บทที่ 106 บุตรของพระเจ้า
แล้วฉื่อหยานก็ได้ตกลงกับนาง
เซี่ยซินหยาน ได้บอกอย่างชัดเจนว่าพรรคสามเทพนั้นเป็นศัตรูกับตระกูลเซี่ย ขณะที่นางอยู่ในหุบเขาพลังหยินหลังจากที่นางรู้ว่าประตูสวรรค์เป็นของปลอมซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย โอหยางจื่อ นางก็ชี้จุดประสงค์ของนางออกมาอย่างชัดเจน
หลังจากออกจากหุบเขาพลังหยินเซี่ยซินหยาน ก็สันนิษฐานไว้แล้วว่าฉื่อหยานจะต้องอยู่ที่นี่และรอนางอยู่
นางนั้นรู้ตั้งแต่อยู่ที่หุบเขาพลังหยินแล้ว
สำหรับฉื่อหยานแล้ว ตราบใดที่เขารอด เขาก็จะมีโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุด !
เขาไม่ได้สนใจยาพิษที่เซี่ยซินหยานพูดอย่างจริงจังเลย เขาเชื่อว่า จิตวิญญานอมตะของเขาจะสามารถรับมือกับยาพิษนั่นได้
นอกจากนี้ เนื่องจากทะเลไม่มีสิ้นสุดอยู่อีกห่างไกล , มันก็มีโอกาสที่เป่ยหมิงชางจะมาพบเขา มันจะปลอดภัยกว่าถ้าเขาไปกับเซี่ยซินหยาน
ตอนนี้เขาจะต้องทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง เขาจะตอบโต้กลับเมื่อใดก็ได้ตราบที่เขารอดอยู่
หลังจากเซี่ยซินหยาน ทำข้อตกลงสำหรับเขาทั้งสองแล้ว ฉื่อหยานอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเซี่ยซินหยาน ถึงความสามารถในการหาผลประโยชน์จากสถานการณ์
ถ้าฉื่อหยานได้แฝงตัวอยู่กับตระกูลเซี่ยและเมื่อได้เป็นบุตรแห่งพระเจ้าของพรรคสามเทพ นางก็จะได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ พรรคสามเทพ !
แม้แต่ชายร่างยักษ์ทั้งสองที่ยืนนิ่งเฉยเองก็รู้ถึงจุดประสงค์นี้ !
ฉื่อหยาน จะเป็นมีโยชน์กับตระกูลเซี่ยมากกว่าที่จะให้เขาตาย !
สองวันต่อมา ฉื่อหยานก็เดินทางไปทิศตะวันออกอย่างราบรื่นกับพวกเขาทั้งสาม
เซี่ยซินหยานนั้นทำตามสัญญาเป็นอย่างดี และยัง อธิบายให้เขาฟัง เกี่ยวกับพรรคสามเทพอีกด้วย
พรรคสามเทพ คือ ขุมพลังใหญ่ในทะเลไม่มีสิ้นสุด มีสาวกมากมาย สาวกหลักมีความสามารถในการดูดซับพลังงานจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว ด้วยจิตวิญญานต่อสู้ของพกวเขา
พรรคสามเทพมีจิตวิญญานต่อสู้ด้วยกันทั้งหมด 3 อย่าง ; จิตวิญญานดวงตะวัน , จิตวิญญาณดวงดาว และ จิตวิญญานจันทรา
3 จิตวิญญานต่อสู้นี้สามารถดูดซับพลังจากแสงจากดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาวได้ นักรบที่ครอบครองจิตวิญญานดวงดาวนั้นหาได้ยากเป็นอย่างมาก จิตวิญญานดวงดาวถือว่าเป็นสิ่งที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาจิตวิญญานต่อสู้ทั้งสาม
เพราะมีเพียงหนึ่งอาทิตย์และหนึ่งดวงจันทร์เท่านั้นที่แผ่นดินรุ่งเรืองแห่งนี้ ในขณะที่ดวงดาวนั้นมีมากมาย พลังงานโดยรวมของพวกมันจึวแข็งแกร่งกว่า ดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์
พรรคสามเทพนั้นลึกลับเป็นอย่างมากและสาวกหลักของพวกเขาไม่ได้เกิดมาพร้อมกับจิตวิญญานต่อสู้ แต่พวกเขาได้รับมันหลังจากที่แช่ในบ่อดวงตะวัน บ่อจันทรา บ่อดวงดาว เป็นเวลา 3ปี
บ่อดวงตะวัน บ่อจันทรา บ่อดวงดาวเป็นสถานที่ลึกลับที่สุดในพรรคสามเทพ ไม่มีคนนอกรู้แน่นอนว่าพวกมันอยู่ที่ใด แม้แต่สาวกหลายคนของพรรคสามเทพเองก็ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของพวกมัน
พวกพรรคสามเทพจะไปยังเกาะในทะเลกว้างใหญ่ ทุกๆสิบปี เพื่อเฟ้นหาทารกฝีมือดี และพาพวกเขาไปยังบ่อลึกลับทั้งสาม
ทั้งสามบ่อนั้น มีอำนาจประหลาด ทารกเป็นจำนวนมากต่างก็ตกตายทันทีที่ถูกวางลงในบ่อ โดยทั่วไปแล้วจะมีทารกเพียง 20 ใน 1000 เท่านั้นทีรอดมาได้หลังจากแช่อยู่ในบ่อสามปี
ผู้ที่รอดชีวิต จะได้รับอำนาจดูดซับพลังจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว และพวกเขาก็จะพูดรับเป็นศิษย์หลักของพรรคสามเทพ พวกเขาถูกส่งไปยังเกาะหลัก และสอนถูกสอนวิชาต่อสู้ทุกประเภท โดยเหล่าอาจารย์
ทารกที่รอดชีวิตทั้งสามบ่อ ต่างก็ได้รับจิตวิญญานต่อสู้ที่มีความสามารถแตกต่างกันไป
สำหรับจิตวิญญานดวงตะวัน ทารกบางคนก็อาจสามารถดูดซับพลังจากดวงอาทิตย์ได้ 10 เท่าหากเทียบกับคนอื่นๆ
ทารกเหล่านี้จะพัฒนาจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาหลายขั้นและพวกเขาก็จะสามารถดูดซับพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้เร็วขึ้นมากขึ้น บางครั้งก็สามารถสร้างแสงไฟเหมือนกับดวงอาทิตย์ได้
บางคนก็ใช้เวลาเป็นอย่างมากในการดูดซับพลังงานของดวงอาทิตย์และจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาก็จะไม่พัฒนาขึ้นหากระดับการบ่มเพาะของเขาไม่ก้าวหน้า
ถึงแม้ว่าจิตวิญญานดวงตะวัน จิตวิญญานจันทรา จิตวิญญานดวงดาว ทั้งหมดจะเป็นจิตวิญญานระดับศักดิ์สิทธิ์ , พวกมันจะไม่สามารถทรงพลังขึ้นได้หากไม่ได้รับการพัฒนา
เกือบจะไม่มีทารกคนใดจากทั้งสามบ่อที่สามารถพัฒนาขั้นของจิตวิญญานให้อยู่ในจุดสูงสุดได้ ถึงแม้ว่าระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะสูงก็ตาม จิตวิญญานของเขาจะถูกหยุดให้ไม่สามารถพัฒนาได้
มีเพียงไม่กี่ราย ของทั้งสามบ่อ ที่มีความสามารถพิเศษ ในศตวรรษที่ผ่านมา ทารกเหล่านี้ถูกเรียกว่า บุตรแห่งพระเจ้า ! บุตรแห่งพระเจ้าเหล่านี้เป็นสาวกที่มีพรสวรรค์ที่สุดที่จะกลายเป็น เทพดวงตะวัน เทพจันทรา เทพดวงดาว รุ่นต่อมา !
บุตรแห่งพระเจ้านั้นหาได้ยากเป็นอย่างมากพวกเขาจะถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของพรรสามเทพและเหล่าผู้อาวุโสก็จะเป็นคนฝึกฝนพวกเขาด้วยตัวเอง เมื่อพวกเขาเลือกที่จะใส่เสื้อคลุมของเทพทั้งสาม ชีวิตที่เหลือของพวกเขาก็จะเกี่ยวข้องได้เพียงแต่พรรคสามเทพเท่านั้น
บุตรแห่งพระเจ้ามาจากบ่อทั้งสามเหล่านี้ ในขณะที่บางส่วนของพวกเขาก็ถูกพบในอีกหนทางหนึาง
ผู้ที่ได้รับตราประทับจิตวิญญานดั่งเดิมก็ถือได้ว่าเป็นบุตรแห่งพระเจ้าทันที .
บุตรแห่งพระเจ้าที่เกิดเช่นนี้มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะกลายเป็นหนึ่งในเทพทั้งสามของพรรค เนื่องจากพวกเขาได้รับสืบทอดจิตวิญญานต่อสู้มาจากเทพรุ่นก่อน
ดังนั้น บุตรแห่งพระเจ้า ที่สืบทอดจิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขาผ่านตราประทับจิตวิญญานดั่งเดิมเช่น
ฉื่อหยาน นั้นถือได้ว่าโชคดีเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเซี่ยซินหยาน เองก็อยากส่งฉื่อหยานเข้าไปยังพรคคสามเทพ นางจึงอธิบายทุกรายละเอียดรอบคอบ
นางกล่าวถึงเทพทั้งสามของพรรคว่าเป็นพวกลึกลับและชั่วร้าว และบอกถึงความชั่วร้ายของพวกพรรคสามเทพ ยั่วยุให้ฉื่อหยานเกลียดชังพรรคสามเทพ
ฉื่อหยานรู้ว่าเซี่ยซินหยาน ตั้งใจทำอะไร แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไร เขาฟังอยู่เงียบๆเท่านั้น
ในวันนั้นเอง ฉื่อหยาน และ เซี่ยซินหยานก็ได้มาถึงศูนย์กลางของบึง พวกเขายืนอบูาบนแผ่นดินแห้งและมองหาสถานที่ที่จะเหยียบต่อไปอย่างระมัดระวัง
จู่ๆ ใครบางคนโผล่ขึ้นมาจากหนองน้ำ และหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ ” ในที่สุดก็พบกันอีกครั้ง ! “
” ซัวฉี ! ” เซี่ยซินหยาน ดูเย็นชาและนางก็ถามออกไปอย่างใจเย็น ” เจ้ามาที่นี่ทำไม ! “
” ข้าไม่ได้มาหาเจ้า ” ซัวฉียิ้มแล้วหันไปที่ฉื่อหยาน , ” เจ้าหนุ่มส่งของที่เจ้าได้มาจากพื้นที่ประหลาดนั้นสะ ข้าสัญญากับชิเสี่ยวว่าจะไม่ทำอะไรเจ้า หากเจ้าส่งมาให้ข้าดีๆข้าก็จะปล่อยเจ้าไปอย่างมีชีวิตอยู่ ”
” ซัวฉีเจ้ามาตามหาสมบัติงั้นรึ ? ” เซี่ยซินหยาน สูดหายใจเข้าและแอบสบตากับชายร่างยักษ์ทั้งสอง
” อย่าเล่นตุกติก ” ซัวฉีพูดขึ้นทันที ” ข้าจับตามองพวกเจ้ามาตลอดทั้งวัน และพวกเจ้าเองก็รู้ถึงความสามารถของข้าเมื่อข้าอยู่ในบึงดี ! ทำตามที่ข้าบอกสะหากพวกเจ้าไม่อยากจมลงไป ! หรืออย่าได้มาโทษข้าหากพวกเจ้าตาย “
” ซัวฉี เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หลอก ” เซี่ยซินหยานกล่าวอย่างใจเย็น
” ข้ารู้ดี เจ้าหนะอยู่ในระดับนภาได้เพียงครู่เดียวใช่ไหมละ ? ” ซัวฉีดูโหดร้าบ เขาเริ่มหงุดหงิด เมื่อคิดถึงเซี่ยซินหยานที่เข้าสู่ระดับนภา ” ข้าจะลงไปแอบในบึง และเมื่อเจ้าอ่อนแอลงข้าก็จะกลับมา ข้ารู้เจ้าไม่สามารถเข้าสู่ระดับนภาได้สองครั้งติดกัน เมื่อถึงตอนนั้น ข้าก็จะทำทุกอย่างที่ข้าต้องการ “
ดวงจาของเซียซินเหยียนตากลายเป็นเย็นชา
” เจ้าช่วยข้ากำจัดอสรพิษนภาเก้าหัว เช่นนั้นข้าก็จะไม่สร้างปัญหาให้เจ้า แต่เจ้าต้องปล่อยเขาไว้แล้วไปสะ ! ” ซัวฉีมองไปที่เซี่ยซินหยานอย่างเย็นชาและยื่มือของเขาไปที่ฉื่อหยาน ” เอามาให้ข้า และเจ้าก็ไปสะ อย่าได้มาโทษข้าหากเกิดอะไรขึ้น “
” ซัวฉี เจ้าอยากตายงั้นรึ ! ” เซี่ยซินหยาน ถอนหายใจออกท่ และพูดอย่างเย็นชา ” นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้าที่จะได้กลับไปในบึง ไม่งั้นเจ้าจะต้องเสียใจ “
” เสียใจ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! ” ซัวฉีหัวเราะออกมา ” แสดงให้ข้าเห็นที ว่าเจ้าจะทำเช่นไรให้ขาเสียใจ “
พลังปราณลึกลับสีเขียวก็ไหลออกมาจากร่างของ ซัวฉีที่อยู่กลางหนองน้ำ
โคลนกระเพื่อมไปมาเหมือนคลื่น , ทันที มังกรโคลนสิบตัวก็ กระโดดออกมาและพุ่งเข้าใส่เซี่ยซินหยาน
เซี่ยซินหยานมีสีหน้าเฉยเมยสายตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชาในขณะที่นางยกแขนของนางขึ้น
จากจุดกลางของบึง พลังแห่งการจุติก็ควบแน่นในฝ่ามือของเซี่ยซินหยาน
เซี่ยซินหยาน , ผู้ที่อยู่ในระดับหายนะก็เข้าสู่ระดับนภาทันที และมองไปยังมังกรโคลนอย่างเย็นชา , ปรากฏเป็นดอกบัขึ้นระหว่างมือนาง
ดอกบัวสีฟ้านับไม่ถ้วนลอยออกมาจากฝ่ามือของนางกระจายไปทั่วในอากาศส่งกลิ่นสดชื่นและส่องแสงเจิดจ้าออกมา
ทุกๆดอกนั้น – ใหญ่เท่ากับกะละมัง . พวกมันล้อมไปรอบๆเซี่ยซินหยาน
” หยุดสะ ! “
เซี่ยซินหยาน ชี้ออกไปและดอกบัวก็พุ่งไปยังมังกรโคลนด้วยเสียงคำรามที่ดังก้อง พลังจองซัวฉีก็ถูกทำลายไปพร้อมกับมังกรโคลน และมันกลับมาเป็นโคลนตกไปในหนองน้ำเช่นเดิม
” หยุดเดี๋ยวนี้ ! “
เซี่ยซินหยานชี้ออกไปอีกครั้ง ในขณะที่ดอกบัวสิบอันลอยไปยังซัวฉี
” ฮิฮิ เจ้าลงมือแล้วสินะ มาดูกัน . . . ” ซัวฉีหุบหัวของมันและหายไปในโคลน
” กลับมานะ ! “
เซี่ยซินหยาน ดูเหมือนนางจะรู้ว่านางคงไม่สามารถชนะซัวฉีได้ นางเหยียดมือของนางและถอนดอกบัวทั้งหมดดอกกลับมาที่ฝ่ามือ
” ไปกันเถอะ ! ” เซี่ยซินหยานเหยียดมือของนางและยกฉื่อหยานที่ยืนอยู่ในบึงขึ้น แล้วถลันออกมาจากบึงในทันที
ชายร่างยักษ์ทั้งสองจากตระกูลเซี่ยก็ตะโกนและกระทืบเท้าถลันออกมาไปเหมือนกับกระสุนสองนัดติดตามเซี่ยซินหยานไป
” ฉื่อหยาน ! ฉื่อหยาน ! ฉื่อหยาน ! “
ในตอนนั้นเอง ก็เป็นเสีนงของเป่ยหมิงชางที่ ตะโกนมาแต่ไกลด้วยความเกลียดชัง เสียงคำรามดังใกล้เข้ามาขึ้นเรื่อยๆ
สีหน้าของเซี่ยซินหยานเปลี่ยนทันที เมื่อนางตระหนักว่าสถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายเป็นอย่างมาก นางคว้าไปที่ฉื่อหยาน และบินไปทางตะวันออกด้วยความเร็วที่สุดของนาง ในขณะที่นางยังคงครอบครองพลังปราณลึกลับในระดับนภา
” เจ้าจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น “เป่ยหมิงชางตะโกนและปลดปล่อยพลังจิตวิญญานออกมาอย่างบ้าคลั่ง !
