บทที่ 100 มิสั่นคลอน !
หลังจากที่ มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน มาถึง พวกนางก็กล่าวทักทายเป่ยหมิงเช้อเป็นอย่างแรกและจากนั้นก็ถูกดึงดูดให้มองไปที่คริสตัลในหลุมลึก
พวกนางดูตื่นเต้นเมื่อมองไปคริสตัลที่ส่องแสงออกมา และพวกนางก็สัมพัสได้ถึงพลังของมันอย่างชัดเจน
นักรบทุกคนล้วนแต่สัมพัสได้ว่าคริสตัลนี่เป็นของวิเศษ !
มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากมายระหว่างเดินทางมาที่นี่ พวกนางต้องต่อสู้กับนักรบจากโลกมืด มนุษย์หินเพลิง หยินฉา และพบเจอมังกรโคลนบ้างเล็กน้อย
สำหรับฉื่อหยาน พวกนางเพียงแค่ชายตามองเขาเดินต่อไปโดยไม่สนใจ
เป่ยหมิงเช้อ เดินไปทีละก้าวทีละก้าวด้วยความหยิ่งพยองโดยไม่ใช้จิตวิญญานย้นระยะ
ฉื่อหยานก็ยืนอย่างมั่นคงรอให้เป่ยหมิงเช้อลงมือ
เขาแอบใช้ของจิตวิญญานกายาแข็งและร่างกายของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ด้วยความเงียบสงบ ฉื่อหยานผสมพลังปราณหยินและพลังปราณลึกลับหลอมรวมกันเป็นวงหมุน [ หลุมแรงโน้ถ่วง ] ด้วยกัน 3 วง เขาควบคุมให้พวกมันทั้งสามค่อยๆ แยกออกจากกัน ไปแต่ละด้าน
เขาเคยเห็นจิตวิญญานย้นระยะของเป่นหมิงเช้อมาแล้ว และเขาก็ได้รับรู้ถึงพลังของมันจากคำบอกของฮันจงอีก 3 [ หลุมแรงโน้ถ่วง ] ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับจิตวิญญานย้นระยะ
” อย่าได้โทษข้า เจ้านั้นวอนหาที่ตายเอง ! ” เป่ยหมิงเช้อ ยกมือซ้ายขึ้นเมื่อเขาอยู่ห่างจากฉื่อหยานได้ 10 เมตร
เปลวไฟขั้วอัคคีเหมันสีฟ้าก็ปรากฏอยู่บนฝ่ามือของมัน
และมันก็ควบคุมให้ออกจากแขนของมัน เปลวไฟสีน้ำเงินก็กลายเป็นน้ำแข็งรูปปักษา บินอยู่บนท้องฟ้า และทิ้งแสงสีฟ้าที่สวยงามไปตามทางที่บินผ่าน
ปักษาน้ำแข็งดูสดใสเป็ฯอย่างมากแม้แต่ขนนกที่บนหัวของมันก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ลมหายใจของมันพ่นเปลวไฟสีฟ้าจากออกมา
เป่ยหมิงเช้อ มองอย่างเย็นชาด้วยความเหยียดหยาม สำหรับเขา มันไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆเลยที่จะสังหารฉื่อหยน
เช่นเดียวกับปักษาน้ำแข็งที่กำลังบินเข้าไปใกล้ๆเขา และแสงที่เย็นยะเยือกก็ส่องข้ามผ่านม่านตาของฉื่อหยาน
ลูกบอลสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่เต็มไปด้วยพลังปราณหยินก็พุ่งออกมาจากหน้าอกของเขาและมันก็เข้าไปพัวพันกับเปลวเพลิงสีฟ้า
” บูม ! “
ลูกบอลสีเขียวประทะเข้ากับปักษาน้ำแข็งและเกิดเป็นเสียงดังสนั่สเหมือนสายฟ้าฟาดดังออกมา
ไฟสีฟ้า และ แสงสีเขียวก็ระเบิดแตกกระจายออกมาเหมือนพุ ทั้งลูกบอลสีเขียวและปักษาน้ำแข็งก็แตกออกในเวลาเดียวกัน กลายเป็นจุดสีฟ้าและสีเขียว
” หืม ? “
เป่ยหมิงเช้อ ขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ และพยักหน้าช้าๆ ขณะที่จ้องมองไปยังฉื่อหยาน ” เจ้าสมควรแล้วที่สังหารโม่ซานได้”
หลังจากพูดแบบนั้น ใบหน้าของ เป่ยหมิงเช้อ ก็กลายเป็นแข็งกร้าน
เปลวไฟขั้วอัคคีเหมันก็ถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง เป็นเส้นสายเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันออกมาจากร่างกายของมันและพุ่งไปทางฉื่อหยานจากทุกทิศทาง
เส้นสายที่แข็งตัวกลายเป็นหนามน้ำแข็งและเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกก็กำลังพุ่งเข้ามาใกล้
เขายืนอยู่ตรงนั้น ฉื่อหยานรู้สึกราวกับว่าพื้นที่โดยรอบๆตัวของเขาถูกแช่แข็งและแข็งทื่้อไป
ด้วยอากาศที่หนาวเย็น ทำให้พลังปราณลึกลับของเขาโคจรได้ช้าลง เมื่ออากาศเย็นสัมผัสกับผิวหนัง กระดูกและเส้นเลือดของเขาพวกมันกลายเป็นถูกแช่แข็งเกือบทั้งหมด
ตอนนั้นเอง !
กระแสที่อบอุ่นพลันลอยออกมาจากเลือดและกระดูกของเขา ร่างกายของเขาก็ต่อต้านความหนาวเย็นเหล่านั้นด้วยตัวเอง
จิตวิญญาณอมตะ !
ฉื่อหยานดวงตาสว่างขึ้นและเขาก็รู้สึกยินดีอย่างลับๆ
กระแสอบอุ่นไหลไปทั่วร่างของเขาเหมือนกับกระแสไฟฟ้า เวลาต่อมา ความหนาวเย็นก็ถูกกำจัดไป .
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใช้เวลาเพียงชั่วครู่เท่านั้นและตอนนี้เองหนามน้ำแข็งก็ห่างจากเขาเพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้น
” กำแพงพลังหยิน ! “
และโล่สีเขียวก็ปรากฏอยู่ข้างหน้าของเขา ซึ่งเขาสร้างมันมาจากพลังปราณหยิน มันส่องแสงแพรวพร่าวที่ดูน่ากลัวออกมา
กำแพงพลังหยินที่มีขนาดใหญ่เท่ากับชามก็ปรากฏขึ้นและปกป้องเขา กำแพงพลังหยินนี้มีขนาดบางและโปร่งใสซึ่งต่อให้อยู่ห่างจากฉื่อหยานสิบเมตรก็สามารถมองเห็นเขาด้อย่างชัดเจน
ถึงแม้ว่า [ ตำราทมิฬ ] จะเป็นเพียงวิชาระดับมนุษย์ แต่มันก็สามารถดูดซับหยินฉีและสร้างเป็นวังวนพลังหยินและไข่มุกพลังหยิน
[ ตำราทมิฬ ] เป็นวิชาที่ใช้ควบคุมพลังปราณหยิน ด้วยความช่วยเหลือของวังวนหลังหยิน และ ไข่มุกพลังหยิน ฉื่อหยานจึงสามารถใช้พลังปราณหยินป้องกันจากการโจมตีทุกประเภทได้ เมื่อไข่พลังหยินยังคงทำงานอยู่ เขาก็สามารถใช้พลังปราณหยินได้ไม่มีที่สิ้นสึด
กำแพงพลังหยินนั้นถูกสร้างจากการโคจรพลังปราณหยินแบบเดียวกับ [ โล่แสงทมิฬ ] เมื่อเขาใช้ [ ตำราทมิฬ ] ทำแบเบดียวกัน ฉื่อหยาน ก็พบว่ามันสามารถป้องกันการโจมตีทุกประเภทได้
[ ตำราทมิฬ ] นั้นเป็นวิชาที่ไม่มีสิ้นสุดโดยแท้จริง !
” บู่ . . บู่ ! “
หนามน้ำแข็งแทงลงไปที่กำแพงพลังหยิน และพลังทั้งหมดของมันก็ถูกดูดซับทันที
เป็น เปลวไฟขั้วอัคคีเหมัน ของ เป่ยหมิงเช้อ ที่ไม่สามารถทะลวงผ่านกำแพงพลังหยินและทำร้ายอะไรฉื่อหยานได้เลย !
ฉื่อหยานยังไม่แม้แต่จะเรียกพลังงานเชิงลบของเขาออกมาเลยด้วยซ้ำ
กำแพงพลังหยินที่ถูกสร้างโดยไข่มุกพลังหยินดูเหมือนจะสามารถรับมือกับจิตวิญญานขั้วอัคคีเหมันได้ แต่กระนั้น เขาก็ยังรู้สึกว่า จำนวนพลังปราณหยินที่อยู่ในกำแพงก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พลังของ [ ตำราทมิฬ ] จะแข็งขึ้นตามปริมาณของพลังปราณหยิน
ในการสร้างกำแพงพลังหยินนั้นจะต้องสูญเสียพลังปราณหยินและพลังปราณหยินนั้นจะต้องดูดซับเพิ่มขึ้นเท่านั้นโดยไม่สามารถฟื้นคืนได้เอง หากไม่มีพลังปราณหยิน พลังของไข่มุกพลังหยินก็จะไม่เพิ่มขึ้น
แต่ว่า ฉื่อหยานนั้นได้ดูดซับพลังปราณหยินทั้งหมดในหุบเขาและพื้นที่พลังหยินมา และสร้างเป็นไข่มุกพลังหยินหกเม็ดอยู่ในร่าง ซึ่งนั่นเพียงพอที่เขาจะหยอกล้อกับเป่ยหมิงเช้อได้เป็นเวลานาน !
หนามน้ำแข็งแทงลงบนผนังสีเขียวและอากาศเย็นก็แทรกซึมเข้ามา แต่มันกลับสลายไปอย่างรวดเร็วด้วยพลังปราณหยิน
ดังนั้น การต่อสู้ของพวกเขาจึงหยุดชะงักลงจากสิ่งที่เกิดขึ้น
เป่ยหมิงเช้อ ไม่สามารถเชื่อได้ว่าฉื่อหยานนั้นสามารถสร้างกำแพงที่สามารถรับมือกับเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันได้ มันคิดว่าฉื่อหยานสามารถทนได้เพียงแค่ไม่กี่วิเท่านั้น
มันไม่รู้ว่า ฉื่อหยานนั้นได้อยู่ในนภาที่สองของระดับมนุษย์
เมื่อคิดเช่นนั้น มันก็สร้างหนามน้ำแข็งมากขึ้นกว่าเดิน และควบคุมให้มันพุ่งไปประทะกับโล่สีเขียวของฉื่อหยาน
ฉื่อหยานนั้นได้ดูดซับพลังปราณหยินมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมันได้สร้างเป็นไข่มุกพลังหยินทั้งหกที่แข็งแกร่ง เขานั้นไม่ได้เกรงกลัวเป่ยหมิงเช้อเลย แม้ว่ามันจะอยู่ในระดับหายนะก็ตาม
นอกจากนี้ ฉื่อหยานเองก็ยังคงไม่ได้ใช้พลังงานเชิงลบเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น เขาจึงยินดีที่จะต่อสู้กับเป่ยหมิงเช้อต่อ
มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน จ้องมองด้วยความสงสัย
สองสาวรู้จักความสามารถ เป่ยหมิงเช้อ เป็นไง
อยู่ในระดับหายนะ ! สืบทอดจิตวิญญานแฝด ! ฝึกวรยุทธ์ด้วยสิ่งล้ำค่าที่สุดของตระกูลเป่ยหมิง เป่ยหมิงเช้อผู้ที่อยู่ที่เหนือทุกคน
ถึงแม้ว่าเป่ยหมิงเช้อจะอยู่ในนภาแรกของระดับหายนะ แต่มันก็สามารถชนะนักรบที่อยู่ในนภาที่สองได้ ! มักนสามารถเทียบได้กับนักรบในนภาที่สาม
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มันกำลังสู้กับเด็กหนุ่มจากตระกูลฉื่อ กลับเป็นเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันของเป่ยหมิงเช้อที่ไม่สามารถกำจัดเขาคนนั้นได้ !
มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ตกอยู่ในความสับสน
ฉื่อหยานนั้น้คยทำให้สองสาวประทับใจในการประลองที่ศิลาพระเจ้ามาแล้ว แล้วตอนนั้นเขาก็เป็นเพียงนักรบในนภาที่สามของระดับก่อตั้งเท่านั้น .
แต่นี่มันเป็นเพียงแค่สองเดือนหลังจากที่งานประลองจบลงเท่านั้น ฉื่อหยานกลับไปถึงนภาแรกของระดับมนุษย์ เขาช่างมีความสามารถยิ่งนัก
แล้วตอนนี้ เขากลับประมือกับเป่ยหมิงเช้อด้วยระดับบ่มเพาะเพียงนภาแรกของระดับมนุษย์อีก ?
เห็นฉื่อหยานแสดงออกอย่างเฉยเมยต่อกการโจมตีของเป่ยหมิงเช้อ , สองสาวก็ค่อนข้างแปลกใจและมองไปที่ฉื่อหยาน ด้วยความสับสนที่อยู่ในดวงตา
ห้านาที ! 10 นาที ! ครึ่งชั่วโมง
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านมา กำแพงพลังหยินที่ฉื่อหยานสร้างขึ้นมาก็ยังคงอยู่
ฉื่อหยานดูเฉยเมย และมีความสุขที่ได้ต่อสู้
แต่เป็นเป่ยหมิงเช้อ ที่แทบจะไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป
หลังจากครุ่นคิดสักพัก เป่ยหมิงเช้อ หยุดเรียกเปลวไฟขั้วอัคคีเหมันกลับมาและหยุดโจมตีไปที่เขา จากนั้นมันพูดอย่างเย็นชา ” ข้าจะไม่เสียเวลากับเจ้าอีก ” .
ดาบสีแดงและสีฟ้าที่แปลกประหลาดก็ค่อยๆปรากฏออกมาโดยเป่ยหมิงเช้อ
” ดาบแยกนภา ! “
มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน ถอนหายใจออกมาในเวลาเดียวกันและมองฉื่อหยานด้วความสงสาร และคิดว่า ฉื่อหยานจะต้องตกตายแน่นอน
ดาบแยกนภาเป็นอาวุธระดับวิญญานซึ่งก่อนหน้านี้เป็นของ เป่ยหมิงชาง ก่อนที่เป่ยหมิงชางจะเข้าสู่ระดับปฐพี ซึ่งมีส่วนประกอบของแกนภูเขาไฟพันลูกและการกลั่นด้วยเปลวเพลิงปฐพีแท้จริงและแช่ในน้ำแข็งจากขั้วโลก เป็นเวลา 3 ปี
ดาบแยกนภามีด้วยกันสองสี ครึ่งหนึ่งสีแดงและอีกครึ่งหนึ่งเป็นสีน้ำเงิน
ด้วยความช่วยเหลือของดาบแยกนภา เป่ยหมิงเช้อ , ได้สร้างชื่อเสียงมากมายในเมืองเทียนหยุนและไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับศัตรูคนใดเลย ดาบแยกนภาเป็นดาบที่แหลมคมเป็นอย่างมาก , และยังมีพลังของเปลวเพลิงปฐพีและน้ำแข็งจากขั่วโลกอีก
นักรบที่ถูกสัมผัสโดยดาบแยกนภาจะต้องถูกแช่แข็งและเผาเป็นจุล
มู่หยู่เตี๋ย และ ตี่ย่าหลาน รู้จักดาบแยกนภาดี
ดังนั้น เมื่อดาบแยกนภาปรากฏออกมา สองสาวก็คิดว่าฉื่อหยานจัต้องตายแน่นอน
‘’ [ ย้นระยะ ] ! ‘’
เป่ยหมิงเช้อ ตะโกนออกมาและปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของฉื่อหยาน พร้อมกับดาบแยกนภา เขาฟันมันในอากาศและมันก็เกิดเป็นเปลวไฟสีแดงและสีน้ำเงิน
” ชี… “
กำแพงพลังหยินถูกตัดขาดเป็นสองส่วนโดยดาบแยกนภา
ฉื่อหยาน ก็ตกใจและ เขารีบโคตรพลังของเขาและควบคุมไปที่ [ หลุมแนงโน้มถ่วง ] ที่อยู่ด้านหลังของเขา
ขณะเดียวกันวงหมุน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] อีกสองอันก็ลอยตามวงแรกไปทันที
พื้นที่รอบๆตัวของฉื่อหยานกลายเป็นบิดเบี้ยวและยุบลงเล็กน้อย
เขายืนอยู่ในวงหมุน [ หลุมแรงโน้มถ่วง ] ราวกับว่ามันไม่มีตัวตร , ฉื่อหยาน สงบลง แต่สายตาของเขากลับจ้องไปที่เป่ยหมิงเช้ออย่างโหดร้าย
ฉื่อหยานกำลังรอให้เป่ยหมิงเช้อใช้จิตวิญญานย้นระยะเข้ามาหาเขาใน[ หลุมแรงโน้มถ่วง ] !
เป่ยหมิงเช้อ นั้นไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย ในที่สุดมันก็ใช้ย้นระยะอีกครั้ง !