บทที่ 151 เกิดอะไรขึ้น ?
เสียงกรีดร้องทรมานดังขึ้นมาจากในทะเล
แล้วนักรบระดับมนุษย์อีกคนก็ถูกฆ่าตายจากการโจมตีของสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ นักรบคนนั้นถูกกัดฉีกกระฉากโดยสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสามตัวอื่น
เมื่อนักรบคนนั้นตกตายไป พลังปราณลึกลับในร่างกายของเขาก็กระจายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว และค่อยๆถูกดูดซึมเข้าไปในร่างของฉื่อหยานและไหลไปยังเส้นชีพจร
ฉื่อหยานแอบถ่ายทอดพลังงานเชิงลบกับพลังปราณลึกลับของเขา และสร้างเป็นวงหมุนหลุมแรงโน้มถ่วง เมื่อวงหมุนถูกสร้างขึ้น น้ำทะเลก็พุ่งขึ้นสูงและกลายเป็นน้ำวน
ไม่มีใครรู้ว่าน้ำวนเกิดขึ้นในทะเลได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม วงหมุนเหมือนกับว่ามันมีชีวิต ทันทีที่มันสร้างคลื่นในทะเลมันก็ดูดกลืนสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่เข้าไป
หลังจากกลืนสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่เข้าไป วงหมุนยังไม่หยุดแค่นั้น มันลอยไปยังสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ที่เหลือ
ด้วยการต่อสู้ใต้น้ำ ลินดาและกลุ่มของนางต้องถอยหลังคลอดเวลา
ทันทีที่พวกเขาลงมาอยู่ใต้ทะเล พวกเขาถูกล้อมรอบด้วยสัตว์อสูรเกล็ดเขียวทันที สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ ในทันทีพวกมันก็ลงมือ และกลุ่มของนางก็ไม่สามารถหาเวลาพักได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว ขณะเดียวกันพวกเขายังได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ
จุดเปลี่ยนในการต่อสู้ของพวกเขาก็เกิดขึ้น เมื่อน้ำวนทั้งสองวงปรากฏขึ้นและเริ่มสร้างความเสียหาย
วงหมุนแรกช่วยลินดาจากการถูกงาของสัตว์อสูรเกล็ดเขียวโจมตี และดูดกลืนสัตว์อสูรเกล็ดเขียวทั้งสองตัว นั่นจึงช่วยลดแรงกดดันของลินดา
วงหมุนทั้งสองสร้างความประหลาดใจขึ้นอีกครั้ง หลังจากมันกลืนกินสัตว์อสูรเกล็ดเขียวตัวหนึ่งแล้ว มันก็มุ่งไปกลืนกินสัตว์อสูรเกล็ดเขียวตัวอื่นๆทันที
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่สามตัวถูกกลืนดินโดยวงหมุน , และสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่อีกตัวก็กำลังถูกไล่ตามอยู่ ดังนั้น สัตว์อสูรเกล็ดเขียวตัวอื่นๆจึงเลิกสนใจไปที่กลุ่มของลินดา
ลินดา สังหารสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสามมากมาย ด้วยการคมเสี้ยวจากมีดของนาง ดวงตาคู่สวยของนาง ส่องประกายออกมาขณะที่มองไปยังฉื่อหยาน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อยู่ในทะเล ฉื่อหยาน ยังคงสงบและเยือกเย็น และไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆในการต่อสู้ ไม่มีแม้แต่พลังสักเศษเสี้ยวเดียวที่ออกมาจากตัวเขา
ลินดามองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
อาจเป็นไปได้ว่า จะไม่ใช่ฝีมือเขา
ลินดา เต็มไปด้วยความสับสน นางจ้องไปที่ฉื่อหยาน สักพักแต่ก็ยังคงไม่สามารถสัมพัสถึงพลังใดๆที่ออกมาจากตัวฉื่อหยานได้เลย มันเงียบสงบ
ฉื่อหยานเอาแต่หลบการโจมตีของสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสามและเขาก็สามารถหลบการโจมตีของพวกมันได้ทั้งหมด พวกมันนั้นไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
ลินดาตกตะลึง อยู่ดีๆนางก็ตะโกน ” กลับไปที่เรือสะ ! “
เมื่อนักรบคนอื่น ๆได้ยินเสียงตะโกนของนาง พวกเขาก็ไปรวมกันที่ลินดาอย่างรวดเร็ว ฉื่อหยานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น เขารีบว่ายน้ำและมุ่งไปยังลินดา
น้ำวนทั้งสอง ที่กวนคลื่นบนผิวน้ำทะเลยังคงโหมกระหน่ำ และไล่กลืนกินสัตว์อสูรเกล็ดเขียวจำนวนมาก
ภายใต้แรงดึงดูดของน้ำวนทั้งสองในที่สุดสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ทั้งหมดก็ถูกกลืนกิน และถูกปิดดั้นอยู่ในน้ำวนพร้อมกับสัตว์อสูรเกล็ดเขียวตัวอื่นๆ
ลินดาว่ายนำไป มีดทั้งสองของนางส่องแสงออกมา และตัดไปที่สัตว์อสูรเกล็ดเขียวที่อยู๋ใกล้ๆขาดครึ่ง
คาร์มอนอยู่ด้านหลังของลินดา เขาถือหอกยาวสีเงิน . ด้วยการเคลื่อนไหวแขนของเขา เขาแทงทะลุร่างของสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสาม ทั้งสองคนเป็นคนนำหน้าไปและสังหารสัตว์อสูรเกล็ดเขียวและมุ่งไปยังเรือ
หน้าของฉื่อหยาน ก็บึ้งตึง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร และว่ายตามหลังพวกเขาไป
บนเรือ เชือกบันได ก็ห้อยลงมา เมื่อลินดามาถึง นางไม่ได้ขึ้นเรือทันที นางตะโกนว่า ” พวกเจ้าไปก่อนเถอะ “
พวกลูกเรือดูเหมือนจะไม่ปฏิเสธ ดูเหมือนพวกเขาจะเคยชินกับพฤติกรรม ของลินดาเช่นนี้มานานแล้ว พวกเขาจึงรีบปีนขึ้นบันไดเชือกไป และรีบขึ้นไปบนเรือ
ฉื่อหยานว้ายเข้ามาใกล้ๆ เขาก็ไม่ได้มองที่ลินดาเลย เขาคว้าบันไดเชือกและปีนขึ้นไป
” ลงไปสะ ! ” การแสดงออก คาร์มอนมันกลายเป็นเย็นชา เขาคว้าเสื้อของฉื่อหยาน และลากฉื่อหยานลงมา จากนั้น เขาก็ตะโกนว่า ” ฮั่วเจีย เจ้าขึ้นไปก่อน “
นักรบใกล้ๆ คาร์มอนไม่ลังเล ทันทีมันก็แย่งบันไดเชือกออกจากมือของฉื่อหยานและปีนขึ้นไป
” คาร์มอน ! ” ลินดาตะโกนออกมาอย่างเย็นชา ” เวลาเช่นนี้เจ้ายังจะทำเช่นนี้อีกรึ ! “
” มันไม่ใช่พวกเรา มันสมควรขึ้นเป็นคนสุดท้าย ” คาร์มอนสูดลมหายใจเข้าและโจมตีออกไปพร้อมกับลินดา เพื่อป้องกันสัตรว์อสูรเกล็ดเขียวที่กำลังล้อมรอบพวกเขาและ เขาก็กล่าวว่า : ” มันจะขึ้นเรือได้ ก็ต่อเมื่อพวกเราทุกคนขึ้นไปหมดแล้ว เจ้าสวะนี่ มันไม่ได้แข็งแกร่งอะไร แต่มันกลับพยายามที่จะเลียนแบบเรา และกระโดดลงมาจากเรือ ข้าเห็นว่ามันไม่ได้ทำอะไรในทะเล มันทำแต่เรื่องโง่ๆ ข้าไม่รู้ว่ามันลงมาทำไม มันทำอะไรไม่ได้เลย มันก็เป็นแค่เศษขยะ “
ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่ได้สนใจคำพูดใดๆและอยู่ข้างๆลินดา รอให้คนอื่นขึ้นเรือไปก่อน
” เจ้าขึ้นไป ! ” ลินดา คว้าเชือกบันได และยัดมันลงในมือของฉื่อหยาน ” ข้าจะระวังให้เจ้าเอง “
” ตกลง ” ฉื่อหยาน ตอบและ หลังจากที่เขาหยิบเชือกบันไดได้ เขาก็รีบปีนขึ้นไปบนเรือ
ลินดา และ คาร์มอนเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ในทะเล แสงคมเสี้ยวพุ่งออกมาจากมัดของลินดา พุ่งไปยังสัตว์อสูรเกล็ดเขียวที่เข้ามาใกล้ ถูกฟันทันที เลือดของมันก็กระจายไปทั่วอากาศ และพวกมันก็พยายามหลบการโจมตีของนาง
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสามไม่สามารถรับมือกับคมเสี้ยวจากนักรบนภาแรกในระดับหายนะเช่นลินดาได้ เมื่อสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ถูกกำจัด แม้จะอยู่ใต้ทะเล ลินดาก็สามารถโจมตีได้อย่างเฉียบคม
ผมยาวของนางชุ่มไปด้วยน้ำ เส้นผมที่ดูนุ่มสลวยทาบลงบนหน้าอกของนาง ด้วยการที่นางตะวัดแขน ทำให้น้ำหยดลงมาจากเส้นผมของนาง สะโพกของลินดาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และแสงคมเสี้ยวจากมีดก็พุ่งออกไปเป็นรูปครึ่งวงกลม . ด้วยพลังของนาง ทำให้นางสามารถจัดการสัตว์อสูรเกล็ดเขียวไปได้นับสิบตัว
เมื่อ คาร์มอนกำลังขึ้นไปบนเรือ ลินดาก็ได้ฆ่าสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสามไปอีกสามตัว แล้วในที่สุดนางก็คว้าเชือกบันไดด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างของนางก็ยังคงสะบัดออกไป และนางก็ตะกัน ” ดึงข้าขึ้นไป ! ” .
ลูกเรือบนเรือรอคอยคำสั่งจากลินดาอยู่แล้ว หลังจากที่พวกเขาได้ยิน พวกเขาทั้งหมดก็ใช้พลังของพวกเขาดึงลินดาขึ้นมาจากทะเลโดยพร้อมเพรียงกัน
” ออกเรือได้ ! ” เมื่อลินดาขึ้นมาบนเรือ นางก็สั่งทันที ” ในขณะที่สัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ยังถูกพันธนาการอยู่ เราต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเมื่อสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่หลุดจากพันธนาการเมื่อใด มันจะต้องมาสร้างปัญหาให้เราแน่ “
ด้วยคำพูดของนาง ลูกเรือก็ควบคุมเรือให้แล่นทันที
เรือแล่นไปในหมอกจางๆ มันแล่นผ่านคลื่นลม โดยมีใบเรือหันไปยังทิศทางตะวันออกเฉียงใต้
สัตว์อสูรเกล็ดเขียวอยู่ไกลออกไปจากด้านหลังเรือ พวกมันว่ายตามเรือมาอย่างไม่ยอมแพ้
บนพื้นผิวทะเล น้ำวนทั้งสอง ยังคงโหมกระหน่ำ และดูดกลืนสัตว์อสูรเกล็ดเขียวเข้าไป
น้ำวนทั้งสองนี้ ไม่รู้มาจากที่ใด ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันปรากฏขึ้นได้อย่างไร และมันยังสามารถกักขังสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ไว้ในภายในได้อีก
พูดได้เลยว่า ที่พวกเขาสามารถหลบหนีออกมาจากหายนะครั้งนี้ได้ เป็นเพราะน้ำวนทั้งสองนั่น
” โชคดีจริงๆ หากไม่มีน้ำวนทั้งสองหละก็ เราคงตายไปแล้ว ” เจตต์ นอนแผ่อยู่บนดาดฟ้า เขารู้สึกเหนื่อยจากการว่ายน้ำ และการต่อสู้ เป็นอย่างมาก เขาเงยหน้าขึ้นมองร่างที่เปียกชุ่มของ ลินดา ซึ่งมีส่วนโค้งเว้อได้ที่และหัวเราะออกมา
เจตต์นั้นอยู่ในนภาที่สองของระดับมนุษย์ เขาได้ติดตาม ลินดา มาเป็นเวลาหลายปี ปีที่ผ่านมา แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับอันตรายมามากมาย เขาก็ไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังเท่าวันนี้เลย
หลังจากสามารถหนีรอดจากความตายได้ เจตต์ก็รู้สึกว่าเขานั้นโชคดีจริงๆ ตอนนี้เขาไม่เหลือแรงอีกแล้ว แต่ดวงตาของเขาส่องประกายออกมาเหมือนรู้อะไรบางอย่าง
” ไม่รู้ว่าน้ำวนนั่นมาจากไหน ” คาร์มอนก็ยิ้ม ” ข้าแอบคิดว่าเป็นพระเจ้าที่แอบช่วยเหลือเรา , น้ำวนนั่น ดูเหมือนจะโจมตีเฉพาะสัตว์อสูรเกล็ดเขียว น้ำวนทั้งสองนั้นสามารถดูดกลืนสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่ทั้งหมดได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ข้าคิดว่า เราต้องตายแล้วแน่นอน ข้าไม่คิดเลยว่าเราจะสามารถหายใจรับอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง นี่ช่างดีนัก นี่มันดีจริงๆ “
” ใช่ น้ำวนนั้นน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ! พวกมันเกิดขึ้นได้ถูกเวลานัก ! “
” นี่ไม่ใช่ว่าพวกเราได้รับพรจากพระเจ้าหลอกรึ ? “
ลูกเรือบนเรือทั้งหมดต่างหฌพูดด้วยความประหลาดใจ พวกเขาประหลาดใจอย่างมาก ที่จู่ๆก็เกิดน้ำวนที่น่าอัศจรรย์ขึ้น
แต่ลินดานั้นกลับเงียบสนิท นางไม่ได้สนใจเลยว่าส่วนเว้าเค้าบนร่างกายของนางจะถูกเปิดเผยด้วยเสื้อผ้าที่เปียกของนาง ดวงตาของนางเป็นประกายลึกลับ ราวกับว่านางกำลังคิดถึงบางอย่าง
หลังจากนั้น ลินดาก็มองไปที่ฉื่อหยานอย่างลึกซึ้ง นางก้มศีรษะเล็กน้อย ผิวขาวของนางถูกเปิดเผยจากหน้าอกของนาง และนางก็กล่าวว่า : ” ขอบคุณนะ “
” ลินดา เจ้ากำลังทำอะไร ? ” คาร์มอน ลุกขึ้นมาและ เขาก็กล่าวเย้ยหยัน ” ลินดา เจ้าคงไม่ได้คิดหลอกนะว่าเจ้านี้จะเป็นคนสร้างน้ำวนนั่น ? “
” ฮ่าๆ พูดเป็นเล่น ” ฮั่วเจียก็สั่นศีรษะ เขามองไปที่ฉื่อหยานด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ถ้าชายคนนี้มีความสามารถในการสร้างสิ่งอัศจรรย์เช่นนั้นได้ ข้าก็คงเป็นปรมจารย์ระดับพระเจ้าแท้จริงแล้ว”
แม้แต่ เจ็ท คนที่อยู่ใกล้ๆกับลินดา ก็ยังส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มเยาะ ” น้องลินดา เจ้าคงจะเหนื่อยมากไปใช่หรือไม่ ? ชายคนนี้ไม่สามารถสัมพัสพลังในร่างได้เลย เขาคนเดียว ไม่สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นได้แน่นอน . “
ลูกเรือบนเรือที่เหลือทั้งหมดก็มองไปที่ฉื่อหยาน ดวงตาของพวกมันเต็มไปด้วยการดูถูก
ลินดาไม่สนใจคนอื่นๆ นางยังคงมองไปที่ฉื่อหยานอย่างลึกซึ้ง และกล่าวอีกว่า ” ขอบคุณจริงๆ “
ฉื่อหยานขมวดคิ้วเข้าหากัน และส่ายหัวของเขา : ” เจ้าผิดแล้ว นี่มันไม่ได้เกียวอะไรกับข้า “
เขาไม่ต้องการที่จะให้คนเหล่านี้รู้เรืองของเขามากเกินไป และเขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะอยู่บนเรือลำนี้นานนัก เมื่อพวกเขาเข้าเกาะเมฆาเมื่อใด เขาก็ลงจากเรือทันที เพราะ ทะเลเหิงลั่วทั้งหมดอยู่ ภายใต้อิทธิพลของพรรคสามเทพ ตระกูลกู่ และตระกูลตงฟาง ถ้าเขาเปิดเผยตัวเองมากเกินไป มันจะต้องส่งผลเสียต่อเขาแน่นอน
ลินดา มองไปที่หลังเขาอย่างว่างเปล่า หลังจากนั้นไม่นานนาน ในที่สุดนางก็พูดกับสมาชิกลูกเรือคนอื่น : ” อย่าลดการระวังของพวกเจ้าลง รวบรวมพลังของเจ้าสะ และระวังสัตว์อสูรเกล็ดเขียวไว้ให้ดี . “
ลินดายังคงสงสัย แต่นั้นรู้จักนิสัยของลูกเรือลำนี้ทั้งหมดดี นางรู้ว่าคนเหล่านี้มีค่ามากแค่ไหน และนางก็รู้ความสามารถของพวกเขาดี มันคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะรับมือกับสัตว์อสูรเกล็ดเขียวระดับสี่
บนเรือ ฉื่อหยานเป็นคนเดียวที่นางไม่คุ้นเคย และไม่ทราบรายละเอียดที่แน่นอนของเขา ร่วมไปถึงระดับการบ่มเพาะของเขาด้วย และเพราะว่านางนั้นเห็นฉื่อหยานถูกผนึกในน้ำแข็ง แน่นอน นางต้องสงสัยเขาเป็นคนแรก
อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ในทะเล นางนั้นไม่สามารถสัมพัสได้ถึงพลังอะไรเลยที่ออกมาจากตัวฉื่อหยาน เมื่อน้ำวนกำลังบ้าคลั่งอยู่ในทะเล ,ฉื่อหยานยังเอาตัวรอดอยู่เลย น้ำวนทั้งสองนั้นไม่พยายามปกป้องเขาเลยสักนิด . . . . . . .
จากความคิดเหล่านี้ ฉื่อหยานจึงไม่เหมือนกับผู้ที่ทำเช่นนั้น
แต่ถ้าไม่ใช่ฉื่อหยาน แล้วจะเป็นใครกัน ? อาจจะเป็นไปได้ว่า น้ำวนนั่นจริงๆแล้วเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ?
ลินดาแอบส่ายหน้า จิตใจของนางเต็มไปด้วยคำถาม ฉื่อหยานในสายตาของนางนั้น , เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจมากมาย
ฉื่อหยานแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่รู้เรื่องใดๆ หลังจากที่เขาขึ้นมาอยู่บนเรือ เขาก็กลับไปที่กล่องสินค้าทันที
แต่ในมือของเขานั้นมีหินสีเขียวอยู่สองก้อน ตอนนี้เขากำลังกำหินสีเขียวไว้ที่แหวนสายโลหิต เขาพยายามนำพลังความเย็นที่ไหลออกจากแหวนสาบโลหิตเข้าไปในหินสีเขียว