ตอนที่ 148 ยอดฝีมือ
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวเป็นสัตว์อสูรในทะเลเหิงลั่ว ร่างกายของพวกมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวและมีงา พวกมันสามารถกระโดดออกมาจากทะเลได้อย่างรวดเร็ว และความเร็วในการจู่โจมของพวกมันก็เร็วเหมือนลูกศร
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวไม่ใช่สัตว์อสูรระดับสูงในทะเลพวกมันอยู่ในระดับสอง , สามหรือสี่ เท่านั้น มีเพียงไม่กี่ตัวของพกวมันที่สามารถไปถึงระดับห้าได้ สัตว์อสูรเกล็ดเขียวไม่มีผลึกในร่าง และเกล็ดสีเขียวของพวกมันก็ไม่มีค่าอะไร มีเพียงหินสีเขียวในสมองของมันที่ส่องแสงสีเขียวออกมาและหินนั่นสามารถทำให้ผู้คนจิตใจสงบได้
นอกจากจะปลอบประโลมจิตใจผู้คนได้แล้ว หินสีเขียวมักจะถูกใช้เป็นอุปกรณ์เสริมหรือเครื่องประดับ เพราะมันมีแสงสีเขียวส่องออกมา
เนื่องจากสัตว์อสูรเกล็ดเขียวอยู่ในระดับต่ำ นักรบในหมู่เกาะเทียนลั่วมักจะล่าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวเพื่อที่จะล่าเกล็ดสีเขียวและหินสีเขียวในสมองของมัน และนำเป็นไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินกับพ่อค้า
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวมากมายถูกฆ่าตายเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พวกมันเกลียดชังมนุษย์อย่างบ้าคลั่ง และสัตว์อสูรเกล็ดเขียวที่เคยเป็นมิตรก่อนหน้านี้ก็เริ่มก้าวร้าวมากขึ้น ดังนั้น พวกมันจึงเริ่มโจมตีเรือทุกลำ
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวหลายตัวว่ายอยู่ข้างเรือ และเกล็ดสีเขียวของพวกมันก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน สัตว์อสูรเกล็ดเขียวบางตัวก็โผล่ร่างของมันขึ้นมาบนผิวน้ำ
” ซู่ ! ! “
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวหลายตัวกระโดดขึ้นมาจากน้ำเหมือนลูกศรและปะทะเข้ากับนักรบบนดาดฟ้า
” ฆ่ามัน ! “
ลินดา สั่งออกไป
ขณะเดียวกัน ลินดา ก็เริ่มลงมือกับสัตว์อสูรเกล็ดเขียวสองตัวบนเรือ ,นางสร้างดาบที่มีแสงสีฟ้าอ่อนดูบริสุทธิ์ขึ้นมาในอากาศ
” อสรพิษคู่เกี่ยวพัน ! “
ลินดาสะบัดแขนอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันก็ปรากฏมีดบินในอากาศและมีดบินทั้งสองของนางก็ส่องแสงเคลื่อนไหวไปมาเหมือนลิ้นงู
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสองและสามพุ่งไปที่ลินดา แต่พวกมันก็ถูกพันธนาการโดยอสรพิษคู่เกี่ยวพันของนาง
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวส่งเสียงทึบในลำคออกมา และหัวของมันก็ถูกแทงด้วยมีด .
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสองและสามถูกฆ่าตายทันทีโดย ลินดา และร่างกายของพวกมันก็ตกลงบนดาดฟ้า
” ชู่ ชู่ ชู่ “
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวปรากฏตัวขึ้นจากใต้ทะเล และพุ่งไปยังบรรดานักรบเหมือนกับคมดาบ
บนดาดฟ้า นอกจากและลินดา คาร์มอน แล้วมีนักรบอีกเก้าคนที่อยู่ในระดับก่อตั้งและมนุษย์ ทำให้ไม่อ่อนแอไปกว่าสัตว์อสูรเกล็ดเขียว
แม้ว่านักรบเหล่านั้นจะเป็นเพียงสาวกภายนอก แต่ก็เป็นสาวกของพรรคสามเทพ พวกเขาต่างก็มาจากขุมพลังมากมายในพรรคสามเทพ ดังนั้นประสบการ์ในการต่อสู้ของพวกเขาจึงมีมาก ซึ่งเพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะต่อสู้กับสัตว์อสูรเกล็ดเขียวได้อย่างกล้าหาญ
นักรบบนดาดฟ้า ต่างก็เรียกใช้วิชาต่อสู้ของตัวเอง ทันใดนั้น ดาดฟ้าก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสว่าง
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวที่พุ่งขึ้นมาได้รับผลตอบแทนทันที พวกมันต่างก็ถูกฆ่าตายกลาสงอากาศหรือไม่ก็ถูกตบตีจนกลับลงไปอยู่ในทะเล
ไม่นานหลังจากที่เห็นสัตว์อสูรเกล็ดเขียวมากมายถูกฆ่า ตัวอื่นๆก็กลับลงทะเลไป
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวไม่กล้าจะโจมตีครั้งที่สอง , พวกมันจากไปทันทีและไม่เข้ามาใกล้เรืออีก
กลุ่มนักรบ เช่น คาร์มอนก็ตัดเกล็ดสีเขียวอยู่บนดาดฟ้าอย่างใจเย็นและหินสีเขียวออกมาจากสมองจากนั้นก็เตะซากพวกมันลงไปในทะเล
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวที่มองอยู่ห่างไกลก็เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และภาตใต้แสงจากดวงจันทร์ดวงตาของพวกมันก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
หินสีเขียวมีขนาดใหญ่เท่ากับลูกเกาลัด ที่ส่องแสงสีเขียวออกมา เมื่อมันกระทบกับแสงของดวงจันทร์ มันช่างดูสวยงาม เงียบสงบ
” ลินดา เจ้าชอบหินพวกนี้หรือไม่ ? “คาร์มอนเดินไปหาลินดาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับหินสีเขียวในมือของเขา และเขาก็ถามออกไป ” เจ้าสามารถเอาพวกมันไปได้ทั้งหมดหากเจ้าต้องการ ” .
ภายใต้แสงจันทร์ ลินดา ดูงดงามเป็นอย่างมาก และความสามารถของนางในการฆ่าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวก็ประใจฉื่อหยานมากเช่นกัน
” ข้าไม่สน ” ลินดาส่ายหน้า ” ข้าไม่ต้องการของถูกๆเช่นนี้ มีเพียงหญิงสาวธรรมดาเท่านั้นที่ชื่นชอบหินธรรมดาพวกนนี้ “
หลังจากหยุดคิดสั้นๆ ลินดาก็กล่าวว่า ” เจ้าเอาหินสีเขียวเหล่านี้ไปให้กับหญิงอื่นเถอะและพวกนางก็จะตอบแทนเจ้า ดังนั้นเจ้าเอาไปให้พวกนางเถอะ”
คาร์มอนหัวเราะ ” เจ้าไม่ต้องการพวกมันก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมต้องล้อข้าเล่นด้วย ข้าไม่ชอบหญิงสาว . . . . . . . ทั่วไปเสียหน่อย”
ลินดา ไม่ตอบอะไร นางมุ่งเดินไปหาฉื่อหยาน นางขมวดคิ้วขณะมองสัตว์อสูรเกล็ดเขียวที่เหลืออยู่ และพูดด้วยความกังวล ” หวังว่าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่จะไม่ปรากฏตัวนะ “
ฉื่อหยานคอดตาของเขาลง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวเหล่านั้นอยู่ในระดับสองและสาม
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสามสามารถเทียบได้กับนักรบในระดับมนุษย์ แต่เพราะพวกมันต้องกระโดดลอยในอากาศเพื่อโจมตี ทำให้ความสามารถของพวกมันไม่เกินกว่านักรบระดับก่อตั้ง
เหล่าสาวกภายนอกของพรคคามเทพเกือบทั้งหมดต่างก็อยู่ในระดับก่อตั้งและระดับมนุษญ์ และลินดาเองก็เป็นนักรบในนภาแรกของระดับหายนะ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถรับมือกับพวกสัตว์อสูรเกล็ดเขียวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนั่นฉื่อหยานก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
แต่มันก็เป็นการยากที่จะรับมือกับสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่นั้นรับมือได้ยากกว่าระดับสามอยู่มาก ร่างของมันสามารถทนต่อการโจมตีทั่วไปได้
นอกเหนือจากนั้น สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ยังมีงาทีแหลมคม ซึ่งอาจจะทำให้เรือแตกได้
ถ้าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่เลือกที่จะพังเรือ แล้วลากผู้คนลงทะเล นั่นจะทำให้พวกเขาแทบจะไม่สามารถหนีรอดได้เลย
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมากในน้ำเมื่อเทียบกับตอนอยู่ในอากาส ถ้าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่พังเหลือพวกเขา , พวกเขาจะต้องตายแน่นอน
นักรบบนดาดฟ้ายังคงเฉลิมฉลองกับชัยชนะของพวกเขาที่ได้รับจากสัตว์อสูรเกล็ดเขียว ในขณะที่ลินดาถอนหายใจและเริ่มหวาดกลัว นางยืนอยู่ข้างๆ ฉื่อหยาน
” ฉื่อหยาน เจ้าคิดว่าพวกเราจะถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่หรือไม่ ? ” ลินดา ถอนหายใจ นางมองไปที่ฉื่อหยาน และถามด้วยความประหลาดใจ
ลินดา นั้นเห็นฉื่อหยานถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำแข็งในทะเล แม้ว่าพลังของเขาจะเหือดแห้งไป แต่ลินดก็ารู้สึกว่าเขานั้นเป็นคนพิเศษ และฉลาดกว่านักรบเช่น คาร์มอน .
ดังนั้นนางจึงต้องการคำแนะนำจากฉื่อหยาน
” ไม่รู้สิ ” ฉื่อหยานส่ายหัว ” ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสัตว์อสูรเกล็ดเขียวเลย “
” อะไรนะ ? ” ลินดา ไม่อยากจะเชื่อเลย ” เจ้าไม่ใช่ชาวประมงในหมู่เกาะเทียวซั่วงั้นรึ ? “
ฉื่อหยานรู้สึกกระอักกระอ่วน เขากระแอมแล้วพูดเบาๆ ” ข้าก็แค่ชาวประมงธรรมดาตกปลาทั่วไป ปลาที่น่ากลัวและสัตว์อสูรเช่นนี้.. อืม…. ข้าไม่เคยประเชิญหน้ากับพวกมันเลย มีเพียงเจ้าที่เป็นยอดฝีมือจากพรรคสามเทพที่ปกป้องพวกเรา ไม่ใช่ข้า “
ลินดารีดตาของนางจ้องไปที่เขา และบ่นว่า ” เจ้าไม่อยากช่วยก็บอกข้าตรงๆ หยุดพูดถึงชาวประมงได้แล้ว ‘ ข้าไม่เคยเห็นชาวประมงที่ไหนดูไม่เกรงกลัวใดๆมาก่อนเมื่อพบเจอกับสัตว์อสูรเกล็ดเขียว. “
บรรยากาศค่อนข้างน่ากลัวเป็นอย่างมาก เมื่อสัตว์อสูรเกล็ดเขียวเหล่านั้นกระโดดขึ้นมาจากน้ำและเมื่อลินดามองไปที่ฉื่อหยานขณะที่นางกำลังต่อสู้กับสัตว์อสูรเกล็ดเขียว นางก็พบว่าฉื่อหยานทำเพียงก้าวเดินอย่างสบายๆไปยังจุดที่ปลอดภัยโดยปราศจากความกลัวใดๆ
เป็นไปไม่ได้ที่ชาวประมงจะทำเช่นนั้น
ฉื่อหยานยิ้ม ” ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วย แต่ข้านั้นไม่สามารถทำได้ ข้าคิดว่าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวจะต้องกลับมาอีกครั้งแนา และจะมีพวกมันระดับสี่ หรือไม่ก็ระดับสามอีกหลายตัวด้วย แต่ที่แน่ๆ สัตว์อสูรเกล็ดเขียวคงไม่ติดตามเราไปตลอดทางหลอก “
” หึ ! แน่นอน ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกมันระดับสามและระดับสี่จะต้องมา ” ลินดารีดตานางและถอนหายใจ “ข้าถามวิธีรับมือพวกมันต่างหาก เจ้าเป็นหนึ่งในพวกเราแล้ว เจ้าจะไม่ทำอะไรเลยและปล่อยให้เรือพังงั้นรึ ? “
ฉื่อหยานฝืนยิ้ม ” เรายังคงมีเวลาเหลืออยู่บ้าง เราควรคิดอย่างรอบคอบ “
” ถ้าเจ้าเป็นยอดฝีมือ โปรดเชื่อเราด้วย เราจำเป็นจริงๆ . ” ลินดา มองเขาด้วยสายตาที่อ้อนวอน ” ข้าได้เคยช่วยเจ้าไว้ครั้งหนึ่ง แม้ว่าลูกเรือของข้าจะไม่ชอบเจ้า แต่ข้าก็ต้องการให้พวกเขาปลอดภัย ข้าจะปกป้องพวกเขาตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ “
ฉื่อหยาน ตะลึง และเขาก็รู้สึกประทับใจนาง เมื่อ คาร์มอนพูดถึงความเป็นผู้นำของนาง เขาบอกว่านางนั้นเป็นคนรอบคอบ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมนักรบเหล่านั้นถึงไว้ใจนางมาก
นั่นเป็นวิธีที่นางปฏิบัติกับกลุ่มของนาง และก็ไม่เแปลกที่นักรบผู้โชคดีเหล่านี้จะชื่นชอบนาง
” ข้าไม่ใช่ยอดฝีมือ . ” ฉื่อหยานพูดดูถูกตัวเอง ” ข้าก็แค่คนโชคร้ายที่เกือบจะเสียชีวิตจากการจมน้ำ อย่ามาพึ่งข้าเลย . “
เขานั้นไม่ได้เป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัว
ก่อนพลังของเขาจะกลับมา เขานั้นไม่สามารถเทียบกับลินดาได้ด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ปกป้องนางเลย
แต่ว่า ถ้าพลังของเขาสามารถกลับคืนมาได้ในเวลาอันสั้นหละก็ สถานการณ์ตอนนี้ก็คงจะแตกต่างออกไป
” ไม่เป็นไร ข้าจะไม่บังคับเจ้า . ” ลินดาจ้องอย่างเย็นชา ” เจ้าจะไม่รอดแน่นอน ถ้าเรือจม ! เจ้าต้องตายกับพวกเราแน่ๆ ! ดังนั้น เจ้าก็คิดเอาเองละกัน “
แล้วลินดาก็จากไปพร้อมกับนับรบเหล่านั้นที่จ้องมาที่เขาด้วยไปใบ้ดุร้าย และนางก็เริ่มเตือนพวกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป