บทที่ 146 พักผ่อนเบาๆ
หมู่เกาะเทียนซั่วทะเลเหิงลั่ว .
เรือที่มีสินค้าหลายอย่าง ค่อยๆ แล่นอยู่ในทะเล
ในกล่องใหญ่ใบหนึ่ง ของสินค้าที่ซ้อนกันลก เป็นฉื่อหยาน ที่สบายนอนสบายอยู่บนข้างๆมัน เขาคลุมด้วยผ้าปูที่นอนและการแสดงออกของเขาดูซึมเซา
คาร์มอน และคนอื่นๆทั้งหมดต่างก็ยืนหรือนั่งอยู่ที่มุมต่าง ๆของเรือ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ฉื่อหยานด้วยความเกลียดชัง
หลังจากที่ลินดาขึ้นมาบนเรือ นางก็เอาแต่จาม ตอนนี้นางอยู่ในห้องชั้นล่าง กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ นางไม่ได้มีเวลาที่จะคุยกับฉื่อหยาน
เมื่อลินดาลงไป คาร์มอนก็เคลื่อนไหวเป็นคนแรก เขาโยนฉื่อหยานที่กำลังอ่อนแอไปในกองสินค้า และยืนอยู่บนข้างๆ ในขณะที่มองไปยังฉื่อหยานอย่างเย็นชา
คนอื่นๆที่อยู่ด้านข้างทั้งหมด ก็ขบฟันของพวกเขาเข้าด้วยกัน พวกเขาแอบสาปแช่งอยู่ในใจของพวกเขา พวกเขาต้องจะจัดการฉื่อหยาน และ สอนบทเรียนที่เหี้ยมโหดให้กับเขา
บนเรือลำนี้ ลินดา นั้นเป็นหญิงสาวที่ชายหนุ่มเหล่านี้ชื่นชม สำหรับคนเหล่านี้ ลินดานั้นจะอยู่ในหัวข้อที่พวกเขาพูดคุยกันทุกค่ำคืน
สำหรับคนเหล่านี้ ลินดา คือหัวใจและจิตวิญญานของเรือลำนี้
ฉื่อหยาน ที่เปลือยกายล่อนจ้อน ถูกลินดาช่วยอุ้มขึ้นมาจากทะเลด้วยมือของนาง ในมุมมองของคนเหล่านี้ ฉื่อหยานถือว่าเป็นคนที่ทำให้ลินดามีมลทิน
หากลินดาจะต้องมีมลทิน มันจะต้องเป็นพวกเขาเท่านั้นที่เป็คนทำ จะให้คนแปลกหน้าเป็นคนทำได้อย่างไร ?
พวกนี้ แอบสาปแช่ง และแน่นอนว่าลักษณะของพวกเขาที่มีต่อฉื่อหยาน คือความไม่เป็นมิตร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คาร์มอน เขาเต็มไปด้วยความโกรธ ในขณะนั้น เขาขบฟันของเขาและเยาะเย้ย ” เจ้าหนู จริงๆแล้วเจ้าจะเล่นอะไรกันแน่ ? ถอดเสื้อผ้าและว่ายน้ำในน้ำเย็นแบบนี้รึ ? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่ ? ทำไมเจ้าถึงยังไม่จมน้ำตาย ? “
ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาทำสีหน้าไม่แยแส และไม่ตอบใดๆ
” ทำไมเจ้าถึงลงไปอยู่ใต้ทะเลแบบนั้นได้ ถ้าเจ้าไม่ตอบ ข้าจะโยนเจ้ากลับไปเดี๋ยวนี้ ! “คาร์มอนตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขาลุกขึ้นยืน และก้าวไปที่ฉื่อหยานด้วยความดุร้าย
ตอนนี้ พลังทุกอย่างของฉื่อหยานถูกแหวนสายโลหิตดูดกลืนไปหมดสิ้น เขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึงตอนนี้ ถ้าเขาไปสู้กับ คาร์มอน ก็เท่ากับว่าเขาลนหาที่ตาย
” ข้ามาจากเกาะแถวๆนี้ เมื่อข้าออกไปตกปลา เรือข้าก็แตก และข้าก็จมลงไปใต้ทะเล . . . . . . . ” ฉื่อหยาน พูดโกหกออกไป เขาเอาแต่แกล้งยิ้มอย่างขมขื่น ” ข้าคิดว่าข้าต้องตายแน่ๆ แต่ข้าไม่คิดว่าจู่ๆจะมีหญิงงามปรากฏขึ้น และในที่สุดนางก็ได้ช่วยชีวิตขเ่ไป”
” ทำไมร่างของเจ้าถึงเปลือยเปล่าได้ ? ” นี้คือสิ่งที่ คาร์มอนสงสัยมากที่สุดเขาตะโกนถามออกไป
” พวกเราชาวประมง สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เมื่อตกลงไปในน้ำทะเล มันก็จะหลุดออกได้อย่างง่ายดาย . ” ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงหดหู่ : “ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน ข้าหมดสติไปพักหนึ่ง และเมื่อข้าตื่นขึ้นมาข้าก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว “
” ไร้สาระสิ้นดี ! ” คาร์มอน , รู้สึกขมขื่น , และตะที่ฉื่อหยาน ” ถึงชาวประมงใส่เสื้อผ้า แต่กางเกงในของเจ้าหลวมด้วยงั้นรึ ? “
คาร์มอนเตะไปที่ฉื่อหยานอีกครั้งและ เขากล่าวออกมาในขณะที่ขบฟันของเขา : ” ข้าว่าเจ้าอยากจะเอาเปรียบลินดาเสียมากกว่า และเจ้าก็เปลี้ยงผ้าตัวเองด้วยความประสงค์เช่นนั้น เจ้าหน้าด้านเอ๊ย ! ถ้าข้าไม่สอนบทเรียนให้เจ้า เจ้าคงจะไม่พูดความจริงสินะ “
” ลินดาทำไมรึ ? ” เสียงลินดาดังมาจากบันได ไม่นาน หลังจากที่นางเปลี่ยนเป็นชุดที่แห้งแล้ว ลินดาก็ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นขณะที่นางกำลังเช็ดผมที่เปียกปอนของนาง นางถลึงตาใส่ คาร์มอนที่ดูไม่เป็นมิตร และตะโกนออกไป ” ใครบอกให้เจ้าทำร้ายเขา ? “
คาร์มอนค่อนข้างรู้สึกผิด เขาหัวเราะอย่างแห้งๆ ” ข้าแค่สอนเขาบทเรียนให้เขาแทนเจ้า ไอ้หมอนี่ร่างของมันเปลือยเปล่า มันต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ ลินดา ข้าไม่ได้จะตำหนิเจ้าหลอกนะ แต่ผู้ชายแบบนี้ไม่สมควรช่วยชีวิตหลอกนะ เจ้าสมควรปล่อยให้มันจมน้ำไปเสีย ไม่ใช่ว่ามันเป็นคนแปลกหน้าหลอกรึ? เราควรจะปล่อยให้สัตว์อสูรใต้ท้องทะเลกัดกินมันไปสิ ” .
ลินดาขมวดคิ้วพูดว่า : “คาร์มอน เจ้านี่ช่างน่ารังเกียจจริงๆ “
หน้าของคาร์มอนก็กลายเป็นซึมเศร้า เขายิ้มอย่างบิดเบี้ยว : ” นี่มันก็เพื่อตัวเจ้าเองนะ “
” หลีกไป ข้ามีบางอย่างจะถามเขา ” ลินดา สูดลมหายใจเข้าอย่างหงุดงินและ เดินไปข้างหน้า และถลึงตาใส่ คาร์มอน : ” หลบไป ” .
ภายใต้สายตาของนาง คาร์มอนก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เขาลดศีรษะของเขาลงและเดินไปยืนกับนักรบคนอื่นๆ ที่อยู่อีกมุมหนึ่งของเรือและมองไปในทิศทางของฉื่อหยานจากที่ไกลๆ
” คาร์มอน , เจ้าจับได้ไม้สั้นงั้นรึ ? ” [TL.น่าจะหมายถึงโชคร้ายมั้งครับ ผมก็งง 55555 ]
” หึหึ น้องสาวลินดานี่เข้าถึงยากจริงๆ ไหนเจ้าบอกว่าเจ้าสามารถควบคุมนางได้ไง ข้าคิดว่าชีวิตของเจ้าหมดหวังแล้วหละ “
” คาร์มอน น้องสาวลินดานั้นไม่ได้เป็นคนใจอ่อนนัก แต่ทำไมนางต้องช่วยเจ้าเด็กคนนั้นได้ล่ะ ? หรือว่า น้อสาวลินดาที่โสดมานาน นางจะต้องการผู้ชายกัน “
” ไร้สาระสิ้นดี ! “
คาร์มอนสาปแช่ง เขาจ้องไปที่พวกนั้นอย่างดุร้าย ” หากลินดาต้องการผู้ชายจริงๆหละก็ มันวมควรต้องการคยเช่นข้า ไม่ใช่เจ้าเด็กนั้น มันไม่มีแม้แต่พลังปราณลึกลับในร่างของมัน มันเป็นแค่พวกขนะ มันจะมีค่าพอจะคู่ควรกับลินดาได้ยังไง ! บัดซบ ! ! ! นี่สมองของพวกเจ้ามีขนาดเท่าไอ่จ้อนของพวกเจ้ารึไง เจ้าพวกบ้า ! “
นักรบที่ถูกด่า โดย คาร์มอนทั้งหมดต่างก็อยู่ในนภา หรือนภาที่สองของระดับมนุษย์โลก แต่ คาร์มอนนั้นแข็งกว่าพวกมัน เขาอยู่ในนภาที่สามของระดับมนุษย์ ถึงแม้พวกเขาจะถูกด่าโดย คาร์มอน พวกเขาก็กลัวไม่กล้าตอบโต้ จึงทำได้แต่ยิ้มและพูดขอโทษ .
บนเรือลำนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลินดานั้นแข็งแกร่งที่สุด และลองลงมาก็คือ คาร์มอน .
หลังจาก คาร์มอนก่นด่าออกมา เขาก็รู้สึกรำคาญใจมากขึ้นๆเรื่อยๆ เขามองไปที่ฉื่อหยานอย่างเย็นชาและ เขาก็เห็นว่า ลินดากำลังนั่งยองๆ แล้วเอียงเข้าไปใกล้ฉื่อหยานมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเขามองเท่าใดเขาก็ยิ่งไม่ชอบ และในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ
ลินดานั่งพับเพียบ โดยหันหลังให้คาร์มอนและพวกที่เหลือ นางยื่นมือบอบบางของนางออกไปวางไว้บนของ ชีพจรของฉื่อหยาน หลังจากการตรวจสอบมันสักพัก นางก็ดึงกลับมา ในที่สุดนางก็กล่าวว่า : ” เจ้าเป็นนักรบ แต่พลังของเจ้าตอนนี้เหือดแห้ง ใช่หรือไม่ ? “
ฉื่อหยานพยักหน้า เขายิ้ม : ” ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของเจ้า มิฉะนั้น ข้าคงจมไปใต้ก้นทะเลแล้ว”
” เจ้าเป็นใครกันแน่ ? เจ้ามาจากที่ไหน ? เจ้ามาที่นี่ทำไม ? ” ลินดาเอามือทัดไปที่ผมสีเกาลัดข้างหูของนาง และกล่าวออกมาในขณะที่หายใจส่งกลิ่นหอมออกมา .
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นได้ยินการสนทนาของนางกับฉื่อหยาน ลินดาจึงเข้ามาใกล้ฉื่อหยานมาก ในขณะที่นางพูดกลิ่นหอมระหว่างริมฝีปากของนางก็ค่อยๆ ลอยออกมา และมาลอยเข้าไปยังจมูกและปากของฉื่อหยานแน่นอน ลินดา นั้นไม่ได้งดงามเท่ากับเซี่ญซินหยาน แต่นางก็อยู่ในระดับเดียวกับ ตี่ย่าหลาน นางนั้นยังนับได้ว่าเป็นหญิงงามที่หาได้ยาก ด้วยสาวงามที่หายใจส่งกลิ่นหอมมาที่ใบหน้าของเขา แน่นอนว่าฉื่อหยานชื่นชอบมมัน และริมฝีปากที่ปิดสนิท ของเขาก็พูดเบา ๆ ” ข้าบอก คาร์มอน ไปว่าข้าเป็นชาวประมงจากเกาะใกล้เคียง เรือของข้าอับปางโดยพายุตอนที่กำลังตกปลา และโดยไม่ทันตั้งตัวข้าก็ตกลงไปใต้ทะเล .
” จริงรึ ? ” ลินดามองไปที่เขาอย่างจริงจัง นางนั้นไม่อยากจะเชื่อนัก
ฉื่อหยานพยักหน้าอย่างยืนยัน ” จริง “
ลินดาขมวดคิ้วเข้าหากัน และกลายเงียบ
ฉื่อหยานนั้นถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็งก้อนที่ใหญ่ที่สุด ฉากนี้ ไม่มีใครเห็นมีเพียงนางเท่านั้น
คนที่จะถูกแช่ในน้ำแข็งลึกเป็นร้อยๆฟุตได้จะต้อง ไม่ใช่ๆ คนธรรมดาแน่นอน ลินดารู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วในหัวใจของนาง เมื่อเห็นว่าฉื่อหยาน ยืนยันว่าเขาเป็นชาวประมง ลินดาก็รู้ได้ทันทีว่าฉื่อหยานกำลังโกหก แต่ต่อให้รู้ว่าเขากำลังโหก แล้วนางจะทำอะไรได้ นางยังลังเลที่จะสืบสาวความลับของฉื่อหยาน
” ตกลง งั้นเข้าก็เป็นชาวประมงสินะ ” ลินดาลังเลอีกครั้ง และคิดว่านางควรจะค่อยเป็นค่อยไป นางพูดเบา ๆ ” ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ไหนมาก่อน เราก็จะไม่เปลี่ยนทิศทางแล่นเรือเพื่อเจ้า เรือของพวกเรากำลังจะไปที่เกาะของตระกูลกู่ ทรัพยากรบนเรือลำนี้ทั้งหมดจะถูกส่งไปยังเกาะของตระกูลกู่ และเราก็จะไม่หยุดเพียงเพื่อเจ้าคนเดียว .
” ตระกูลกู่ ” ฉื่อหยานก็สับสน แล้ว อุทานออกมา : ” เจ้าหมายถึงตระกูลกู่ที่มีภูเขาดาบงั้นรึ ? เจ้า เจ้า . . . . . . . “
เหมือนกับคิดบางอย่างได้ ฉื่อหยานมองไปที่สัญลักษณ์รูป พระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาวบนธงบนเรือ และตะโกนว่า ” เจ้ามาจากพรรคสามเทพงั้นรึ ? “
หลอกลวง , เสแสร้ง !
ลินดาขมวดคิ้ว นางเยาะเย้ยจากในจิตใจของนาง แต่ด้านนอก นางยังคงเฉยและไม่ใส่ใจ นางพยักหน้าและกล่าวว่า ” ถูกต้อง เราเป็นคนจากพรรคสามเทพ แต่เราเป็นเพียงสาวกชั้นนอก และเราเพียงแค่ทำเรื่องเล็กน้อยให้พรรค สินค้าบนเรือลำนี้ถูกส่งจากพรรคสามเทพสำหรับตระกูลกู่ สองปีที่ผ่านมา ตระกูลหยางได้สร้างความลำบากให้กับตระกูลอื่น ปราการกมากมายบนเกาะถูกทำลาย ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องซื้อผลึกจากพรรคสามเทพ “
” ตระกูลหยางสร้างความเดือนร้อนให้ตระกูลอื่นรึ ? ” ฉื่อหยาน งุนงงไปชั่วขณะ เวลานี้เขารู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก
” อืมม . . . . . ” ลินดาค่อยๆสังเกตไปที่ฉื่อหยาน , เห็นว่าเขามีสีหน้าสงสัย นางจึงอธิบาย : ” ข้าไม่รู้ว่าทำไมผู้คนจาก ตระกูลกู่ ตระกูลตงฟาง ,ดินแดนอาคมมหัศจรรย์ และดินแดนทะสาปเทวาศักสิทธิ์ถึงหวาดกลัวตระกูลอย่างไม่มีเหตุผล ในช่วงสองปีที่ผ่านมา นักรบที่แข็งแกร่งจากตระกูลหยางอยู่กระจายไปทั่วทุกที่ พวกเขาไปที่เกาะของขุมพลังทั้งสี่ และฆ่าคนของขุทพลังทั้งสี่ไปเป็นจำนวนมาก ตระกูลหยางนั้นขึ้นชื่อในความโหดเหี้ยมในทะเลไม่มีสิ้นสุด และเวลานี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องการทำให้ขุมพลังทั้งสี่ เจ็บปวดจนพูดไม่ออก . . . . . . . “
ลินดาขมวดคิ้วและแอบสังเกต ไปที่ฉื่อหยาน หล่อนค่อยๆ อธิบายถึงการต่อสู้ระหว่างตระกูลหยาง และขุมพลังทั้งสร่
หน้าฉื่อหยาน ก็บึ้งตึง ภายในดวงตาประกายด้วยความประหลาดใจยินดี
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ในช่วงท้ายที่เกาะเหมินลั่ว ที่นั่นเขาเห็นเพียงแค่กองกำลังทั้งสี่และเซี่ยซินหยาน . และกองกำลังทั้งสี่ก็ไม่ทราบตัวตนของเขา แน่นอนว่าตอนั้นเขาและเซี่ยซินหยานก็ไม่ได้พูดอะไร
แปลว่าเซี่ยซินหยานได้ส่งข่าวไปที่ตระกูลหยางแล้วสินะ !
เมื่อตอนที่เขาตกลงไปในหลุม เขากังวลเรื่อง เรื่องการฟื้นฟูจิตวิญญานจุติของเซี่ยซินหยาน ตลอดสามปีเขาเป็นห่วงนางเป็นอย่างมาก
แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้รับรู้ข่าวจากปากลินดา เขาก็โล่งใจภายใจหัวใจ จู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้ยกหินก้อนใหญ่ออกมาจากหัว และเขาก็กลายเป็นผ่อนคลายมากขึ้น
ตระกูลหยาง ตระกูลหยางนั้นแข็งแกร่งจริงๆ
ฉื่อหยานก็หายใจเข้าลึกๆ แต่สีหน้าของเขาค่อนข้างจริงจัง เขาแสร้งทำเป็นพูดก่นด่า : ” ตระกูลหยางเป็นพวกที่โหดเหี้ยมจริงๆ “
” ตระกูลหยางนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ” ลินดา สีหน้ายังเรียบเฉย ” แม้ว่าขุมพลังทั้งสี่จะจัดเป็นส่วนหนึงของขุมพลังในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด แต่เมื่อเทียบกับตระกูลหยางแล้ว ขุมพลังทั้งสี่นั้นยังถือว่าอ่อนแอกว่ามาก เวลาที่พวกเขาดูเหมือนจะได้ทำบางอย่างผิดพลาดไป และตระกูลหยางต้องการจะล้างแค้น ไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาจะตกอยู่ในความทุกข์ทรมาน “
” แล้วพรรคสามเทพไม่เกรงกลัวตระกูลหยางงั้นรึ “ฉื่อหยานจู่ๆก็ถามออกไป
เขาแกล้งทำเป็นว่าเขามาจากทะเลเหิงลั่ว และรากฐานของพรรคสามเทพก็อยู่ในทะเลเหิงลั่ว สถานะของพรรคสามเทพในทะเลเหิงลั่วนั้นคล้ายกับสถานะของตระกูลหยางในทะเลเคียร่า เช่นนั้นแม้ว่าพรรคสามเทพจะทำเช่นไรก็ไม่มีปัญหา
จริงๆแล้วลินดานั้นไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว นางพยักหน้าและกล่าวว่า ” บอกตามตรง พรคคสามเทพของเราก้อนหน้านี้ยังอ่อนแอกว่าตระกูลหยางมาก แต่ใครจะรู้อนาคตจะเป็นเช่นไร เทพตนหนึ่งได้กลับมาที่พรรคของเรา พลังจากที่ผ่านมาไม่กี่ทศวรรษ ตอนนี้พรรคสามเทพของเราสามารถเอาชนะตระกูลหยางได้แน่นอน ! หึ… ตอนนี้ ถ้าตระกูลยังกล้าที่จะสร้างปัญหาในทะเลเหิงลั่ว ของเราอีกหละก็ เราก็จะทำให้พวกมันเจ็บปวดแน่นอน “
ขณะที่พูดคำเหล่านี้ ลินดาก็ขบฟันของนางแน่น ดูเหมือนนางไม่ชอบตระกูลหยางเป็นอย่างมาก
เทพตนหนึ่ง ?
ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน แสงก็แวบในหัวของเขาและเขาก็รู้ได้ทันทีว่าใครคือเทพตนหนึ่งที่ลินดาพูดถึง
นางคือ โอหยางลั่วซวง ที่ออกมาจากหินดาวตกที่สี่เหลี่ยมพระเจ้าในเมืองเทียนหยุนนั้นเอง