[TL. ชาวทมิฬ กับ ผู้คนจากความมืด คืออันเดียวกันนะครับ ก่อนหน้านี้ผมแปลไปว่าคนจากดินแดนใต้พิภเจ็ดชั้นจะเรียกว่า ผู้คนจากความมืด ตั้งแต่ตอนนี้ผมขอเปลี่ยนเป็น ชาวทมิฬ…. ชาวทมิฬ กับ อสูร คนละเผ่าพันธุ์กันนะครับ แล้วก็ ราชาอสูรของตระกูลหยาง ผมขอเปลี่ยนเป็น ราชาชูร่า เพราะมันทับกับพวกอสูร เด๋วจะงงเอา ]
บทที่ 160 บ่อรวมวิญญาน
ที่เกาะเมฆา
ใกล้พลบค่ำ , กลุ่มเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าเคลื่อนตัวไปมาเหมือนปุยฝ้าย แสงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าส่องกระทบกับก้อนเมฆ , ส่องเป็นแสงที่สวยงาม
เกาะเมฆาทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยแสงพระอาทิตย์ที่ใกล้พลบค่ำ ปรากฏเป็นทิวทัศนียภาพที่งดงามภายใต้ ดวงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้า นอกจากนี้ยังมีใบเมเปิ้ลสีแดงกระจายอยู่ทั่วเกาะเมฆา พวกมันดูน่าหลงไหลอย่างมากเมื่อใกล้พลบค่ำ
ทิวทัศน์บนเกาะเมฆานั้นไม่ซ้ำกันเลย พอพลบคล่ำ เมฆหมอกบนท้องฟ้าและใบเมเปิ้ลบนเกาะขับกันและกัน สร้างเป็นมุมมองที่สวยงามโลดโผน .
บนเกาะ ประกอบไปด้วยพลังวิญญาณธรรมชาติที่ค่อนข้างพิเศษ นอกจากนี้ยังมีเหมืองแร่หินแมงกานีสอยู่อีกสามแห่ง
หินแมงกานีสไฟ คือ วัสดุที่สามารถใช้เพื่อสร้างอาวุธวิเศษ มันมีคุณสมบัติของไฟ เมื่อหินแมงกานีสไฟที่มีคุณภาพสูงผสานเข้าไปในอาวุธอาวุธก็จะมีคุณสมบัติเช่นไฟ ถ้าหลอมรวมกับผนึกไฟบางชนิด มันจะกลายเป็นอาวุธที่มีพลังความร้อนสูง
ในเหล่าสมาชิกตระกูลกู่ ส่วนใหญ่พวกเขาใช้วิชาที่เกี่ยวข้องกับดาบ ; ผู้อาวุโสทุกคนในตระกูลล้วนใช้วิชาดาบทั้งสิ้น
ภูเขาดาบของตระกูลกู่ มีดาบที่มีจิตสำนึกอยู่หลายเล่ม
ผู้ว่าอาวุโสทั้งหลายในตระกูลกู่ต่างก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ดาบ การปรับแต่งดาบจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก หินแมงกานีสไฟนั้นจำเป็นอย่างมากในปรับแต่งดาบ เมื่อตระกูลกู่ค้นพบว่าเกาะเมฆามีหินแมงกานีสไฟอยู๋ พวกเขาก็สร้างปัญหาจำนวนมากเพื่อกวาดล้างนักรบที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ครอบครองเกาะแห่งนี้
หนึ่งปีก่อน ราชาชูร่าจากตระกูลหยาง โม่ต้วนหุน นำข้ารับใช้อสูรมาสามสิบตน และนำความหายนะมาสู่เกาะเมฆา
โดยใช้เวลาเพียงครึ่งวัน ป้อมปราการทุกแห่งของตระกูลกู่ถูกทำลาย สามาชิกตระกูลกู่ที่อยู่บนเกาะต่างก็ถูกฆ่าโดยข้ารับใช้อสูร และกองกำลังที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกู่เองก็ถูกจัดการทั้งหมดอย่างสมบูรณ์โดยข้ารับใช้อสูร
หลังจากหนึ่งปีผ่านมา เกาะเมฆากลับมาอยู่ในการปกครองของตระกูลกู่อีกครั้ง แต่ป้อมปราการบนเกาะก็ยังคงไม่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
โชคดีเพราะดินแดนสี่อสูรมีการเคลื่อนไหวบางอย่าง ตระกูลหยางจึงค่อยๆถอยกลับไปที่ทะเลเคียร่าและเลิกโจมตีตระกูลกู่ ตระกูลกู่จึงฉวยโอกาศนี้เพื่อขอสงบศึกชั่วคราว ตระกูลหยางเองก็ตกลง เพราะพวกเขาต้องวุ่นว่ายกับอสูรในดินแดนสี่อสูร และการเจรจานี้ก็จะเกิดขึ้นที่เกาะเมฆา
ภายใต้ภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมฆามีเหมืองแร่แมงกานีสอยู่และ มีหอคอยหินและสิ่งก่อสร้างหินอยู่ พื้นที่รอบๆเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้่ล ; ต้นเมเปิลสีแดงผลัดเปลี่ยนใบมากมายล้อมรอบสิงก่อสร้าง ทำให้บริเวณนี้ดูเหมือนกับทะเลใบเมเปิ้ลสีแดง
ด้านบนของหอคอยหินยักษ์สูงห้าสิบเมตร กู่เจียงเกอ กู่ลียืนอยู่ข้างๆกันและมองไกลออกไป
โดยแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าสีแดงที่ส่องบนฟากฟ้า เส้นแสงแดงส่องกระทบลงมา และตกกระทบไปที่หอคอย ลากเป็นเส้นสีแดงลงบนพื้นของหอคอย
เมื่อดวงอาทิตย์ค่อยๆลงหายไปในขอบฟ้า , นกอินทรีส่งสารก็บินผ่านลมมาด้วยความรวดเร็ว
นกอินทรีพบเป้าหมายและจอดตรงบนหน้าต่างหินที่อยู่ข้างหน้ากู่ลี มันกระพือปีกสองครั้งแล้วหยุด
กู่ลียยื่นมือของเขาออกไป และหยิบเอาจดหมายจากอินทรี เขาอ่านเนื้อหาของจดหมายพร้อมกับทำหน้าบึ้ง ; การแสดงออกของเขาดูหน้าเกลียดขึ้น
กู่ลีนั้นอยู่ในนภาที่สองของรถดับรู้แจ้ง เขามีตำแหน่งค่อนข้างสูงในตระกูลกู่ การต่อสู้ระหว่างตระกูล กู่ กับ ตระกูลหยางเกิดขึ้นเพราะกู่เจีงเกอ . ดังนั้น กู่ลีจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น
ตระกูลหยางนั้นโกรธเคืองพวกเป็นอย่างมาก และได้ฆ่าตัวแทนหลายคนของตระกูลกู่มากมายทีอยู่บนเกาะ ด้วยความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับตระกูล พวกเขาจึงโทษว่าความผิดทั้งหมดเป็นของกู่เจียงเกอ นี่จึงทำให้กู่ลีรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก นี้เป็นเหตุผลทั้ทำให้กู่ลีค่อนข้างอึมครึม เมื่อเขาต้องพูดคุยหรือรับมือกับตระกูลหยาง เขาจะต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะเกรงว่าจะสร้างปัญหาขึ้น
” ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้น ? ” กู่เจียงเกอ ได้ก้าวเท้าไปยังจดหมาย
ท่าทางกู่ลีก็ดูน่ากลัว เขมอบจดหมายให้กู่เจียงเกอโดยตรง และพูดออกมาด้วยความโกรธ ” ตระกูลหยาง นั้นโหดเหี้ยมจริงๆ พวกมันเกาะห้าแห่งเพื่อหยุดติปัญหาครังนี้”
” เกาะห้าแห่ง ? ” หน้ากู่เจียงเกอ ก็เปลี่ยนไป ทันทีที่เขาอ่านเนื้อหาของจดหมายและเขาก็อุทานออกมา : ” เกาะเมฆา เกาะเปลือกสะพรั่ง เกาะหมาป่าเหล็ก เกาะน้ำเต้า และ เกาะปีศาจ ! หมู่เกาะทั้งห้าเหล่านี้เต็มไปด้วยเหมืองแร่และสมุนไพรดีๆมากมาย มันต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากกว่าตระกูลกู่จะครอบครองเกาะเหล่านี้ได้ ตระกูลหยางกล้าดียังไงถึงได้เรียกร้องเกาะทั้งห้าเช่นนี้ ! “
สีหน้ากู่ลีก็ดูน่ากลัว เขาถอนหายใจออกมา ” ตระกูลของเราจะต้องไม่ยอมมอบเกาะทั้งห้าให้แน่ มันมีค่ามากเกินไป พวกเขาไม่ยอมยกให้ตระกูลหยางแน่นอน แต่ถ้าเราไม่ทำข้อตกลงกับตระกูลหยาง เบื้องบนก็จะยกความผิดทุกอย่างมาที่ข้า ! นี่มันช่างหนักหนายิ่งนัก ! . . . “
” ท่านพ่อ ตอนเราอยู่ที่บ่อรวมวิญญาน ครั้งสุดท้าย พวกอสูรดูเหมือนจะ . . . . . . . ดูเหมือนจะต้องการ . . . . . . . ” กู่เจียงเกอ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นมืดมนลงเล็กน้อย เขากัดฟันของเขาและกล่าวว่า ” เนื่องจากตระกูลหยางกำลังจะออกเดินทางไปไกล เราสามารถไปและตกลงเงือนไขกับพวกอสูรได้ง่ายๆ เช่นนั้นเราจะสามารถขังสมาชิกตระกูลหยางที่มายังเกาะให้อยู่ที่นี่ได้ตลอดกาล “
” อสูร . . . . . . . ” กู่ลี สีหน้าก็เปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังลังเลอยู่ ” แม้ว่าเราจะเป็นตระกูลที่ไม่เป็นมิตรกับตระกูลหยาง แต่ถ้าเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับอสูร เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมา ทุกคนก็จะรังเกลียดเราแน่นอน จากนั้น ตระกูลอื่น ๆเองก็คงรังเกียจวิธีการของเราเช่นกันและพวกเขาก็วิจารณ์ว่าวิธีของเราเป็นวิธีของพวกต่ำช้า “
” เมื่อสมาชิกของตระกูลหยางทั้งหมดถูกฆ่าตาย ใครหละจะรู้ว่าเราเป็นคนทำ ” กู่เจียงเกอ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเรียกร้อง ” ท่านพ่อ สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เราสามารถร่วมมือกับใครก็ได้ที่ให้ผลประโยชน์แก่เรา เท่าที่ข้ารู้ ในทะเลกว้างใหญ่ แน่นอนว่าต้องมีใครบางคนทำงานให้กับชาวทมิฬที่อยู่ในดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นแน่นอน . เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของเรา บางครั้งมันก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป หากมองจากสถานการณ์ของเราตอนนี้ “
” คนที่กำลังจะมาคือโม่ต้วนหุน ” กู่ลีขมวดคิ้ว ” โม่ต้วนหุน เป็นผู้นำของสามราชาชูร่าของตระกูลหยาง พลังของเขานั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นอกจากอสูรระดับพระเจ้าแท้จริงแล้ว ไม่มีใครหยุดเขาได้แน่ หากโม่ต้วนหุนหลบหนีไปได้ และรู้ว่า เราได้ช่วยเหลือพวกอสูรให้มาที่นี่หละก็ เราสองคนอาจจะไม่ได้อยู่ในตระกูลกู่อีกต่อไปแล้ว “
” ถ้าครั้งนี้เราทำพลาด ตำแหน่งของท่านพ่อในตระกูลก็จะลดลงไป ตระกูลของเราจะไม่ส่งมองเกาะทั้งห้าให้แน่นอน และพวกตระกูลหยางเองก็เป็นพวกหยิ่งพยองจองหอง เรานั้นไม่สามารถรับมือที่เดียวกันได้ทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าโม่ต้วนหุน ถูกฆ่าโดยอสูร เราก็จะสามารถกำจัดความรับผิดชอบทั้งหมดออกไปได้ ตอนนั้นตระกูลหยางจะก็จะตกอยู่ในความหวาดกลัว และอาจจะมองข้ามปัญหาของเราไป ท่านพ่อ , ท่านพ่อโปรดพิจารณาอย่างรอบคอบด้วย “
” ไปบ่อรวมวิญญานกัน ! ”
” ขอรับ” .
ทางด้านใต้ของเกาะเมฆา มีหุบเขาลึกลับอยู่ กลางหุบเขา มีบ่อน้ำอยู่
พลังปราณหยินอบอวลอยู่รอบบ่อ ข้างๆบ่อน้ำ มีหมอกพิษที่ดูดำมืดเหมือนน้ำหมึก ในบริเวณรอบๆ มีเสียงเรียกของวิญญานมากมายดังมาจากบ่อ
บนพื้นผิวของบ่อน้ำ มีใบหน้าของวิญญานปรากฏขึ้น น้ำใสในสระดูเหมือนกับกระจกที่น่าขนลุก ; มีผีและวิญญานมากมายไม่รู้จบถูกปิดผนึกอยู่
ตำนานกว่าวว่าที่เกาะเมฆาเมื่อก่อนเคยเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ขึ้น ทุกคนบนเกาะ ถูกฆ่าตาย หลังจากพวกเขาตาย วิญญาณของพวกเขาก็ถูกดึงดูดโดยพลังบางอย่างที่ไม่รู้จักและพวกเขาไม่ได้สลายไปทันที พวกเขากลับถูกดูดเข้ามารวมกันยังบ่อแห่งนี้
ภายในบ่อมีวิญญาณมากมายไม่รู้จบ วิญญาณเหล่านั้นผุดขึ้นมาจากผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง และบางครั้งก็ออกมาเดินเล่นบนผิวน้ำ
เกาะเมฆาสมัยก่อนเคยมีนิกายนักรบปีศาจอยู่ พวกเขาได้นับว่าบ่อร่วมวิญญานแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมักจะมาฝึกบ่มเพาะใกล้ๆกับมัน
เพื่อให้ได้มาซึ่งเกาะเมฆา ตระกูลกู่จึงส่งนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลมาและทำลายนิกายนักรบปีศาจ และทุกดวงวิญญาณของนักรบจากนิกายนักรบปีศาจก็ได้อยู่ในบ่อรวมวิญญานแห่งนี้
หลังจากกูตระกูลได้ครอบครองเกาะเมฆา , พวกเขาก็ได้เข้าใจบ่อรวมวิญญานอย่างลึกซึ้ง จากคัมภีร์ของนิกายนักรบปีศาจที่พวกเขาได้ทำลายไป พวกเขาได้รู้ว่าบ่อรวมวิญญาน นั้นเชื่อมต่อไปยังดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นและดินแดนสี่อสูร อย่างไรก็ตาม บ่อรวมวิญญานนั้น แตกต่างจากประตูสวรรค์ ประตูนั้นสามารถทำให้ผู้คนจากทะเลไม่มีที่สิ้นสุดเข้าไปที่ดินแดนใต้พิภพเจ็ด และดินแดนสี่อสูรได้ ในขณะที่บ่อรวมวิญญานไม่สามารถทำได้
บ่อรวมวิญญานทำได้เพียงส่งนักรบที่แข็งแกร่งบางคนจากนดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นและดินแดนสี่อสูรให้ปรากฏมาขึ้นบนพื้นผิวของน้ำเท่านั้น ผ่านการแทกแทรงวิญญาน
วันก่อนหน้านี้เมื่อตระกูลกู่พยายามที่จะทำลายบ่อรวมวิญญาน วิญญานของอสูรก็ได้ปรากฏขึ้นมาจากบ่อรวมวิญญาน และขอความร่วมมือจากตระกูลกู่ พวกมันต้องการให้ตระกูลกู่ใช้วิธีลับบางอย่างเพื่อนำสิ่งมีชีวิตและวิญญานที่แตกต่างกันมากมายเข้ามาในบ่อรวมวิญญาน ด้วยการทำเช่นนั้นจะทำให้สามารถส่งวิญญานจากดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นและดินแดนสี่อสูรมาจากบ่อได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม ดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นและพรรคสามเทพนั้นไม่ถูกกัน พรรคสามเทพนั้นได้ไปยังดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้นอยู่หลายครั้งผ่านประตูสวรรค์และได้ฉกฉวยทรัพยากรมที่มีค่าและประโยชน์มากมายจากที่นั่น นั่นจึงทำให้เกิดความขัดแย้งร้ายแรงขึ้นระหว่างดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้น .
ตระกูลกู่ และพรรคสามเทพนั้นเป็นพันธมิตรกัน จึงเป็นธรรมชาติที่พวกเขาจะไม่ต้องการให้พรรคสามเทพต่อสู้กับดินแดนใต้พิภพเจ็ดชั้น
ด้วยเหตุนี้ตระกูลกู่จึงปฏิเสธที่จะเห็นด้วยกับชาวทมิฬและพวกอสูร พวกเขาเฝ้าบ่อรวมวิญญานกันอย่างเข้มงวด พวกเขาใช้พลังมากมายเพื่อซ่อนพื้นที่แห่งนี้ เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องและมาเกี่ยวข้องกับบ่อรวมวิญญาน
ตอนนี้ตระกูลกู่กำลังตัดสินว่าจะทำลายบ่อรวมวิญญานดีหรือไม่ ทำให้เกิดข้อโต้แย้งที่รุนแรงขึ้นในตระกูลกู่ สุดท้าย เพื่อที่จะป้องกันความสัมพันธุ์กับพรรคสามเทพในอนาคน หรือเพราะเหตุผลอื่นก็ตาม ตระกูลกู่จึง แล้วตัดสินใจที่จะเก็บบ่อรวมวิญญานไว้
แต่ความลับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบ่อรวมวิญญานก็ถูกเก็บซ่อนไว้ โดยตระกูลกู่
ด้านนอกบ่อมีม่านพลังที่แข็งแกร่งถูกสร้างไว้อยู่โดยนักรบที่แข็งแกร่งของตระกูลกู่ หากยอดฝีมือจากขุมพลังทั้งสิบห้าไม่ได้มาเห็นที่นี่ ก็เป็นการยากที่ผู้อื่นจะรู้เรื่องบ่อรวมวิญญาน
ครั้งสุดท้ายที่โม่ต้วนหุนมาบนเกาะนี้ก็คือตอนที่เกิดการนองเลือดขึ้นบนเกาะ เขาขี่ม้าหนีไปทั่วเกาะเพราะถูกค้างคาวโลหิตครามไล่ล่า เขาแผ่พลังวิญญาณของเขาออกมาเพื่อค้นหานักรบที่แข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังไม่สามารถสัมพัสถึงอะไรได้รวมถึงบ่อรวมวิญญานก็เช่นกัน
บ่อรวมวิญญานนั้นเป็นถือว่าความลับอย่างแท้จริง
พ่อกับลูกชายทั้งสองคน กู่ลี กู่เจียงเกอ ก็ออกจากหอคอยเงียบๆ พวกเขาหลีกเลี่ยงยามจากตระกูลกู่ และไปที่บ่อรวมวิญญาน
ทั้งสองมาถึงสถานที่ลับและบ่อรวมวิญญาน กู่ลีใช้วิธีลับบางอย่างในการเปิดม่านพลังและมาถึงบนพื้นผิวของบ่อรวมวิญญาน เขาส่งพลังวิญญานเข้าไปในในลูกบอลแสงสีดำที่อยู่ตรงกลางบ่อ
ลูกบอลแสงสีดำเกิดจากวิญญานนับไม่ถ้วน วิญญาณของคนเหล่านี้ ได้ผสมหลอมรวมกัน ทำให้ผีเกิดเป็นใบหน้าวิญญานที่ดุร้ายอยู่ที่ผิวของลูกบอลแสงสีดำ
พลังวิญญานของกู่ลี่พุ่งออกไปและเข้าไปในลูกบอลแสงสีดำ ไม่นาน ลูกบอลแสงสีดำก็จมลงไปในบ่อ
สิบนาทีต่อมา น้ำในบ่อรวมวิญญานก็เริ่มเดือดและเกิดเป็นคลื่นวนไปมา น้ำสีดำผุดขึ้นมาและปรากฏเป็นรูปร่างของอสูรสีดำเหมือนกับน้ำหมึก มันมีเขาแหลมหกเขาอยู่บนหัวของมันและมันก็สูงสามเมตร
” อีกหนึ่งเดือน ผู้นำราชาชูร่าทั้งสามของตระกูลหยางแห่งทะเลที่ไม่มีที่สิ้นสุด โม่ต้วนหุน จะมาถึงที่นี่ ในตอนนั้น , ข้าสามารถเปิดบ่อรวมวิญญานได้สักพัก พวกท่านสามารถใช้โอกาสนั้น กักขังโม่ต้วนหุนและข้ารับใช้อสูรไม่ให้ออกไปได้หรือไม่ ? ” กู่ลีไม่ต้องเสียเวลาใดๆ เขาพูดเข้าประเด็นทันที
” โม่ต้วนหุน ? “อสูรนั่นก็แยกเขี้ยวและกรงเล็บของมัน ร่างกายของมันในบ่อรวมวิญญานโอนเอนไปมาและ มันก็หัวเราะออกมาอย่างอุบาทว์ ” ดีจริงๆทีเป็นมันที่มา ! ดีจริง ๆ ! “