บทที่ 231 ทะลวงระดับ
ในรูปแบบฝนอุกกาบาต
อีกรูปโบราณอีกแห่งหนึ่ง
หยางมู่ หยางซู่ หยางเค่อ หลี่เฟิงเกอ และนักรบคนอื่น ๆในตระกูลหยางยืนอยู่ในรูปแบบโบราณอีกแห่งหนึ่ง รูปแบบนี้ค่อนข้างคล้ายกับของฉื่อหยาน ต่างกันพลังของผลึกที่อยู่รอบๆรูปแบบโบรารเท่านั้น
ในเวลานี้ ผลึกยังคงปล่อยพลังออกมาพร้อมับแสงเจิดจ้า
ตระกูลนักรบตระกูลหยางเข้ามาในรูปแบบโบราณ จานั้นก็มีแสงส่องออกมาและหายไปอย่างต่อเนื่อง
หยางมู่ และคนจากระกูลหยางใช้วิธีการก้าวเดินตามที่เจียงหัวชวนบอก จนเข้ามาภายในรูปแบบโบราณนี่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆจาอุกกาบาตเลย
ตามที่เจียงหัวชวนพูด เขาบอกว่าเส้นทางนี้จะทำไปสู่ทางออกจากรูปแบบฝนอุกกาบาต
ดังนั้น เจียงหัวชวนจึงได้เตือนทุกคนของตระกูลหยางโดยไม่ลังเล ว่าให้ยืนอยู่ที่ตรงกลางของรูปแบบโบราณ เพื่อที่พวกเขาจะได้ถูกส่งตัวออกไปจารูปแบบฝนอุกกาบาตโดยรูปแบบโบราณ
ในทันที นักรบของตระกูลหยางทั้งหมดที่เข้ามาในรูปแบบโบราณก็หายออกไปจากรูปแบบฝนอุกกาบาต ทีละคน เหมือนกับตอนที่ฉื่อหยานเข้าไป พวกเขาไม่สามารถมองเห็นด้านหลังของคนอื่นๆได้และไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยในรูปแบบฝนอุกกาบาต เมื่อเข้ามาในรูปแบบโบราณ ทุกคนก็จะหายไปในพริบตา ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ถึงสถานการณ์ของคนที่เข้ามาก่อนหน้าได้เลย
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณเจียงหัวชวนที่ให้กําลังใจพวกเขา ทำให้พวกเขาไม่ลังเล และเข้ามาในรูปแบบโบราณทันที นี้คือเหตุผลที่ทำไมฉื่อหยานถึงไม่พบร่องรอยของหยางมู่และนักรบคนอื่นๆของตระกูลหยางในรูปแบบฝนอุกกาบาตเลย
ด้านนอกของรูปแบบฝนอุกกาบาต
ฉาวจื่อหลานผู้งดงาม นางยืนอยู่ด้วยขาที่เรียวยาวและดวงตาที่ส่องประกาย นางกำลังควบคุมจิตวิญญานต่อสู้อยู่ โดยเริ่มวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของรูปแบบฝนอุกกาบาต จิตวิญญานต่อสู้ของนางนั้นสามารถสัมพัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ของรูปแบบฝนอุกกาบาต
พานโจวและคนอื่นๆทั้งหมด ยืนอยู่ข้างนอกรูปแบบฝนอุกกาบาต โดยไม่มีแม้แต่คนเดียวที่กล้าเข้าไป
ฉาวจื่อหลาน ที่ใช้จิตวิญญานต่อสู้อยู่ สักพักก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา นางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แล้วพูดว่า ” ในรูปแบบฝนอุกกาบาตนั้น เจ้าต้องเคลื่อนที่ไปทางซ้ายและขวา ตราบใดที่เจ้าไม่ก้าวพลาด อุกกาบาตก็จะไม่โจมตีเจ้า ถ้าเจ้าก้าวไปทางซ้ายเจ็ดก้าว จากนั้นก็ก้าวไปทางขวาห้าก้าว หรือทำตรงกันข้่ามกันโดย ก้าวไปทางขวาเจ็ดก้าว จากนั้นก็ก้าวไปทางซ้ายห้าก้าว เจ้าก็จะสามารถออกจากรูปแบบฝนอุกกาบาตได้ ”
” งั้นพวกเราควรเริ่มก้าวไปทางซ้ายหรือขวาก่อนดี ? ”
กู่หลินหลงขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า ” ภายในรูปแบบฝนอุกกาบาต มีสองวิธีที่สามารถออกไปได้ ซึ่งแต่ละวิธีก็สมควรนำไปสู่พื้นที่ ที่แตกต่างกัน เป้าหมายของเราคือ ตระกูลหยาง ดังนั้นเราควรจะหาทิศทางที่ตระกูลหยางไป และด้วยวิธีนี้ก็จะทำให้เราสามารถไล่ตามพวกเขาไปได้ . ”
ฉาวจื่อหลาน ถามอย่างใจเย็น ” แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตระกูลหยางไปทางไหน ? ”
ใบหน้าของเซี่ยกุย ก็มืดมนดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ” การกำจัดหยางมู่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถ้ามันยังไม่ตาย มันจะต้องหาทางแก้แค้นเราแน่นอน ถ้าเราต้องต่อสู้กับตระกูลหยาง เราไม่สมควรปล่อยให้พวกมันรอดไปได้ เราจะต้องไม่ปล่อยใครไปแม้แต่คนเดียว ! เมื่อฉื่อหยานกำลังต่อสู้อยู่นั้น ข้าสัมพัสได้ว่ามันมีพลังไฟที่้แข็งแกร่ง ข้าได้ใช้พลังวิญญานของข้าก่อนหน้านี้ และก็สัมพัสได้ว่ามีพลังไฟที่รุนแรงเป็นอย่างมากในเส้นทางด้านขวา
ฉาวจื่อหลาน ยิ้มบางๆ ” บางทีฉื่อหยานฉื่อหยานอาจจะเลือกไปทางขวาและหยางมู่เองก็คงไม่แยกจากฉื่อหยานแน่นอน ถ้าฉื่อหยานอยู่ที่ใดตระกูลหยางต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆ ”
” ดี งั้นเราก็ตามมันไปทางขวากัน ” พานโจว พยักหน้า และพูดกับนักรบจากดินแดนเพิ้งหลายศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ” จำคำพูดของแม่นางฉาวเอาไว้ให้ดี เมื่อเข้าสู่รูปแบบฝนอุกกาบาต พวกเจ้าจะต้องก้าวไปทางขวาก่อนเจ็ดก้าว จากนั้นก็ก้าวไปทางซ้ายเจ็ดก้าว ห้ามฝ่าฝืนเด็ดขาด ! .
” ดี ! ข้าจะเป็นคนนำไปเอง ” ฉาวจื่อหลาน พูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย
ในช่วงกลางของพื้นที่กว้างใหญ่และเป็นทะเลทรายที่ร้อนระอุ
มีร่างของมนุษย์ที่แขนขายืดกระจายออกไปเหมือนกับกระรอกที่ตายแล้วนอนอยู่ เขาหายใจช้าๆด้วยความเหนื่อยล้า พลังต่างๆเริ่มฟื้นตัวภายในของร่างกายและพลังงานเชิงลบที่อยู่ในเส้นชีพจรก็เริ่มกระจายไปทั่วอย่างเงียบๆ
ทะเลทรายนี้มีอุณหภูมิร้อนระอุ แต่กลับไม่มีแสงแดด ท้องฟ้านั้นเป็นสีแดงสดใสเหมือนกับเลือดสดๆ
มองไปรอบๆ มีเพียงเนินทรายขนาดไม่ใหญ่มากอยู่เท่านั้น ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิต ไม่มีต้นไม้ ไม่มีเสียงใด ๆ
แกนพลิงที่อยู่ในแหวนลอยออกมา ลอยอย่างเอื่อยเฉื่อยไปรอบๆทะเลทรายที่ร้อนระอุ มันดูเหมือนกับว่ากำลังส่งสัญญานอะไรบางอย่าง
” สถานที่แห่งนี้ทำให้ข้าอึดอัดนัก ” พลังความเย็นของเปลวเหมันเยือกแข็งก็ลอยออกมารอบๆ ” บรรยากาศแปลกประหลาดนี่มีพลังในการเผาไหม้มากมายนัก อากาศร้อนระอุเหมือนกับว่ามีดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ๆ แต่มันกลับไม่มีแม้กระทั่งแสงแดด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ . . . . . . . ”
” นี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่แตกต่างกันออกไปในหุบเหวสนามรบ เฮ้อ แปลกจริงๆ แกนเพลิงดูเหมือนจะชอบที่นี่เป็นอย่างมาก หลังจากมาที่นี่ ดูเหมือนมันจะมีความสุขเสียจริง ” ฉื่อหยานตอบ
เขาถูกส่งออกมาโดยรูปแบบโบราณ และล้มลงในทะเลทรายอันกว้างใหญ่นี้ เขานั้นไม่ได้รู้กลไกอะไรของรูปโบราณเลย
ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้พลังใดๆได้เลยเพื่อสำรวจสถานที่ที่ลึกลับแห่งนี้ เขานอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับและฟื้นฟูสภาพให้ดีขึ้น อย่างเงียบ ๆ ” เอ่อ . . . ในสถานที่แห่งนี้เราไม่สามารถเห็นดวงอาทิตย์ได้ แต่กลับมีพลังความร้อนที่รุนแรงของดวงอาทิตย์ นี่มันช่างแปลกจริงๆ ”
เปลวเหมันเยือกแข็งก็ตรึกตรองสักพักก่อนมันจะพูดว่า ” สถานที่นี้เหมาะมากสำหรับฝึกฝนปรับแต่งร่างกายของเจ้านัก , เจ้าสามารถพึ่งพาพลังลึกลับที่นี่และใช้พลังไฟเพื่อปรับแต่งได้ นี้จะช่วยให้ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขึ้น ”
” ตอนนี้ต้องพักฟื้นเสียก่อน จากนั้นค่อยว่ากันอีกที ” ฉื่อหยาน ไม่ปฏิเสธ และยิ้มขึ้นอย่างทุกข์ทรมานในขณะที่มองขึ้นไปบนฟ้า เขาหยุดคุยกับเปลวเหมันเยือกแข็งและมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟู .
หลังจากกินเม็ดยาฟื้นฟูเข้าไป พลังที่แผ่ออกมา ก็หลอมรวมเข้ากับพลังปราณลึกลับของเขา โดยไม่ต้องใช้เวลานานนัก พลังปราณลึกลับของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆทีละนาทีและพลังปราณของเขาก็ถูกเติมเต็มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เม็ดยาฟื้นฟูเป็นยาที่มหัศจรรย์ซึ่งช่วยให้พลังปราณลึกลับฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เม็ดยาฟื้นฟูนั้นับได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของทะเลไม่มีสิ้นสุด , นักรบที่แข็งแกร่งส่วนมากต่างก็มีมันไว้เพื่อฟื้นฟู ในขณะเดียวกันนักรบธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถหาเม็ดยานี้มากินได้
อำนาจการรักษาของเม็ดยานี้เพียงแค่สิบเม็ด ก็เพียงพอแล้วสำหรับฟื้นฟูพลังปราณลึกลับของนักรบในระดับปฐพีได้อย่างรวดเร็ว สำหรับฉื่อหยานที่อยู่เพียงแค่จุดสูงสุดของระดับหายนะ ด้วยผลของเม็ดยาทั้งสิบที่กินไป ก็เพียงพอแล้ว
มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูพลังปราณลึกลับ , ฉื่อหยาน ก็ผ่อนคลายจิตใจของเขา และเริ่มตระหนักถึงเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในร่างกายของเขา
อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายใต้อิทธิพลของจิตวิญญานอมตะ กระดูกที่แตหัโดยอุกกาบาตก็เริ่มสมานตัวขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่เส้นเลือดที่ฉีกขาดก็เริ่มหายในเวลาอันสั้น
คนปกติจะต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อที่จะฟื้นฟู แต่เขากลับใช้เวลาเพียงแค่นาทีเดียว
ภายในจุดชีพจรของเขา , พลังที่โคจรอยู่ก็ไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันกำลังถูกจิตวิญญานลึกลับกลั่นให้บริสุทธิ์อยู่ เพื่อที่จะสามารถดูดซับได้โดยตรง
อย่างไรก็ตาม อารมณ์เชิงลบก็ปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ และเริ่มรบกวนจิตใจของฉื่อหยาน เหมือนกับว่ามันกำลังดึงเข้าลงไปในหุบเหวที่มืดมิด
ในครั้งนี้ มีนักรบสิบคนที่ตกตายในพระราชวัง
ด้วยการตายของนักรบระดับปฐพีทั้งสิบ ทำให้พลังของพวกเขาที่ถูกดูดซับเข้ามานั้นมีจำนวนมาก อารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังกลั่นพลังนั้นเพียงพอที่จะควบคุมจิตใจของเขาและทำให้เขาบ้าคลั่งได้เลย
หลังจากค่อยๆคงสติไว้สักครู่ เขาก็พบว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะทนอยู่ในสภาพเช่นนี้ ฉื่อหยานคิดสักพัก และตัดสินใจที่เคลื่อนไหวไปซ่อนอยู่หลังเนินทราย
จากเส้นทางที่เขามานั้น คนอื่นจะต้องสัมพัสได้แน่นอน ถ้าเป็นนักรบเหล่าและฉาวจื่อหลานที่ตามมาขณะที่เขากำลังการกลั่นพลังและตกอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งอยู่หละก็ มันจไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน
หลังจากใช้เวลาพักฟื้น ร่างกายของเขาก็ฟื้นฟูกลับมาเล็น้อย เขาเปิดใช้วิชาดรรชนีย์ทะลสง นิ้วมือทั้งสิบของเขากลายเป็นเมือนกับหอกที่แหลมคม เขาทิ่มลงไปที่พื้นที่ทรายและตะาย ไปยังเนินทราย
แกนเพลิงที่ออกมาโลกภายนอกและบินไปมาอยู่ มันเหมือนจะสัมพัสได้ถึงเจตนาของฉื่อหยาน มันจึงหยุดและลิยไปหาฉื่อหยานก่อนที่ร่างกายของเขาหายไปหลังเนินทราย , อีกครั้ง ,มันก็กลับเข้าไปในแหวนสายโลหิต
กลั้นลมหายใจ ฉื่อหยานตะกายไปสิบเมตร ภายในพื้นทรายจนร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยทราย และเขาก็ไม่สามารถตะกายไปต่อได้ เขาจึงหยุด
หลังจากนั้นไม่นาน ที่จุดชีพจรของเขาก็ถึงช่วงเวลาสำคัญ ในที่สุดเขาก็ไม่อาจต้านทานอารมณ์เชิงลบได้อีกและสติของเขาก็เริ่มลางเลือน
ลึกลงภายหลังเนินทรายสิบเมตร , ฉื่อหยาน ดิ้นไปมาพร้อมกับทรายที่ห่อหุ้มตัวเขา ด้วยทรายที่ปกคลุมที่เขาอยู่ทำให้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะพูดได้เลยซักคำ
ทรายกลายเป็นโซ่ตามธรรมชาติที่คอยพันธนาการร่างของเขา
ฉื่อหยานที่เสียสติไปแล้วก็ดื้นไปมาอย่างไร้เหตุผล เขายกเลิกดรรชนีย์ทะลสง . . . เขาทำเพียงแค่ดิ้นไปมาอยู่ภายใต้ทรายที่ปกคลุม , ด้วยความบ้าคลั่งซึ้งปราศจากสติของเขา
เวลาผ่านไปอย่างยาวนาน .
การแสดงออกของฉื่อหยานก็อ่อนแอลงและเขาก็คำรามออกมา พลังแปลกประหลาดทั้งหมดก็ลอยออกมาจากจุดชีพจรของเขาอย่างเงียบๆ มันกระจายไปทั่วทุกซอกมุมในร่างของเขา
ฉื่อหยานที่ค่อยๆสูญเสียการรับรู้ของเขานั้นไม่สามารถตระหักได้เลยว่าร่างกายของเขากำลังเปลี่ยนไป เขานั้นไม่รู้เลยว่าพลังแปลกประหลาดนั้นกำลังระจายไปทั่วร่างของเขา มันกระจายไปยังเลือดเนื้อและกระดูกของเขา
เวลาค่อยๆ ผ่านไป
ฉื่อหยานก็ตื่นขึ้นมาหลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน ทันที เขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาที่อ่อนล้าพลังกำลังค่อยๆถูกเติมเต็ม
ไม่ว่าจะเป็นพลังปราณลึกลับหรือร่างกายของเขา ทั้งสองอย่างต่างก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างสมบูรณ์ และมันยังแข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
” โห้ ? ” แสงของพลังปราณลึกลับในท้องของเขาก็เริ่มหลอมรวมและควบแน่น ถึงแม้มันจะไม่ได้โคจร แต่มันก็ส่องแสงออกมาพร้อมกับพลังปราณลึกลับของเขาถูกกลั่นอย่างรวดเร็ว
ด้วยพลังปราณลึกลับที่ส่องแสงออกมา ทุกส่วนในร่างของเขากลายเป็นเหมือนฟองน้ำ , และมัน็เริ่มดูดซับพลังปราณลึกลับเหล่านั้นที่ส่องแสงออมา
ฉื่อหยานส่งจิตสำนึกของเขาไปทั่วร่าง และทันทีเขาก็สัมพัสได้ถึงบางอย่าง
หลังจากนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มผ่อนคลายจิตใจของเขาและปล่อยให้ให้พลังปราณลึกลับที่ส่องแสงออมาเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงร่างของเขา
ด้วยพลังเหล่านั้นที่ไหลไปทั่ว เส้นเลือดของเขาก็พริบกลายเป็นโปร่งแสงไปมาเหมือนกับหยกงดงามที่มีผิวระเอียดอ่อน
เส้นเลือดของเขาเิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นและมันก็ค่อยๆขยายตัวมากขึ้นเมื่อพลังปราณลึกลับไหลเข้ามา .
การขยายตัวของเส้นเลือดช่วยให้พลังปราณลึกลับในร่างของเขาโคจรได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า ความสามารถของเขาเมื่อใช้พลังปราณลึกลับจะแข็งแกร่งขึ้นและ ร่างกายของเขายังเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นอีด้วย
ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกของเส้นเลือดนับได้ว่าเป็นสัญญานที่บ่งบอกว่า นภาที่สามในระดับหายนะของเขากำลังจะทะลวงเข้าสู่ระดับปฐพี
––––––––––––––––––––––––
ปล. ตอนนี้กลุ่มลับถึงกลุ่ม 16 แล้ว มีถึงตอนที่ 640 แล้วจ้า ท่านใดสนใจเข้าร่วมกลุ่มอ่านเงือนไขได้ที่โพสปักหมุดของเพจเลยครับ
ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา กดตรงนี้ >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ