เทพอสูรสยบโลกา – ตอนที่ 675

เทพอสูรสยบโลกา ตอนที่ 675 ทั่วท้องฟ้า

 

“ พวกสัตว์อสูรมันจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว ฮีม-” ชายชราร่างกำยำเค่นเสียง แม้การหายสาบสูญของหน่วยย่อยต่างๆจะมิใช่เรื่องใหญ่ แต่พักหลังมานี้มันยิ่งหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ มีหน่วยย่อยสูญหายไปมากกว่าสองร้อยกลุ่ม ซึ่งมันมากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบสองเท่า

 

“ข้าเข้าใจความโกรธของเจ้า แต่พวกเรามิอาจผลีผลาม” ชายชราน่าเคารพกล่าว

 

หน่วยย่อยแต่ละหน่วยส่วนใหญ่มีสมาชิกอยู่ที่สิบคนต่อกลุ่ม หากนับจำนวนเป็นรายบุคคลแล้ว นั่นแสดงว่าภายในปีเดียวพวกมันเสียทหารนักสู้เผ่าปีศาจไปกว่าสองพันนายแล้ว ทั้งที่ยังมิได้เปิดศึกสงครามกับฝั่งตรงข้าม และนี่ยังไม่รวมถึงหน่วยที่เกิดการปะทะกับสัตว์อสูรและเสียสมาชิกบางส่วน ซึ่งหากรวมแล้วคงมีมากกว่าหมื่นนาย!

 

แต่ก็มิแย่ไปซะทั้งหมด มิใช่เผ่าปีศาจเพียงฝ่ายเดียวที่ได้รับการสูญเสีย พวกสัตว์อสูรศัตรูคู่อาฆาตของพวกมันก็ได้รับผลกรรมเช่นกัน ตามรายงานในหนึ่งปีที่ผ่านมาพวกมันสามารถฆ่าสัตว์อสูรไปได้ถึงยี่สิบตัว!!

 

นั่นแสดงถึงพลังของสัตว์อสูรหนึ่งตนเทียบเท่านักสู้เผ่าปีศาจหนึ่งร้อยนายเลยทีเดียว แต่หากจะเทียบกันจริงๆแล้วผลลัพธ์อาจไม่แน่นอนนัก เพราะนักสู้ที่สังกัดหน่วยลาดตระเวณ หน่วยสำรวจ หน่วยสอดแนมและอีกหลายกลุ่มนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ผ่านศึกสงครามมาไม่นานนัก ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงอายุวัยหนุ่มเสียส่วนใหญ่ที่พลาดท่า

 

ส่วนสัตว์อสูรที่ตกตายไปทั้งยี่สิบตัวในปีนี้เองส่วนใหญ่ก็ยังเยาว์นัก พลังฝึกปรือของพวกมันยังมิถูกปลุกให้ตื่นเต็มตัว

 

ปูรองมีสีหน้าครุ่นคิด หน่วยต่างๆที่ประจำการทำหน้าที่อยู่นอกเมืองนั้นแม้มิได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของมัน แต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับมันในทางอ้อม เพราะมันคือความแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่าปีศาจ

 

ทันใดนั้นเองท้องฟ้าอันมืดมิดมีดวงไฟสีเขียวพุ่งตรงขึ้นมาจากพื้นดินสู่ท้องฟ้า

 

” !?” เหล่าผู้ประจำการบนกำแพงเมืองล้วนมองเห็นแสงนี้ก็ถ้วนหน้า

 

“ไปตามซื่อหมิงมา” ปูรองกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

 

ชายฉกรรจ์รายนึงรับคำสั่งกางปีกบินมุ่งตรงไปใจกลางเมืองทันที ไม่นานนักมันก็กลับมาพร้อมกับกลุ่มคนหลายสิบบินตามกันมาเป็นขบวน พวกมันทั้งหมดแต่งชุดออกศึกเต็มกำลังแม้จะเป็นเวลากลางคืน

 

พวกมันร่อนลงจอดข้างปูรอง

 

” ท่านแม่ทัพ” เหล่าเวรยามเมื่อเห็นชายผู้นี้พวกมันพร้อมเพรียงกันแสดงความเคารพ

 

“ท่านพ่อ” ผู้ที่ถูกเรียกตัวมาก็คือบุตรชายของปูรอง ชายฉกรรจ์ผู้เป็นบิดาของเด็กชายทั้งสองที่ติดตามเด็กสาวฝ่าฝืนกฏแอบลักลอบเข้าไปในป่าอสูรวันนี้นั่นเอง มันมีนามว่าซื่อหมิง หน้าที่ของมันยิ่งใหญ่ไม่น้อยไปกว่าพี่ชายของตนที่รับตำแหน่งจักรพรรดิปีศาจ ตัวมันรับหน้าที่แม่ทัพใหญ่ผู้นำกำลังทหารทั้งหมดในเมืองแห่งนี้

 

” !” ก่อนที่จื่อหมิงจะได้เอ่ยปากถามหาเหตุผลกับบิดาที่เรียกตัวมากลางดึก สายของมันก็พลันเห็นแสงสีเขียวที่เริ่มอ่อนแสงลงอย่างช้าๆ

 

จากภาพที่เห็นมันคล้ายคลึงไฟสัญญาณที่บุตรชายตัวน้อยทั้งสองคนของมันใช้งานเพื่อเรียกตัวเหล่าองครักษ์ให้การคุ้มกันองค์หญิง แตกต่างกันเพียงแค่เฉดสีเท่านั้น แต่ความหมายของมันไม่ต่างกัน มันคือสัญญาณขอความช่วยเหลือ!

 

สำหรับสีแดงที่บุตรชายของมันใช้เป็นสัญญาณที่มีความสำคัญสูงสุดและใช้ได้เฉพาะสายเลือดราชวงศ์ปีศาจเท่านั้น

 

ส่วนสีเขียวที่เห็นอยู่นี้เป็นสัญญาณเรียกกำลังเสริมของหน่วยย่อยที่ประจำการอยู่นอกเมือง

 

ฟิ้ว

 

” หม? ตรงจุดนั้นก็มี!” ชายฉกรรจ์รายหนึ่งส่งเสียงด้วยความแปลกใจเมื่อหางตาของมันพลันพบกับแสงสีเขียวโผล่ขึ้นมาอีกจุดซึ่งห่างจากตำแหน่งแรกกว่าสามกิโล

 

ซู่มมมม

 

วูบบบบ

 

ทันใดนั้นเองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีเพียงแสงจันทร์ถูกกลบหายไปด้วยแสงสีเขียวที่พุ่งขึ้นมาแต่งเติมเต็มผืนผ้าราวกับดอกเห็ด

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!” แม่ทัพจื่อหมิงกล่าวด้วยความแตกตื่น

 

สัญญาณขอกำลังเสริมมิใช่สิ่งที่สามารถใช้พร่ำเพรื่อ มันคือสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งมักใช้ในยามจวนตัวเพื่อขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แน่นอนว่าเป็นเวลาที่เผชิญหน้ากับศัตรู!

 

แต่ทว่า…ตามปกติแล้วพลุสัญญาณนี้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากยิ่ง เนื่องจากหน่วยต่างๆส่วนใหญ่แล้ว…ตายก่อนที่จะได้ใช้

 

แต่บัดนี้ทั่วท้องฟ้ามีสัญญาณไฟขึ้นนับสิบจุดและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง นี่มันเกิดเหตุการณ์อันใดขึ้นกันแน่!

 

แถมตำแหน่งของแต่ละจุดนั้นยังน่าสงสัยอย่างยิ่ง เพราะสัญญาณไฟสีเขียวส่วนใหญ่อยู่ใกล้ทางออกของป่าอสูร ซึ่งในจุดนี้แม้จะมีสัตว์อสูรเยาวัยว์มิรู้ความบางตัวมาป้วนเปี้ยนอยู่ แต่ก็เป็นเพียงจำนวนน้อยที่หลายวันจะมีสักตัวก็แค่นั้น

 

พื้นที่อยู่อาศัยของเผ่าอสูรอยู่อีกฟากฝั่งของป่ารกทึบนี้ จะมีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในป่าอสูรที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเขตต่อสู้ที่เกิดการปะทะกันอยู่บ่อยครั้งระหว่างเผ่าปีศาจและอสูร

 

” ท-ท่านพ่อ พวกเราสมควรทำเช่นไร” จ่อหมิงกล่าวถามบิดาตนตะกุกตะกัก

 

มองไปยังผู้เป็นบิดาก็มีอาการไม่แตกต่างกันมากนัก มันกำลังเหม่อมองแสงไฟทั่วท้องฟ้าด้วยความแตกตื่น ตั้งแต่มันลืมตาดูโลกจนแก่ชรา เหตุการณ์เช่นนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มันเผชิญ

 

ระดมพลมาให้มากที่สุด แพทย์ ทหาร เวรยาม ทุกหน่วยที่อยู่ในเมืองรวมพวกมันมาให้หมดเราจะส่งคนไปทุกจุด!!” ด้วยประสบการณ์ทำให้ชายชราฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว มันตอบต่อบุตรชายของตน

 

แม่ทัพจื่อหมิงพยักหน้ารับคำ มันหันกายสั่งการคนสนิทหลายสิบที่ติดสอยห้อยตามมา

 

ฉับพลันนั้นเองมีบุรุษและสตรีวัยหนุ่มสาว วัยฉกรรจ์และวัยชรา รุดหน้ามาจากทั่วทุกสารทิศ

 

แสงสีเขียวเจิดจ้าไปทั่วท้องฟ้าแม้แต่คนที่อยู่ในอาคารเรือนยังสามารถมองเห็น มิต้องกล่าวถึงเหล่าทหารที่เดินตรวจตราความเรียบร้อย ในเมืองปีศาจเกิดความชุลมุนวุ่นวายทันที บางคนวิ่งบางคนเดินบ้างก็บินอยู่บนอากาศ เหล่านักสู้ทั้งหมดมารวมตัวกันโดยมิต้องนัดหมาย

 

“ท่านจื่อเจียง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” มีคำถามเกิดขึ้นต่อบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในที่นี่ซึ่งก็คือบิดาของแม่ทัพใหญ่ มีศักดิ์เป็นปูขององค์หญิงและเป็นอาขององค์จักรพรรดิ ชายชราผู้นี้มีนามว่าจื่อเจียง

 

ชายชราอีกอักไม่ทราบคำตอบเช่นเดียวกับพวกมัน

 

“ท่านอา น้องสาม ด้านนอกมันเกิดอะไรขึ้น” ทันใดนั้นเองมีเสียงก้องกังวาลดังขึ้นในศรีษะของชายสองคน จื่อเจียงและซื่อหมิง ต้นกำเนิดเสียงมาจาก…จักรพรรดิปีศาจ

 

ตัวมันพึ่งได้รับรายงานถึงเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นด้านนอกกำแพงเมืองที่ส่งผลต่อความไม่สงบ มันใช้วิธีการพิศดาลติดต่อกับสองพ่อลูกโดยที่ตัวตนของมันอยู่ประทับอยู่ใจกลางของเมืองห่างจากกำแพงเมืองไกลลิบ เป็นวิธีการสื่อสารโดยใช้คลื่นพลังที่สามารถถ่ายทอดคำพูดสนทนากันระหว่างบุคคล เนื่องจากเหล่าประชาชนและพลทหารที่แตกตื่นก็ยังตกอยู่ในความวิตกกังวล ตะโกนโหวกเหวกกันอยู่ นั่นแสดงว่ามีเพียงพ่อลูกคู่นี้เท่านั้นที่ได้ยินเสียงขององค์จักรพรรดิ

 

“ข้าได้ยินว่ามีสัญญาณขอความช่วยเหลือจุดขึ้นพร้อมกันหลายแห่ง นี่ใช่การประกาศศึกของเผ่าอสูรต่อเผ่าปีศาจเรารึ?” จักรพรรดิกล่าว

 

ห ข้าไม่คิดว่านี่คือการเปิดสงครามของเผ่าอสูร สาเหตุนั้นข้ายังไม่ทราบชัดเจนนัก แต่ดูเหมือนจะมีสัตว์อสูรโจมตีหน่วยย่อยหลายหน่วยอย่างพร้อมเพรียงกัน บางที่อาจเป็นเรื่องบังเอิญจื่อหมิงถ่ายทอดวาจาผ่านกระแสพลังตอบกลับผู้เป็นพี่ชายของตน ตามความคิดของมันแล้วการเบิดสงครามของเผ่าอสูรเป็นไปไม่ได้เลยที่รอดสายตาของหน่วยสอดแนมที่มีนับร้อยหน่วยคอยสืบการเคลื่อนไหวของศัตรูอยู่ทุกวี่วัน

 

แม้เผ่าอสูรจะมีประชากรเพียงน้อยนิดหยิบมือแต่เมื่อพวกมันโตเต็มวัยเมื่อใดร่างกายของพวกมันใหญ่โตมโหฬารยิ่ง แม้จะเพียงร้อยหรือพันตัวหากพวกมันรวมกำลังพลเคลื่อนไหวพร้อมเพรียงกันเมื่อใด แม้แต่ผืนดินยังยากจะทานทน

 

ตั้งแต่การสถาปนาเผ่าปีศาจโดยจักรพรรดิพระองค์แรกเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ในบันทึกสงครามจากอดีตถึงปัจจุบันมหาสงครามที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเผ่าปีศาจและอสูรที่ถูกจารึกไว้มีเพียงการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรหนึ่งร้อยตัวเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ยังไม่มีสงครามใดที่รุนแรงเทียบเท่าครานั้นมาก่อน

 

“อืม…สาเหตุแม้จะยังไม่แน่ชัด แต่ตอนนี้เจ้าจงนำคนออกไปช่วยเหลือพวกมันให้ได้มากที่สุดจักรพรรดิกล่าว

 

จื่อหมิงค่อมหัวรับคำสั่ง มันเริ่มปฏิบัติหน้าที่ทันที มันสั่งการจัดระเบียบ แบ่งหน่วย จัดกลุ่มเตรียมการช่วยเหลือ

 

เทพอสูรสยบโลกา

เทพอสูรสยบโลกา

Score 7.1
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพอสูรสยบโลกาประเทศจีน ปี ค.ศ. 2025 จู่ๆ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วโลก และ มี”ประตู” ประหลาดเกิดขึ้นทั่วทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก พร้อมกับเสียงปริศนา “มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าอยากเปลี่ยนแปลงโชคชะตาหรือไม่ อำนาจ เงินทอง วาสนา ความมั่งคั่ง หากอยากเปลี่ยนแปลง เชิญเข้ามาที่ประตูนี้ จักต้อนรับพวกเจ้า” เรื่องราวแห่งตำนานกำลังจะเริ่มขึ้น

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset