บทที่ 190 การบุกรุกของเหล่าอสูร
” เมื่อ 6 เดือนก่อน อสูรได้บุกเข้ามาที่ทะเลเคียร่าผ่าน ประตูสวรรค์ที่เชื่อมไปยังดินแดนสี่อสูร ตอนนี้พวกอสูรยังคงรุกรานเราอยู่ พวกมันโหดร้ายเป็นอย่างมาก หลังจากท่านโม่ได้รับข้อความ เขาก็กลับไปที่เกาะอมตะเพื่อเป็นกองกำลังหนุนทันที”
นักรบชูร่าคนนี้ชื่อ ตั่วลั่ว เขาได้อธิบายสถานการณ์ปัจจุบันให้ฉื่อหยานฟังหลังจากขึ้นขี่ค้างคาวโลหิตคราม
จากเรื่องที่เขาเล่ามา ฉื่อหยานได้รู้ว่าเขานั้นอยู่ในภูเขาไฟเป็นเวลาเจ็ดเดือน
ในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่าน มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันครั้งใหญ่เกิดขึ้น ที่ทะเลเคียร่า
หลังจากตระกูลเซี่ย ได้รู้ว่าเซี่ยซินหยานได้รับบาดเจ็บทางวิญญาน พวกเขาก็ส่งคนมาที่เกาะเมฆาและพาเซี่ยซินหยานกลับไปที่ตระกูลเซี่ย .
ไม่มีใครในตระกูลเลยที่เชื่อว่า ฉื่อหยานจะสามารถรักษาเซี่ยซินหยานได้ หลังจากที่พวกเขารู้เรื่องจากเหอซิงเหมินว่า ที่เซี่ยซินหยานวิญญานบาดเจ็บเช่นนี้ก็เพราะไปช่วยฉื่อหยาน และ พวกเขาก็เริ่มที่จะต่อว่าฉื่อหยาน
แต่โม่ต้วนหุน นั้นคุ้มกันอยู่ที่ปากปล่องภูเขาไฟ และ ฉื่อหยานเองก็ยังไม่ได้ออกมาจากในภูเขาไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงเลื่อนเวลาเพื่อสอบปากคำฉื่อหยาน ขณะที่พาเซี่ยซินหยานกลับไปจากเกาะเมฆา
หกเดือนที่ผ่านมา พวกอสูรที่มาจากดินแดนสี่อสูรได้บุกรุกจุดสำคัญและเสี่ยงชีวิตเข้ามาในทะเลเคียร่า เหล่าอสูรกระจัดกระจายกันออกไปและบุกโจมตีเกาะมากมายอย่างอุกอาจ
มิติที่เชื่อมอยู่กับประตู่สวรรค์นั่นไม่มั่นคง ถ้าคุณต้องการที่จะให้มิติที่เชื่อมอยู่ผ่านทะเลเคียร่าเปิดออก จะต้องมีอสูรใช้พลังมหาศาลกระแทกใส่มันจึงจะเปิดออก
ในมิติเชื่อมต่อนั้นสภาพพื้นที่แปรปรวนอย่างมาก และพื้นที่แปรปวนที่อยู่ในมิติเชื่อมต่อก็เป็นสิ่งอันตรายอย่างมากสำหรับเหล่าอสูร
ปกติแล้ว พวกเหล่าอสูรจะไม่กล้าเสี่ยงเข้ามาที่ทะเลเคียร่าผ่านมิติเชื่อมต่อ แต่ถ้าพวกมันทำอย่างนั้น ก็แปลว่าต้องมีเรื่องสำคัญแน่นอน
ในการเดินทางผ่านมิติ เหล่าอสูรที่ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งอันตราย
มีโอกาศเป็นอย่างมากที่อสูรในระดับรู้แจ้งจะตกตายจากการเดินทางผ่านมิติเชือมต่อ และสำหรับอสูรที่อยู่ในระดับนภาพวกมันนั้นมีพลังที่แข็งแกร่งเกินไป ระหว่างเดินทางอาจจะทำให้จุดมิติถูกทำลายได้
ดังนั้น ระดับการบ่มเพาะของอสูรที่ข้ามมาจึงไม่สูงนัก.
อสูรเหล่านี้ได้ข้ามมาจากมิติเชื่อมต่อจากดินแดนสี่อสูรและบุกรุกเข้ามาอย่างอุกอาจผ่านประตูสวรรค์ .
ในเวลาเดียวกัน , นักรบที่มีฝีมือจากตระกูลหยางก็ได้รวมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้าของประตูสวรรค์และป้องกันการโจมตีจากอสูรเหล่านั้น .
ตอนนั้นอสูรที่มาเยือนดุร้ายเป็นอย่างมาก , นักรบที่มีฝีมือจากทุกตระกูลและตระกูลหยางก็มารวมตัวกันผนึกพลังของพวกเขาปกป้องประตูสวรรค์
ในเวลาเพียงแค่สองเดือน ที่ประตูสวรรค์ ยอดฝีมือจากตระกูลหยางหลายคนได้ตกตาย และเหล่าอสูรเองก็ตายไปนับพัน
ประตูสวรรค์ ที่ถูกปกป้องโดยตระกูลหยางกลายเป็นสนามรบรุนแรงที่สุดในแผ่นดิน ตระกูลเซี่ยและดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ ถูกสั่งให้กำจัดอสูรที่หลุดรอดออกมาจากพื้นที่
ในสอง-สามเดือนที่ผ่านมา ตระกูลใหญ่ในทะเลเคียร่าไม่ได้พักผ่อนเลยแม้แต่นิดและต่อสู้อยู่กับเหล่าอสูรที่พื้นที่แถวประตูสวรรค์ตลอดเวลา .
หลังจากได้รับข้อความจากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ เหอซิงเหมิน ก็ถูกสั่งให้เดินทางไปยังเกาะศิลาดำที่ใกล้ๆกับเกาะเพลิเมฆาเพื่อกำจัดเหล่าอสูรที่ปรากฏตัวขึ้นที่นั่น
ในเวลานี้เกาะเพลิงเมฆาถูกป้องกันอย่างแน่นหนาโดย เหอลั่ว และผู้นำของขุมกำลังบางส่วนบนเกาะ พวกเขาเฝ้าระวังเหล่าอสูร และพร้อมที่จะต่อสู้กับพวกมัน
ฉื่อหยานนั่งอยู่บนค้างคาวโลหิตคราม และเขาก็ดูแปลกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดเลยว่าภายในเจ็ดเดือน เวลามีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งใหญ่เกิดขึ้นในทะเลเคียร่า
” คุณชายหยาน เมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าได้รับข้อความจากท่านโม่ เขาบอกว่าช่วงนี้ท่านห้ามกลับไปที่เกาะอมตะ ท่านโม่บอกว่าถ้าท่านออกจากภูเขาไฟแล้ว เขาต้องการให้ท่านไปที่เกาะศิลาดำและช่วยผู้คนจากอสูรที่ปรากฏตัวขึ้น . ท่านโม่บอกว่าท่านยังไม่เคยพบกับเหล่าอสูร และไม่เคยสู้กับพวกมัน เขาต้องการให้ท่านคุ้นเคยกับการต่อสู้และวิชาของพวกมัน เพื่อที่ท่านจะได้รับมือกับพวกมันได้ เมื่อท่านพบกับพวกมันในภายหลัง ”
” ไม่ให้กลับไปที่เกาะอมตะ.. ทำไมรึ ? ”
” ประตูสวรรค์ในทะเลเคียร่าที่เชื่อมต่อกับดินแดนสี่อสูรนั้นอยู่ใกล้กับเกาะอมตะเป็นอย่างมาก ถ้าเราจะกลับไปยังเกาะ เราจะต้องผ่านพื้นที่แห่งนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ นักรบในระดับรู้แจ้งต่างก็รวมตัวกันอยู่ที่ประตูสวรรค์และเหล่าอสูรที่ปรากฏตัวที่นั่นเองก็มีระดับการบ่มเพาะที่สูงมาก มันจะอันตรายเกินไป ถ้าเราต้องผ่านที่แห่งนั้น “.
” เกาะศิลาดำ… เหอซิงเหมิน อยู่ที่เกาะศิลาดำงั้นรึ ”
” ขอรับ ครึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอได้รับข้อความจากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์และมุ่งหน้าไปยังเกาะศิลาดำด้วยราชสีห์วายุอัศนี เกาะศิลาดำอยู่ไม่ใกล้จากที่นี่มาก ด้วยค้างคาวโลหิตคราม เราจะสามารถไปถึงที่นั้นได้ในเวลาสามถึงสี่วัน ” ตั่วลั่ว พยักหน้าและบอกว่า ” คุณชายหยาน ท่านควรจะไปที่เกาะศิลาดำ เหล่าอสูรที่อยู่ที่นั่นแข็งแกร่งไม่มากนัก ในขณะที่ท่านกำลังช่วยดินแดนมหัศจรรย์กำจัดอสูรเหล่านั้นอยู่ ท่านก็สามารถสังเกตุถึงความแตกต่างระหว่างเราและอสูรเหล่านั้นได้ . ”
” อืม ไปเกาะศิลาดำกันเถอะ”
ถึงแม้ว่า ฉื่อหยาน อยากจะไปที่ตระกูลเซี่ยและช่วยรักษาเชียซินหยานก่อน แต่ตอนนี้ทะเลเคียร่ากำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย และนอกจากนี้ระยะทางจากที่นี่ไปยังตระกูลเซี่ยยังค่อนข้างไกล และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าครึ่งเดือนที่ผ่านมาจะเกิดอะไรขึ้น และเนื่องจากโม่ต้วนหุน นั้นได้เตรียมการไว้ให้พร้อมแล้ว เขารู้สึกว่าในเวลานี้ เขาควรจะทำตามแผนของโม่ต้วนหุน
พลังวิญญานในไข่มุกรวมวิญญานเองก็ต้องรออีกสักหนึ่งด้วยจึงจะสามารถดูดซับได้
สภาพปัจจุบันของเซี่ยซินหยานเองก็ไม่ได้อันตรายมากเกินไป ; ตราบใดที่ตระกูลของนางไม่ประมาท เซี่ยซินหยานก็จะไม่เป็นอะไร เขารู้สึกว่าเขาควรจะรอจนกว่าพลังวิญญานในไข่มุกรวมวิญญานจะดูดซับได้เสียก่อน แล้วเขาจึงต่อยไปที่ตระกูลเซี่ย.
” งั้นเราก็ไปที่ เกาะศิลาดำกันเถอะ ขอรับ ” ตั่วลั่ว พยักหน้าและขี่ค้างคาวโคหิตครามมุ่งไป
3 วันต่อมา
ฉื่อหยาน และ ตั่วลั่ว ก็มาถึงเกาะศิลาดำ
เกาะศิลาดำเป็นเหมือนกับชื่อของมันหินบนเกาะเต็มไปด้วยหินสีเข้ม , พลังธรรมชาติบนเกาะนี้เบาบางเป็นอย่างมาก บวกกับความแห้งแล้งที่รุนแรง ที่นี่จึงไม่ค่อยมีพืชพรรณเติบโต
แวบแรกที่มอง ก็สามารถเห็นภูเขาหินสีดำลูกเล็กอยู่ไปทั่ว แผ่นดินขรุขระและมีหลุมบ่อมากมาย
” มีผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะศิลาดำและพวกเขาเองก็ไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าใดนัก เกาะศิลาดำ แห่งนี้มีเพียงแร่ทองแดงที่มีจุดดำๆซึ่งมันเป็นวัสดุเพื่อเอาไว้สร้างสมบัติและอาวุธที่มีคุณสมบัติเย็น มันไม่ค่อยมีค่าเท่าใดนัก ที่แผ่นดินรุ่งเรือง ต่างก็มีสถานที่มากมายที่เต็มไปด้วยแร่ทองแดงจุดดำ”
ตั่วลั่ว ขมวดคิ้วและอธิบายให้ฉื่อหยานฟัง : ” อย่างไรก็ตามใน ในพื้นที่ทั้งสี่ของอสูร ไม่มีแร่ทองแดงจุดดำเลย ข้าได้ยินว่ามีอสูรบางตัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งสี่ดูดซับแร่ทองแดงจุดดำลงไปในร่างกายของพวกมันเพื่อฝึกฝนวิชาลับธาตุเย็นของพวกมัน สมบัติบางชิ้นที่ถูกสร้างโดยอสูรเหล่านี้ ต่างก็ต้องใช้แร่ทองแดงจุดดำ ในดินแดนของเรา แร่ทองแดงจุดดำล้วนไม่มีค่าอะไร แต่สำหรับพวกเหล่าอสูร มันถือได้ว่ามีค่าอย่างมาก ดังนั้นจึงเหตุผลที่อสูรเหล่านั้นมายังเกาะศิลาดำแห่งนี้”
ฉื่อหยานพยักหน้าช้าๆ
” คุณชายหยาน เหตุผลที่ตระกูล มักจะไปเก็บเกี่ยวทรัพยากรจากดินแดนอสูรทั้งสี่ก็เพราะ.. . ” ตั่วลั่ว เห็นฉื่อหยาน ฟังอย่างจริงจัง เขาก็ตัดสินใจที่จะอธิบายอีกครั้ง ” ในดินแดนอสูรทั้งสี่ มีแร่และสมุนไพรแปลกใหม่มากมาย ซึ่งหาได้ยากมากที่แผ่นดินรุ่งเรือง หรือไม่มันก็ไม่มีอยู่ในเลยแผ่นดินรุ่งเรืองนี้ แร่และสมุนไพร เหล่านั้นอาจจะไม่มีค่าในดินแดนอสูรทั้งสี่ แต่เมื่อพวกมันอยู่ที่นี่ พวกมันจะมีค่าเป็นอย่างมาก ”
” ตระกูลหยางเข้ามาไปในดินแดนอสูรทั้งสี่ ไปที่เหมืองแร่และเก็บเกี่ยวแร่หายากมากมาย และนำพวกมันกลับมายังดินแดนของเรา , แร่เและสมุนไพรเหล่านั้นเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในการสร้างสมบัติหรือกลั่นเม็ดยาบางอย่าง ยาบำรุงจากตระกูลหยาง , ยาเม็ดอมตะและยาอื่น ๆ ต่างก็ใช้ทรัพยากรบางส่วนจากดินแดนอสูรทั้งสี่ และสมบัติลับมากมายที่มีประสิทธิภาพเองก็ยังใช้แร่จากดินแดนอสูรทั้งสี่เช่นกัน
” ตระกูลหยางกล้าเผชิญหน้ากับอสูรเหล่านั้นก็เพื่อแร่และสมุนไพรเหล่านั้นที่ไม่สามารถหาได้จากดินแดนของเรา และนี้คือเหตุผลที่ตระกูลหยางแข็งแกร่งและมีอำนาจเป็นอย่างมาก นักรบหลายคนจากตระกูลหยางต่างก็มีสมบัติลับที่ทรงพลังและเม็ดยาที่มีคุณค่ามากมายกว่าคนอื่น และความเร็วในการฝึกบ่มเพาะของพวกเขายังรวดเร็วกว่าคนอื่นอีกด้วย”
ในขณะที่พูดถึงเรื่องพวกนี้ ตั่วลั่ว ดูค่อนข้างภูมิใจ เพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลหยาง
ฉื่อหยานพยักหน้าเล็กน้อย
กล้าที่จะเข้าไปในดินแดนอสูรทั้งสี่และการต่อสู้อสูรเหล่านั้นก็ เพื่อทรัพยากรพวกนี้ ไม่สงสัยเลยว่าตระกูลหยางถึงได้ทรงพลังและมีนักรบที่แข็งแกร่งมากมาย
การฝึกบ่มเพาะของนักรบ นอกจากพรสวรรค์และความพยายามแล้ว ความหลากหลายของทรัพยากรเองก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
นักรบที่ได้รับทรัพยากรที่มีคุณค่าเป็นจำนวนมาก ความเร็วในการบ่มเพาะปลูกของเขาจะรวดเร็วกว่าคนทีมีพรสวรรค์และความพยายามหลายเท่า
ฉื่อหยานก็ตระหนักได้ถึงจุดนี้ดี
ตั่วลั่ว แตกต่างจากโม่ต้วนหุน เขาชอบพูกคุย และเมื่อฉื่อหยานถาม เขาก็จะอธิบายทุกสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับตระกูลหยางโดยไม่ลังเล
ผ่านคำพูดของเขา ฉื่อหยานก็ได้รู้เรื่องของตระกูลหยางมากขึ้น และค่อย ๆ เหตุผลที่ทำให้ตระกูลหยางแข็งแกร่ง
บนเกาะศิลาดำ มีคนมากมายยืนอยู่บนยอดเขาหินสีดำ และเหมือนกำลังคุยอะไรบางอย่างกันอยู่
ในฝูงชน เหอซิงเหมิน สวมชุดเกาะหนังสีแดง และท่าทางของนางก็ดูน่าหลงใหลเป็นอย่างมากเหมือนกับดอกไม้ที่บานกลางใบไม้สีเขียว
เหอซิงเหมิน ขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย และยืนพิงราชสีห์วายูอัศนีเธอกำลังพูดคุยกับนักรบในระดับหายนะของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ ดูหเมือนอารมณ์ของเธอจะไม่ค่อยดีนัก
ค้างคาวโลหิตครามก็ค่อยๆลงมา
เหอซิงเหมิน เงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เหมือนลูกพีชของเธอก็กวาดมองชั่วขณะหนึ่ง และทันทีที่ก็เห็นฉื่อหยาน
เธอแปลกใจเล็กน้อย และเธอก็โบกมือขาวของเธอไปมาท่ามกลางกลุ่มคนจากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ เธอกระแอมเล็กน้อย และเหลือบมองขึ้นมาพร้อมกับกล่าวว่า : ” เจ้ายังไม่หลอกตายรึ ? ”
ฉื่อหยานสูดหายใจเข้าและมองไปที่นาง ” ข้ายังไม่ได้เห็นสิ่งที่เจ้าเดิมพันไว้เลย ข้าจะตายได้อย่างไร ”
เหอซิงเหมือน ใบหน้าก็กลายเป็นสีแดงทันทีและเธอก็นึกถึงเรื่องที่เธอเดิมพันกับฉื่อหยาน และเธอก็พูดอย่างเยาะเย้ย ” หึ.. แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ? ”
” ข้ามาเพื่อช่วยเจ้ากำจัดพวกเหล่าอสูร ” ฉื่อหยานเดินลงมาจากค้างคาวโลหิตคราม และเดินเข้าไปหาเหอซิงเหมิน .
ในเวลาเดียวกัน ฉื่อหยานก็มองไปรอบ ๆและประเมินนักรบจากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์
ที่ยอดเขานี้ มีหญิงสาวงดงามที่อยู่ในระดับรู้แจ้งอยู่ รวมทั้งเหอซิงเหมินแล้วก็มีนักรบรุ่นเยาว์ที่อยู่ในระดับปฐพีสี่ึคน และนักรบระดับหายนะอีก 23 คน
นอกจากหญิงที่งดงามคนนั้นแล้ว , ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะมีอายุไม่มากนัก ดูเหมือนพวกเขาจะอายุประมาณ 30-40 ปี พวกเขาเหล่านี้ต้องเป็นหนุ่มสาวที่มีความสามารถจากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์แน่นอน
เมื่อฉื่อหยานกำลังประเมินพวกเขาอยู๋ ก็มีบางคนที่แอบมองมาที่เขา
มีอยู่หลานคนที่แสดงออกมาว่าอยากจะจัดการเขา
คนพวกนั้นเป็นนักรบที่ถูกพูดคุยอยู่กับเหอซิงเหมิน พวกมันดูเหมือนจะรู้ว่าเหอซิงเหมือนไม่ชอบเขา ดังนั้นพวกมันจึงต้องการจะเอาใจเหอซิงเหมือนโดยการจัดการฉื่อหยาน
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 12 แล้ว มีถึงตอนที่ 496 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ