอกเป็นการห้ามปราม
“อะไรวะ?” ชายผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวด้วยอารมณ์เดือดดาลที่ความความสนุกยังมิทันเริ่มก็ถูกขัดขวางเอาไว้เสียก่อน
“สงสัยไอนี่มันจะกลัววะ” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งกล่าว
“ข้าก็ว่างั้น”
“ไม่ต้องกลัวไอน้องเดี๋ยวพี่จะปกป้องน้องเอง”
“ฮ่าๆ” เหล่าชายฉกรรจ์ส่งเสียงหยอกล้อกันอย่างสนุกปาก
ในตอนนั้นเองพวกมันมิได้สังเกตุเลยว่าตอนนี้ชายผู้ได้รับบาดเจ็บค้างคาวปีกเหล็กได้เงียบเสียงไปนานนม อาวุธกระดูกในมือซ้ายล่วงตกลงพื้นไปตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ มือซ้ายของมันกําลังบีบแขนขวาบริเวณปากแผลจนผิวหนังย่นขาวซีดออก
และแล้วเสียงของเหล่าชายฉกรรจ์ก็ถูกกลบด้วยเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดทรมานจากชายผู้ได้รับบาดเจ็บ มันค่อมหลังงอตัวแหงนหน้าแสดงถึงความเจ็บปวดสุดแสนที่ตนได้รับ ไม่นานนักมุมปากของมันก็มีน้ําลายเป็นฟองไหลออกมาพร้อมกับดวงตาเหลือกไม่เหลือเรี่ยวแรงพยุงตัวล้มฟุบลงกับพื้น
มันเป็นลมหมดสติไปแล้ว แขนขวาของมันเกิดแอ่งเลือดเอ่อนองเต็มพื้นพร้อมกับกลิ่นของเนี้อสดย่างไฟหอมฉุยตลบอบอวล เรียกน้ําย่อยของผู้รอดชีวิตที่หิวโหยหลายคน ทว่าเมื่อพวกมันทราบถึงต้นตอของเนื้อย่างที่ส่งกลิ่นหอมนี้ความหิวของมันก็ลดลงหวบฮาบเลยทีเดียว เพราะมันเกิดจากแขนขวาของชายฉกรรจ์ผู้เคาะห์ร้ายรายนี้นั่นเอง
ผิวหนังรอบรอยผ่าเกิดการไหม้เกรียมพร้อมเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลไม่หยุดมันคือผลพวงของทักษะโลหิตรคลังของค้างคาวปีกเหล็กนั่นเอง
ใบหน้าของเหล่าชายฉกรรจ์แตกตื่นตกใจกับเหตุการณ์ผิดปกติ แต่ก็มีบางส่วนที่ราวกับรับรู้เหตุการณ์อยู่ก่อนหน้าอยู่เช่นกัน
“เหอะ!” ชายฉกรรจ์ที่เป็นผู้ห้ามปรามชายน่าสงสารรายนี้เค่นเสียงในลําคอ
“สิ่งที่พวกเจ้าเห็นมันก็คือทักษะการโจมตีของสัตว์ประหลาดค้างคาว”
” ทักษะ? มันคืออะไร?” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งกล่าวถามด้วยสีหน้าซีดเซียว มันเห็ นสภาพของชายผู้เคาะห์ร้ายเต็มสองตาว่ามันแสดงออกถึงความเจ็บปวดทรมานมากแค่ไหน ขนาดชายผู้นี้มันสามารถทนรับความเจ็บปวดจากการถูกปีกเหล็กบาดเนื้อเฉือนหนังจนลึกถึงกระดูกได้แต่ทว่ามันกลับหมดสติสิ้นแรงจากผลพวงของการโจมตีของค้างคาวที่มีขนาดเล็กกว่ามนุษย์นับสิบเท่า
พวกมันเหล่านี้เกือบเก้าในสิบส่วนล้วนแล้วแต่เป็นผู้เริ่มต้นที่พึ่งมาเยือนโลกใบใหม่ได้เพียงสา มวัน คนส่วนใหญ่จึงไม่รู้ถึงความสําคัญของค่าสถานะและทักษะที่เป็นปริศนาไม่เคยพบเจอ
“ข้าก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามันเป็นการโจมตีชั้นที่สองจากการโจมตีปกติ” ชายฉกรรจ์ผู้นี้กล่าวมันเองเป็นผู้เริ่มต้นที่เข้าประตูสวรรค์มาพร้อมเพรียงกับพวกมันทุกคน
“ระวังเอาไว้อย่าให้โดนพวกค้างคาวโจมตี” มันกล่าวเตือน
“แล้วเราจะทํายังไงกับเจ้านี่?” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งก้มลงไปพยุงร่างของผู้บาดเจ็บมันกล่าวถามเพื่อหาความเห็น
“ทิ้งมันไว้อย่างงั้นแหละ เดี๋ยวมันก็ตาย”
“ตาย? ด้วยแผลแค่เนี้ยนะ?” มันกล่าวด้วยสีหน้าแฝงด้วยความแปลกใจ
” ดูซะ” มันเลิกชายเสื้อของตนขึ้นเผยให้เห็นหน้าท้องที่มีบาดแผลเหวอะหวะน่าหวาดกลัวมันก็เป็นหนึ่งในผู้โชคร้ายที่ถูกค้างคาวปีกเหล็กโจมตีใส่ขณะที่ฝูงค้างคาวออกล่าเหยื่อและถูกจับมายังส่วนลึกของถ้ํา โชคดียิ่งนักที่บาดแผลของมันเป็นเพียงบาดแผลตื้นๆ เมื่อทักษะของค้างคาวตัวที่โจมตีมันแสดงผลมันจึงมิได้รับความเสียหายเพิ่มเติมมากนัก แต่มันก็ต้องทนรับความเจ็บปวดทรมานกว่าครึ่งวันเลยทีเดียวจนกระทั่งฤทธิ์ของทักษะจะหายไปเองในที่สุด ทิ้งไว้แต่เพียงบาดแผลน่าขยะแขยงที่แผ่ขยายอาณาเขตจากรอยบาดเล็กกลายเป็นวงกว้างเทียบเท่าฝ่ามือของมัน
หากมันโดนบาดเข้าลึกกว่านี้อีกสักเล็กน้อยปานนี้มันคงตกตายลงเพราะเสียเลือดมากแล้วเป็นแน่