เทพเจ้าล่าสังหาร – บทที่ 220 เจ้าไม่ต้องเปิดเผยเช่นนี้ก็ได้ เข้าใจไหม

บทที่ 220 เจ้าไม่ต้องเปิดเผยเช่นนี้ก็ได้ เข้าใจไหม ?

 

บนท้องฟ้าสีคราม ในทะเลไม่มีสิ้นสุด

สายลมอุ่นค่อยๆ พัดผ่าน ภายใต้ท้องฟ้าสีครามสัตว์อสูรทั้งห้าก็กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า และบนหลังของสัตว์อสูรเหล่านักรบตระกูลหยางก็กำลังนั่งดืมสุราและหัวเราะกันออกมา

ชัยชนะในการต่อสู้เมื่อครึ่งวันก่อนเป็นสิ่งที่น่ารื่นรมเป็นอย่างมาก ในการปะทะกันของขุมพลังที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามในทะเลไม่มีสิ้นสุด พวกเขาได้สังหารนักรบที่อยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขานับยี่สิบคน , และสามารถบีบบังคับให้นักรบยอดฝีมือระดับรู้่แจ้งสามคนกระโดดหนีลงไปในทะเลได้

ในสงครามนี้ ฉื่อหยาน ที่มีระดับการบ่มเพาะที่ระดับหายนะนั้นมีบทบาทเป็นอย่างมาก!

หยางซู่ , หลี่เฟิงเกอและคนอื่นๆที่ดูถูกเหยียดหยามฉื่อหยานในตอนแรก ตอนนี้เมื่อพวกเขาก็มองไปที่ฉื่อหยานด้วยดวงตาที่ส่องประกาย เหมือนกับว่าพวกเขาได้ยอมรับฉื่อหยานแล้ว

หลี่เฟิงเกอที่มักจะไม่เป็นมิตรเอง ก็ยิ้มด้วยความปิติยินดี และรู้สึกสนใจในตัวของฉื่อหยาน

หลี่เฟิงเกอมีนั้นหัวสูงและงดงามเป็นอย่างมาก และ โดยส่วนมากแล้วนางนับได้ว่าเป็นคนหยิ่งพยอง

เพราะความแข็งแกร่งที่โดดเด่นของนาง นางจึงได้รับปฏิบัติเช่นเดียวกับ หยางมู่ และคนอื่นๆในตระกูลหยาง ในทะเลเคียร่าทั้งหมด นอกจากนี้นางยังเป็นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากมาก เวลานางยิ้มนั้นงดงามเป็นอย่างมาก นักรบจากหลายตระกูลต่างก็แอบหมายปองนาง

” ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะแข็งแกร่งเช่นนี้ ” หลี่เฟิงเกอยิ้มหวาน ” ตอนแรกข้าคิดว่าการใช้หยดเลือดอมตะสามหยดเพื่อดูว่าเจ้ามีชีวีตอยู่หรือว่าตายไปแล้วนั้นเป็นการสิ้นเปลืองอย่างมาก แต่ตอนนี้ข้าก็ได้รู้แล้วว่าที่ทำไมท่านหัวหน้าตระกูลถึงได้ลงทุนเช่นนั้น ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าตระกูลคงจะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่ธรรมดา ท่านจึงเต็มใจที่จะทำเช่นนั้น . ”

ในตอนนั้น บนเกาะอมตะ หลังจากโม่ต้วนหุน บอกหยางชิงตี้ เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น กับ ฉื่อหยาน ที่เกาะเหมินลั่ว หยางชิงตี้ เพียงลังเลเล็กน้อยเท่านั้ แล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะใช้หยดเลือดอมตะสามหยดเพื่อดูว่าฉื่อหยานยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

ตอนนั้น หลายคนคิดว่า หยางชิงตี้ ให้ความสนใจกับฉื่อหยานมากเกินไป ฉื่อหยาน ซึ่งมีการบ่มเพาะเพียงแค่ระดับหายนะนั้นไม่มีค่าพอให้ใช้หยดเลือดอมตะสามหยดเลยด้วยซ้ำ

หลี่เฟิงเกอเองก็เป็นหนึ่งของพวกเขา หลังจากที่นางรู้เรื่องนี้ นางก็ยังแอบบ่นกับพ่อของนางว่า ฉื่อหยานมาก็เป็นภาระเปล่าๆ เขาไม่ได้นับว่าโดดเด่นในตระกูลหยางเลย ทำไมหยางชิงตี้จึงได้ใช้หยดเลือดอมตะสามหยดกัน

และหลังจากการรวมตัวกัน ที่เกาะอมตะ นางก็ไม่เห็นอะไรพิเศษในตัวฉื่อหยานเลย , นางยังเชื่ออีกว่าเหตุผลที่ฉื่อหยานสามารถทำให้สัตว์อสูรภูติเชื่องได้ เป็นเพราะความช่วยเหลือของหยางชิงตี้ ,ดังนั้นเขาจึงกำหราบสัตว์อสูรภูติได้

นางไม่มีความประทับใจใด ๆเกี่ยวกับฉื่อหยานเลย และนางรู้สึกว่า ฉื่อหยานนั้นก็เหมือนกับนักรบปกติทั่วไป ตระกูหยางและไม่ควรค่าพอให้ความสนใจ

จนกระทั่งเมื่อการต่อสู้ที่ผ่านมา ตอนที่ฉื่อหยานใช้หลุมแรงโน้มถ้วงเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์และยังตอนนี้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายอะไรจากดาบทั้งเจ็ดของกู่หลินหลงอีก กู่หลินหลงนางนั้นเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในลำดับผู้แข็งแกร่ง ตั้งแต่ตอนนั้นมุมมองที่นางมองฉื่อหยานก็เริ่มเปลี่ยนไป และในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าการที่หยางชิงตี้ใช้หยดเลือดอมตะสามหยดเพื่อดูว่าฉื่อหยานหาฉื่อหยานและดูว่าเขามีชีวิตอยู่หรือไม่นั้นไม่เป็นการเสียเปล่าเลย

นั่งอยู่บนหลังสัตว์อสูรภูติ ฉื่อหยานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองผ่านๆ ไปที่หลี่เฟิงเกอ แต่ไม่ได้พูดอะไร

เขาตั้งสมาธิของเขาไปที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งวันก่อน

บนเรือเขาเงิน เขาได้ดูดซับพลังปราณลึกลับมหาศาลมาจากนักรบสามคนที่ตายไป หลังจากดูดซับพลังปราณลึกลับเข้ามาจิตวิญญานลึกลับของเขาก็เริ่มกลั่นพวกมันให้บริสุทธิ์

ในระหว่างการกลั่น อารมณ์เชิงลบจะถูกกระตุ้นขึ้นมา และมีผลต่อสติของเขา

เขากำลังสูญเสียการควบคุม

เมื่อครึ่งวันที่ผ่านมา เขาดูดซับพลังมามากเกินไป ตอนนี้เส้นชีพจรของเขากำลังกลั่นพลังปราณลึกลับเหล่านั้นให้บริสุทธิ์อยู่และเส้นชีพจรทั้งเจ็ดร้อยยี่สิบเส้นในร่างของเขาก็เดือดพล่านเหมือนกับมันกำลังถูกเผาไหม้ ตอนนี้เขาเพียงแค่สนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเส้นชีพจรของเขา และไม่สนใจสิ่งอื่นๆ

” นี่ ! ” หลี่เฟิงเกอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ” เจ้า ทำไมเจ้าถึงได้เย็นชาเช่นนี้ ? ข้ารู้ว่าเจ้านั้นมีความสามารถ แต่ถ้าหญิงสาวที่งดงามคุยกับเจ้า เจ้าก็ต้องตอบกลับด้วยความสุขมิใช่รึ ? หึ เจ้ารู้ไว้สะ ในทะเลเคียร่านั้นมีคนมากมายที่อยากจะพูดคุยกับข้า แต่ข้าก็ไม่สนใจเลย และ ตอนนี้ข้าเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเจ้าเอง แต่เจ้ากลับตอบสนองเช่นนี้ เจ้าจะทำเช่นนี้จริงๆใช่มั้ย ! ? ”

” เสี่ยวหยาน ,เฟิงเกอ เป็นหนึ่งในสี่ดอกไม้ที่งดงามที่สุดของทะเลเคียร่า เจ้าทำตัวเช่นนี้ได้อย่างไร เมื่อมีหญิงงามพูดคุยกับเจ้า ? ” หยางมู่ ยิ้ม

ในทะเลเคียร่านั้นมีหญิงที่งดงามที่สุดอยู่สี่คน หยางมู่บอกฉื่อหยานไว้เมื่อตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก

ในดอกไม้ที่งดงามทั้งสี่ เซี่ยซินหยานเป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือเหอชิงเหมิน อันดับสามคือ ซัวหลี่ และหลี่เฟิงเกอเป็นอันดับสุดท้าย

แม้ว่า หลี่เฟิงเกอจะเป็นอันดับครั้งสุดท้าย แต่นางก็ถูกนับได้ว่าเป็นหนึ่งในสี่ดอกไม้ที่งดงามที่สุดในทะเลเคียร่าแน่นอน เพราะนางนั้นงดงามสะดุดตาเป็นอย่างมาก

 

หลี่เฟิงเกอนั้นสูงและขาของนางก็เรียวยาว และเอวของนางที่คลอดคล้ายกับร่างของงู ก็ทำให้ผู้พบเห็นต่างก็ลุ่มหลง

รูปร่างที่เย้ายวน ฉื่อหยานก็นึกขึ้นได้ว่ามีวิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดอยู่เมื่อจิตวิญญานลึกลับกำลังกลันพลังปราณลึกลับอยู่

ความปรารถนาที่ไม่สามารถยับยั้งได้ก็เกิดขึ้นในหัวใจของเขา เขาพยายามที่จะไม่คิด แต่ก็พบว่า ความปรารถนาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเขาที่มองไปยังหลี่เฟิงเกอก่อนหน้านี้ก็เปลี่ยนไป ตอนนี้มันค่อย ๆ เต็มไปด้วยกิเลสและความปรารถนา

” เจ้าจะทำอะไร ? ” หลี่เฟิงเกอหน้าแดง นางไม่สามารถทนดูจาก ฉื่อหยาน ที่จ้องมาเช่นั้นได้ นางก็ก่นด่าออกมา : ” ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนมีความสามารถ แต่มันกลับกลายเป็นว่าเจ้าเป็นพวกวิปริศเสียนี่ ”

ฉื่อหยานขมวดคิ้ว .

เมื่อมองไปที่แววตาของฉื่อหยานก็สามารถเห็นความปรารถนาของเขาได้ค่อนข้างชัดเจน ตราบใดที่ชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ และหากคนๆนั้นแววตาเช่นนี้ ก็สามารถรู้ได้เลยว่าคนๆนั้นคิดอะไรอยู่

” เสี่ยวหยาน ? เจ้าไม่เห็นต้องเปิดเผยเช่นนี้เลย จริงหรือไม่ ? ” หยางมู่หัวเราะ ” เราทุกคนมีความคิดที่ชั่วร้ายกับหลี่เฟิงเกอ แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะแสดงมันออกมาอย่างชัดเจน เช่นเจ้าเลย ”

” พี่หยาง , งั้นก็แปลว่าท่านเองก็ไม่ใช่คนดีสินะ ” หลี่เฟิงเกอจ้องมองไปที่หยางมู่

” พี่ใหญ่จับข้าไว้ ! ” ฉื่อหยานก็ตะโกน ” จะดีกว่าถ้าท่านใช้โซ่โลหะและพันร่างของข้าไว้ มิฉะนั้น ข้ากลัวข้า ข้าจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ”

” เจ้า ! ” หลี่เฟิงเกอตะโกนออกมาเล็กน้อย และต้องอย่างประหลาดใจไปที่เขา ” นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยได้ยินว่าคนๆหนึ่งต้องถูกล่ามโซ่ เพียงเพราะเขาเป็นพวกโรคจิต ข้าได้เห็นคนเช่นนี้มามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นคนโรคจิตเช่นเจ้า ”

หยางเค่อยังตะลึงและ กล่าวว่า ” จริงๆแล้วเราไม่ต้องทำเช่นนั้นก็ได้มิใช่หรือ ? ”

” ข้ารู้ดีว่าเฟิงเกอนั้นงดงาม แต่เซี่ยซินหยานนั้นสวยยิ่งกว่า อย่าบอกนะ ว่าเจ้าก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันเมื่อเจอกับนางครั้งแรก ” หยางมู่แอบอ้าปากค้าง ” เสี่ยวหยาน เจ้าดินยาชูกำลังมาหรือ ถ้าไม่่เช่นนั้นทำไมเจ้าถึงได้ทำตัวแปลกประหลาดเช่นนี้ ? ”

” ข้าได้ฝึกวิชาที่มีกลไกอย่างหนึ่ง เมื่อข้าใช้มันออกมา กลไกนั่นมันจะทำให้ข้าควบคุมสติไม่ได้ . . . . . . . ” ฉื่อหยานก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับจิตวิญญายลึกลับเลยและเขาก็บอกเพียงแค่ว่าเขาจะเสียสติ ในขณะที่เขาหอบหายใจออกมาอย่างหนัก เขาก็กล่าวว่า : ” ข้าไม่ได้ล้อเล่นนะ ! พี่ใหญ่ เร็วเข้า มัดข้าไว้ มิฉะนั้น ข้าจะกลายเป็นบ้าคลั่งและจะกลายเป็นเหมือนกับกู่เจียงเกอเมื่อตอนนั้น ”

หยางมู่สีหน้าาก็เปลี่ยนไป เขารีบตอบว่า ” ที่เจ้าพูดนั้นจริงรึ ? ”

ฉื่อหยานพยักหน้าอีกครั้งและอีกครั้ง

ตอนนี้ หยางซู่และหลี่เฟิงเกอก็เริ่มตื่นตระหนก ด้วยการเปลี่ยนแปลงของฉื่อหยาน พวกนางก็รู้ได้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติ และก็ได้รู้แล้วว่า ฉื่อหยาน นั้นไม่ได้พูดล้อเล่น ก่อนหน้านี้ พวกเขาเองก็ได้เห็นกู่เจียงเกอบ้าคลั่ง

” ก็ได้ ! ” หยางมู่พูดออกมาอย่างเด็ดขาด เขารีบพุ่งออกไปจากคู่หัวมังกรและแหวนวิเศษที่มือของเขาก็ส่อง ประกาย และ โซ่สีเขียวทีเป็น โซ่เหล็กก็ปรากฏออกมา ” นี้เป็นสมบัติระดับวิญญานและมันสามารถพันธนารการได้แม้แต่นักรบระดับรู้แจ้ง เจ้าจะเอาเช่นนั้นจริงๆหรือ ? ”

” ใช่ ! ”

หยางมู่ขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร และมัดฉื่อหยานกับโซ่ทันที

หลังจากพันธนาการเขา กพลังปราณลึกลับที่ไหลเวียนอยู่ในร่างฉื่อหยานก็ชะลอตัวลง , โซ่ประหลาดนี้ ได้ผนึกพลังของเขา และ หลังจากถูกมัดด้วยโซ่นี้ ฉื่อหยานก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีภูเขาขนาดใหญ่ทับเขาอยู่ เป็นเรื่องยากมากที่เขาจะโคตรพลังใดๆ เขาโคจรพวกมันได้ยากลำบากเป็นอย่างมากเมื่อถูกพันธนาการด้วยโซ่นั่น

” ข้าไม่เป็นไร ! ” ฉื่อหยานคำรามออกมาขณะที่อยู่บนร่างของสัตว์อสูรภูติเขาก็ถูกปิดตาลงและร่างกายของเขาก็ค่อยๆสั่น ดูเหมือนว่าเขากำลังทนกับความเจ็บปวดมหาศาลอยู่

หยางมู่ และคนอื่นต่างก็มองไปที่เขาด้วยสีหน้าแปลกๆ

ทันใดนั้น ความชั่วร้าย , ความกระหายเลือด , ความรุนแรงและกลิ่นอายพลังเชิงลบก็ระเบิด ออกมาจากร่างกายของฉื่อหยาน พลังเหล่านั้นเป็นเหมือนคมที่แหลมซึ่งพวกมันกำลังพุ่งออกมาจากร่างของฉื่อหยาน

เมื่อพวกเขามองไปที่ฉื่อหยาน ฉื่อหยานผิวหนังของเขาก็เริ่มแตก และเลือดก็เริ่มไหลออกมาจากปากและดวงตาของเขาด้วยผลกระทบของกลไก .

เวลานี้ ฉื่อหยานได้ดูดซึซับพลังมามากเกินไป ด้วยพลังที่ดูดซับมามากเกินไปทำให้มันระเบิดออกมาอย่างรุนแรง แม้แต่ร่างกายของเขาก็ไม่สามารถทนต่อปริมาณของพลังงานเหล่านั้นได้ ภายใต้ผลกระทบของฟันเฟือง ร่างของเขาถูกทำลายจากภายใน เส้นเอ็นในร่างกายของเขาทั้งหมดสั่นสะท้าน และบางเส้นก็ฉีกขาด

” เขาฝึกวิชาชั่วร้ายอะไรกัน ? ทำไมกลไกสะท้อนกลับถึงได้น่ากลัวเช่นนี้ ” หลี่เฟิงเกอมองฉื่อหยาน

” เขามีการบ่มเพาะอยู่ในนภาที่สองของระดับหายนะ แต่เขาก็ไม่หวาดหวั่น ภายใต้การโจมตีจากดาบทั้งเจ็ดของกู่หลินหลง และเขายังสามารถรับมือกับมันได้อีกด้วย ” สีหน้าหยางซู่กลายเป็นซับซ้อน ” อย่างที่เจ้ารู้ กู่หลินหลงติดอยู่ในรายชื่ออันดับที่แปดของลำดับผู้แข็งแกร่ง จิตวิญญานหัวใจแห่งดาบของนาง ก็เป็นจิตวิญญานต่อสู้ระดับศักดิ์สิทธิ์ ”

ร่างของหลี่เฟิงเกอนั้นสั่นสะท้าน ” จะบอกว่า ถ้าเขาใช้วิชาชั่วร้ายนี้ เขาก็สามารถเอาชนะข้าได้งั้นรึ ? ”

” เฟิงเกอ , เจ้านั้นมีระดับการบ่มเพาะในนภาแรกของระดับปฐพี แม้ว่าความสามารถของเจ้าจะโดดเด่น แต่ถ้าเสี่ยวหยานต้องกานจะฆ่าเจ้า และดูจากพลังที่แข็งแกร่งของเขา บางที . . . บางทีเขาอาจจะทำได้ก็ได้ ” หยางซู่พยักหน้า

หลี่เฟิงเกอกลายเป็นตกใจ

หลังจากที่หยางซู่พูดเช่นนั้น นางก็ได้รู้แล้วว่าความแข็งแกร่งของ ฉื่อหยาน นั้นน่าหวาดหวั่นแค่ไหน ความสามารถในการฆ่าปคนที่มีระดับเหนือกว่าตนนั้นของเขานั้น น่ากลัวเป็นอย่างมาก

” ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าท่านหัวหน้าตระกูลปราดเปรืองเพียงใด ดูเหมือน มันสมควรแล้วจริงๆ ที่ใช้หยดเลือดอมจะสามหยดไปกับเขา ”

––––––––––––––––––––––––

ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 14 แล้ว มีถึงตอนที่ 598 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร

เทพเจ้าล่าสังหาร
Status: Ongoing
อ่านนิยาย เทพเจ้าล่าสังหาร ฉื่อหยาน เป็นเด็กหนุ่มชื่นชอบกีฬาผาดโผน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการผจญภัยในหลุมฟ้าบาฮามาส ฉื่อหยานบังเอิญเดินทางผ่านเวลาและพื้นที่ จนไปกลายเป็นนายน้อยของตระกูลที่มีชื่อเสียง มีชื่อว่า ฉื่อหยาน ตอนนั้นเองคุณชายน้อยฉื่อหยานได้เสียชีวิตลลงที่ข้างบ่อเลือดพอดี และในระหว่างการผจญภัยสุดยอดกีฬาผาดโผน วิญญาณของเขาได้ถูกโอนเข้ามาของร่ายกายนายน้อย ฉื่อหยาน และได้รับแหวนวิเศษที่ถูกเรียกว่า ' แหวนสายโลหิต ' แหวนที่มีพลังลึกลับซึ่งทำให้ฉื่อหยาน เป็นนักฆ่า ความต้องการฆ่าของเขานั้นไร้สิ้นสุด ทุกอย่างทำเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ทุกครั้งหลังการฆ่า ความต้องการทางเพศก็จะตามมา . . . . . . .

Comment

Options

not work with dark mode
Reset