บทที่ 187 ปรับแต่ง
ฉื่อหยาน ไม่รู้อะไรมากมายเกี่บวกับการ ” การปรับแต่ง ” เลย
จากภายในแหวนสายโลหิต เปลวเหมันเยือกแข็งได้บอกฉื่อหยานถึงเรื่องของ การปรับแต่ง.
ตามคำพูดของเปลวเหมันเยือกแข็ง , ฉื่อหยาน ต้องดึงพลังไฟของเปลวไฟปฐพีจากแกนเพลิงและถ่านทอดมันไปตามเส้นเลือดของเขา
เส้นเลือดบางส่วนของเขา ดูเหมือนว่าจะเผาหลังจากปล่อยให้พลังไฟเข้ามาในร่างกาย และเขาก็รู้สึกได้เจ็บปวดจนแทบจะทนไม่ได้
ถ้าร่างกายของฉื่อหยานไม่ได้ดูดซับพลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งมาตอนอยู่บนเกาะเหมินลั่ว เขาอาจจะถูกเผาไหม้โดยแกนเพลิงไฟแล้ว
พลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งกระจายอยู่ทั่วร่างของเขา ทั้งแขนและขา ดังนั้นเมื่อพลังไฟปฐพีลอยเข้าในร่างกาย อุณหภูมิของเขาจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมกล้ามเนื่อและเส้นเลือดของฉื่อหยานถึงไม่ละลาย เพียงแต่เขานั้นจะต้องทนกับความเจ็บปวดมหาศาล ซึ่งนั่นเปลวเหมันเยือกแข็งได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว
ที่มันกล้าให้ฉื่อหยาน ใช้เปลวไฟปฐพีในการปรับแต่งร่างกายก็เพราะมันรู้ว่าร่างกายของฉื่อหยานนั้นไม่ธรรมดา ด้วยพลังความเย็น ร่างกายของเขาจึงได้รับความร้อนน้อยลงเมื่อพลังไฟเข้ามาในร่าง
เปลวเหมันเยือกแข็งรู้ว่าพลังความเย็นนั้นเพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อและเส้นเลือดของฉื่อหยานละลายได้ แต่มันไม่สามารถป้องกันไม่ให้เขาเจ็บปวดได้
เขาต้องก้าวผ่านความเจ็บปวดจากการเผาผลาญ และพลังความเย็นนี่จะทำให้เขาเจ็บปวดน้อยลง
ภายในน้ำแข็ง เปลวไฟเล็กๆทะลักออกมาจากร่างกายของฉื่อหยาน และร่างกายของเขาก็กลายเป็นสีแดงเหมือนกับเหล็กที่ถูกเผาอยู่ในกองเพลิง
ในสภาพของเหลวทีละเหยออกมาจากร่างกายของฉื่อหยาน เขาก็เปิดใช้บ้าคลั่ง
ขณะที่ไฟกำลังเผาไหม้อยู่ในร่างกายของเขา ฉื่อหยานก็ตะโกนออกมา ขณะที่ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงและใบหน้าของเขาก็กลายเป็นดุร้าย
เปลวเหมันเยือกแข็งเงียบและรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของฉื่อหยาน เหมือนกับว่าร่างกายของเขาได้สร้างพลังงานธรรมชาติบางอย่างขึ้นมาป้องกัน
ร่างของฉื่อหยานก็กลายเป็นเป็นสีน้ำตาลเข้ม ทันทีที่เปลวไฟลุกทวมไปทั่วร่างกายของเขา เขาก็กระตุ้นใช้จิตวิญญานกายาแข็งขึ้นมา
แต่เป็นเปลวไฟนั้นร้อนเป็นอย่างมาก ผิวสีน้ำตาลเข้มของเขาจึงเปลี่ยนเป็นสีแดง
เปลวเหมันเยือกแข็งก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของฉื่อหยาน เป็นไฟนั้นเผาผลาญและร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนฉื่อหยานต้องเรียกใช้จิตวิญญานกายาแข็งขึ้นเพื่อลดทอนความเจ็บปวด
ขณะเดียวกันจิตวิญญาณอมตะในร่างของฉื่อหยาน ก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาเช่นกัน
เปลวเหมันเยือกแข็งเฝ้าดูอย่างสงบ
มันนั้นไม่ได้คิดจะสอน ” หลอมทรหด ” ให้แก่ฉื่อหยานเลย เพราะมันคิดว่า ฉื่อหยานจะยอมแพ้ทันทีและไม่สามารถทนได้
มันนั้นไม่นึกเลยว่าฉื่อหยานจะทนความเจ็บปวดได้มากกว่าขึ้นอื่น เพราะตอนนี้เขาสามารถคงสติไว้ได้แม้จะตกอยู่ภายใต้ความเจ็บปวดจากเปลวไฟปฐพี
จิตวิญญานต่อสู้ทั้งสองถูกรกะตุ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเปลวเหมันเยือกแข็งจึงได้รู้ว่า ที่ฉื่อหยานสามารถทนได้นั้นเป็นส่วนมาจากจิตวิญญานต่อสู้ทั้งสอง ที่เพิ่มความสามารถให้แก่เขา
ขณะที่ร่างกายของเขากำลังปรับแต่งอยู่ จิตวิญญานต่อสู้ทั้งสองของเขากูดูเหมือนจะพัฒนาขึ้น ทำให้ความสามารถของฉื่อหยานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
พวกเขานั้นได้ทำข้อตกลงกันแล้ว เปลวเหมันเยือกแข็งรู้ดีกว่าฉื่อหยานต้องรักษาสัญญาแน่นอน มันจึงปฏิบัตต่อฉื่อหยานอย่างเป็นมิตร
ตอนนี้ มันถูกผนึกไว้ในแหวนสายโลหิตของฉื่อหยาน ดังนั้นมันจึงไม่สามารถใช้พลังของมันช่วยฉื่อหยานได้มากนัก มันเพียงหวังว่า ฉื่อหยานจะไม่เป็นอะไร
หากเกิดอะไรขึ้นกับฉื่อหยาน มันก็จะไม่สามารถออกมาจากแหวนสายโลหิตได้อีกต่อไป ต่อให้แหวนสายโลหิตอยู่ในมือคนอื่น ก็ไม่แน่ว่าคนๆจะสนใจมันหรือไม่
ดังนั้น การทำให้ฉื่อหยานแข็งแกร่งขึ้นเท่าที่มันสามารถทำได้จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดของมัน
และก็เป็นเช่นนั้น
ฉื่อหยานรู้สึกเหมือนกับว่าเวลาได้ผ่านไปหนึ่งร้อยปี
เปลวไฟปฐพีที่อยู่ภายนอกได้หายไป และเปลวไฟภายในร่างกายของฉื่อหยานก็ค่อยๆเบาลง
หลังจากทนทรมานมาเป็นเวลานาน ช่วงเวลาเงียบสงบสั้นๆนี้จึงมีค่ามากสำหรับฉื่อหยาน
” เกิดอะไรขึ้นกัน ? ” เขส่งจิตสำนึกของเขาเข้าไปในแหวนสายโลหิตและถามเปลวเหมันเยือกแข็ง
” พักผ่อนสะ เจ้าควรจะสื่อสารกับแกนเพลิงและเชื่อมต่อจิตสำนึกของมันเข้ากับเจ้า ก่อนที่เปลวไฟปฐพีจะประทุขึ้นในร่างของเจ้าอีกครั้ง เจ้าต้องทิ้งร่อยรอยไปที่มันเพื่อให้มันจดจำเจ้า”
” ได้ “
ไม่นาน หลังจากฉื่อหยานพูดคุยกับเปลวเหมันเยือกแข็งแล้ว เขาก็มุ่งเข้าหาหยกผลึกไฟ
เมื่อเข้าส่งพลังวิญญานของเขาไปที่หยกผลึกไฟ แกนเหลิงที่อยู่ภายในหยกผลึกไฟก็ดูเหมือนจะร่าเริง
แกนเพลิงเปลี่ยนแปลงไปมาในหยกผลึกไฟ และตอนนี้มันก็กลายเป็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มปรากฎขึ้น มันดูมีความสุขเป็นอย่างมาก
เมื่อสัมพัสได้ถึงพลัววิญญานของฉื่อหยานมันก็ดีใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้แกนเพลิงผูกพันกับฉื่อหยานเป็นอย่างมาก มันพัวพันกับพลังวิญญานของฉื่อหยาน และเล่นอย่างมีความสุขกับมัน
ฉื่อหยานไม่มีทางเลือกจึงปล่อยพลังวิญญายไว้เช่นนั้น
จนกว่าพลังวิญญานของฉื่อหยานจะเหนื่อยล้าและแกนเพลิงจะหมดแรง ฉื่อหยานจึงจะถอนพลังวิญญานกลับไปได้
” ช่วงเวลานี้น่าเบื่อนัก”
” เจ้าสังเกตหรือไม่ว่า มันสนิทกับเจ้ามากขึ้น และมันคิดว่าเจ้าเป็นครอบครัวของมัน เจ้าเห็นหรือไม่ ” จากภายในแหวนสายโลหิตเปลวเหมันเยือกแข็งก็พูดขึ้น .
” อืม ข้าเห็นแล้ว . “
” ดี ” เปลวเหมันเยือกแข็ง ดูเหมือนจะรู้สิ่งนี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ” ร่างกายของเจ้าได้รับการปรับแต่งจากเปลวไฟปฐพีมาสักพักแล้ว ดังนั้น ร่างกายและพลังวิญญาณของเจ้ามีสัมพัสคล้ายกับแกนเพลิง มันชื่นชอบสัมพัสนี้เป็นอย่างมากและมันก็ปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนกับเป็นคนในครอบครัว .
ฉื่อหยาน ตะลึง
” ที่ข้าขอให้ปรับแต่งก็เพื่อให้แกนเพลิงไว้วางใจ เมื่อมันอยู่ในร่างกายของเจ้ามันก็จะรู้สึกคุ้นเคยกับเจ้า มันจะปฏิบัตต่อเจ้าเช่นเพื่อนสนิท ” เปลวเหมันเยือกแข็งพูดช้าๆ” ดังนั้น เจ้าต้องทุ่มเทในการปรับแต่งร่างให้มาก นอกจากมันจะเสริมสร้างร่างกายของเจ้าและเสริมสร้างจิตวิญญาณต่อสู้ของเจ้าแล้ว มันยังทำให้แกนเพลิงคุ้นเคยกับเจ้ามากขึ้นอีกด้วย . “
” ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว “
” ดี เช่นนั้น ข้าจะปล่อยให้เปลวไฟปฐพีไหลเข้ามามากขึ้น . “
ฉื่อหยานพยักหน้าอย่างหนักแน่น ” เอาเลย ! “
เวลาต่อมา พลังไฟก็พุ่งมาจากทุกทิศทาง
คราวนี้ พลังไฟดุร้ายและรุนแรงเป็นอย่างมาก มีปกคลุมไปทั่วร่างของฉื่อหยานทันที
พลังไฟที่รุนแรงนี้ กลายเป็นเหมือนเกาะอีกชั้นหนึ่งอยู่บนผิวหนังของเขา มันแยกเข้าออกจากน้ำแข็ง
” มันเริ่มแล้ว ! ” เปลวเหมันเยือกแข็งก็พูดขึ้น
ฉื่อหยานปิดตาของเขาและส่งพลังไฟปฐพีเข้าไปในเส้นเลือดของเขา
ไม่มีทั้งดวงอาทิตย์และดวงดาวอยู่ในบ่อลาวานี่ ดังนั้นจึงไม่สามารถทราบวันและเวลาได้
ที่ด้านล่างในบ่อลาวา ฉื่อหยาน ก็กำลังทำการ ” ปรับแต่ง ” ร่างกายอย่างหนัก และทุกครั้งที่เขาพักผ่อน เขาก็จะปล่อยพลังวิญญานออกไปเพื่อสื่อสารกับแกนเพลิง
หนึ่งวันหนึ่งคืน
ด้วยการ” ปรับแต่ง ” อย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างกายและพลังวิญญญานของเขาอ่อนแอลง เปลวไฟปฐพีนั้นเผาผลาญพลังวิญญานเป็นอย่างมาก
ฉื่อหยานใช้พลังทั้งหมดของเขาเพื่อฝึกฝนร่างกายและจิตวิญญาณของเขาอย่างทรหด
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา
เขาดำเนินการ ” ปรับแต่ง ” ซ้ำไปซ้ำมา
ตอนนี้ เมื่อพลังไฟปฐพีเข้ามาภายในเส้นเลือดของเขา เขาก็สัมพัสได้ถึงบางสิ่งที่พิเศษ
เขาใช้พลังวิญญานตรอจสอบกล้ามเนื้อและเส้นเลือดของเขา
จู่ๆ เลือดและกล้ามเนื้อ ของเขาก็ขยายตัวขึ้นเป็นอย่างมาก เขาสามารถมองเห็นเซลล์ทุกเซล์และเนื้อเยื่อทั้งหมดในของเขาได้
เขารู้สึกได้ถึงสิ่งที่เล็กที่สุดในร่างกายของเขาได้
กล้ามเนื้อส่วนหนึ่งของเขาขยายตัวขึ้นเป็นอย่างมาก ฉื่อหยานมองเห็นเซลล์และเนื้เยื่อ และก็เห็นน้ำสีขุ่นที่หยดอยู่ !
มีน้ำสีขุ่นกำลังหยดอยู่ !
พวกมันมีขนาดเล็กกว่าเซล์ และส่งกลิ่นอายพิเศษบางอย่างออกมา ฉื่อหยานส่งพลังวิญญานไปที่ หยดน้ำสีขุ่นเพื่อสัมพัสไปที่มันและตรวจสอบอย่างรอบคอบ
มันเป็นพลังของจิตวิญญานลึกลับ !
ทุกครั้งที่เส้นชีพจรของเขาดูดซับพลังปราณลึกลับมาเป็นจำนวนมาก มันก็จะส่งพลังแปลกประหลาดนี่ออกมาจากเส้นชีพจรของเขา
หยดน้ำสีขุ่นเหล่านี้คือพลังแปลกประหลาดที่อยู่ในเส้นชีพจรของเขา !
พวกมันออกมาจากเซลล์และเนื้อเยื่อของเขา ในรูปแบบของหยดน้ำสีขุ่น !
” นั่นคืออะไร ? ” จากในแหวนสายโลหิตเปลวเหมันมันก็พูดขึ้น“ หยดน้ำสีขุ่นเหล่านี้มีพลังที่วิเศษเป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่าพลังนี้จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเจ้า เจ้าพยายามหลอมรวมมันเข้าไปในเซลล์ของเจ้าก็สะ ! “
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 12 แล้ว มีถึงตอนที่ 485 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ