เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 177 เกาะเพลิงเมฆา

บทที่ 177 เกาะเพลิงเมฆา

 

ฉื่อหยานถามเรื่องราวต่างๆกับโม่ต้วนหุน จากคำพูดของเขา ฉื่อหยานจึงได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์มากมายในทะเลเคียล่า

ราชสีห์วายุอัศนีที่เหอซิงเหมินขี่อยู่ อยู่ด้านหน้าพวกเขา ในระหว่างเดินทาง มันบินไม่ช้าและไม่เร็วเกินไปเพื่อ รักษาระยะห่างจากค้างคาวโลหิตคราม

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากผ่านมาครึ่งเดือน ค้างคาวโลหิตคราม ก็ได้เข้าสู่ทะเลเคียร่า

6 วันต่อมา พวกเขาก็มาถึงเกาะเพลิงเมฆา

เมื่อค้างคาวโลหิตครามอยู่บนท้องฟ้าเหนือเกาะเพลิงเมฆา อากาศก็กลายเป็นร้อนระอุ พื้นที่ของเกาะนี้คล้ายคลึงกับเกาะเหมินลั่ว . ซึ่งมีภูเขาไฟมากมายบนเกาะ และมีอุณหภูมิสูงมาก

แต่เกาะนี้อุดมไปด้วยทรัพยากร มีแร่ธาตุพิเศษมากมายและส่วนผสมสมุนไพรที่ล้ำค่า ที่เติบโตได้ในความร้อนสูง พลังวิญญาณธรรมชาติบนเกาะก็หนาแน่นกว่าเกาะเมฆามากนัก

ดังนั้น บนเกาะเพลิงเมฆา จึงมีนักรบแย่งอยู่หลายกองกำลัง

อย่างไรก็ตาม กองกำลังนักรบที่เทียบได้กับตระกูลหยาง ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ และตระกูลเซี่ยนั้นมีน้อยมาก . นักรบที่แข็งแกร่งส่วนมากจะเป็นคนของตระกูลเหอ

พวกเขาเป็นผู้ปกครองเกาะเพลิงเมฆา , และยัง บุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดบนเกาะเพลิงเมฆา ซึ่งนักรบมากมายที่อยู่บนเกาะต่างก็เห็นด้วย

นอกจาก ตระกูลเหอจะมีความสามารถที่โดดเด่นแล้ว อีกเหตุผล ก็คือตระกูลเหอนั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ หมู่เกาะในพื้นที่นี้อยู่ภายใต้อิทธิพลของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ ตระกูลเหอนับเป็นสาขาหนึ่งในดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ และมีอัจริยะที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นเหอซิงเหมินอยู่ในดินแดนปีศาจมหัศจรรย์อีก มันไม่มีทางเลยที่ตระกูลเหอจะไม่รุ่งเรอืง

ภายใต้ดวงอาทิตย์สว่าง เกาะเพลิงเมฆานั้นเหมือนกับหม้อต้มยักษ์ ที่เต็มไปด้วยคลื่นความร้อนที่ไม่รู้จบ และขยะบนเกาะก็จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟ

เมื่อพวกเขามาถึงด้านบนเกาะเพลิงเมฆา ฉื่อหยาน ในที่สุดก็รู้แล้วว่าทำไม เหอซิงเหมิน ถึงแต่งตัวน้อยชิ้นเช่นนั้น เพราะอุณหภูมิที่นี่สูงมาก ถ้านางใส่ชุดที่มิดชิด เหงื่อต้องท่วมตัวนางแน่นอน

เหอซิงเหมิน ยืนอยู่บนหลังของราชสีห์วายุอัศนีในขณะที่ความเร็วค่อยๆชะลอตัวลง ดูเหมือนกับว่านางกำลังรออะไรบางอย่าง

ไม่นานนัก ค้างคาวโลหิตคราม ที่แบกฉื่อหยานอยู่ก็ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ราชสีห์วายุอัศนี

ด้านบนราชสีห์วายุอัศนี เหอซิงเหมิน ดวงตาของนางดูไม่แยแส ดูเหมือนนางยังคงโกรธฉื่อหยานอยู่ อย่างไรก็ตาม เมื่อนางหันไปทางโม่ต้วนหุน นางกลับแสดงอย่างเคารพ นางตะโกนออกไป : “ท่านโม่ ในเมื่อท่านมายังเกาะเพลิงเมฆาแล้ว , ก็เชิญไปพักผ่อนที่ตระกูลเราเถิด ถ้ามีอะไรที่ท่านต้องการ ท่านก็เชิญบอกมาได้เลย . “

ค้างคาวโลหิตครามเป็นสัญลักษณ์ของนักรบชูร่าตระกูลหยาง เมื่อค้างคาวโลหิตครามมาถึงเกาะเพลิงเมฆา กองกำลังนักรบบนเกาะต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก ถ้าค้างคาวโลหิตครามไปที่ตระกูลเหอแล้วราชาชูร่าโมต้วนหุน จะพักอยู่ที่ตระกูลของนาง พวกเขาก็จะเป็นเกียรติอย่างยิ่ง

ถ้ากองกำลังนักรบบนเกาะจะรู้ว่าโม่ต้วนหุน ได้อาศัยอยู่ในตระกูลเหอ ทุกคนต้องเคารพ และยำเกรงตระกูลเหอมากขึ้นแน่นอน

สถานะของตระกูลหยางในเคียร่าทะเลยิ่งใหญ่กว่าตระกูลเหอบนเกาะเพลิงเมฆานัก ในฐานะผู้นำของราชาชูร่าทั้งสาม ถ้าโม่ต้วนหุน ไปที่ตระกูลเหอ นั่นจะช่วยยกระดับสถานะของตระกูลเหอได้ มันจะทำให้กองกำลังนักรบบนเกาะนับถือตระกูลเหอมากขึ้น

เหอซิงเหมิน รู้เรื่องนี้ดี , นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางออกปากเชิญ นางไม่ยอมทิ้งโอกาสนี้เพื่อที่จะเพิ่มอำนาจของตระกูลเหอไปได้เพราะเพียงแค่เพาะนางเกลียดฉื่อหยาน

การแสดงออกของโม่ต้วนหุน ดูแข็งกระด้่างในขณะที่เขานั่งอยู่บนค้างคาวโลหิตคราม เขาไม่ตอบใดๆและหันไปมองฉื่อหยานแทน

หัวหน้าตระกูลเหอ เหอลั่ว อยู่เพียงแค่ระดับรู้แจ้ง แม้ว่าเขาจะปกครองเกาะเพลิงเมฆา แต่ในสายตาของโม่ต้วนหุนเขาเป็นเพียงบุคคลที่ไร้ซึ่งความสำคัญ ตระกูลต่างๆที่ถูกโม่ต้วนหุนจัดการในทะเลไม่มีสิ้นสุด หลายตระกูลก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลเหอมากนัก แต่พวกเขาทั้งหมดก็ยังถูกโม่ต้วนหุนจัดการได้อย่างง่ายดาย

เขามาที่นี่ก็เพาะฉื่อหยาน ด้วยพรสวรรค์และความลับของฉื่อหยาน เขาตระหนักได้ทันทีว่า ฉื่อหยานจะต้องกลายเป็นคนสำคัญในตระกูลหยางแน่นอนในอนาคต นั่นทำให้เขาสนใจฉื่อหยาน

เหอซิงเหมิน เห็นโม่ต้วนหุน มองไปที่ฉื่อหยาน ดวงตาของนางก็กลายเป็นเย็ฯชา นางสูดลมหายใจเข้าและคิดว่าแผนของนางคงจะสูญเปล่าแล้ว

” แน่นอน พวกเราในพื้นที่ของผู้อื่น ; เราต้องไปพบกับผู้ปกครองก่อน ไม่งั้นมันจะเป็นการเสียมารยาท “

 

เหอซิงเหมินก็แปลกใจ ฉื่อหยานยิ้มและพยักหน้า ” เราไม่ต้องรีบไปหรอก ขอพักสักครู่ แล้วเราจะถามเกี่ยวกับภูเขาไฟบนเกาะเพลิงเมฆาด้วย เพื่อที่ว่าแผนการของข้าจะไม่ถูกทำลาย ” .

” อย่าได้กังวล ” โม่ต้วนหุน ก็พยักหน้าแล้วพูดกับเหอซิงเหมิน ” นำทาง “

เหอซิงเหมิน งุนงงสักครู่ จากนั้นก็หันมาและราชสีห์วายุอัศนีไปยังจุดกลางของเกาะเพลิงเมฆา

ด้านบนค้างคาวโลหิตคราม ฉื่อหยานก้มลงมองและก็พบว่าเกาะเพลิงเมฆา นั้นก็คล้ายๆกับเกาะเหมินลั่ว ; มีภูเขาไฟมากมายบนเกาะ และยังมีพืชพรรณมากมายที่เติบโตในความร้อน

ค้างคาวโลหิตครามบินผ่านคลื่นความร้อนไป ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาก็ปมาถึงกลางของเกาะเพลิงเมฆา จากนั้นพวกเขาก็ค่อยๆลงมา .

นี่เป็นคฤหาสน์ มีบ้านเรือนอยู่นับร้อย ภายในคฤหาสน์ มีลำธารไหลและสะพานเล็ก ๆอยู่ มีพุ่มไม้และต้นไม้กระจัดกระจายไปทั่ว และศาลาที่นี่ทั้งหมดทำจากไม้ พวกมันมีขนาดไม่ใหญ่เกินไปหรือสูงมากเกินไป พวกมันดูงดงามและร่มรื่น ค้างคาวโลหิตครามยังไม่ลงพื้นทันที สายของนักรบที่เดินออกมาก็กลายเป็นตกตะลึง . พวกเขาแต่ละคนยืนอยู่ในสนามฝึกยักษ์และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

เมื่อค้างคาวโลหิตครามบินเขามา เหอลั่ว ที่นำหน้าอยู่ก็แปลกใจ เขายืนอยู่ตรงนั้นโดยพูดไม่ออก

” ท่านพ่อ นี่คือท่านโม ท่านมาคราวนี้เพราะมีธุระบนเกาะเพลิงเมฆา และมาเพื่อเยี่ยมชมตระกูลเหอของเรา . ” เหอซิงเหมิน นางค่อยๆลงมาจากราชสีห์วายุอัศนีและเดินตรงไปที่ เหอลั่ว . นางพูดว่า ” ท่านโม่และข้าเพิ่งกลับมาจากเกาะเมฆา เราเหนื่อยจากการเดินทางครั้งนี้มาก ท่านพ่อ บอกคนให้จัดเตรียามที่พักเร็วเข้า “

เหอลั่ว เขามีร่างกายผอม มีเครายาวอยู่ที่คาง เขาดูดีและมีท่าทางที่สง่างาม เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ .

ข้างๆเขา นอกจากนักรบที่แข็งแกร่งจากตระกูลเหอแล้ว ยังมีผู้นำกองกำลังนักรบบนเกาะเพลิงเมฆาอยู่ด้วย เดิมทีพวกเขามาชุมนุมกันในวันนี้เพื่อหารือเกี่ยวกับธุรกิจกัน แต่จู่ๆ ก็เห็นค้างคาวโลหิตครามบินผ่านท้องฟ้าด้านบน จึงทำให้ผู้คนแตกตื่น พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมนักรบชูร่าปรากฏตัวที่เกาะเพลิงเมฆาทำไม ดังนั้นพวกเขาจึงรีบออกมาดู

เมื่อเขาได้ยินว่าโม่ต้วนหุน มาที่นี่ ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุขมันมี ด้วยใบหน้าที่มีความสุข เขาก็ก้าวเข้ามา แล้วก้มลงทักทาย : ” ยินดีที่ได้พบท่านโม่ ตระกูลเหอยืนดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านโม่มา ” .

ชื่อของราชาชูร่าแห่งตระกูลหยางนั้นมีชื่อเสียงอย่างมากในทะเลไม่มีที่สิ้นสุด นี้เป็นครั้งแรกของ เหอลั่ว ที่ได้พบกับโม่ต้วนหุนในทะเลเคียร่าเช่นนี้ . เขาประหลาดใจ และตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน เขาทักทายด้วยท่าอ่อนน้อม

โม่ต้วนหุน ขมวดคิ้ว เขาไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย

เหอลั่วนั่นไม่ได้คิดแม้แต่น้อยว่าโม่ต้วนหุนหยิ่งพยอง . ในสถานะของโม่ต้วนหุน เพียงแค่พยักหน้าให้ก็ถือว่าเป็นเกียรตแล้ว

แน่นอนว่า ใบหน้าของผู้นำตระกูลอื่นที่อยู่บนเกาะเพลิงเมฆา ที่ยืนอยู่ข้างๆ เหอลั่ว ต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉา

” ท่านโม่ เชิญท่านเข้ามาเถิด เชิญ ” เหอลั่ว พยักหน้าและก้มลง และเขาก็ตะโกน : ” เตรียมจัดงานเลี้ยง นำไวน์และอาหารที่ดีที่สุดมา มันเป็นเกียรติอย่างยิ่งของเกาะเพลิงเมฆา ที่ท่านโม่มาเยี่ยมชม อย่าได้ชักช้า ! ” .

” ท่านโม่ ข้าขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เชิญท่านตามสบาย .ข้าขอตัว ” เหอซิงเหมิน โค้งลงให้โม่ต้วนหุนเล็กน้อย และจากนั้นนางก็ออกไปกับราชสีห์วายุอัศนี ในชั่วพริบตา นางก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

” ท่านโม่ เชิญทางนี้ขอรับ ” เหอลั่ว เองก็เดินไปด้านหน้า แล้วพยายามที่จะนำทางให้โม่ต้วนหุน ; เขาทำตัวเป็นมิตรอย่างมาก

โม่ต้วนหุน ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วหันไปมองไปฉื่อหยาน

ฉื่อหยานยิ้มๆแล้วค่อยๆพยักหน้า

โม่ต้วนหุน ในที่สุดก็เดินไป

เหอลั่ว และผู้นำมากมายบนเกาะเพลิงเมฆาต่างก็สับสน ดวงตาทั้งหมดของเขาก็ส่องประกาย และช่วยไม่ได้ที่จะมองไปยังฉื่อหยาน ; ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

คนเหล่านี้จะเห็นการกระทำของโม่ต้วนหุนเล็กๆ

แต่ในฐานะผู้นำของราชาชูร่าทั้งสามโม่ต้วนหุนกลับหันไปขออนุญาตชายหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มคนนี้เขาเป็นใครกันแน่ ?

เหอลั่ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากังวลเล็กน้อย เขากลัวว่าเขาลืมต้อนรับแขกคนสำคัญ เขาพยายามรีบแก้ไขความเข้าใจผิดทันที : ” ท่านโม่ นายน้อยท่านนี้คือ ? เอ่อ . . . เกาะเพลิงเมฆาของเราเป็นสถานที่เล็กๆ เราไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับแขกผู้มาเยือนเท่าไหน่นัก . และความรู้ของข้าก็ไม่กว้างมากอีกด้วย ข้าขออภัยอย่างแท้จริง ที่ลืมท่านผู้เป็นแขกผู้มีเกียรติของเรา “

 

ฉื่อหยาน ตะลึง

เหอลั่วอยู่ในนภาที่สองของระดับรู้แจ้ง และสองสามคนที่อยู่ข้างๆแต่ละคนก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหรูหรา ส่วนใหญ่มีระดับการบ่มเพาะในระดับรู้แจ้ง แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็สัมพัสได้ถึงพลังของพวกเขาอย่างชัดเจน ดูก็รู้แล้วว่าพวกเขาต่างก็เป็นผู้นำ

คนเหล่านี้ เพื่อรักษาน้ำใจของโม่ต้วนหุน , จึงยกยอเอาใจเขา เพียงแค่เพราะโม่ต้วนหุน พยักหน้าให้เขา พวกนั้นจึงหันมาต้อนรับเขา

เพียงแค่มองจากการกระทำเล็กๆ มันก็ไม่ยากที่จะรู้ว่า ฉื่อหยานเป็นบุคคลที่โดดเด่นของหยางในทะเลเคียร่า

” ฉื่อหยาน ” โม่ต้วนหุน ตอบอย่างไม่แยแสและไม่อธิบาย

เหอลั่ว และส่วนที่เหลือทั้งหมด ก็กลายเป็นสับสน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

เหอลั่ว และคนอื่นๆที่เหลือ ถึงแม้จะไม่เคยพบบุคคลที่โดดเด่นของตระกูลหยาง แต่พวกเขาก็รู้จักชื่อ พวกเขารู้ว่าใครบางทีเป็นบุคคลสำคัญที่แข็งแกร่งของตระกูลหยาง

แต่พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อ ฉื่อหยาน เลย. . . นามสกุลของฉื่อหยาน ก็ยังเป็นฉื่อ . . . . . . . หรือว่าเขาจะไม่ได้เป็นของตระกูลหยาง ?

ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนของตระกูลหยาง แล้วจะโม่ต้วนหุน จะขออนุญาตจากเขาทำไม ? เด็กหนุ่มที่ไม่ใช่คนของตระกูลหยาง ด้วยเหตุผลอะไรกัน โม่ต้วนหุน ถึงได้เคารพเขาเช่นนี้

เหอลั่ว และคนอื่นๆที่เหลือก็สับสนอย่างลับๆ . พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความสับสน แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะละเลยเขา

หลังจากหัวเราะเบา ๆสักครู่ เหอลั่ว ก็ไม่กล้าถามอีก เขารีบกล่าวว่า ” เชิญเถิด ! เชิญ ! “

” นายท่าน ค้างคาวโลหิตคราม ตอนนี้สมควรถึงเวลาให้อาการแล้ว ” เป็นนักรบชูร่าที่พูดออกมาอย่างเรียบๆ

โม่ต้วนหุน พยักหน้าแล้วเขาสั่งเหอลั่ว ” เตรียมเนื้อสัตว์ให้พวกมัน”

เหอลั่ว พยักหน้าซ้ำๆ แล้ว อมยิ้ม กล่าวว่า ” ไม่ต้องกังวลไป เราจะทำให้ท่านพึ่งพอใจที่สุด”

แล้วเหอลั่ว ก็ตะโกน : ” นำเนื้อที่ดีที่สุดบนเกาะมา ให้ค้างคาวโลหิตครามสะ .”

จากด้านหลังของตระกูลเหอนั่นเอง เสียงสัตว์อสูรวก็ร้องออกมา ไม่นาน พวกมันทั้งหมด ก็ถูกนำออกมายังสนามฝึกโดยตระกูลเหอ

พวกมันเหล่านี้ เสือ สิงโต เสือดาว หมาป่า พวกมันมีขนาดใหญ่และดุร้ายเป็นอย่างมาก แต่เมื่อยู่ต่อหน้าค้างคาวโลหิตคราม พวกมันกลับสั่นและดูตื่นตระหนก

” พาพวกมันไปดินที่อื่น . อย่าทำให้สถานที่ของพวกเขาเปื้อนเลือด ” ฉื่อหยานยิ้มแล้วพูดกับนักรบชูร่า

คนเหล่านี้ทันที ก็พยักหน้า และแต่ละก็พาค้่างคาวของตัวเองไป

ค้างคาวโลหิตครามบินขึ้นไปและคาบ สัตว์ป่าเหล่านี้ บินออกไปไกล ภายใต้ค้างคาวโลหิตคราม สัตว์เหล่านั้นไร้ซึ่่งทางต่อต้าน พวกมันทั้งหมดถูกยกขึ้นบนท้องฟ้า และในไม่ช้าก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ผ่านไปสักพัก . . . สัตว์เหล่านั้นก็ตกตาย

” ท่านโม่ น้องฉื่อหยาน เชิญเข้ามาก่อน ” เหอลั่ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวว่าขณะที่โค้งคำนับ

สีหน้าของฉื่อหยานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาแอบตามเหอลั่วกับโม่ต้วนหุนไป ในขณะที่กำลังเดินไปทางไปยังด้านหลังคฤหาสน์ของตระกูลเหอ

––––––––––––––––––––––––

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 11 แล้ว มีถึงตอนที่ 458 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

 

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset