บทที่ 133 การย้อนแย้ง
ภายในพระราชวังซากศพ
มีผู้สักการะหลายคนกำลังนั่งอยู่บนโลงศพ , พวกเขากำลังดูดซับพลังแปลกประหลาดที่ออกมาจากโลงศพเพื่อฝึกฝน
หยินไห่ นั้นกังวลเป็นอย่างมากและใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขาก็ดูหมองค้ำ
” หยินไห่ เจ้าไปที่หลุมฝังศพ 93 สะแล้วหาสาเหตุว่า ทำไมศพนภาทั้งสองของเจ้าได้สังหารคนบนเกราะโดยไม่มีคำสั่ง ! ” เป็นเสียงที่แหบแห้งของเจ้าวังที่ดังออกมาจากด้านล่างของราชวังซากศพ
เหล่าผู้สักการะ ทั้งหมดที่อยู่ในพระราชวังศพแห่งนี้ต่างก็ลืมตาตื่นขึ้นมาและมองไปที่หยินไห่ด้วยความสับสน
หยินไห่สีหน้าดูจริงจังและเขาก็คุกเข่าลงบนโลงศพ ” ขอรับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ “
” จิงซง ไปกับหยินไห่สะและหาว่าเกิดอะไรชึ้นกันแน่ . ” เป็นเจ้าวังที่ออกคำสั่ง
ผู้สักการะคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนโลงใกล้ๆหยินไห่ก็คุกเข่าลง ” ขอรับ นายท่าน “
” ไปดูสะ ทำไมศพนภาทั้งสองถึง มีพฤติกรรมที่ผิดปกติเช่นนี้ เมื่อรู้อะไรแล้ว ก็แจ้งกลับมาให้เร็วที่สุด”
” ขอรับ ! “
บนเรือเหล็ก
ฉื่อหยาน ก็นั่งอยู่บนดาดฟ้า เรื่องด้วยร่างกายที่อ่อนล้า .
เขาใช้พลังจิตวิญญาณของเขามากไปและยังต้องทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรงขอบ้าคลั่งอีก นั่นทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาแบกภาระมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ภายในเส้นชีพจรของเขาพลังปราณลึกลับที่ดูดซับมาก็ยังคงกลั่นตัวอยู่ภายใน
เรือเหล็กได้ออกมาจากหลุมฝังศพแล้ว แต่ฉื่อหยานยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องดังออกมาจากหลุมฝังศพที่อยู่ห่างออกไปอยู่
ภายใต้แสงจันทร์ , เสีนงกรีดร้องภายในหลุมฝังศพยังคงดังอย่างน่ากลัวออกมาต่อเรื่อง
หลังจากขึ้นเรือ , ฉื่อหยานนั้นได้ถ่ายทอดพลังจิตวิญญาณของเข้าไปในแหวนสายโลหิตและสั่งให้ศพนภาทั้งสองนั้นสังการทุกคนบนเกราะ
ฉื่อหยานเองก็ไม่ทราบวิธีที่ศพนภาทั้งสองลงมือเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าศพนภาจะทำตามคำสั่งของเขา ดังนั้น เขาออกมาจากเกราะได้เช่นนี้ เขาก็พอใจแล้ว
เซี่ยซินหยาน หายไปทันทีที่หลังจากที่นางขึ้นมาบนยาน นางนั้นไปควบคุมเรือ
เขาอ้าแขนและขาของเขาออก ฉื่อหยานจ้องมองขึ้นไปดวงดาวซึ่งมันนั้นได้มอบพลังมหัศจรรย์เข้ามาภายในร่างของเขา
น่าเสียดายที่เขานั้นไม่รู้วิธีใช้จิตวิญญานดวงดาว ! ฉื่อหยานได้แต่ถอนหายใจออกมา
ล่าสุด , ในขณะที่จิตวิญญานดวงดาวกำลังดูดซับพลังจากดวงดาวอยู่ เขารู้สึกได้ถึงพลังของมันมากมายที่รวมอยู่ในจิตใจของเขา
แต่อย่างไรเขาไม่สามารถใช้จิตวิญญานดวงดาวได้เลย
” เจ้าเป็นอะไรมั้ย ? ” เซี่ยซินหยาน ก็ปรากฏร่างขึ้นมาและถามออกไป เสียงของนางนั้นเต็มไปด้วยความกังวล
” ข้าไม่เป็นไร ” ฉื่อหยานยิ้มอย่างขมขื่น ” หาโซ่ที่อยู่เรือลำนี้มาที และนำมันมามัดร่างของข้าไว้แน่นๆ . . . “
” อะไรนะ ? “
เซี่ยซินหยาน ตะโกนด้วยความประหลาดใจ ” เจ้าคิดจะทำอะไรรึ ? “
” วิชาของข้านั้นแปลกประหลาด หลังจากที่ข้าใช้มัน มันจะสร้างกลไกบางอย่างขึ้นมาในร่างกายของข้า มันสามารถควบคุมสติของข้าได้ และทำให้ข้าบ้าคลั่ง หาบางอย่างมามัดข้าไว้ มิเช่นนั้น ข้ากลัวว่าข้าอาจจะทำร้ายเจ้า ” ฉื่อหยานจ้องมองไปที่นางอย่างจริงจัง
” ทำไม เจ้าจะทำอะไรข้ารึ ? ” การแสดงออกของเซี่ยซินหยานก็เปลี่ยนไป
” เจ้ายังจำตอนที่เราเจอกันครั้งแรกได้หรือไม่ ?? ” ฉื่อหยานถอนหายใจออกมา ” ตอนนั้นข้ากำลังตกอยู่ในอาการบ้าคลั่ง และมันก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องไปปลดปล่อยที่หอนางโลม . “
” เช่นนั้น ข้าจะล่ามเจ้าไว้ละกัน “
เซี่ยซินหยาน พูดออกมาอย่างเด็ดขาดทันที นางรีบไปหยิบเอาโซ่ตรวนออกมา
ไม่กี่นาทีต่อมา
ฉื่อหยานก็ถูกมัดด้วยโซ่ที่มีขนาดหนาเท่าแขนคน
ภายใต้การถูกพันธนาการ และบรรยากาศที่มืดมิดและเยือกเย็นก็ไหลออกมาจากร่างของเขา
” โซ่ที่พันธนาการเหล่านี้ทำจากโลหะที่ไม่ธรรมดา แม้แต่นักรบที่อยู่ในระดับรู้แจ้ง ก็ไม่สามารถทำลายมันได้ . ” เซี่ยซินหยาน เช็ดเหงื่อบนหน้าผากของนางด้วยความอ่อนล้า นางนั่งขัดสมาธลง , อยู่ห่างจากฉื่อหยาน ห้าเมตร และดวงตาที่เหมือนคริสตัลของนางก็จ้องไปที่ฉื่อหยานด้วยความระมัดระวัง
เส้นชีพจรทั้งหมดในร่างกายของฉื่อหยานนั้นกำลังกลั่นพลังงานเชิงลบอยู่ซึ่งนั้นทำให้สติของเขาหายไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยหน้าตาที่เหี่ยวยนจากความทรมานเขาปกตกอยู่นสภาวะกระหายเลือด , ฉื่อหยาน นั้นหายใจหอบออกมา ” นี่สิดี ! “
” ครั้งสุดท้ายที่หอนางโลม เจ้าบอกว่าที่เจ้าหลับนอนกับพวกนางก็ เพราะกลไกนี่สินะ งั้นแปลว่าที่เจ้าทำกับตระกูลหลิงก็คงเป็นเพราะกลไกนี่ ” เซี่ยซินหยาน ถามด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ” แปลว่าที่ผ่านมาข้าเข้าใจเจ้าผิดไปสินะ “
” ไม่ใช่ทั้งหมด ” ฉื่อหยานตอบตามตรง ” อำนาจของกลไกนี้ได้ครอบคลุมสติของข้า และทำให้ข้าเต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม กลไกนี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนจริงๆของข้า โดยทั่วไปแล้ว , ข้าเองก็เป็นคนเลวเช่นกัน “
เซี่ยซินหยาน ตกใจ
” เมื่อสติของข้ากลับมา , ตอนนั้นเจ้าต้องมาอยู่ข้างๆข้าทันที ” ฉื่อหยานตะโกนออกมา แล้วร่างกายของเขาเริ่มสั่น
พลังปราณลึกซึ้งที่บริสุทธิ์ในเส้นชีพจรของเขาก็เริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและอารมณ์เชิงลบต่างๆก็เริ่มปกคลุมไปที่สติของเขาเช่นกัน
ตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
” ทำไมรึ ? “
” เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะช่วยฟื้นฟูจิตวิญญานต่อสู้ของเจ้า ! “
” หือ ? ทำยังไงรึ ? “
” ทำตามที่ข้าพูดก็พอ ! “
ฉื่อหยาน ตะโกนออกมา และ ดื้นลนเหมือนสัตรว์อสูรที่บ้าคลั่ง เกิดเป็นเสียงโซ่ตรวนขยับดังออกมา
ตอนนั้นเอง แววตาความเป็นมนุษย์ของฉื่อหยานทั้งหมดก็หายไป เขากลายเป็นเหมือนกับปีศาจกระหายเลือดที่มาจากนรก ร่างกายของเขาที่ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างไม่มีสิ้นสุด ซึ่งดูเหมือนจว่ามันสามารถทำลายโลกได้ทั้งใบ
สีหน้าของเซี่ยซินหยานก็เปลี่ยนไป นางใช้เวลาไม่กี่ขั้นตอนเพื่อถอยห่างออกมาจากฉื่อหยาน
ในเวลาสั้น ๆ ฉื่อหยานนั้นเปลี่ยนจากคนธรรมดากลายเป็นเหมือนปีศาจ นั่นทำให้นางตกใจเป็นอย่างมาก เซี่ยซินหยาน . ในที่สุด นางก็ตระหนักว่า สิ่งที่ฉื่อหยานพูดนั้น ไม่ใช่เรืองล้อเล่น
อย่างที่เขาพูด กลไกที่เกิดขึ้นนั้นได้กลืนกินสติจองเขา และทำให้เขาตกอยู่สภาวะบ้าคลั่ง
บนดาดฟ้าเรือ , ภายใต้โซ่ที่มัดอยู่ ฉื่อหยาน นั้นยังคงดิ้นรนและคำรามออกมา เขาพยายามใช้แรงทั้งหมดของเขาเพื่อทำลายโซ่
เสียงคำรามของเขาสะท้อนไปทั่วทะเลที่กว้างใหญ่
ดวงตาของเซี่ยซินหยาน เป็นประกายเมื่อนางจ้องไปที่ฉื่อหยาน
หลังจากผ่านมาเป็นเวลานาน ฉื่อหยานสูญเสียพลังของเขาไปเป็นจำรวนมากและร่างของเขาที่นอนอยู่ก็สั่นสะท้าน
คลื่นพลังความดุร้ายและความกระหายเลือดได้กัดกินร่างกายของเขา ทำให้ร่างของเขาโชกไปด้วยเลือด
หลังจากใช้งานบ้าคลั่ง ร่างกายของเขาก็จะอ่อนแอ ด้วยกลไกเช่นนี้ , ทำให้ฉื่อหยานเจ็บปวดเช่นนี้มาหลายครั้ง เส้นเลือดและกระดูกของเขาถูกทำลายอย่างรุนแรง
ร่างของเขาโชกไปด้วยเลือด , แววตาของฉื่อหยานกลายเป็นว่างเปล่า
เซี่ยซินหยานนั้นประหลาดใจเป็นอย่างมาก .
ฉื่อหยาน นั้นแข็งแกร่งจริงๆ ! หลังจากที่เขาคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่งเป็นเวลานานแล้ว ความกระหายเลือดของเขายังคงอยู่
วิชาที่น่าหวาดกลัวเช่นนี้เป็นวิชาอะไรกันแน่ ?
เซี่ยซินหยาน นั้นประหลาดใจเป็นอย่างมาก . ฉื่อหยาน นั้นเหมือนกับบ่อน้ำลึก ที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย
เสียงคำรามของฉื่อหยานค่อยๆเบาลง
เขาค่อยๆ เงียบสงยลง และดวงตาทั้งสองของเขาก็ดูหมองคล้ำเป็นอย่างมาก
” มา . . . . . . . มานี่ ” ฉื่อหยาน อ้าปากเอ่ยคำออกมาอย่างอ่อนแอด้วยเสียงเบาๆและ กวักมือเรียกเซี่ยซินหยาน .
ด้วยร่างของเขาที่เต็มไปด้วยเลือด , ฉื่อหยานนั้นดูเหมือนจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังกังวลกับการช่วยฟื้นฟูจิตวิญญานต่อสู้ของเซี่ยซินหยาน
เซี่ยซินหยาน นั้นค่อยๆเดินไปฉื่อหยานช้าๆ ” เจ้าหลับผักผ่อนเถอะ ข้าไม่ได้รีบร้อนอะไร ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ตอนนี้เจ้าสำควรห่วงตัวเองก่อน . “
เซี่ยซินหยาน นั้นไม่สามารถที่จะเบาใจลงได้
” ไม่ได้ หากข้าไม่ช่วยเจ้าตอนนี้ ข้าจะไม่สามารถทำได้อีก ” ฉื่อหยานตอบกลับไปอย่างดื้อรั้น มือของเขาคว้ามือของนางไว้ ” เร็วเข้า ! ! ! “
เซี่ยซินหยาน ตกอยู่ในความตะลึงและมือของนางก็ถูกจับโดยมือที่เปื้อนเลือดของเขา
ที่แปลกที่สุดก็คือมีพลังบางอย่างถ่ายทอดออกมาจากฝ่ามือของเขา . . . . . . .
มันเข้าไปในร่างของเซี่ยซินหยาน ไหลไปยังแขนและต่อไปที่หน้าอก ,มันไหลมุ่งไปยังศูนย์กลางของจิตวิญญานจุติ
ร่างของเซี่ยซินหยานสั่นเครือ ดวงตาของนางเป็นประกาย
นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ภายพลังนี้ ,จิตวิญญานต่อสู้ของนางนั้นกำลังถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
และที่ประหลาดเป็นอย่างมากก็คือ พลังนี้กลับมีประสิทธิภาพมากกว่าเม็ดยาเสียอีก
ร่างของเขาชุ่มไปด้วยเลือด ฉื่อหยานก็ยิ้มออกมา ” เห็นหรือไม่ ? ข้าไม่ได้พูดโกหก “
” จริงด้วย เจ้าไม่ได้พูดโกหก ” เสียงของเซี่ยซินหยาน กลายเป็นอ่อนโยนและอ่อนหวาน นางจ้องไปที่ฉื่อหยานอย่างเงียบๆ
” ไม่เป็นไรแล้ว เพียงแค่ได้พัก ข้าก็จะหายก่อนอาทิตย์ขึ้นเอง ” ฉื่อหยานถอนมือของเขาออกมาและยิ้ม ” ตอนนี้ข้าขอพึ่งเจ้าได้หรือไม่ . ”
” ได้ ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเจ้าได้แน่นอน ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ . ” เซี่ยซินหยาน พยักหน้าและพูดเบาๆว่า ” เจ้าพักผ่อนเถอะ “
ฉื่อหยาน ค่อยๆหลับตาลง แล้วหลับอยู่บนดาดฟ้า
ภายในร่างกายของเขา จิตวิญญานอมตะของเขา ค่อยๆฟื้นฟูเลือดเนื้อของเขา
แล้วเลือดของเขาก็หยุดไหล และบาดแผลบนผิวหนังของเขาก็เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว . . . . . . .
เซี่ยซินหยาน ไม่รีรอ นางจ้องไปที่ฉื่อหยานอย่างเอาใจใส่
สิบนาทีต่อมา เมื่อนางพบว่าร่างกาย ของฉื่อหยานเริ่มฟื้นฟูแล้ว เซี่ยซินหยาน ก็ตัดสินใจผ่อนคลายลงและนั่งลงข้างๆฉื่อหยาน แล้วนางก็เริ่มฝึกฝนและการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของนาง