บทที่ 132 การล่าสังหารบนเกราะ !
ทาสศพเดินออกมาจากถ้ำหลุมฝังศพใต้ดินทั้งสามและยืนอยู่หน้าหอคอยหิน
ภายใต้แสงจันทร์ที่เย็นยะเยือก เหล่าทาสศพค่อยๆเคลื่อนไหวออกมา แออัดกันอยู่หน้าถ้ำ
ศพนภาทั้งหญิงและชายเองก็ ดินออกมาจากถ้ำเช่นกัน ในดวงตาสีเทาของพวกมัน สามารถมองเห็นผนึกแห่งชีวิตเจ็ดผนึกได้อย่างชัดเจน , มันดูเหมือนกับดวงดาว
ศพนภาทั้งสองเดินออกมาจากหลุมฝังศพใต้ดินและส่งเสียงคำรามออกมา
ภายในหลุมฝังศพหมายเลข 93
โลกศพถูกเปิดขึ้นทีละโลงและเหล่าทาสศพก็เดินออกมา โดยมุ่งหน้าไปยังศูนย์กลางของเกราะ
จากในหลุมฝังศพ จู่ๆสาวกของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยางก็กรีดร้องออกมาด้วยความกลัว เช่นเดียวกับสาวกของนิกายซากศพ
การควบคุมทาสศพที่มากมายนี้ มีเพียงผู้สักการะที่อยู่ในระดับนภาของนิกายเท่านั้นที่สามารถทำได้
เมื่อเห็นทาสศพมากมายปรากฏขึ้น สาวกของนิกายซากศพก็ประหลาดใจ และพวกเขาก็สันนิษฐานว่า ผู้สักการะหยินไห่ควบคุมศพนภาทั้งสองแน่นอน
ด้วยเสียงคำรามที่ดังขึ้นจากศพนภาทั้งสอง ทำให้ศพทาสที่ถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพตื่นขึ้นมาและเคลื่อนไหวมายังที่พวกมันอยู่
กั๋วฉีตกใจและกรีดร้องออกมา , ” นี่มันเป็นไปได้ยังไง ! “
ไม่มีใครนอกเหนือจากหยินไห่ที่สามารถควบคุมศพนภาทั้งสองได้ เพราะทุกศพนภานั้นมีมีตราประทับจิตวิญญานของเจ้านายสลักไว้ในร่าง พวกมันจะคลื่อนไหวได้ก็ต่อเมื่อเจ้านายเป็นคนควบคุม
กั๋วฉีนั้นหวาดกลัวศพนภาทั้งสองเป็นอย่างมาก
หยินไห่นั้นไม่ได้อยู่ที่แต่ แต่ศพนภาทั้งสองกลับเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง นั้นทำให้เหล่าสาวกหลักของนิกายสับสนเป็นอย่างมาก
หลี่จวงและจูเยี่ยหลู , สองนักพรตของดินแดนมหัศจรรย์ นั้นรู้จักศพนภาของนิกายซากศพดี พวกเขาเองก็แปลกใจเช่นกัน เหตุใดศพนภาจึงเคลื่อนไหวได้เอง
ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน เองที่เป็นคนสุดท้าย ที่เดินออกมาจากถ้ำหลุมฝังศพใต้ดิน
เซี่ยซินหยาน นั้นสับสนเป็นอย่างมาก นางอาจเจ้าใจได้เลยเหตุใดฉื่อหยานจึงสามารถควบคุมศพนภาทั้งสองได้
” เจ้าสารเลว ! ” กั๋วฉีร้องออกมา ด้วยความสีหน้าที่โกรธถึงขีดสุด ” นี่เจ้าทำอะไรลงไป ? “
ฉื่อหยาน นั้นยืนอยู่ตรงกลางทางเข้าถ้ำโดยมีควันสีขาวกระเพื่อมอยู่รอบๆร่าง ขณะที่กั๋วฉีจ้องมองมา เขาก็หันไปมองหลี่จวงและจูเยี่ยหลู จากนั้นก็พูดออกมาอย่างไม่แยแส ” เป็นข้อตกลงที่ดีจริงๆ พวกเจ้านั้นอยากขายข้าให้เป็นทาสศพอยู่ที่นิกายซากศพสินะ ? เมื่อตอนอยู่บนเรือข้าเองก็ทำงานหนักเพื่อพวกเจ้า พวกเจ้าก็นำเพียงปลาเค็มและขนมปังนึ่งมาให้ข้า นั่นข้าไม่ใส่ใจนัก แต่ดูนี่ ดูสิ่งที่เจ้าทำกับข้า ? “
หลี่จวงและจูเยี่ยหลู ดูมืดมนลงทันที พวกเขานั้นไม่ได้พูดอะไร
” โดยเฉพาะ ” ฉื่อหยานจ้องมองไปที่จูเยี่ยหลูอย่างเย็น ” เจ้า ข้าเพียงแค่ปฏิเสธที่จะหลับนอนกับร่างกายที่สกปรกของเจ้าเท่านั้น แต่เจ้ากลับอยากให้ข้ากลายเป็นทาสศพ ! นางผู้หญิงแพศยา ! “
” เจ้า หาเรื่องตาย ! ” จูเยี่ยหลู ขมวดคิ้ว และพูดอย่างเย็นชา ” ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้าถึงยังมีชีวิตอยู่ แต่เจ้า เจ้าไม่ได้อยู่เห็นวันพรุ่งนี้แน่นอน ! “
” โอ้ จริงรึ ? ” ฉื่อหยานแสยะยิ้ม และชี้ไปที่จูเยี่ยหลู , พร้อมกับตะโกนออกมา , ” ฆ่านางสะ ! “
เป็นศพนภาผู้หญิงที่พุ่งออกไปทันที
พลังแปลกประหลาดได้ไหลผ่านเข้าไปในร่างของน่าง และเกราะสีเทาที่เต็มไปด้วยพลังปราณศพก็ปรากฏขึ้นที่ร่างของนาง
ศพนภาหญิง นิ้วสะท้อนแสงเงาแหลมคมออกมา และมันได้พุ่งไปยังคอของ จูเยี่ยหลู
ในที่สุดใบหน้าที่ทรงเสน่ห์ของนางก็แสดงความหวาดกลัวและ นางก็คำรามออกมา ” ไม่มีทาง ! “
หลี่จวง และ กั๋วฉีต่างก็ตกใจเช่นกัน พวกมันไม่รู้เลยว่าเหตุใดฉื่อหยานจึงสามารถควบคุมศพนภาได้
” ไปกันเถอะ ” ฉื่อหยานเดินจากไปและมุ่งหน้าไปยังเรือเหล็ก
ศพนภาชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็คำรามออกมา ทำให้ทาสศพตัวอื่นที่ร่วมกันอยู่นั้นก็เปิดเส้นทางให้กับศพนภาชาย
” ฆ่ามัน ! ฆ่าพวกมันทั้งหมด ! ” ฉื่อหยาน ตะโกนออกมา พร้อมกับสีหน้าที่เย็นชา
ทาสศพนับร้อยก็บ้าคลั่งและพุ่งจู่โจมไปยัง สาวกของนิกายซากศพและดินแดนมหัศจรรย์หยินหยาง
สาวกของนิกายซากศพนั้นตกใจเป็นอย่างมาก และตอนนั้นเองพวกมันก็สั่นระฆังของพวกมัน
ทาสศพบางตัวหยุดเคลื่อนไหวทันที แต่ในขณะเดียวกันก็ยังทาสศพตัวอื่นที่ยังคงพุ่งไปด้านหน้า ไม่ว่าเสียงของระฆังจะนั้นดังแค่ไหนก็ตาม
สาวกนิกายซากศพสีหน้าก็เปลี่ยนไป และพวกมันก็สั่นระฆัวอย่างรุนแรงมากขึ้นเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของทาสศพ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทาสศพทั้งหมดที่อยู่ในการควบคุมของเหล่าสาวกนิกายซากศพ
ยังคงมีศพปฐพีหลายศพบนเกราะแห่งนี้ที่อยู่ภายใต้สาวกหลักของนิกาย
ทาสศพเหล่านี้อยู่ในการควบคุมของคนเหล่านั้น ด้วยผนึกจิตวิญญานของพวกเขา ทำให้เหล่าสาวกที่อยู่ที่นี่ไม่สามารถควบคุมพวกมันได้
ในตอนนี้มีทาสศพที่มีระดับสูงกว่าทาสศพเหล่านั้น
ดังนั้น ตั้งแต่ที่ศพนภาได้ออกคำสั่งให้ฆ่าสาวกของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยานและนิกายซากศพ ทำให้เกิดเป็นเสียงกรีดร้องดังขึ้นไปทั่วหลุมฝังศพ 93 .
เหล่าสาวกของนิกายซากศพต่างก็กรีดร้องและวิ่งหนีไป ในขณะที่เหล่าสาวกของ ดินแดนมหัศจรรย์หยินหยานนั้นทำได้เพียงแค่วิ่งวนไปมาเหมือนกับไก่ที่รอเฉือด
โดยเฉพาะสาวกที่เป็นหญิงสาว ที่ยังไม่แม้แต่จะสามารถใช้พลังครึ่งนึงเพื่อปกป้องตัวเองได้
อย่างรวดเร็ว หลุมฝังศพที่ 93 ก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องที่ทรมาน . .
ไม่นาน จูเยี่ยหลูก็ถูกโจมตีโดยศพนภาหญิง
ศพนภาผู้หญิงนั้นอยู่ในนภาที่สองของระดับรู้แจ้ง ก่อนที่นางจะเสียชีวิต และหลังจากที่ปรับแต่งมานับพันปี นางก็มีความสามารถมากกว่าตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่เสียอีก
และ เมื่อต่อสู้ พวกมันยังสามารถใช้วิชาที่ฝึกฝนมาก่อนที่จะเสียชีวิตได้อีก
นักรบของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยาน นั้นสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วเมื่อฝึกกันเป็นคู่
แต่อย่างไรก็ตาม พลังปราณของพวกเขานั้นไม่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับนักรบทั่วไปที่อยู่ ในระดับเดียวกัน พวกเขาทุกคนล้วนอ่อนแอกว่านักรบที่อยู่ในระดับเดียวกัน
จูเยี่ยหลู เองก็ไม่มีข้อยกเว้น
แม้ว่านางจะอยู่ในนภาที่สองของระดับรู้แจ้ง แต่พลังของนางเป็นหากเทียบกับนักรบทั่วไปก็อยู่เพียงนภาแรกของระดับรู้แจ้งเท่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าศพนภา นางนั้นแทบจะไม่สามารถรับมือได้เลย
หลี่จวงต้องลงมือเพื่อปกป้องจูเยี่ยหลู จากศพนภาหญิง
ตอนนั้นเองศพนภาชายที่อยู่ห่างจากฉื่อหยานสิบก้าว ก็กรีดร้องออกมาและควบคุมเหล่าทาสศพให้เคลียทางให้ฉื่อหยานไปยังเรื่อเหล็ก
ฉื่อหยานนั้นดูเย็นชาในขณะที่เขาเดินไปที่เรือเหล็ก ข้างๆเขาคือเซี่ยซินหยานที่ร่วมเดินไปพร้อมกัน .
พลังปราณลึกลับของเหล่าสาวกที่ตายไปใกล้ๆ ต่างก็พุ่งเข้ามายังเส้นชีพจรของฉื่อหยาน
และเส้นชีพจรของฉื่อหยานก็เริ่มมีอาการเจ็บปวดขึ้นมา นั่นทำให้เขาต้องใช้สมาธิเพิ่มขึ้น
เขานั้นต้องควบคุมพลังจิตวิญญานของเขาให้เข้าไปยังแหวนสายโลหิต และส่งข้อความไปยังศพนภาทั้งสอง
ด้วยอาการเจ็บปวดทำให้พลังจิตวิญญานที่เขาส่งไปนั้นอ่อนแอลง ทำให้ศพนภาทั้งสองนั้นพยายามจะขัดขวางการควบคุมของฉื่อหยาน
ฉื่อหยานจะต้องตั้งสมาธิไปที่พลังจิตวิญญานของเขา และถ่ายทอดคำสั่งของเขาไปยังศพนภาทั้งสอง เพื่อให้พวกมันไม่สามารถขัดขืนได้
สำหรับเขานั้น มันไม่ง่ายเลย !
” ไปกันเร็ว ! ” ตอนนั้นเอง ฉื่อหยานก็คว้าไปที่มือของเซี่ยซินหยาน และเร่งความเร็วขึ้น ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา
เนื่องจากเขาว่าเขานั้นพลังจิตวิญญาณมากเกินไป ทำให้ฉื่อหยานรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย และมันก็กลายเป็นเรื่องยากขึ้นที่จะควบคุมศพนภาทั้งสอง
เซี่ยซินหยาน สังเกตเห็นความผิดปกติของฉื่อหยาน นางนั้นเชื่อฟังแต่โดยดี และปล่อยให้ฉื่อหยานลากนางไปยังเรือเหล็ก
หลี่จวง และจูเยี่ยหลู นั้นกำลังถูกพัวพันโดย โดยศพนภาหญิง พวกเขาจึงได้แต่มองฉื่อหยานและเซี่ยซินหยาน จากไป
ศพนภาชายยังคนทยืนอยู่ข้างๆ ฉื่อหยาน ดังนั้นกั๋วฉี จึงยังไม่กล้าลงมือใดๆ เขากลับแอบส่งข้อความไปยังสาขาหลักของนิกายซากศพแทนด้วยอุปกรณ์ที่อยู่บนมือของมัน
สาวกหลายคนของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยาง และนิกายซากศพต่างก็ถูกฆ่าโดยทาสศพ
บนทางเดิน ฉื่อหยานั้นได้ ดูดซับพลังปราณลึกลับมาจากนักรบในระดับก่อตั้งที่ตายไปไม่น้อยกว่า 20 คน
ในไม่ช้า ฉื่อหยาน และเซี่ยซินหยาน ก็มาถึงที่เรือเหล็ก
” เจ้าขับเรือได้หรือไม่ ? ” ฉื่อหยานถาม ” ถ้าคุณทำไม่ได้ ข้าจะจับคนที่สามารถขับเรือได้มา . “
” อย่าลำบากเลย ข้ารู้วิธีขับเรือ ” เซี่ยซินหยาน ตอบอย่างมั่นใจ และนางพยุงฉื่อหยานขึ้นเรือเหล็ก “เรือเหล่านี้นั้นต้องควบคุมด้วยพลังของผลึกสัตว์อสูร โดยไม่จำเป็นต้องบังคับเรือใดๆ เรือนั้นจะแล่นไปตามทิศทางด้วยตัวเอง ตราบใดที่พลังของผลึกอสูรยังไม่หมด มันก็ยังคงแล่นอยู่เช่นนั้น พวกเราตระกูลเซียเองก็มีเรือเช่นนี้เหมือนกัน
ฉื่อหยานรู้สึกโล่งอก
” ปัง ! “
บนพื้นเรือเหล็ก ฉื่อหยานนั่งเช็ดเหงื่อและกล่าวด้วยใบหน้าซีดเซี่ยว ” บังคับเรือสะ ข้าจะออกคำสั่งสุดให้ศพนภา”
2 ศพนภานั้นไม่ได้ขึ้นเรือมาแต่อย่างใด
ฉื่อหยานหลับตาลง และเริ่มควบคุมพลังจิตวิญญานที่เหลืออยู่ของเขา และถ่ายทอดไปยังแหวนสายโลหิต
ในทันที่ศพนภาชายก็จ้องมองไปที่ หลี่จวงและจูเยี่ยหลู ด้วยดวงตาที่ดุร้าย .
” ไป ! ” ฉื่อหยานตะโกนออกมา
” แป้ง แป้ง แป้ง ! “
ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังออกมาจากเรือเหล็ก และเรือเหล็กยักษ์ของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยางก็แล่นออกจากฝัง
ในหลุมฝังศพเป็นเหล่าสาวกของดินแดนมหัศจรรย์หยินหยางที่กรีดร้องออกมา
หลี่จวงและจูเยี่ยหลู นั้นยังไม่แม้แต่จะสามารถแม้ปกป้องตัวเอง ดังนั้นพวกมันจึงทำได้เพียงมองเรือแล่นออกไป
ฉื่อหยานนั้นเวียนหัวเป็นอย่างมากเพราะเขาได้ใช้พลังจิตวิญญานมากเกินไป เขาล้มตัวลงบนดาดฟ้าเรือ และอ้าแขนขาของเขาออก
––––––––––––––––––––––––
ปล. ลงอีก 3 ตอน ในวันที่ 30/9/2560 ตอนนี้กลุ่มลับของเราลงถึงตอนที่ 344 แล้วจ้า
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ