บทที่ 20 ฝึกฝนร่างกาย
ดาวประกายเต็มอยูาบนท้องฟ้าที่มืดมิดล้อมไปรอบๆจันทร์เสี้ยวที่สดใส แสงจันทร์ส่องลงมาผมกับอากาศหนาวเย็นพัดผ่านต้นไม้และทำใบไม้กระจัดกระจายไปรอบ ๆ ไปทั่วป่าทมิฬอย่างเงียบสงบ
ตี่ย่าหลาน และ หู้หลง กำลังลาดตระเวนไปรอบๆ ในขณะที่จ้าวชินนั่งพิงหลับกับต้นไม้อย่างมั่นคง ดวงตาปิดสนิท
ลั่วฮ่าว ยืนพิงอยู่กับต้นไม้อีกต้นใกล้ๆ เขาระมัดระวังตัวตลอดเวลา ไม่คลายความกังวลลง
ในกลุ่มใบไม้ที่หนาทึบบนต้นไม้ต้น มู่หยู่เตี๋ยนอนหลับอย่างเงียบๆ หลังจากการเดินทางทั้งวันนางนั้นเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากมาก และในตอนนี้เอง นางก็ไม่สามารถใช้พลังปราณลึกลับได้อีก
ลั่วฮ่าว มองไปที่มู่หยู่เตี๋ย , ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในใบไม้หนา ซึ่งมองไปด้วยความกังวล ปนกับความอ่อนโยนในแววตาของเขา
” ดาาาาา ! กาาาาา ! “
ลั่วฮ่าว คิ้วหนาของเขาขมวดเข้าหากัน เมื่อเขาเห็นฉื่อหยานที่กำลังเดินมาอยู่ใกล้ๆ เขาถามอย่างประหลาดใจ ” ตื่นแล้วรึ ? “
” อื้ม ” ฉื่อหยานพยักหน้าและตอบรับเบาๆ เขายังคงยืนอยู่ข้างๆ ลั่วฮ่าว และถามออกไปพร้อมกับถอนหายใจ” มันเป็นเรื่องง่ายงั้นรึที่พวกมันจะหาเราพบ ? “
” ไม่ใช่อย่างแน่นอน ” ลั่วฮ่าว ยิ้ม ” ที่นี่ไม่ใช่เส้นทางที่ปลอดภัยในป่าทมิฬและมักจะมีสัตว์อสูรกับนักรบปรากฏตัวขึ้นบ่อยๆ ดังนั้น ผู้ที่มาจากโลกมืดจะต้องพบกับพวกมันแน่นอน นั่นจึงเป็นเรื่องยากที่พวกมันจะติดตามเรามาได้ ในพื้นที่แห่งนี้ บรรดาสัตว์อสูรและเหล่านักรบ ล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องระวังไว้ ” .
” จะให้พูดก็คือ มันไม่ง่ายนักที่พวกมันจะมาเจอเราได้ . ” หลังจากขบคิดเล็กน้อย ฉื่อหยานถามอีกครั้ง ” ลุงลั่ว ท่านต้องสูญเสียพลังปราณลึกลับไปเท่าใด เมื่อปลดปล่อยแรงโน้มถ่วง สิบเท่า ออกมา ? “
” เจ้าจะรู้ไปทำไม ? ” ลั่วฮ่าว สงสัย .
” ข้าต้องการฝึกกายาแข็งของตัวเองด้วยความช่วยเหลือของพลังแรงโน้มถ่วงของท่าน . ภายใต้สนามแรงโน้มถ่วง ข้าจะแบกรับความกดดันมหาศาล ซึ่งมันจะช่วยเสริมสร้างร่างกายของข้า ข้าต้องการรู้ขีดจำกัดของข้าเอง . ” ฉื่อหยานตอบอย่างจริงจัง เขานั้นไม่ได้ต้องการฝึกฝนแบบปกติทั่วไป การฝึกฝนตามปกตินั้นไร้ซึงความตื่นเต้น เขานั้นอยากต้องการวิธีฝึกฝนที่ทรหด เพื่อสนองความตื่นเต้นของเขา
” ฝึกกายาแข็งด้วยสนามแรงโน้มถ่วงของข้างั้นรึ . . . . . . . ” ลั่วฮ่าว ดวงตาสว่างขึ้น เขาพยักหน้า ” เป็นความคิดที่ดี แต่เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าต้องการที่จะลองมัน ถ้านักฆ่าเหล่านั้นมาพบเจ้าขณะที่เจ้ากำลังอ่อนล้า เจ้าจะไม่สามารถต่อสู้กับพวกมันได้เลย “
” ข้าไม่ได้คิดที่จะใช้พลังปราณลึกลับของข้าในการฝึกฝน . ” ฉื่อหยานยิ้ม
” ฝึกกายาแข็งด้วยร่างกายของเจ้าเองงั้นรึ ? ” ลั่วฮ่าว ก็ตกใจ
” ถูกต้อง ” .
ลั่วฮ่าว ตกอยู่ในความคิดอยู่นาน และกล่าวว่า ” เจ้าเพิ่งบรรลุถึงระดับก่อตั้งไม่นานมานี้ และเพื่อเป็นการฝึกร่างกายของเจ้าให้แข็งแกร่ง เจ้าเลยต้องการแบบนั้นงั้นรึ ? แต่ร่างกายของเจ้านั้นไม่เคยเสริมสร้างความแข็งแกร่งมาก่อน มันเป็นเรื่องที่บ้ามากถ้าเจ้าต้องการฝึกในสนามแรงโน้มถ่วงของข้าโดยไม่ใช้พลังปราณลึกลับของเจ้า เจ้ามั่นใจรึ ว่าเจ้าจะทนได้ “
” ข้าต้องการที่จะลองมัน” ฉื่อหยานตอบอย่างใจเย็น
” ดี ! ! ! งั้นตามข้ามา ” ลั่วฮ่าว พยักหน้าและเดินจากไป โดยไม่มีเสียง ฉื่อหยานก็ตามเขาไป
หลังจากที่พวกเขาออกไปอย่างเงียบๆ มู่หยู่เตี๋ย ที่นอนบนใบไม้หนา ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น
นางจ้องมองไปที่เขาทั้งสองที่อยู่ข้างแม่น้ำ จากที่ไกลๆ มู่หยู่เตี๋ยรู้สึกประหลาดใจและสับสนอย่างมาก . นางบ่นกับตัวเองเบาๆ ” เขาเพิ่งบรรลุถึงระดับก่อตั้งได้ไม่นาน แต่เขากลับต้องการฝึกกายาแข็งใต้สนามแรงโน้มถ่วง เขาบ้าไปแล้วรึ ? “
มู่หยู่เตี๋ยก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเมื่อคิดเกี่ยวกับมัน นางคิดมากจนไม่สามารถหลับได้อีก ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางกระโดดลงจากต้นไม้เก่าแก่อย่างคล่องแคล่ว และไปแอบมอง ฉื่อหยาน และ ลั่วฮ่าว , เพื่อที่ต้องกานจะเห็นว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นจากนี้
. . . . .
” ในครั้งแรก เราจะเริ่มจากสนามแรงโน้มถ่วงห้าเท่าก่อน โดยทั่วไป ร่างกายของนักรบในระดับก่อตั้งจะสามารถทนกับแรงโน้มถ่วงระดับนี้ได้จะต้องผ่านการฝึกฝนร่างกายอย่างดี เจ้าสามารถบอกข้าได้หากเจ้ารู้สึกว่าไม่สามารถทนได้ เมื่อเจ้ารู้สึกว่าทนมันไม่ไหว ให้บอกข้าทันที .
ลั่วฮ่าวกล่าวเพิ่ม ” เพราะนี่มันเป็นการฝึกครั้งแรกของเจ้า เจ้าเพียงแค่วิ่งไปรอบๆตัวข้าให้ได้ก็พอ เจ้าจะตเองวิ่งให้ได้สิบรอบ โดยไม่ใช้พลังปราณลึกลับของเจ้าเสริมร่างเอาไว้ จำไว้ว่า เจ้าจะต้องทำภายใต้ขีดจำกัดของตัวเจ้าเองอย่าฝืนเกินไป ! “
หลังจากพูดจบ คลื่นพลังที่รุนแรงก็ออกมาจากร่างกายของ ลั่วฮ่าว ในคราวเดียว
ในทันที รอบๆตัวโดยมีลั่วฮ่าวเป็นจุดกึ่งกลาง , ก็เกิดเป็นสนามแรงโน้มถ่วงห้าเท่า ! ขึ้นพื้นที่รอบๆทันที ภูเขาดูเหมือนจะถล่มลงมา อากาศกลายเป็นหนักอึ้งจนแทบจะหายใจไม่ออก
แรงดันที่มองไม่เห็นก็ล้อมรอบไปทั่วร่างของเขา
ฉื่อหยานรู้สึกเหมือนกับว่ามีกองทรายมากดทับที่เซลล์ทุกๆเซลล์ของเขาและร่างกายของเขารู้สึกหนักขึ้นถึงหนึ่งพันปอน เส้นเอ็นที่เข่าของเขากลายเป็นแน่นตรึง และหัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้น ภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วงที่เพิ่มขึ้น กล้ามเนื้อของเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก
ร่างกายของเขาค่อยๆ ปรับความดันจากแรงโน้มถ่วง อย่างไรก็ตาม เขาพบว่ามันยากเป็นอย่างมากที่จะหายใจ ถึงแม้เพียงยืนอยู่เฉยๆก็ตาม
ให้ตายเถอะ !
ฉื่อหยานรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่หนักอึ่งอย่างมหาศาล เขาคิดได้ทันทีเลยว่า ใครก็ตามที่เข้าไปในสนามแรงโน้มถ่วงของลั่วฮ่าวจะต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และพวกเขาจะไม่สามารถใช้ความสามารถของพวกเขาได้อย่างเต็มที่แน่นอน
นี่เป็นเพียงแค่แรงโน้มถ่วงห้าเท่า เท่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นหากมันมีมากถึง สิบเท่า !
วิชานี้ช่างเป็นวิชาที่น่าเกรงขามยิ่งนัก ฉื่อหยาน สูดหายใจเข้าลึกๆ และขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวของเขาไป เขาตะโกนออกมาแล้วเริ่มวิ่งไปรอบๆลั่วฮ่าว .
ร่างกายของเขาสั่นเทาเมื่อสัมพัสได้ถึงความกดดันที่เพิ่มขึ้น เท้าของเขาดูเหมือนกับว่าถูกล้ามไว้ด้วยลูกเหล็กหนักกว่าพันปอนด์ ทำให้การวิ่งปกติกลายเป็นการทรมานที่น่ากลัวที่สุดไปได้
ในสนามแรงโน้มถ่วง ร่างกายของเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย เขารู้สึกเหมือนถูกยักษ์ตัวใหญ่ทับอยู่ เขาแทบจะหายใจไม่ออก
หนึ่งรอบผ่านไป ความเร็วของเขาก็ช้าลงไปครึ่งหนึ่ง
สามรอบผ่านไป เขาชะลอตัวลง และความเร็วของเขาก็ลดลงอีกครึ่งหนึ่ง
ห้ารอบผ่านไป ในตอนนี้ฉื่อหยานไม่ได้วิ่งแล้ว เขากำลังเดินแทน . . . . . . .
ในรอบหก หน้าฉื่อหยาน ก็กลายเป็นสีแดงเหมือนแอปเปิ้ล ในขณะที่เส้นเลือดสีฟ้าปูดบวมขึ้นมาบนแขนของเขาเหมือนงูตัวเล็ก ๆ เหมือนกับว่ามันกำลังจะพุ่งออกมาจากผิวหนังของเขา
ในรอบเจ็ด ฉื่อหยาน กลายเป็นดูคล้ายกับสัตว์ป่า ดวงตาของเขาลุกไหม้เป็นไฟเนื่องจากการขาดออกซิเจน
ในรอบแปด ฉื่อหยานเดินโงนเงนไปมา ทุกๆก้าวเต็มไปด้วยความอ่อนล้า หลังจากทุกๆครั้งที่ก้าว ร่างกายของเขาก็จะสั่นสะท้านไปทั่ว
ในเวลานั้น , ลั่วฮ่าว ก็ทนไม่ได้อีกต่อไป เขาตะโกนว่า ” นี่คือการฝึกในสนามแรงโน้มถ่วงครั้งแรกของเจ้า อย่าได้ฝืนนักเลย ! เจ้าได้มาถึงขีดจำกัดของเจ้าแล้ว ! พอ ! หยุดได้แล้ว ! หรือเจ้าต้องการจะตายเพราะอ่อนล้ากันห๊ะ ! “
ฉื่อหยานยกศีรษะของเขาขึ้น สายตาของเขาดูราวกับว่ามันกำลังมีเลือดไหลออกมา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้า สภาพเขาดูเหมือนศพ ” ฮิฮิ ช่างน่าตื่นเต้นนัก เช่นนั้น ก็มาลองกันสักตั้ง ! “
ลั่วฮ่าว ยืนตกตะลึง แลเขาก็สามารถสรุปได้ทันทีว่า : ‘ เจ้านี่มันเป็นบ้า ! ‘
ในพุ่มไม้ไม่ไกลจากพวกเขา มู่หยู่เตี๋ยที่กำลังแอบดูอยู่ก็พูดไม่ออก นางเอามือปกคลุมไปที่ปาก นางไม่เคยเจอใครที่เหมือนฉื่อหยานมาก่อน
ฉื่อหยานไม่ได้ตอบอะไร ลั่วฮ่าวเพิ่มเติม. ต้อนนี้เขาดูเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังลากร่างกายของตัวเอง เขายังคงก้าวต่อไปข้างหน้า ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกดดันอย่างรุนแรง และแล้วเขาก็สามารถผ่านไปได้อีกรอบ
ในรอบสุดท้ายนี้ ร่างกายของเขาโอนเอนไปทุกที ทุกๆก้าวของเขาล้วนสั่นสะท้าน เขาดูเหมือนจะสามารถล้มลงและตกตายไปได้ตลอดเวลา
ด้วยสภาพร่างกายของเขา ในที่สุดเขาก็ผ่านรอบสุดท้ายมาได้ ด้วยการก้าวทีละก้าว หลังจากนั้น ก็มีรอยยิ้มแปลกๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ลั่วฉ่าวตื่นจากความประหลาดใจ ,เขาโล่งใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นฉื่อหยานไม่เป็นอะไร และเขาก็กำลังจะถอนสนามแรงโน้มถ่วงของเขาออก และเริ่มคิดที่จะให้คำแนะนำการฝึกแก่ฉื่อหยาน
มู่หยู่เตี๋ยใช้มือกดไปที่ปากของนางด้วยความตกตะลึง ปรากฏความประหลาดใจในดวงตาคู่งามของนาง นางไม่เคยคิดเลยว่า ฉื่อหยานจะมีความพยายามที่มากมายเช่นนี้ ถึงแม้เขาจะอยู่เพียงระดับก่อตั้งก็ตาม .
” มันยังไม่จบ ! ” ฉื่อหยาน ตะโกนใส่
” อะไรนะ ? ” ร่างกายของ ลั่วฮ่าว สั่นสะท้านเมื่อได้ยินเช่นนั้น และดวงตาของเขาก็โตขึ้นและกลายเป็นเป็นคมเหมือนมีด เขาตะโกนออกมาว่า ” พอเท่านี้ ! อย่าได้มาพูดเรื่องไร้สาระ ! “
ก่อนที่ ลั่วฮ่าว จะถอดถอนสนามแรงโน้มถ่วงออก ฉื่อหยานลุกขึ้นและยังคงก้าวต่อไปอย่างไม่คาดคิด เขาก้าวอย่างโงนเงนไปมา และสุดท้ายก็ล้มลงบนพื้น
ลั่วฮ่าว ที่กำลังจะตะโกนบางอย่างออกมาก็หยุดลง เมื่อเขามองไปที่ฉื่อหยาน และเห็นว่าเขากำลังใช้มือและเท้าคลานเหมือนสัตว์เดรัจฉานเขาดูเหมือนจะตกตายได้ทุกเมื่อ
หลังจากนั้นก็ผ่านประมาณครึ่งชั่วโมง ฉื่อหยาน ก็ทำมันสำเร็จ ด้วยความล่าช้าเหมือนกับหอยทาก
มู่หยู่เตี๋ยที่กำลังแอบมองอยู่ก็กลายเป็นประหลาดใจยิ่งขึ้น
––––––––––––––––––––––––
ปล. ลงอีกที วันที่ 6/2/2560 จ้าา พรุ้งนี้งดโบรัสน๊าขอโทดด้วย แต่จะมีเรื่องเซอไพร์บ้างอย่าง ติดตามได้ที่เพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่ กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ