[TL. ผนึกแห่งความเป็นความตาย…. ผนึกแห่งชีวิตและความตาย คืออันเดียวกันนะครับ ]
บทที่ 130 การเปลี่ยนแปลงของ ชีวิตและความตาย
ในหลุมฝังศพใต้ดิน
สองโลงศพที่อยู่ในห้องใหญ่ เป็นสองศพนภาที่ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง . พลังปราณศพแพร่ออกมาอย่างดุร้าย และกระจายไปทั่วทั้งใต้ดิน
ศพนภาทั้งสองนี้ ศพหนึ่งเป็นผู้ชาย และอีกศพหนึ่งเป็นผู้หญิง ทั้งคู่ดูเหมือนจะอายุมาณสี่สิบปีและ ผิวของพวกมันดูซีดและมีริ้วรอยตามร่างกาย
ศพนภาทั้งสองนั้นอยู่ในระดับรู้แจ้ง และมีพลังปราณศพลอยอยู่รอบๆตัวพวกมัน สามารถทำให้คนที่พบเห็นนั้นรู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลังได้
ศพนภาลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสีเทาซีดของพวกมันค่อยๆ กลิ้งไปรอบ ๆในเบ้าและพวกมันก็มองมายังฉื่อหยานขณะที่ยังคงนั่งอยู่ในโลงศพ
ศพนภาที่เป็นผู้ชายค่อยๆ ยืนขึ้น และเปิดปากพ้นลมหายใจออกมาเป็นแสงสีขาวซึ่งเต็มไปด้วยพลังปราณศพ
แสงสีขาวพุ่งออกมาและระเบิดข้างหน้าเขา มันกระจายออกเป็นเส้นแสงเล็กๆและพุ่งต่อไปยังโลงศพในห้องหินที่อยู่ใกล้ๆ
ดูเหมือนว่าเหล่าแสงสีขาวที่พุ่งไปนั้นจะปลุกทาสศพที่อยู่ในโลงศพ เมื่อโลงศพถูกกระทบด้วยแสงสีขาว ก็เกิดเป็นเสียงแปลกๆดังขึ้นมาจากข้างใน
ในไม่ช้า ทาสศพหลายร่างก็กระโดดออกมาจากโลงศพ พวกมันบางส่วนนั้นแสดงท่าทางแข็งทื่อและบางศพก็เคลื่อนไหวเฉกเช่นของเหลว พวกมันทั้งหมดต่างก็พุ่งมายังฉื่อหยาน
ทาสศพทั้งเจ็ดร่างที่ถูกปลุกขึ้นก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้ยืนอยู่ข้างหน้าฉื่อหยานแล้ว
ฉื่อหยานดวงตากลายเป็นเย็นชาและโหดร้ายขึ้น ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่รุนแรงมันเต็มไปด้วย ความกลัว ความบ้าคลั่ง และความกระหายเลือด หมอกสีขาวปกคลุมร่างกายทั้งหมดของเขาทำให้เขาดูดุร้ายเป็นอย่างมาก
ทาสศพได้มาล้อมรอบอยู่ที่ด้านหน้าของฉื่อหยาน พวกมันทั้งสามนั้นดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
ทาสศพทั้งสามนั้นพึ่งถูกปรับแต่งได้ไม่นาน และทั้งหมดก็อยู่เพียงแค่ระดับมนุษย์เท่านั้นก่อนที่พวกเขาจะตาย เมื่อพวกมันเคลื่อนไหว เกิดเป็นเสียงข้อต่อของพวกมันดังออกมา แกร๊กๆ ราวกับว่ากระดูกของพวกมันยังคงถูกปรับแต่งไม่สมบูรณ์ พวกมันนั้นต่างก็ถูกปรับแต่งยังไม่ถึงร้อยปี
ทาสศพอีกสี่ตัวนั้นดูราวกับว่าพวกมันกลัวคลื่นพลังงานเชิงลบที่ออกมาจากตัวฉื่อหยาน แต่พวกมันก็ยังคงค่อยๆก้าวเข้าไปหาเขา
ทาสศพทั้งสี่นี้เต็มไปด้วยพลังปราณศพที่แข็งแกร่ง เมื่อพวกมันเคลื่อนไหว กลับไม่เกิดเป็นเสียงข้อต่อดังออกมาจากร่างของพวกมันและความเร็วของพวกมันยังเร็วมากอีกด้วย
ด้วยสีหน้าที่เย็นชาของเขา ฉื่อหยาน ระบุว่าได้ทันทีว่าทาสศพทั้งสี่นั้นเป็นศพปฐพีซึ่งต้องถูกปรับแต่งมาแล้วมากกว่าร้อยปี แขนขาของพวกมันนั้นดูแข็งแกร่ง และพวกมันยังรู้วิธีการใช้วิชาบางส่วนของพวกมันในตอนที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย
” ปุ ! “
ด้านหลังของเขา เกิดเป็นเสียง สิ่งแหลมคมแทงผ่านเลือดเนื้อดังขึ้น
ฉื่อหยานหันไปรอบๆและเห็นว่า มีดเล็มเล็กของเซี่ยซินหยานนั้นได้แทงทะลุคอของสาวกนิกายซากศพ สายตาของคนที่โดนมีดแทงทะลุนั้นดูสิ้นหวังเป็นอย่างมาก ไม่นานมันก็ล้มลงไป
หลังจากที่มันตาย พลังปราณลึกลับ ในร่างกายของมันกระจัดกระจายและไหลเข้าไปยังร่างของฉื่อหยาน
หากร่วมนักรบคนนี้ ก็เท่ากับว่าฉื่อหยานนั้นได้ดูดซับพลังปราณลึกลับของนักรบในระดับหายนะมาแล้วสามคน ด้วยพลังเหล่านั้นทั้งหมดที่ไหลเข้าไปยังเส้นชีพจรของฉื่อหยาน มันเต็มความเกลียดชังและความกระหายเลือด
ทันใดนั้นเอง
สามสาวกนิกายซากศพ ที่อยู่ในหลุมแรงโน้มถ่วงร่างของพวกมันก็เต็มไปด้วยเลือดสีแดง ด้วยแรงบดของหลุมแรงโน้มถ่วง พวกมันค่อยๆตายลงช้าๆ
สองนักรบระดับปฐพีจากดินแดนมหัศจรรย์หยินหยาง ที่อยู่ในหลุมแรงโน้มถ่วงนั้นดูแตกต่างออกไป . แสงสีแดงและสีขาวบนร่างกายของพวกมันหมุนวนไปรอบๆ เพื่อป้องกันการบดขยี้ที่อยู่หลุมแรงโน้มถ่วง ถึงแม้ว่าจะถูกพันธนาการไว้ แต่พวกมันนั้นก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ พวกมันยังคงใช้แสงสีแดงและสีขาวเพื่อป้องกันการบดขยี้ของหลุมแรงโน้มถ่วงอยู่ตลอดเวลา
หลังจากการรวมกันของพลังปราณหยิน พลังปรารลึกลับ และพลังเชิงลบ พลังของหลุมแรงโน้มถ่วงนั้นกลายเป็นที่น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก สองนักรบในระดับปฐพีต่างก็ถูกพันธนาการไว้เช่นนั้น โดยที่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ทาสศพทั้งเจ็ดที่ถูกปลุกขึ้นมาตอนแรกนั้นไม่ได้จู่โจมทันที พวกมันเพียงล้อมรอบ ฉื่อหยานและเซี่ยซินหยานไว้
ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ยืนหันหลังชนกัน โดยที่สีหน้าของเขาดูจริงจัง พวกเขาเฝ้าระวังไปที่เหล่าทาสศพที่เดินออกมาจากห้องหิน , หัวใจของพวกเขาค่อยๆกลายเป็นหนักอึ้ง
ใต้ดินแห่งนี้มีมีหลุมฝังศพลึกลงไปมากมายหลายสิบเมตรในพื้นดินและหลุมฝังศพเหล่านั้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังปราณศพ พลังปราณศพนั้นเป็นพลังที่ชั่วร้ายเป็นอย่างมาก และมันเองก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าไม่อาจควบคุมได้
ด้วยม่านพลังปราณศพนี้ , ทำให้การไหลเวียนของพลังปราณลึกลับในที่แห่งนี้จึงถูกปิดกั้น
ดังนั้น หลี่จวง จูเยี่ยหลู , และคนอื่น ๆ นอกเหนือจากสาวกของนิกายซากศพที่อยู่บนพื้นดิน จึงไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกตินี้ พวกเขายังพูดคุยข้อตกลงกันอยู่
” ตอนนี้เราตกอยู่ในอันตรายจริงๆแล้วสินะ ” เสียงของเซียซินหยานดูเย็นชา ” เพียงแค่ศพนภาร่างเดียวก็เพียงพอจะจัดการเราแล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ที่มีศพนภาถึงสองร่างเลย ”
ทาสทั้งหมดศพค่อยๆลึกขึ้นมาทีละร่าง ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็มีทาสศพจำนวนเกือบร้อยล้อมรอบฉื่อหยานและเซี่ยซินหยานไว้
สาวกนิกายซากศพทั้งสามคนที่อยู่ภายใต้อำนาจแรงบดของหลุมแรงโน้มถ่วงนั้น ได้ตกตายไปแล้ว ดวงตาของพวกมันล้วนทะลักออกมาจากหัวของพวกมัน
หลังจากนั้น พลังปราณลึกลับของพวกมันก็ไหลเข้าไปในร่างของฉื่อหยานอย่างรวดเร็ว และเส้นชีพจรทั้งหมดในร่างของฉื่อหยานก็เริ่มถูกกระตุ้นขึ้นมา
” เดี๋ยวก่อน ! ถ้าเราสามารถรับมือได้ถึงครึ่งวันหละก็ เราจะสามารถฟื้นฟูจิตวิญญานของเจ้าได้ ! ” ฉื่อหยานตะโกนออกมา
” อะไรนะ ? ” เซี่ยซินหยานก็ตกใจ ” เจ้ามียาที่สามารถรักษาได้งั้นรึ ? “
” ไม่ ” ฉื่อหยานส่ายหัว ” เชื่อข้า ! ตราบใดที่เราสามารถอยู่รอดได้ครึ่งวัน ข้ามีวิธีที่จะฟื้นฟูจิตวิญญานต่อสู้ของเจ้า ! “
ในป่าทมิฬ เขาแน่ใจแล้วว่าความสามารถของพลังแปลกประหลาดในร่างกายของเขาสามารถช่วยเหลือมู่หยู่เตี๋ยและตี่ย่าหลานได้ . พลังแปลกประหลาดนี่ไม่เพียงแต่พัฒนาจิตวิญญานต่อสู้และพลังปราณลึกลับของเขา แต่มันยังสามารถช่วยให้ผู้สามารถฟื้นฟูจิตวิญญานต่อสู้ได้ด้วย
ตอนนั้นจิตวิญญานเสียงเพลงของมู่หยู่เตี๋ยนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเส้นชีพจรทั้งหมดในร่างกายของนางฉีกขาด แต่ด้วยความช่วยเหลือของพลังแปลกประหลาดนั้นนางจึงสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว ถ้าพลังแปลกประหลาดนั่นสามารถฟื้นฟูจิตวิญญานเสียงเพลงได้ , ตามปกติแล้ว , มันต้องสามารถฟื้นฟูจิตวิญญานจุติของเซี่ยซินหยานได้ด้วยเช่นกัน
ตราบใดที่เส้นชีพจรในร่างกายของเขาสามารถแปลงพลังปราณลึกลับให้เป็นพลังนี่ และปล่อยออกมาจากร่างของเขาได้ เขาก็จะสามารถใช้พลังแปลกประหลาดนี้ช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งและจิตวิญญานต่อสู้ของเซี่ยซินหยานได้
เวลา ! เขาเพียงต้องการเวลาเท่านั้น !
เซี่ยซินหยาน ก็ประหลาดใจอยู่ภายใน นางนั้นไม่รู้วิธีการของฉื่อหยานเลย แต่นางก็เลือกที่จะเชื่อในตัวเขา และนางก็กล่าวว่า : ” ข้าจะพยายาม “
แล้วแหวนสีเขียวบนนิ้วของนางก็ส่องแสงสีเขียวกระเพื่อมออกมา
ลูกบอลสีเงินขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันส่องแสงวิบวับบนฝ่ามือของนาง เมื่อลูกบอลสีเงินปรากฏขึ้น ทันที เซี่ยซินหยาน ก็ซัดฝ่ามือของนางออกไป โดยให้มันพุ่งไปยังทาสศพที่อยู่รอบๆ
” บูม บูม ! ! ! บูม บูม บูม “
ในหลุมฝังศพใต้ดิน เกิดระเบิดขึ้นหลายครั้ง ลูกบอลสีเงินเหล่านั้นส่องแสงสีเงินออกมาและเมื่อพวกมันตกลงไปบนพื้น ในทันทีพวกมันก็ระเบิดออกมา , เป่าร่างของทาสศพแตกกระจายเป็นชิ้นๆ
เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น ส่งผลให้ร่างของทาสศพที่มีอายุต่ำกว่าร้อยปีแตกกระจายออก ร่างของพวกมันแยกออกจากกัน พวกมันนั้นไม่สามารถทนต่อพลังของลูกบอลสีเงินได้
ศพปฐพี ที่มีอายุมากกว่าร้อยปี นั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ภายใต้การระเบิดของลูกบอลสีเงิน ร่างกายของพวกมันถูกเผสจนไหม้เกรียม แต่พวกมันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก .
2 ศพนภายังคงนิ่งเฉยอยู่ภายในโลงศพยักษ์ แต่พวกมันก็เริ่มกรีดร้องออกมาพร้อมกัน
หลายสิบศพมนุษย์และศพปฐพี จู่ๆก็กลายเป็นบ้าคลั่ง ด้วยเสียงร้องของศพนภา พวกมันทั้งหมดเคลื่อนไหวไปที่ฉื่อหยาน
ตอนนั้นเองสีหน้าของฉื่อหยาน ก็กลายเป็นเย็นชา หลุมแรงโน้มถ่วงที่ฆ่าสาวกของนิกายซากศพทั้งสามไปก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปอยู่ที่ด้านหน้าของเขา
สิบศพมนุษย์และศพปฐพีพุ่งไปข้างหน้าและเข้าสู้วงหมุนที่มองไม่เห็น พวกมันถูกพันธนาการด้วยแรงบดของวงหมุน ซึ่งมีแรงหมุนมหาศาลอยู่ภายใน นั่นทำให้พวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวออกมาจากวงหมุนได้
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ฉื่อหยานใช้กายาแข็ง และท่าทางของเขากลายก็เป็นดุร้ายมากขึ้น เขาแอบเรียกใช้ดรรชนีทะลวงและพุ่งเข้าไปยังกลุ่มของทาสศพ
” บูม บูม บูม ปัง ปัง ปัง ! “
ฉื่อหยาน เข้าไปในกลุ่มทาสศพอย่างบ้าคลั่ง กำลังของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นหลังจากใช้กายาแข็ง เขาทำลายทาสศพไปเป็นจำนวนมากอย่างบ้าคลั่ง
ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยกายาแข็งพร้อมกับอยู่ในสภาวะที่เปิดใช้งาน บ้าคลั่ง ทำให้ตอนนี้ฉื่อหยานแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก . พลังชั่วร้ายในร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับพายุที่บ้าคลั่ง ที่คอยส่งร่างของเหล่าทาสศพให้กระเด็นออกไป
ศพมนุษย์ถูกซัดกระเด็นลอยไปในอากาศด้วยการโจมตีของฉื่อหยาน , พวกมันไม่สามารถต่อต้านการโจมตีที่รุนแรงของฉื่อหยานได้เลย
ศพปฐีร้อยปีนั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนเหล็ก แต่ภายใต้การโจมตีที่บ้าคลั่งของฉื่อหยาน ทำให้พวกมันถูกปซัดกระเด็นไปในอากาศเช่นกัน แต่พวกมันก็สามารถกลับมายืนได้อย่างรวดเร็ว และ อีกครั้ง ที่พายุบ้าคลั่งนี้ได้ซัดพวกมัน
ร่างของศพปฐพีนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ในบริเวณหน้าอกและบริเวณท้องของศพปฐพีบางร่างนั้นมีเกราะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่ มันเป็นเกราะที่เกิดขึ้นจากพลังปราณศพ และมันค่อนข้างที่จะแข็งแกร่ง แม้แต่ดรรชนีทะลวงของฉื่อหยานก็มิอาจทะลวงได้
ศพปฐพีส่วนใหญ่นั้นล้วนแต่เป็นนักรบในระดับหายนะในขณะที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ และพวกมันก็สามารถใช้พลังได้ถึง 100 เปอเซนต์ของพลังในช่วงที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ ภายใต้การโจมตีที่บ้าคลั่งของฉื่อหยาน พวกมันยังคงสมบูรณ์ปกติดี ทุกครั้งที่พวกมันล้มลง มันก็จะลุกขึ้นมาและรับการโจมตีของฉื่อหยานที่บ้าคลั่งอีกครั้ง มันเป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมา
มีสองศพปฐพีที่มีจิตวิญญานเหมือนอสรพิษ พวกมันปรากฎตัวขึ้นจากฝูงซากศพมนุษย์และก้าวเดินอย่างแปลกประหลาดทำให้ดูน่าขยักแขยง , พวกมันมักจะปรากฏตัวขึ้นและโจมตีไปที่ด้านหลังของฉื่อหยาน
ที่ฝ่ามือของศพปฐพีทั้งสองปรากฏเป็นกระดูกที่ดูแหลมคมขึ้น กระดูกที่แหลมคมนั่นได้แทงทะลุออกมาจากฝ่ามือของพวกมัน และพุ่งไปที่ด้านหลังของฉื่อหยาน
” ปัง ! “
หัวใจของฉื่อหยานรู้สึกเสียววาบ ด้วยกายาแข็งของฉื่อหยานเขายังคงสามารถป้องกันได้ แต่มันก็ยังหนักหนาเกินไปที่เขาจะจัดการพวกมัน
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง , ศพปฐพีจำนวนมากก็เริ่มใช้วิชาที่พวกมันมีในขณะที่มีชีวิตอยู่ออกมา พวกมันนั้นสามารถโคจรพลังปราณศพ แทน พลังปราณลึกลับ ได้ และตอนนั้นเองเส้นแสงรูปแบบต่างๆที่มีสีเทาซีดก็พุ่งไปยังฉื่อหยานจากทุกทิศทาง
” บูม บูม ! ! ! “
ท่ามกลางกลุ่มทาสศพนั้น ฉื่อหยานดูแย่เป็นอย่างมาก น่างของเขาสั่นสะท้าน ไม่นักเขาก็เริ่มจู่โจมกลับไป
เซี่ยซินหยาน นั้นสวมชุดเกราะสีแดงที่สดใส ชุดเกราะส่องแสงเป็นรูปแบบบางอย่างที่ดูซับซ้อนออกมา ภายในรูปแบบนั่น ปรากฏเป็นแสงสีแดงส่องออกมาเหมือนกับสีของเปลวเพลิง
ด้วยแสงสีส่องออกมาจากเกราะ เซี่ยซินหยาน ยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่ขยับใดๆ เหล่าทาสศพนั้นไม่ค่อยจู่โจมนางเท่าใดนัก ราวกับว่าพวกมันกลัวแสงที่ส่องออกมาจากเกราะของนาง
” มาอยู่ข้างๆข้า ” เซี่ยซินหยานตะโกนออกมา
สีหน้าของฉื่อหยาน ดูดุร้ายเป็นอย่างมากท่ามกลางทาสศพ เขาขบฟันแน่น และเริ่มเรียกใช้ผนึกแห่งชีวิตและความตาย
ปรากฏเป็นสัญลักษณ์ขึ้นที่มือเขาอย่างรวดเร็ว มันปรากฏอยู่บนฝ่ามือของเขา มือข้างหนึ่งคือผนึกแห่งชีวิต และอีกข้างหนึ่งคือผนึกแห่งความตาย ผนึกทั้ง 14 นั้นไม่ได้ผสานกันแต่อย่างใด พวกมันกลับแยกออกเป็นสองทิศทางและพุ่งออกไป
” ก้อง ! “
เจ็ดผนึกแห่งชีวิตพุ่งออกไป และทาสศพที่ถูกผนึกแห่งชีวิตสัมพัสร่างของพวกมันก็ระเบิดออกทันที พวกมันนั้นไม่สามารถต้านทานผนึกแห่งชีวิตได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เจ็ดผนึกแห่งความตายก็พุ่งออกไปเช่นกันและมันก็กระแทกไปยังเหล่าทาสศพ แต่ทาสศพนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลยและยังคงก้าวเดินเข้ามา
ฉื่อหยาน นั้นทั้งดีใจและแปลกใจ
เขาเข้าใจได้ทันทีว่า ผนึกแห่งความตายนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งความตายและไม่มีผลต่อศพเหล่านี้ . แต่ว่าผนึกแห่งชีวิตนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต ซึ่งทาสศพนั้นอ่อนแอเป็นอย่างมากต่อพลังเช่นนี้ ดังนั้นพวกมันจึงถูกทำลายทันทีด้วยการระเบิดเพียงครั้งเดียว
ผนึกแห่งชีวิตนั้นเต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตที่แข็งแกร่ง พลังแห่งชีวิตที่แปลกประหลาดเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นจุดอ่อนของสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้วเช่นทาสศพ !
เมื่อพวกมันได้สัมผัสกับผนึกแห่งความตาย ไม่ว่าจะเป็นศพมนุษย์หรือศพปฐพีร่างของพวกมันทั้งหมดก็จะระเบิดออกทันที ผนึกแห่งชีวิตดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนร้ายแรงของเหล่าทาสศพ ทาสศพนั้นไม่สามารถต้านทานผนึกแห่งชีวิตได้เลยแม้แต่นิดเดียว
” บูม บูม ! ! ! “
ฉื่อหยานดูมีความหวังมากขึ้น เขาเลิกใช้ผนึกแห่งความตายและเรียกผนึกแห่งชีวิตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ศพมนุษย์และศพปฐพีทั้งหมดระเบิดออกเป็นชิ้นๆทันทีเมื่อพวกมันสัมพัสกับผนึกแห่งชีวิต
ตอนนั้นเอง สองศพนภาก็บินออกจากโลงศพของมัน ปรากฏเป็นความตื่นเต้น ที่ดวงตาสีเทาซีดของพวกมัน
เมื่อพวกมันมาถึง พวกมันผลักทาสศพที่อยู่รอบๆกระเด็นออกไป ด้วยความอวดดี พวกมันเข้าประทะกับผนึกแห่งชีวิตสองชุดที่ฉื่อหยานเรียกออกมา
” บูม บูม บูม ~ ~ “
14 ผนึกแห่งชีวิตเข้าประทะกับร่างของศพนภาทั้งสอง
โดยไม่คาดคิด ศพนภาทั้งสองนั้นร่างของพวกมันไม่ได้ระเบิดออก เป็นผนึกแห่งชีวิตทั้ง14ที่ลอยเข้าไปในร่างของพวกมัน และร่างของพวกมันก็ส่องแสงออกมา อย่างช้าๆ ผนึกเหล่านั้นค่อยๆซึมเข้าไปในจิตใจของศพนภา
” หึมมม ! “
ในจิตใจของศพนภาทั้งสอง เกิดเป็นเสียงแปลกประหลาดขึ้น และ ผนึกแห่งชีวิตปรากฏขึ้นบนหัวของศพนภาทั้งสอง ตอนนั้นเอง ความคิดของศพนภาทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาด
พลังแห่งชีวิตที่แปลกประหลาดค่อยๆเติบโตขึ้นภายในจิตใจของศพนภาทั้งสอง ศพนภาทั้งสองนั้นได้ตายมาแล้วหลายพันปี แต่ดูเหมือนว่า จะมีบางอย่างทั้ทำให้พวกมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
นี้. . . . . .คือ ‘ ชีวิต ‘ ที่ต่างออกไปจากมนุษย์ธรรมดา !
ฉื่อหยาน ตกตะลึง เขามองไปที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับศพนภาทั้งสอง โดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
แล้วตอนนั้นเอง แหวนสายโลหิตบนนิ้วของเขาก็ส่องแสงออกมา