ตอนที่ 95 เสียดาย
“ซู่ฟางแหล่งอาหารของพวกคุณอยู่ที่ไหน” หลินหยางกล่าวถาม
“ไปทางนั้นราวห้ากิโลค่ะ” เธอตอบกลับ
“พาผมไปหน่อย” หลินหยางกล่าว เขาอยากดูแหล่งอาหารที่ฉือเฉียวใช้ประทังชีวิตคนกว่าสองร้อยคน
ณ สถานที่แห่งหนึ่งไม่ไกลจากเมืองฉือเฉียว
หลินหยางกำลังยืนดูโพลงหินโพลงนึงมันผุดขึ้นมาจากพื้น มันคล้ายถ้ำเล็กๆที่อยู่ใต้ดินและปากถ้ำโผล่ขึ้นมาบนพื้นเสียมากกว่า ข้างๆตัวเขามีจิ้นเหอ หลิวไห่และซู่ฟาง เขานำคนมาเพียงสามคนเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลากลางคืนและผู้คนที่อยู่ในเมืองฉือเฉียวยังมิสามารถให้ความไว้วางใจได้ เขาเกรงว่าอาจมีการก่อจราจลขึ้นจึงให้คนที่เหลืออยู่เพื่อคุมสถานการณ์เอาไว้
“ข้างในนี้จะมีหนูออกมาร้อยตัวทุกๆหนึ่งชั่วโมงค่ะ” ซู่ฟางอธิบายเกี่ยวกับแหล่งอาหารให้แก่หลินหยาง
หลินหยางยืนเฝ้ามอง ถ้ำเล็กๆนี้ห่างจากเมืองฉือเฉียวห้ากิโลแต่ห่างจากเมืองหลินหยางร้อยกว่ากิโล พวกเขาคงยึดที่นี่เอาไว้ไม่ได้หากเมืองอื่นจู่โจมเพื่อแย่งชิงแหล่งอาหารจุดนี้ พวกเขาคงไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้เพราะมันห่างจากเมืองของเขาเกินไป กว่าจะเดินทางมาถึงก็ใช้เวลาเกือบทั้งวันและเมื่อมาถึงร่างกายย่อมอ่อนเหน็ดเหนื่อย แต่จะเอาคนทิ้งไว้เพื่อคุ้มกันก็มิได้เช่นกันหากถูกโจมตีพวกเขาก็คงต้องตายอย่างเสียเปล่า
จี๊ดดด~~
ไม่นานก็มีหนูตัวอ้วนใหญ่กรูกันออกมาจากปากถ้ำที่เท่าขนาดตัวของมัน มองจากสายตาหนูเหล่านี้คงมีน้ำหนักราวสองถึงสามกิโลกรัม แหล่งอาหารจุดนี้คล้ายกับโพรงกระรอกของเขายิ่งนัก
หลินหยางยืนมองมันอย่างเสียดาย เพราะหากเขาได้อาหารจากจุดนี้ย่อมสามารถเลี้ยงคนของฉือเฉียวได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว
ตอนนี้มีคนที่จะเข้าร่วมกับเมืองของเขากว่าร้อยห้าสิบชีวิต แม้อาหารจะเพียงที่จะเลี้ยงดูพวกเขาแต่มันก็เป็นจำนวนที่พอดีกับอาหาร แสดงว่าเขาจะไม่มีอาหารไว้เหลือให้กักตุนอีกแล้ว
เมื่อมองจนพอใจซู่ฟางก็นำทางไปหาแหล่งน้ำซึ่งอยู่ห่างจากเมืองออกไปอีกสามกิโลเมตร
ดังคาดแหล่งน้ำแห่งนี้กับคลองน้ำของเขาเหมือนกันมิผิดเพี้ยน รวมถึงฝูงปลาในน้ำด้วยเช่นกัน
“กลับกันเถอะ” หลินหยางกล่าวพลางถอนหายใจ อดรู้สึกเสียดายมิได้
ระหว่างทางซู่ฟางเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับโลกแห่งนี้ให้หลินหยางฟังไม่น้อย เนื่องจากเธออยู่มาก่อนเกือบหนึ่งปี และได้ติดตามฉือเฉียวไปพื้นที่ต่างๆจึงพบเห็นสิ่งต่างๆมามากมาย
อณาเขตแต่ละเขตนั้นจะแบ่งออกเป็นตามระยะเวลาที่พวกเขาเดินทางมาถึง ดังเช่นเมืองของฉือเฉียวพวกเขามาถึงก่อนเมืองหลินหยางก่อนแปดเดือน เมืองอื่นๆรอบๆก็เป็นเมืองที่มีระยะเวลาไล่เลี่ยมิห่างกันมาก
เมื่อรอบๆเมืองของมันมีเมืองมาเพิ่มมากขึ้นจนเริ่มแออัด ระยะห่างระหว่างเมืองจะอยู่ที่หนึ่งร้อยเมตร บริเวณนั้นก็จะไม่มีเมืองใหม่ขึ้นมาอีกเลยแต่จะไปโผล่ที่จุดอื่นแทนดังเช่นเมืองของหลินหยาง ที่อยู่ห่างไกลเมืองของฉือเฉียวยิ่งนัก
เมื่อเล่ามาถึงจุดนี้ใบหน้าซู่ฟางเศร้าหมองลง เพราะเมืองของเธอถูกโจมตีจากเมืองของฉือเฉียวเธอจึงต้องคอยปรนนิบัติรับใช้มันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูเหมือนพลเมืองของเธอ คนชรา และผู้ชายไม่ว่าเด็กหรือแก่จะถูกคร่าชีวิตเสียหมด ตอนนี้จึงเหลือเพียงไม่ถึงสิบคนเท่านั้นที่ยังอยู่รอด
เมื่อได้ฟังเรื่องราวหลินหยางรู้สึกเห็นใจเธออยู่เช่นกัน หากเมืองของเขาถูกบุกตีชะตากรรมก็คงไม่ต่างกันมากนัก
“อ๊ะ ร้านค้าล่ะ?” หลินหยางพลางนึกขึ้นได้เขาจึงเอ่ยถามออกไปอย่างตื่นเต้น เนื่องจากเงินที่เขาได้จากการคร่าชีวิตเหล่าสัตว์ประหลาดไปมากมายกลับมิได้ใช้ประโยชน์อันใดเพียงแต่เก็บรวบรวมเอาไว้เท่านั้น
ตอนที่ 96 บ้านพัก
“ร้านค้าจะปรากฏทุกๆหนึ่งปีใช่ไหม ภายในมีอะไรซื้อขายบ้าง” หลินหยางกล่าว
“มีหลายอย่างค่ะทั้งอาหาร อาวุธ ชุด ยุทโธปกรณ์ ดิน ไม้ เหล็กรวมถึงทองด้วย เครื่องสำอางหรือแม้แต่พิมพ์เขียวสำหรับสร้างเมืองก็มีค่ะ” ซู่ฟางกล่าว
“ไม่เลว” หลินหยางกล่าว
เมื่อได้ฟังนั้นเขายิ้มแก้มปริ ดูท่าเหรียญเงินที่เขามีจะมิได้เป็นเพียงเศษเหล็ก
เขาพูดคุยกันตลอดทางจนกลับถึงเมืองฉือเฉียว
ณ เมืองฉือเฉียว
ตอนนี้ภายในเมืองอยู่ในความเงียบ มิได้มีเสียงจอแจเหมือนตอนที่ฉือเฉียวปกครอง เพราะตอนนี้พวกเขากำลังช่วยกันขุดฝังร่างผู้เสียชีวิตกันอยู่
บรรยากาศอึมครึมยิ่งนัก เนื่องจากผู้เสียชีวิตพวกเขาล้วนแต่มีมิตรสหาย คนเหล่านี้เองที่ช่วยกันขุดฝังร่างไร้วิญญาณของพวกเขา
เหตุการณ์เช่นนี้คงมิเกิดขึ้นหากฉือเฉียวมิอวดเบ่งอำนาจมากเกินไป ซึ่งรวมไปถึงหากหลินหยางยอมอ่อนข้อด้วยเช่นกัน
หลินหยางและทีมระยะประชิดรวมถึงทีมจู่โจมพวกเขาก็ช่วยกันฝังร่างไร้วิญญาณเหล่านี้เช่นกัน เพราะเขาทราบดีคนพวกนี้มิใช่คนเลวไปเสียทุกคน
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ
ซู่ฟางนำทางหลินหยางไปยังคลังเก็บของของเมือง แม้จะเรียกว่าคลังสิ่งของแต่ก็เป็นเพียงบ้านพักที่อยู่ของฉือเฉียวเท่านั้น ในบ้านหลังโตแห่งนี้มีทั้งสิ้นสามห้อง สองห้องเก็บอาหาร น้ำ อาวุธไว้จนเต็มห้อง ส่วนอีกห้องคือห้องนอนของมัน หลินหยางมองไปยังอาหารที่เต็มห้อง ต้องชื่มชมฉือเฉียวจริงๆที่มันเก็บรวบรวมอาหารได้มากมายขนาดนี้ แม้จะไม่มีอาหารจากถ้ำหนูพวกมันยังมีอาหารสำรองประทังชีวิตได้กว่าหนึ่งอาทิตย์นับว่ามันยังมีความฉลาดอยู่
ณ ห้องของฉือเฉียว
ภายในห้องของมันมีเตียงนอนที่ดูนุ่มสบายพร้อมกับหมอนและผ้าห่ม มีกระทั่งตู้เสื้อผ้าที่มีหลากหลายชุดอยู่ภายใน สิ่งของพวกนี้มันสมควรแลกซื้อมาจากร้านค้าเป็นแน่ ดูท่ามันจะใช้เงินไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยไม่น้อย ภายในห้องมีกล่องใบนึงอยู่ขนาดหนึ่งเมตรคล้ายกล่องสมบัติก็มิปาน หลินหยางจึงเปิดดูภายในกล่อง
“ว้าว” ซู่ฟางที่เห็นสิ่งของภายในอุทานอย่างตื่นเต้น เพราะข้างในกล่องนั้นมีทั้งแก้ว แหวน เพชร พลอย
“เฮ้อ” สำหรับหลินหยางนั้นของพวกนี้นับเป็นเพียง’ขยะ’เท่านั้น เนื่องจากมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ใดๆได้เลยแม้แต่น้อย
“เธอเอาไปสิ” หลินหยางกล่าว เนื่องจากเห็นสายตาซู่ฟางที่จ้องมองมันแวววับ
“ได้หรอคะ” เธอตอบรับอย่างรวดเร็วและรีบขุดคุ้ยสิ่งของภายในกล่อง อย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิงที่รักสวยรักงามคนนึง
“พี่หยางมันมีอีกชั้น” ก่อนที่หลินหยางจะเดินออกจากห้อง ซู่ฟางกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นพร้อมกับเปิดดูสิ่งของภายใน
หลินหยางเมื่อเห็นของที่ฉือเฉียวมันซ่อนเอาไว้ดวงตาเขาเปร่งประกายเจิดจ้า
“หนังสือทักษะ!!” ภายในกล่องนั้นมีหนังสือทักษะอยู่หนึ่งเล่ม รวมถึงมีเหรียญเงินอยู่ภายในกว่าสามร้อยเหรียญ!
เขาหยิบขึ้นมาดูทันที
ทักษะ ระดับ 2 รักษาอาการบาดเจ็บ
คำอธิบาย : ใช้พลังวิญญาณมหาศาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของผู้อื่น มีโอกาศทำให้ระดับของผู้ใช้เพิ่มขึ้น
คำเตือน : หากผู้ใช้มีทักษะโจมตีจะไม่สามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้
หลินหยางขมวดคิ้ว เนื่องจากตัวเขามีทักษะโจมตีมากถึงสามทักษะจึงหมดสิทธิที่จะครอบครองทักษะนี้ทันที เขาเก็บทักษะดังกล่าวไว้กับตัว
วันต่อมา
“มากันครบแล้วใช่ไหม” หลินหยางยืนอยู่หน้าขบวนแถวพลางกล่าวถาม
“ครบครับ”
“แถวนี้ก็ครบแล้วครับ” มีคนรายงานเป็นระยะ
“ออกเดินทางได้” หลินหยางตะโกน