บทที่ 218 ความดุร้ายของสัตว์อสูรภูติ
“พานโจว เจ้ากล้าที่จะสู้กับข้างั้นรึ!!!! ?”
หยางมู่นั่งอยู่บนหลังมังกรสองหัวจ้องมองไปยังพานโจวที่ยืนอยู่บนเรือเขาเงิน พร้อมกับตะโกนอย่างเสียงดัง
ทันใดนั้น ดาบสีเงินขนาดใหญ่มหึมาก็โผล่พรวดบินโฉบไปมาใกล้กับศรีษะของหยางมู่ เป็นดาบยาวนับสิบเมตรส่องแสงออกมา
ในขณะเดียวกัน บนเรือเขาเงิน พานโจวก็ยืนโบกมือพร้อมกับส่งยิ้มและพูดว่า “ข้ามาเพื่อจัดการกับตระกูของเจ้า เอาหละอย่าได้เสียเวลาอีกเลย !”
“ด้วยน้ำมือไก่อ่อนเช่นเจ้าหนะรึ ?”หยางมู่พูดด้วยท่าทีขบขัน “พานโจว เอ๋ย พานโจว ข้าหนะรู้ดีว่าเจ้านั้นขี้ขลาด หึหึ”
พานโจว ไม่ได้แสดงท่าทีโกธรแค้นแต่อย่างใด เขาส่งยิ้มกลับพร้อมกับหันไปพูดกับนักรบข้างกายว่า “อย่ามัวเสียเวลา!! รีบไปนำตัวมันมาให้ข้า!!”
“สมแล้วที่เป็นบุตรของเทพเจ้า” เหว่ยซิงนักรบในระดับรู้แจ้งของ ดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ก็ พยักหน้า “เราจะไม่ได้รับสิ่งของตามที่ตกลงไว้ หากตระกูลหยางยังมีชีวิตอยู่ พวกมันเป็นตัวปัญหาของทะเลไม่มีสิ้นสุด และตอนนี้ พวกมันก็สมควรได้รับสิ่งตอบแทน!”
“ฆ่ามัน!!!” พานโจวโบกมือให้สัญญาณ
“ตูมมม ตูมมม ตูมม!!!!!!!!!!!!!!!!!”
จู่ๆก็มีเสียงกระหึ่มดังมาจากเรือเขาเงิน กลุ่มแสงสีทองศักดิ์สิทธิ์ยิงมาทาง ฉื่อหยานและ หยางมู่
“เกลียวแสงศักดิ์สิทธิ์!!” หยางมู่ร้องตะโกน “หลบเร็ว!!”
ฉื่อหยานท่าทีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะเรียกให้สัตว์อสูรภูติหลีกเลี่ยงการโจมตีนั่น
สัตว์อสูรภูติขยับตัวขึ้นพร้อมกลับส่งเสียงคำรามและระเบิดพลังชั่วร้ายออกมา พลังปราณทมิฬเขียว และพลังปราณอสูรดำ พุ่งออกมาจากร่างของมันกระจายออกมาเป็นคลื่น ดิ่งตรงไปที่เกลียวแสงศักดิ์สิทธิ์
“ฉื่อหยาน!!” หยางมู่เร่งเร้าให้สัตว์อสูรหลบเลี่ยง แต่ฉื่อหยานกลับรับการโจมตีนั่น เขาจึงตะโกนออกมา “เกลียวแสงศักดิ์สิทธิ์ นั้นเกิดจาก ผลึกล้ำลึกสูงสุด 300 ก้อน เจ้ารับมือกับมันไม่ไหวแน่ !“
เสียงตะโกนของหยางมู่ก็หยุดลง
“ชี่ ชี่ ชี่!”
พลังปราณทมิฬ และพลังปราณอสูรจากสัตว์อสูรภูติ ก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นโล่รูปทรงประหลาด ขณะเดียวกันเกลียวแสงศักดิ์สิทธิ์ก็กระทบเข้ากับมัน
ดูเหมือนว่าเกลียวแสงศักดิ์สิทธิ์จะค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่มันกระทบกับโล่
ในทะเลไม่มีที่สิ้นสุดเกลียวแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ออกมาจากเรือเขาเงิน สามารถพรากชีวิตของนักรบในระดับรู้แจ้งได้อย่าง่ายดาย
แต่อย่างไรก็ตามครั้งนี้มันกลับถูกยับยั้งด้วยโล่ที่สร้างขึ้นโดยสัตว์อสูรภูติ
“พลังปราณทมิฬ!!”
“พลังปราณอสูร!!”
นักรบที่อยู่บนเรือเขาเงิน ทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องลั่นด้วยความกลัว
พานโจวก็มีท่าทีมัวหมองทันที เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า
“สัตว์อสูรภูตินั้นมันคือตัวอะไร? ทำไมมันถึงมีพลังปราณทมิฬได้ ? แม้แต่พลังปราณอสูรที่มาจากดินแดนอสูรก็เช่นกัน ? เจ้าได้มันมายังไง? เจ้าควบคุมเจ้าลูกผสมนี้ได้อย่างไร!”
ยอดฝีมือรุ่นใหม่ กู่หลินหลง และ ซูหยางซิง ต่างก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นสัตว์อสูรภูติ
รวมถึง หยางมู่, หยางซู่ และ หลี่เฟิงเก้อ ก็ต่างพากันตกตะลึงกับพลังของสัตว์อสูรภูติ
“ชู ซู ซู!!!!!!”
โล่ที่สร้างขึ้นจากสัตว์อสูรภูติ ประกอบไปด้วย พลังปราณทมิฬและปราณอสูร ทันใดนั้นไม่นาน!! ก็มีเสียงหวีดที่แหลมคมดังออกมาพร้อมกับมี พลังแห่งความชั่วร้ายปลดปล่อยออกมาพุ่งไปที่เรือเขาเงิน เหมือนกับลูกธนู
พลังแห่งความชั่วร้ายทะลักออกมาเหมือนกับฝนธนู พานโจว, ซูหยานซิง และนักรบผู้ติดตาม ต่างพากันตื่นตระหนก
ฉื่อหยานนั่งอยู่บนหลังของสัตว์อสูรภูติพร้อมกับยิ้มเยาะ
สัตว์อสูรภูติตนนี้เป็นลูกผสมของอสูรจากโลกมืดและมังกรจากดินแดนอสูร มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ร้ายกาจมาก ถึงแม้ว่ามันจะอยู่แค่ระดับหก แต่พลังของมันแข็งแกร่งจนหน้าตกใจเมื่อเทียบกับสัตว์อสูรตัวอื่นที่อยู่ในระดับหก
พลังชั่วร้ายถูกปล่อยออกไปที่เรือเขาเงินอย่างไม่มีสิ้นสุด โดยไม่ได้ออกคำสั่ง สัตว์อสูรภูติก็ร้องคำรามพร้อมกับบินกระแทกไปที่เรือเขาเงิน
เกลี่ยวแสงศักสิทธิ์ ไม่สามารถรับมือกับสัตว์อสูรภูติได้เลย มันเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆหลังจากการถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรภูติและกลายเป็นแสงสีทองจางๆ จนกระทั่งพวกมันสูญหายไป
“ฆ่ามัน!!!!” เมื่อเห็นสัตว์อสูรภูติเริ่มโจมตี หยางมู่ก็หัวเราะแล้วพูดขึ้นมาว่า “เสี่ยวหยาน พวกเราเองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน เจ้านี่ช่างโชคดีเสียจริงที่มีอสูรเช่นนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า”
หยางเค่อ, หยางซู่, หลี่เฟิงเก้อ และผู้ติดตามก็ขี่มังกรสองหัวและค้างคาวโลหิตครามของพวกเขา บินผ่านจุดสีทองและลงบนเรือเขาเงิน
“ปัง!!!!”
สัตว์อสูรภูติยาวสิบเมตรล่อนลงบนเรือเขาเงิน ในขณะเดียวกันเรือนั้นสั่นสะเทือนไปมาเพราะไม่สามารถรับแรงกระแทกได้
“พวกสารเลว!” ท่าทางของพานโจวเปลี่ยนไป “เหว่ยชิงทำให้เรือกลับมามั่นคงเดี๋ยวนี้!”
นักรบจาก ดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ รีบวิ่งเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีคลื่นพลังรุนแรงออกมาจากภายในเรือ และเรือเขาเงินก็กลับมามั่นคงอีกครั้งในเวลาเดียวกัน
“ฉือหยานข้าจะฆ่าเจ้า!!!!!!!”กู่เจียงเกอ คำรามออกมาพร้อมกับควบคุมดาบฆ่ามังกรที่มีไฟลุกโชนออกมาจากด้านหลังของเขา และมันก็กำลังพุ่งไปยังฉื่อหยาน
ฉื่อหยานสงบนิ่งในขณะเดียวกันเขาก็ขว้างหินจันที่สีเขียวไปทางดาบเล่มนั้น
หินจันทราสีเขียวส่องแสงพร้อมกับระเบิดพลังความเย็นออกมา หลังจากประทะเข้าดาบฆ่ามังกร พลังความเย็นอย่างฉับพลันของมันดับเปลวไฟที่ออกมาจากดาบทันที
กู่เจียงเกอ ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก ขณะที่เขายืนอยู่ใกล้ดาบฆ่ามังกร เขาก็ถูกปกคลุมด้วย แท่งน้ำแข็งที่พุ่งมา เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นเฉียบและ พลังปรานของเขาก็ค่อยๆเบาบางลง
“ผนึกแห่งความตาย!”
ฉื่อหยานตะโกนออกมาในใจ เขาเหยียดมือซ้ายของเขาออกไปขณะเดียวกันผนึกแห่งความตายก็พุ่งไปยัง กู่เจียงเกอ ซึ่งมันเต็มไปด้วยพลังแห่งความตาย
กู่เจียงเกอ ตกใจกลัวเป็นอย่างมาก แม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ในนภาที่สองของระดับหายนะเหมือนกัน
แต่ผนึกแห่งความตายของฉือหยานนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เขาแทบจะไม่สามารถต่อต้านใดๆได้เลย ดังนั้นเขาจึงหลบไปใกล้กับ กู่หลินหลง เพื่อหลบเลี่ยงมัน
“ไม่มีประโยชน์ !” กู่หลินหลง หัวเราะเยาะออกมาขณะเดียวกันดาบสองเล่มก็เริ่มบิดเบี้ยวและบินพุ่งออกมาเหมือนปลาโคลนสองตัว
“ปัง! ปังงง !”
ผนึกแห่งความตายประทะเข้ากับดาบหยิน แต่มันก็ถูกปัดออกไปได้
กู่หลินหลงขมวดคิ้ว นางมีจิตวิญญาณต่อสู้ “หัวใจแห่งดาบ” ดังนั้นนางจึงสามารถรับรู้ได้ว่า วิญญาณของดาบถูกปนเปื้อนด้วยผนึกแห่งความตาย
“ไอ้สารเลว!! วิชาชั่วร้ายเช่นนี้คืออะไรกัน!?” กู่หลินหลง หันไปพูดอย่างรุนแรง
นางตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าทำให้ดาบของข้าเสียหาย ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่ายๆแน่!!”
ทันใดนั้นดาบตัดวายุปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และปลายดาบก็ชี้ตรงไปยังหน้าของฉื่อหยาน
ดาบเล่มนี้สามารถซ่อนตัวเองได้เพื่อไม่ให้ฉื่อหยานมองเห็น และไม่ทันได้ตั้งตัว ดาบก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
“ฮูววววว!”
สัตว์อสูรภูติปลดปล่อยกลิ่นอายชั่วร้ายออกมาที่ดาบ ทำให้ดาบพลิกด้านเปลี่ยนทิศทาง และพุ่งไปหา ซูหยางซิง
ซูหยางซิง ที่กำลังต่อสู้อยู่กับ หยางซู่ และหยางเค่อ นางก็ตกใจกลัวเป็นอย่างมาก นางจึงถอยห่างออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงดาบ และนางก็กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “กู่หลินหลง เจ้าทำอะไรของเจ้า???!”
“นี่มันเป็นอุบัติเหตุ” กู่หลินหลง แลบลิ้นออกและดึงดาบกลับมา นางนั้นโกธรแค้นเป็นอย่างมาก
“เจ้าคนน่าสมเพช! น่าอับอายยิ่งนักที่เจ้าใช้สัตว์อสูรภูติมาต่อสู้กับข้า! ถ้าไม่มีมัน ข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้ในครั้งเดียว!”
ฉื่อหยานยังคงนิ่งเฉยอยุ่ เขานั่งอยู่บนหลังของสัตว์อสูรภูติ พร้อมกับดูสิ่งที่เกิดขึ้นบนเรือเขาเงิน
นักรบตระกูลหยางห้ากลุ่มลงมาที่เรือเขาเงินพร้อมกับสัตว์อสูร พวกเขายืนเผชิญหน้าอยู่กับนักรบจากดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนทะเลสาปเทวาศักดิ์สิทธิ์ และตระกูลกู่ สัตว์อสูรของหยางมู่นั้นกำลังคอยจับตามองนักรบระดับรู้แจ้งสองคนอยู่ เพื่อไม่ให้พวกเขาลงมือใดๆ
หยางมู่ หยางซู่ หยางเค่อ และหลี่เฟิงเก้อ กำลังต่อสู้อยู่กับพานโจวและซูหยางซิง อย่างสุดกำลัง
นอกเหนือจาก พานโจว, ซูหยางซิง, กู่เจียงเกอ, กู่หลินหลง แล้วยังมีนักรบอีกสามสิบคนอยู่บนเรือเขาเงิน ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาแตกต่างกันออกไปบางคนอยู่ในนภาที่สามของระดับปฐพี ขณะที่บางคนอยู่เพียงระดับหายนะ พวกเขากำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง
โดยปราศจากการโต้ตอบของกู่หลินหลง ฉื่อหยานก้คอยสังเกตุการอยู่ข้างบนและแอบสร้างหลุมแรงโน้มถ่วงขึ้นมา
หลุมแนงโน้มถ่วงนี้่เหมือนกับไร้ตัวตน นักรบที่อยู่ในระดับรู้แจ้งลงมาไม่สามารถตรวจพบมันได้
ฉื่อหยานก็ทำจิตใจให้ว่างเปล่า ขณะเดียวกันเขาก็ควยคุมหลุมแรงโน้มถ่วงไปยังนักรบเหล่านั้น
ด้วยการต่อสู้ที่ดุเดือด ชีวิตของพวกเขาจะถูกกำหนดเพียงแค่หนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้น ขณะที่หลุมแรงโน้มถ่วงเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เหล่านักรบของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถโคจรพลังเพื่อรับมือใดๆได้
นักรบตระกูลหยาง ใช้โอกาสนี้สังหารพวกเขาอย่างรวดเร็ว
ฉื่อหยานนั่งอยู่บนสัตว์อสูรภูติ ในขณะเดียวกันเขาก็แอบดูดซับพลังปราณลึกลับของนักรบที่ตกตายไป
การต่อสู้บนเรือเต็มไปด้วยความวุ่นวาย ด้วยหลุมแรงโน้มถ่วง, นักรบตระกูลหยางก็เริ่มได้เปรียบและพวกเขาก็เริ่มลงมือสังล่าสังหาร
อีกด้านหนึ่ง นักรบของฝ่ายศัตรู ตอนนี้พวกเขากำลังสับสนเป็นอย่างมากกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่สามารถขยับเพื่อต่อสู้ใดๆได้เลย
“เจ้าบัดซบนั้นมันกำลังทำบางอย่างอยู่!” หลังออกมาจากห้องอย่างเหว่ยซิงก็ตระหนักได้ถึงบางอย่าง หลังจากที่เขาใช้จิตสำนึกของเขาเพื่อตรวจสอบ เขาก็ตะโกนพร้อมกับชี้ไปที่ฉื่อหยาน
ทันใดนั้นเอง ฉื่อหยานก็ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาทั้งหมดทันที
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 14 แล้ว มีถึงตอนที่ 596 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ