บทที่ 205 ท้าทายตระกูลหยาง
ในตระกูลหยาง ข้างๆบ่อน้ำลึกที่เย็นยะเยียบ
ฉื่อหยานและหยางมู่่ยืนอยู่เงียบๆที่มุมหนึ่ง และกำลังมองดูร่างเล็กที่บอบบางลอยอยู่เหนือบ่อน้ำ
เป็นเด็กสาวอายุประมาณสิบห้าหรือสิบหกปี ดวงตากลมโตของนางดูมีชีวิตชีวา นางมีขนตายาว จมูกเล็ก ๆดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ ร่างบอบบางของนางก็จมลงไปในบ่อ นางขมวดคิ้วเข้าหากัน และแขนขาของนางก็สั่น
ในบ่อน้ำใสนางเคลื่อนไหวแขนขาของนางไปมา ก้อนโลหะสี่ก้อนขนาดใหญ่ก็ลอยขึ้นมาจากน้ำเกิดเป็นระลอกคลื่น พวกมันทำให้บ่อน้ำเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยระลอกคลื่นลูกใหญ่
สีหน้าของฉื่อหยานก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาจ้องมองไปที่ข้อมือและข้อเท้าของนาง และก็เห็นว่ามีห่วงโซ่ตรวนเชื่อมต่ออยู่กับก้อนโลหะสี่ก้อน
เด็กสาวลอยขึ้นมาและจมกลับไปในบ่อน้ำ นางพยายามดิ้นรนเพื่อลอยขึ้นมา ร่างทั้งร่างของนางก็เปียกโชก
” หยางเหมิน นั้นกำลังบ่มเพาะเคล็ดฟีนิกซ์นภาอยู่ เคล็ดวิชานี้เป็นวิชาระดับวิญญาน ในขณะที่กำลังบ่มเพาะ แขนและขาของนางจะต้องล่ามไว้กับโลหะหนักสี่พันจิน ( 1 จิน = 0.5 กก. ) และต้องลอยอยู่เหนือบ่อน้ำในเวลาเดียวกัน ” หยางมู่่ ยืนข้างๆ ฉื่อหยาน และอธิบายอย่างเงียบๆ ” เคล็ดฟีนิกซ์นภา เป็นวิชาบ่มเพาะที่วิเศษอย่างมาก เมื่อเจ้าประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะมัน เจ้าจะสามารถใช้พลังปรารลึกลับสร้างเป็นปีกด้านหลังได้ เหมือนกับปีกของฟีนิกซ์ , พวกมันสามารถทำให้นางลอยได้เหนือพื้นดินหลายพันฟุตในขณะที่อยู่ในระดับปฐพี”
ฉื่อหยาน ตะลึง
ปกติแล้ว มีเพียงยอดฝีมือระดับนภาเท่านั้น ที่สามารถลอยอยู่กลางอากาศและสามารถบินได้
แต่เด็กสาวคนนี้อยู่เพียงแค่นภาแรกของระดับปฐพี นางค่อนข้างจะห่างไกลกับระดับนภา แต่นางสามารถบินได้
อย่างไรก็ตาม ถ้านางสามารถทำสิ่งที่มหัศจรรย์เช่นลอยอยู่บนอากาศได้ด้วยการบ่มเพาะเคล็ดฟินิกซ์นภา นางจะสามารถใช้ประโยชน์จากการบินได้เมื่อต่อสู้อยู่
วิชาที่สามารถทำให้นักรบระดับปฐพีบินได้เหมือนกับว่าอยู่ในระดับนภา วิชาเช่นนี้แท้จริงแล้วเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์และลึกลับก็ว่าได้
ภายในบ่อน้ำลึก
หยางเหมินขบฟันของนางแน่น ขาและเท้าก็เคลื่อนไหวไปมาในบ่อ ร่างกายของนางผลุบๆโผล่ๆ ไปมาแต่ก็ไม่จมลงไปในบ่อน้ำ
ร่างของนางถูกล่าามด้วยวัตถุที่มีน้ำหนักสีพันจิน , แต่นางยังสามารถคงร่างกายของนางไม่ให้จมได้ ความสามารถของหญิงสาวคนนี้ ทำให้ฉื่อหยานตกใจเป็นอย่างมาก
ด้วยการที่มีวัตถุที่มีน้ำหนักสี่พันจินเชื่อมต่ออยู่บนร่างกาย คนทั่วไปยังไม่สามารถเดินได้เลย และเมื่ออยู่ในน้ำ เขาก็จะจมลงไปในใต้น้ำทันที และไม่มีทางที่จะลอยขึ้นมาได้
หญิงสาวคนนี้ได้ใช้เคล็ดลับบางอย่าง ทุกครั้งที่นางเคลื่อนไหวเท้าและมือในน้ำ ก็จะมีคลื่นพลังบางอย่างพุ่งออกมา มันค่องข้างพิเศษ มันทำให้ร่างกายที่บอบบางของนางพุ่งมายังพื้นผิวน้ำอย่างรุนแรง ในขณะที่นางกำลังจมลงไปนางก็จะกระตุ้นพลังนั้นขึ้นมาอีกครั้งและควบคุมมันให้ผลักดันนางขึ้นมาเหนือผิวน้ำ
” ในรุ่นของเรา หยางเหมินนั้นเป็นน้องคนสุดท้อง นางเป็นน้องสาวของเรา เด็กสาวคนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีไหวพริบนัก แต่นางนั้นปฏิบัติอย่างดีกับเราทุกคน ” หยางมู่่ก็มีรอยยิ้มปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากของเขา” เราทุกคนนั้นสนับสนุนนางเป็นอย่างมาก และนางไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย ในปีนี้นางเพิ่งจะอายุสิบหกปี แต่นางกลับอยู่ในนภาแรกของระดับปฐพี”
อายุ 16 ปี อยู่ในนภาแรกของระดับปฐพี !
ฉื่อหยานก็เอาแต่ยิ้มอย่างขมขื่น เขาก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับผู้ของแปลกประหลาดจากตระกูลหยางมากขึ้น
เซี่ยซินหยาน คือคนที่มีความสามารถที่โดดเด่นที่สุดของรุ่นปัจจุในตระกูลเซี่ย ปีนี้นางอายุ 26 แล้ว แต่นางยังอยู่เพียงนภาแรกของระดับปฐพี ส่วน เหอซิงเหมิน เป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ นางอายุ 24 ปี และตอนนี้ก็อยู่เพียงแค่นภาแรกของระดับปฐพี
หากเปรียบเทียบกันแล้ว ฉื่อหยานก็เริ่มตระหนักได้แล้วว่าทำไมตระกูลหยางถึงเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลเคียร่า
ในสมาคมการค้า เป่ยหมิงเช้อ นั้นนับได้ว่าเป็นคนหนุ่มที่โดดเด่นที่สุด เขามีอายุเกือบจะสามสิบปีแล้ว แต่ก็เป็นได้เพียงแค่นักรบระดับหายนะ เมื่อเทียบกับหยางเหมินแล้ว ไม่สมควรเรียกได้ว่าเป่ยหมิงเช้อได้รับพรของพระเจ้าเลย
” ตูม ตูม ตูม ! ”
หยางเหมินใช้พลังของนาง และพยายามที่จะลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำ ที่ด้านหลังของนาง มีแสงสว่างยื่นออกมาคล้ายกับปีกมันถูกสร้างขึ้นจากพลังปราณลึกลับที่บริสุทธิ์ มันค่อยๆรวมตัวกันเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
ในชั่วพริบตา ด้านหลังของหยางเหมิน ปีกพลังปราณลึกลับก็ปรากฏขึ้น นางควบคุมปีกนั่นและ ค่อยๆ ลอยขึ้นสู่พื้นผิวของน้ำของบ่อน้ำ ร่างเล็กที่บอบบางของนางก็ลอยขึ้นมาจากพื้นผิวของน้ำ
” ซูม ! ”
เมื่อนางลอยขึ้นมาออกจากพื้นผิวของบ่อน้ำ ได้สามเมตร สีหน้าของหยางเหมินก็กลายเป็นตื่นตระหนก พลังของนางดูเหมือนจะหายไป และนางก็ตกลงมาในบ่อ
” เอาละ นี้เป็นการฝึกบ่มเพาะครั้งสุดท้ายของวันนี้ ” ที่ด้านข้างของบ่อน้ำ , หยางหลาว ขมวดคิ้วและ ตะโกนออกมา . มือใหญ่ของเขาจับไปในอากาศโดยตรง และยกหยางเหมินออกมาจากบ่อน้ำ
” กึก ! กึก ! ”
เมื่อหยางเหมินมาถึงพื้นดิน แขนขาของนางที่ถูกล่ามด้วยโซ่อยู่ก็ หลุดออกมา นางกอดเข่านั่งบนพื้น และพูดด้วยเสียงเบาๆ ” อีกนิดเดียว ทำไมมันถึงยังใช้ไม่ได้กัน ? ใกล้จะสำเร็จแล้วอีกนิดเดียวเท่านั้น ทำไมข้าถึงก้าวผ่านจุดนี้ไปไม่ได้เสียที ”
หยางหลาวหัวเราะออกมาเบาๆ เขาส่ายหน้าและกล่าวว่า : ” แม่สาวน้อย เจ้านี่โลภจริงๆ เจ้าพึ่งฝึกได้เพียงหนึ่งปีครึงเท่านั้น แล้วเจ้าจะฝึกบ่มเพาะเคล็ดฟินิกซ์นภานี้ให้สำเร็จได้อย่างไร เจ้าคิดว่าทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นสิ่งง่ายๆงั้นรึ ? ”
” ท่านปู่ ท่านไม่ได้บอกข้าหลอกรึว่า ด้วยความสามารถของข้า ข้าจะสามารถฝึกฝนมันสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ? ” หยางเหมิน สูดลมหายใจเข้าและบุ้ยริมฝีปากของนาง : ” ท่านโกหกข้า ! ท่านบอกว่าเพียงไม่นานข้าจะบินได้ แต่หลังจากที่ข้าฝึกมาเป็ยเวลานาน ข้ายังบินไม่ได้เลย ข้าจะไม่ฝึกมันอีกต่อไปแล้ว มันช่างหนักหนานัก ”
สีหน้าของหยางหลาวก็ดูเหมือนไม่สนใจ
” เหมินเอ๋อ ถ้าเจ้าฝึกอีกครึ่งปี ข้าสัญญาเลยว่า เจ้าจะต้องบินได้อย่างแน่นอน เจ้าเชื่อพี่ใหญ่เถอะ คำพูดของข้านั้นแม่นยำกว่าท่านปู่สองเสียอีก ท่านชราแล้ว เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ท่านจะคำนวนผิดพลาด ” ตอนนี้เองหยางมู่่ก็พาฉื่อหยานเดินเข้ามาและ เขาก็หัวเราะออกมา
” เจ้าเด็กเหลือ . . . ” หยางหลาวจ้องไปที่หยางมู่่ เขานั้นกำลังจะด่าออกไป แต่ก็หยุดชะงักลง เขามองลึกที่ฉื่อหยาน และกล่าวว่า : ” เจ้าคือฉื่อหยานงั้นรึ ? ”
ฉื่อหยานอมยิ้มพยักหน้า
” ฉื่อหยาน ? ” หยางเหมินก็กระโดด และลุกขึ้นยืน นางหัวเราะคิกคักเบา ๆ ” ฮ่า ตอนนี้เรามีคนที่อยู่ในระดับหายนะแล้ว เขาอ่อนแอกว่าข้า ตอนนี้ข้าไม่ใช่คนที่อ่อนแอที่สุดแล้ว เย่ๆ ! ”
ในตระกูลยาง เพราะหยางเหมินเป็นน้องคนสุดท้อง ระดับการบ่มเพาะของนางจึงอ่อนแอที่สุด และเพราะนางนั้นอยู่เพียงแค่นภาแรกของระดับปฐพี ทุกครั้งนางมักจะถูกหยางมู่่ และคนอื่นๆ เยาะเย้ย แต่ตอนนี้เมื่อนางทราบว่า ฉื่อหยานอยู่เพียงระดับหายนะเท่านั้น ทันทีนางก็รู้สึกดีใจ นางปรบมือของนางเข้าด้วยกันและยิ้มอย่างมีความสุข ชี้ไปที่ ฉื่อหยาน และกล่าวว่า : ” หึหึ เจ้านั้นอ่อนแอกว่าข้า หากในอนาคตเราสู้ ไม่ต้องห่วง ข้าจะออมมือให้เจ้า”
ลูกหลานของตระกูลหยางไม่เพียงแค่ฝึกฝนกันอย่างหนักเท่านั้น พวกเขาเองก็มักจะประลองกันบ่อยๆ และ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาแต่ละคนก็จะเต็มไปด้วยประสบการณ์การต่อสู้จริงๆ
เพราะการดำรงอยู่ของจิตวิญญาณอมตะ การต่อสู้ระหว่างลูกหลานตระกูลหยางจึงไม่หยุดที่แตะตัวกัน พวกเขามักจะสู้กันจนเลือดตกยางออก . หยางเหมินเป็นคนที่อ่อนแอที่สุด ทุกครั้งที่นางสู้กับหยางมู่่ และคนอื่นๆ นางนั้นไม่เคยบาดเจ็บเลยเพราะพวกเขาออมมือให้ ถึงอย่างนั้น นางก็ไม่เคยชนะใครเลย
นางได้ข่าวว่าฉื่อหยานกำลังจะมา และตอนนี้นางก็ได้พบกับฉื่อหยาน ที่นี่ และตอนนี้ฉื่อหยานก็อยู่เพียงระดับหายนะเท่านั้นซึ่งต่ำกว่าระดับของนาง ทันทีนางก็มีความคิดบางอย่างและรู้สึกดีใจมากเมื่อมองไปที่ฉื่อหยาน และตอนนี้นางก็เต็มไปด้วยความสุข
หยางหลาวจ้องไปที่ฉื่อหยานอย่างลึกซึ้ง สักครู่ แล้วค่อย ๆพยักหน้าและยิ้ม ” ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีพรสวรรค์มาก มานี่ ให้ข้าดูทีว่าเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน ”
ฉื่อหยาน ตะลึง
” รับมือ ” หยางหลาว หัวเราะอย่างดุร้ายและ เส้นแสงสี่เส้นก็ลอยออกจากฝ่ามือของเขา แสงทั้งสี่เส้นก็พุ่งเข้าไปในโซ่ตรวนเหล่านั้น” ส่วมห่วงนั้นสะ และวิ่งไปรอบๆห้ารอบ ฮ่าฮ่า ด้วยนภาที่สองของระดับหายนะ นี่ก็เกินพอแล้ว เกินพอแล้ว . ”
โซ่ตรวนที่หลุดออกมาของหยางเหมิน ก็พุ่งเข้ามาพันฉื่อหยาน
” ฮ่าๆ หยานเอ๋อ ท่านปู่สองกำลังทดสอบเจ้าอยู่ อย่าทำให้ท่านผิดหวังหละ ” หยางมู่หัวเราะและปรบมือ : ” ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถผ่านมันไปได้ ท่านปู่สองหากว่าหยานเอ๋อสามารถทำได้ ท่านจะให้รางวัลอะไรเขารึ ? ”
” รางวัล.. ” รอยยิ้มบนริมฝีปากของหยางหลาวยังคงอยู่ และเขาพยักหน้า ” แน่นอนข้ามีรางวัลให้ ถ้าเขาสามารถวิ่งตรบห้ารอบ ข้าจะมอบเม็ดยาบำรุงให้เขาสามเม็ด ฮ่าๆ ไม่ใช่ว่าเด็กน้อยนี้สนิทกับหญิงสาวจากตระกูลเซี่ยหลอกรึ ? เม็ดยาบำรุงนี้มีสรรพคุณพิเศษที่ช่วยเหลือจิตวิญญานจุติของตระกูลเซี่ยได้ดี .
ฉื่อหยาน ตาก็ส่องประกาย
เขาเคยได้ยินเซี่ยซินหยาน พูดเกี่ยวกับเม็ดยำบำรุงนี่มาก่อน มันเป็นยาอายุวัฒนะที่สามารถฟื้นฟูพลังปราณลึกลับได้ในเวลาสั้นๆ ทุกครั้งที่เซี่ยซินหยาน ใช้จิตวิญญานจุติ ร่างกายของนางจะได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยปกติ นางจะต้องจะต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือนในการฟื้นฟู แต่ถ้านางมีเม็ดยาบำรุง นางก็จะสามารถฟื้นฟูได้เพียงชั่วข้ามคืน
ถ้าเซี่ยซินหยาน ได้รับเม็ดยาบำรุงสามเม็ด นางก็จะใช้จิตวิญญานจุติได้อย่างรวดเร็วสามครั้ง และไม่ต้องกังวลถึงอาการบาดเจ็บใดๆ
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉื่อหยานก็กาง แขนขาของเขาออกมาและยังคงยืนนิ่ง เขาปล่อยให้โซ่ตรวนล็อกแขนและขาของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
” ไม่ยักรู้ว่าเจ้าเป็นชายหนุ่มที่เห็นแก่ความรัก ” หยางหลาว หัวเราะ ” แต่ถ้าเจ้าจะเอาเม็ดยาบำรุงของข้าไปหละก็ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ไม่เพียง แต่เจ้าต้องวิ่งได้ห้ารอบเท่านั้น ข้าจะจับเวลาเจ้าด้วย ข้าจะให้เวลาเจ้า 5 นาที ใน 5 นาที เจ้าจะต้องวิ่งให้ครบ แล้วข้าจะมอบเม็ดยาบำรุงให้เจ้า หากเจ้าใช้เวลามากกว่านั้นข้าก็จะไม่ให้ ”
” 5 นาที ” หยางเหมินดวงตาที่น่ารักของนางก็กระพริบ ” ท่านปู่ ท่านนี่ร้ายจริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะได้รับของจากท่าน เมื่อตอนที่ข้าพึ่งบรรลุเข้าสู่ระดับปฐพี ข้าก็ต้องลากพวกมันเช่นกัน ตอนนั้นข้ายังต้องใช้เวลาพักนึงเลยกว่าจะวิ่งรอบบ่อได้รอบหนึ่ง แต่นี่เขาอยู่ในนภาที่สองของระดับหายนะเท่านั้น”
” ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าเคยบอกข้าว่า เจ้าหนุ่มนี่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมและ ร่างกายของเขาก็แตกต่างจากคนอื่นๆด้วย . ” หยางหลาว ดวงตาก็เปล่งประกายแสง แล้วเขาก็ยิ้มแปลกๆ : ” ท่านปู่ใหญ่ของเจ้าบอกข้าว่า ภายใต้นักรบที่มีระดับเดียวกัน เขาแข็งแกร่งกว่าทุกๆคน หึหึ ถ้าท่านปู่ใหญ่พูดเช่นนั้น ก็แปลว่าเขาต้องมีเหตุผลสักอย่าง ข้าเชื่อว่าเจ้าหนุ่มนี่มีอะไรที่ต่างออกไป ข้าจะคอยดู ”
ฉื่อหยาน ก็แอบแปลกใจ
หยางชิงตี้ นั้นไม่เคยเจอเขามาก่อน แต่ดูเหมือนว่าหยางชิงตี้จะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา รู้แม้กระทั่งว่าร่างกายของฉื่อหยานนั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ
หรือว่า หยางชิงตี้จะรู้ความจริงทุกอย่างกัน ?
ฉื่อหยานก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้นเกี่ยวกับปู่ใหญ่ของเขาที่ไม่เคยพบมาก่อน เขาไม่รู้ว่าหยางชิงตี้นั้นมีพลังวิเศษอะไร เหมือนกับที่เขาสามารถทำนายความเป็นอยู่ของฉื่อหยานได้ด้วยหยดเลือดอมตะสามหยด
” หยานเอ๋อ เลิกคิดเรื่่องไร้สาระได้แล้ว เตรียมใช้พลังของเจ้าทั้งหมดเสีย ” หยางมู่่ นั้นชอบที่จะเห็นคนที่ห่วงใจตกอยู่ในความวุ่นวาย เขาหัวเราะออกมาและกล่าวว่า ” จำไว้ว่าเจ้ามีเวลาเพียงห้านาที อย่าได้ซ่อนพลังของเจ้าไว้ นี่ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้ใช้มันออกมา ”
” เด็กน้อย เริ่มได้ ! ” หยางหลาวก็ตะโกนออกมา
ฉื่อหยาน ไม่ลังเล เขาคำรามออกมา และกระตุ้นพลังงานเชิงลบ
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 13 แล้ว มีถึงตอนที่ 535 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ